สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ทัวร์กับ GURU Trip (กูรูทริป) ให้เพื่อน ๆ ที่อยากไปเที่ยวเกาะเชจู ประเทศเกาหลี ได้รับชมกันนะคะ พอดีในช่วงวันที่ 27 ก.พ.- 02 มี.ค. 2561 ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเกาะเชจู ประเทศเกาหลี ร่วมกับ กลุ่ม คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม บางเขน เลยเก็บภาพบรรยากาศในระหว่างการเดินทางครั้งนี้ มาฝากเพื่อน ๆ ชาวพันทิปให้ได้รับชมแบบละเอียดยิบเลย ว่าไปที่ไหนมาบ้างสนุกขนาดไหน เผื่อเพื่อน ๆ คนไหนอยากเดินทางไปเที่ยวแล้วยังไม่รู้ว่าที่เกาะเชจูมีอะไรให้เที่ยว เลยขอโอกาสนี้มาแนะนำเพื่อนๆไปในตัวเลย หรือถ้าใครอยากไปจริง ๆ แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะไปเองดี หรือจะไปกับกรุ๊ปทัวร์ ก็ลองติดต่อไปที่ GURU Trip (กูรูทริป) ก่อนก็ได้ เขาพร้อมให้คำแนะนำและอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการเดินทางให้คุณอย่างละเอียด
บรรยากาศวันแรก
พวกเรานัดรวมพลที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 23.00 น. ที่ชั้น 4 เคาน์เตอร์ M ประตู 5-6 มีเจ้าหน้าที่จากคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) คอยยืนต้อนรับและให้คำแนะนำกับพวกเราอยู่ มีการแจกแจงอธิบายรายละเอียดที่สำคัญต่าง ๆ ให้กับลูกทัวร์ และคอยประสานงานอำนวยความสะดวกให้เราตลอด สำหรับกระเป๋าเดินทางคราวนี้ให้โหลดน้ำหนักได้ไม่เกินคนละ 15 กิโลกรัม ถ้าใครไม่พอก็สามารถซื้อเพิ่มได้ ใครที่ยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศไม่ต้องกังวลเลย ทีมงานทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) เขาได้เตรียมการทุกขั้นตอนไว้ให้เราพร้อม โดยออกเดินทางไปเกาะเชจู ประเทศเกาหลีครั้งนี้ พวกเราไปด้วยสายการบิน EASTAR JET เที่ยวบินที่ ZE552 ไปถึงเกาหลีประมาณ 10 โมงเช้า ที่สนามบิน เชจู หลังจากนั้นมีรถทัวร์มารอรับพวกเรา พาไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติฮัลลาซานเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ถัดมาคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) ได้พาไปเยี่ยมชม HELLO KITTY JEJU (เจจู) ISLAND ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับคิดตี้ไว้มากมาย จากนั้นก็พาพวกเราไปชมสวนส้มไร้เมล็ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนได้รับยกย่องว่าเป็นส้มที่อร่อยที่สุดในประเทศเกาหลี หลังจากนั้นคณะทัวร์ได้พาพวกเราไปต่อ ที่ไร่ชา O’Sulloc ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวส่งออกไปขายทั่วโลกบนเกาะเจจู
จากนั้นพวกเราได้มาแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่วัดซันบังซา วัดแห่งนี้อยู่ติดกับทะเลและเป็นสถานที่ ที่เลื่อมใสของชาวบ้านบนเกาะเชจูอย่างมาก
บรรยากาศวันที่ 2
วันนี้พวกเราร่วมรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมในแบบฉบับของชาวเกาหลี จากนั้นพวกเราได้เดินทางไปที่ Rail Bike Jeju (เจจู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่สามารถพักผ่อนและออกกำลังกายไปในตัวได้ด้วยการปั่นจักรยานบนรางรถไฟ โดยในระหว่างเส้นทางพวกเราทุกคนได้ชื่นชมกับธรรมชาติ อากาศที่นี่สดชื่นมาก
จากนั้นคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปชม AQUA Planet พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ คือ การจัดแสดงฉลามวาฬ ซึ่งเราสามารถดูการแสดงการให้อาหารของเจ้าหน้าที่กับฉลามได้ซึ่งถือเป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมาก นอกจากนี้ยังมีตู้ปลาจัดแสดงไว้เป็นจำนวนมาก และยังมีเจ้านกเพนกวินตัวน้อยน่ารักจัดแสดงไว้อีกด้วย
ถัดมาคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปชมปล่องภูเขาไฟซองซานอิลจูบงบนเกาะเจจู ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับลงไปแล้วมีลักษณะเหมือนมงกุฎ เป็นสถานที่โด่งดังและมักมีคนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ นับเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ 1 ใน 10 สถานที่บนเกาะเชจู นอกจากนี้ปล่องภูเขาไฟซองซานอิลจูบงได้ถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกอีกด้วย
หลังจากนั้นพวกเราออกเดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้านทางวัฒนธรรมซองอึบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีอายุมากกว่า 300 ปี บนเกาะเจจู จุดเด่นของหมู่บ้านนี้คือการสร้างบ้านด้วยดินเหนียวผสมกับมูลม้าแทนการใช้อิฐและปูน และคณะทัวร์ได้พาพวกเราเดินทางไปต่อที่พิพิธภัณฑ์แฮนยอ เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมของเกาหลี ด้วยการให้นักบาดาลน้ำหญิง ดำน้ำลงไปหาอาหารทะเลที่มีความลึกกว่า 100 เมตรโดยไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เราเรียกนักบาดาน้ำหญิงเหล่านี้ว่าแฮนยอ
บรรยากาศวันที่ 3
วันที่ 3 วันนี้คณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปยังโขดหินมังกรหรือที่ชื่อว่า ยงดูอัมรอค อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของเกาะเชจูเชื่อกันว่าหากใครมาเกาะเชจูแล้วไม่ได้มาดูโขดหินมังกรถือว่ายังมาไม่ถึงเกาะเชจู
ถัดมาพวกเราได้ไปเยี่ยมชมย่านการค้ามีของขายมากมายไม่ว่าจะเป็น อาหารนมเนย ขนง ขนมหรือของฝากนอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางชั้นนำที่นำมาให้พวกเราเลือกซื้อกันได้อย่างจุใจ
วันนี้เองถือเป็นวันสุดท้าย ที่เราจะได้บนเกาะเชจูก่อนเดินทางกลับต้องขอขอบคุณคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) ที่เตรียมการทุกอย่างไว้อย่างราบรื่น จนทำให้พวกเรามีความสุขมากกับการเดินทางในครั้งนี้ หากใครสนใจที่อยากจะมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวดี ๆ แบบนี้ ต้องศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวก่อนไปให้ดีนะ หรือไม่ก็ลองให้ GURU Trip (กูรูทริป) วางแผนให้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่
http://www.gurutrip.co.th/ ฝากไว้ด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
[SR] แชร์ประสบการณ์ทัวร์กับ GURU Trip ที่เกาะเชจู ประเทศเกาหลี
บรรยากาศวันแรก
พวกเรานัดรวมพลที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 23.00 น. ที่ชั้น 4 เคาน์เตอร์ M ประตู 5-6 มีเจ้าหน้าที่จากคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) คอยยืนต้อนรับและให้คำแนะนำกับพวกเราอยู่ มีการแจกแจงอธิบายรายละเอียดที่สำคัญต่าง ๆ ให้กับลูกทัวร์ และคอยประสานงานอำนวยความสะดวกให้เราตลอด สำหรับกระเป๋าเดินทางคราวนี้ให้โหลดน้ำหนักได้ไม่เกินคนละ 15 กิโลกรัม ถ้าใครไม่พอก็สามารถซื้อเพิ่มได้ ใครที่ยังไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศไม่ต้องกังวลเลย ทีมงานทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) เขาได้เตรียมการทุกขั้นตอนไว้ให้เราพร้อม โดยออกเดินทางไปเกาะเชจู ประเทศเกาหลีครั้งนี้ พวกเราไปด้วยสายการบิน EASTAR JET เที่ยวบินที่ ZE552 ไปถึงเกาหลีประมาณ 10 โมงเช้า ที่สนามบิน เชจู หลังจากนั้นมีรถทัวร์มารอรับพวกเรา พาไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติฮัลลาซานเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้และได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
ถัดมาคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) ได้พาไปเยี่ยมชม HELLO KITTY JEJU (เจจู) ISLAND ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับคิดตี้ไว้มากมาย จากนั้นก็พาพวกเราไปชมสวนส้มไร้เมล็ด ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยจนได้รับยกย่องว่าเป็นส้มที่อร่อยที่สุดในประเทศเกาหลี หลังจากนั้นคณะทัวร์ได้พาพวกเราไปต่อ ที่ไร่ชา O’Sulloc ซึ่งเป็นแหล่งผลิตชาเขียวส่งออกไปขายทั่วโลกบนเกาะเจจู
จากนั้นพวกเราได้มาแวะนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่วัดซันบังซา วัดแห่งนี้อยู่ติดกับทะเลและเป็นสถานที่ ที่เลื่อมใสของชาวบ้านบนเกาะเชจูอย่างมาก
บรรยากาศวันที่ 2
วันนี้พวกเราร่วมรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมในแบบฉบับของชาวเกาหลี จากนั้นพวกเราได้เดินทางไปที่ Rail Bike Jeju (เจจู) เป็นแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่สามารถพักผ่อนและออกกำลังกายไปในตัวได้ด้วยการปั่นจักรยานบนรางรถไฟ โดยในระหว่างเส้นทางพวกเราทุกคนได้ชื่นชมกับธรรมชาติ อากาศที่นี่สดชื่นมาก
จากนั้นคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปชม AQUA Planet พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ คือ การจัดแสดงฉลามวาฬ ซึ่งเราสามารถดูการแสดงการให้อาหารของเจ้าหน้าที่กับฉลามได้ซึ่งถือเป็นการแสดงที่น่าตื่นเต้นมาก นอกจากนี้ยังมีตู้ปลาจัดแสดงไว้เป็นจำนวนมาก และยังมีเจ้านกเพนกวินตัวน้อยน่ารักจัดแสดงไว้อีกด้วย
ถัดมาคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปชมปล่องภูเขาไฟซองซานอิลจูบงบนเกาะเจจู ซึ่งเป็นปล่องภูเขาไฟที่ดับลงไปแล้วมีลักษณะเหมือนมงกุฎ เป็นสถานที่โด่งดังและมักมีคนมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ นับเป็นสถานที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ 1 ใน 10 สถานที่บนเกาะเชจู นอกจากนี้ปล่องภูเขาไฟซองซานอิลจูบงได้ถูกยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลกอีกด้วย
หลังจากนั้นพวกเราออกเดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้านทางวัฒนธรรมซองอึบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีอายุมากกว่า 300 ปี บนเกาะเจจู จุดเด่นของหมู่บ้านนี้คือการสร้างบ้านด้วยดินเหนียวผสมกับมูลม้าแทนการใช้อิฐและปูน และคณะทัวร์ได้พาพวกเราเดินทางไปต่อที่พิพิธภัณฑ์แฮนยอ เป็นสถานที่ที่แสดงให้เห็นถึงการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมของเกาหลี ด้วยการให้นักบาดาลน้ำหญิง ดำน้ำลงไปหาอาหารทะเลที่มีความลึกกว่า 100 เมตรโดยไม่ใช้เครื่องช่วยหายใจ เราเรียกนักบาดาน้ำหญิงเหล่านี้ว่าแฮนยอ
บรรยากาศวันที่ 3
วันที่ 3 วันนี้คณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) พาพวกเราไปยังโขดหินมังกรหรือที่ชื่อว่า ยงดูอัมรอค อีกหนึ่งมนต์เสน่ห์ของเกาะเชจูเชื่อกันว่าหากใครมาเกาะเชจูแล้วไม่ได้มาดูโขดหินมังกรถือว่ายังมาไม่ถึงเกาะเชจู
ถัดมาพวกเราได้ไปเยี่ยมชมย่านการค้ามีของขายมากมายไม่ว่าจะเป็น อาหารนมเนย ขนง ขนมหรือของฝากนอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางชั้นนำที่นำมาให้พวกเราเลือกซื้อกันได้อย่างจุใจ
วันนี้เองถือเป็นวันสุดท้าย ที่เราจะได้บนเกาะเชจูก่อนเดินทางกลับต้องขอขอบคุณคณะทัวร์ GURU Trip (กูรูทริป) ที่เตรียมการทุกอย่างไว้อย่างราบรื่น จนทำให้พวกเรามีความสุขมากกับการเดินทางในครั้งนี้ หากใครสนใจที่อยากจะมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวดี ๆ แบบนี้ ต้องศึกษาเส้นทางการท่องเที่ยวก่อนไปให้ดีนะ หรือไม่ก็ลองให้ GURU Trip (กูรูทริป) วางแผนให้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.gurutrip.co.th/ ฝากไว้ด้วยนะ ขอบคุณค่ะ