เราเป็นคนไทยที่อาศัยอยู่บอสตัน สหรัฐอเมริกา เลยจะไปเที่ยวช่วงปิดเทอมเล็กๆ และเบอร์มิวด้าคือจุดมุ่งหมายตรั้งนี้
(ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวครั้งแรก และเขียนไม่ลงรายละเอียดมาก แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกที่ไปมา และการเขียนอาจจะไม่ถูกต้องตามไวย์กร)
เบอร์มิวดาเป็นประเทศที่เป็นเกาะเล็กๆ เล็กมาก เล็กขนาดที่ว่า สนามบินอุดรธานี ใหญ่กว่าสนามบินของประเทศนี้ ความยาวจากเหนือสุดของประเทศถึงใต้สุด ยาวแค่ประมาณ 35 กิโลเมตร
ตอนแรกพูดตามตรงไม่เคยรู้จักประเทศนี้เลย จนวันนึงแฟนถามว่า “ยูฉันอยากไปเที่ยวพักผ่อน ทำงานหนักมาหลายเดือนแล้ว เราไปเที่ยวกันไหม?” เลยตอบนางว่า “ไป ไปหมดแหละ แต่มีข้อแม้ว่า ขออากาศร้อนและเป็นทะเลนะ และขอบินไม่เกิน3ชม.พอ บินไกลขี้เกียจนั่งเครื่องนาน” จากนั้นนางก็ไปหาที่ๆนางอยากจะไป จนนางกลับมาบอกว่า “เราจะไปเบอร์มิวดากันนะ มีทะเล อากาศดี ไม่หนาวไม่ร้อนมาก บิน2ชม.จากบอสตัน”  เราก็แบบว่า “หาาาาาาา เบอร์มิวดา!!!  สามเหลี่ยมเบอร์มิวดานะหรออออ?!?!? ฉันเคยเรียนมานะ เค้าบอกเครื่องบินจะหายไป และเรือก็หายไปหลายลำด้วย ยูไม่กลัวหร๊อออ?!?!?”
นางก็กรอกตามองบน สามรอบ และบอกว่า “ตอนนี้มัน2018แล้วนะยู มันไม่มีหรอกเรือหาย เครื่องบินหายอ่ะ แล้วเราก็จะไปเกาะเบอร์มิวด้า เราไม่ได้ไปสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า อันนั้นมันอยู่กลางทะเลมหาสมุทรโน้นนนนน” เราก็บอก “โอเค ไปก็ไป ถ้ายูบอกว่าปลอดภัยก็ไปกัน” 555555
.
พอมาถึงก็สมคำล่ำรือ มันคือเกาะสวรรค์จริงๆ หาดทรายสีชมพูอ่อนละเอียดมาก (Horseshoe bay)นุ่มสุดๆ แทบจะทุกหาดจะสวยเหมือนกันหมด น้ำทะเลก็สีครามสดใสมาก เสียที่ช่วงนี้น้ำทะเลยังเย็นมากอยู่ เลยไม่ได้ดำน้ำดูประดารัง แต่แค่นอนอาบแดด บนหาดทรายนุ่มๆก็ฟินสุดๆละ ที่เที่ยวอื่นๆนอกจากทะเลก็จะมีถ้ำหินงอกหินย้อย  (Crystal cave)แบบอลังการมาก ถ้ำใหญ่มาก แถมมีน้ำทะเลอยู่ในถ้ำด้วย สวยงามมาก แต่แอบดูอันตรายน่ากลัวไปในตัว น้ำลึกสุดๆ
.
ข้อเสียของที่นี่เห็นจะมีอย่างเดียวเลย คือแพงมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างแพงสุดๆ ค่าเงินที่นี่ใช้ค่าเงินเดียวกันกับอเมริกา คือ 1ดอลล่า เท่ากับ35บาทไทย แต่ที่บอกว่าแพงคือ ที่นี่ราคาของทุกอย่างเป็น2-3เท่าของอเมริกา ยกตัวอย่างข้าว1จานที่เมกา10ดอลล่าร์ ข้าวที่นี่1จานขั้นต่ำ20$ ส่วนค่ารถคือแพงสุดๆ ประเทศนี้ไม่อนุญาตให้คนที่มาจากต่างถิ่นขับรถยนต์เอง เนื่องจากอันตรายมากถ้าไม่ชินถนนหนทางอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ถนนในเกาะแคบมาก ถ้าไม่ชำนาญอาจจะลงไปจูบตีนเขาได้ง่ายๆ นักท่องเที่ยวเลยต้องเดินทางด้วยแท็กซี่เท่านั้น ไม่งั้นก็รถเมล์ 15นาทีมาคันนึง แต่คนแน่นสุดๆ ทริปนี้เลยอาศัยแท็กซี่ทั้งทริปหมดเงินไปมากโขหนาออเจ้า แต่ถ้าเป็นคนไทยมาที่นี่คงหายห่วง เพราะเค้ามีมอไซด์ให้เช่า ขับกันได้สบายๆ แต่อิฉันมากับฝรั่งเค้าไม่เคยขี่มอไซด์ กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด สรุปเลยไม่มีโอกาสได้เช่ามอไซด์ขับแว้นเลย😅
.
ทริปนี้เป็นทริปชิลมากับครอบครัว 4คืน 5วัน เราเน้นกินกับนอน พักผ่อน ชาร์จแบตร่างกายเพื่อที่จะกลับไปทำงานต่อ เลยไม่ค่อยอะไรมาก ตื่นนอนตอนที่อยากตื่น บางวันตื่นเที่ยงเลยก็มี ชิลมาก เพราะเอาจริงๆเกาะเล็กๆนี่ถ้าจะมาเพื่อเช็คอินเก็บทุกจุดถ่ายรูป แค่2คืน3วันน่าจะพอแล้ว
.
สำหรับใครที่อยากมาเที่ยว แนะนำให้พักทางตอนใต้ของเกาะ ติดกับหาดสวยๆแทบทั้งหมด จะได้ประหยัดค่าแท็กซี่ ช่วงหน้าเที่ยวแนะนำให้มาช่วง summer อากาศร้อนจะดีที่สุด และที่สำคัญคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าประเทศนี่นะจ้ะ ใช้พาสปอร์ตไทยเข้าได้เลย 😋  นี่เป็นหนึ่งในประเทศที่สวยงามมากทีอนุญาตให้คนไทยเข้าได้โดยไม่มีวีซ่า ถ้ามีโอกาสมานะจ้ะ❤️