Snow White and the Seven Dwarfs
สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด 7
หอภาพยนตร์( องค์การมหาชน) นํากลับมาฉายใหม่ ที่โรงภาพยนตร์สกาลา ในทึ่งหนังโลก
กระจกวิเศษ..บอกข้าเถิด ว่า.. ใครงามเลิศ ในปฐพี กระจกตอบว่า... อ้อ ก็ สโนไวท์ นั้นซิเธองาม ..ที่สุดในโลก ไม่มีใครเทียบได้
ประโยคอมตะ ที่ได้ยินกันทั่วโลก ที่เด็กๆรักประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ พ่อแม่ลูก จะหาหนังการ์ตูนให้เด็กๆชม สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7เทพนิยาย ที่มีคนรู้จักทั่วโลก ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ได้ความรักมอบให้กับหนังเรื่องนี้หมดเพราะว่า
เรื่องราวของเจ้าหญิงสโนไวท์ ที่สวยงดงามน่ารักที่สุด มีจิตใจสะอาดงดงามอ่อนโยน รักสัตว์แถมเธอมีเสียงพูดและร้องเพลงไพเราะกังวานแบบโอเปร่า
เธอ เป็นที่รักของเหล่าพวกสัตว์ทั้งหลายในป่า เธอต้องหลบหนี ราชินีที่เป็นคนใจร้ายและ จะมาจับเธอเลย หาทางหนีเข้าไปในป่าลึก เธอไปพบบ้านกลางป่าหลังหนึ่งเข้าไปอยู่ และได้รับช่วยเหลือ
จากคนแคระทั้ง 7 เหตุที่ต้องหนีเพราะ กระจกวิเศษของราชินียกย่องให้เธอเป็นหญิงงามเลิศกว่าใครๆ ในปฐพี ความสวยจึงเป็นอันตราย แต่โชคดีที่พบคนแคระ ทำให้เกิดความรักความผูกพัน กับคนตัวเล็กใจดี ทั้งเจ็ดคนให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่นานราชินีก็หาเธอพบ และปลอมตัวเป็นหญิงชราแก่ สโนไวท์ได้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษของนางไป และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา คนแคระทั้งเจ็ดเศร้าโศกเสียใจมาก มี หนทางเดียวที่จะแก้ไขคำสาปได้ คือต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชาย ผู้สูงศักดิ์เท่านั้น
สโนไวท์เป็นภาพยนตร์ที่เป็นอมตะคลาสสิกสร้างในปีค.ศ. 1937 เป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่มีเสน่ห์ของวอลดิสนี่ มีเพลงประกอบไพเราะ มีส่วนเล่าเรื่อง ที่ช่วยส่งเสริมให้ให้ภาพยนตร์มีมิติดูแล้วฝังใจผู้ชมจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นอมตะ
สโนไวท์กับคนแคระ ตามประวัติออกฉายรอบปฐมทัศน์วันที่ 21 ธันวาคมใน ปี 1937 ที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์ เซอร์เคิลในลอสแองเจลิส และออกฉายทั่วสหรัฐอเมริกาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1938 กลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้มากมายที่สุดเป็นประวัติการในยุคนั้นกระแสแรงมากๆทำให้วอล ดิสนี่กลายเป็นผู้สร้างหนังที่ยิ่งใหญ่ปฎิวัติวงการภาพยนตร์แอนิเมชันให้มีศักดิ์ศรีเทียบเท่าคนแสดง จากเรื่องนี้สงผลให้บริษัทเขาเติบโตอย่างรวดเร็วมีแฟนติดตามทั่วโลกการ์ตูนเทพนิยายครองใจคนทั้งโลก
ในค.ศ. 1939 วอลด์ ดิสนี่ย์ ได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศรางวัลเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ เคียงข้างตัวเล็ก อีก 7 ตัว โดยมีคำจารึกเป็นอนุสรณ์กับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า...แด่สโนไวท์ และคนแคระทั้งเจ็ด ก้าวใหม่ที่สำคัญของวงการ ภาพยนตร์ที่ชนะใจผู้ชมนับล้าน และเป็นบุกเบิกพื้นที่แห่งความบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่ ให้แก่ภาพยนตร์การ์ตูน
ข่าวดีหอภาพยนตร์ องค์การมหาชน จะนำเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfsที่บูรณะฟิล์มใหม่ทำเป็นระบบดิจิตัลฉายบนจอยักษ์เสียงรอบทิศ
ที่โรงภาพยนตร์สกาลา ในวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561นี้ รอบเที่ยงตรง ในเทศกาลทึ่งหนังโลก เวลา
12. 00น. บัตร 100 บาททุกที่นั่ง บทความนําเสนอโดย วิวัย จิตต์แจ้ง ร่วมกับหอภาพยนตร์และ เวปพีเพิลซีนเวปคนรักหนัง
หอภาพยนต์จัดฉาย สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7
สโนไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด 7
หอภาพยนตร์( องค์การมหาชน) นํากลับมาฉายใหม่ ที่โรงภาพยนตร์สกาลา ในทึ่งหนังโลก
กระจกวิเศษ..บอกข้าเถิด ว่า.. ใครงามเลิศ ในปฐพี กระจกตอบว่า... อ้อ ก็ สโนไวท์ นั้นซิเธองาม ..ที่สุดในโลก ไม่มีใครเทียบได้
ประโยคอมตะ ที่ได้ยินกันทั่วโลก ที่เด็กๆรักประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ พ่อแม่ลูก จะหาหนังการ์ตูนให้เด็กๆชม สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7เทพนิยาย ที่มีคนรู้จักทั่วโลก ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ได้ความรักมอบให้กับหนังเรื่องนี้หมดเพราะว่า
เรื่องราวของเจ้าหญิงสโนไวท์ ที่สวยงดงามน่ารักที่สุด มีจิตใจสะอาดงดงามอ่อนโยน รักสัตว์แถมเธอมีเสียงพูดและร้องเพลงไพเราะกังวานแบบโอเปร่า
เธอ เป็นที่รักของเหล่าพวกสัตว์ทั้งหลายในป่า เธอต้องหลบหนี ราชินีที่เป็นคนใจร้ายและ จะมาจับเธอเลย หาทางหนีเข้าไปในป่าลึก เธอไปพบบ้านกลางป่าหลังหนึ่งเข้าไปอยู่ และได้รับช่วยเหลือ
จากคนแคระทั้ง 7 เหตุที่ต้องหนีเพราะ กระจกวิเศษของราชินียกย่องให้เธอเป็นหญิงงามเลิศกว่าใครๆ ในปฐพี ความสวยจึงเป็นอันตราย แต่โชคดีที่พบคนแคระ ทำให้เกิดความรักความผูกพัน กับคนตัวเล็กใจดี ทั้งเจ็ดคนให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่นานราชินีก็หาเธอพบ และปลอมตัวเป็นหญิงชราแก่ สโนไวท์ได้กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษของนางไป และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา คนแคระทั้งเจ็ดเศร้าโศกเสียใจมาก มี หนทางเดียวที่จะแก้ไขคำสาปได้ คือต้องได้รับจุมพิตจากเจ้าชาย ผู้สูงศักดิ์เท่านั้น
สโนไวท์เป็นภาพยนตร์ที่เป็นอมตะคลาสสิกสร้างในปีค.ศ. 1937 เป็นการ์ตูนเรื่องแรกที่มีเสน่ห์ของวอลดิสนี่ มีเพลงประกอบไพเราะ มีส่วนเล่าเรื่อง ที่ช่วยส่งเสริมให้ให้ภาพยนตร์มีมิติดูแล้วฝังใจผู้ชมจากรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็นอมตะ
สโนไวท์กับคนแคระ ตามประวัติออกฉายรอบปฐมทัศน์วันที่ 21 ธันวาคมใน ปี 1937 ที่โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์ เซอร์เคิลในลอสแองเจลิส และออกฉายทั่วสหรัฐอเมริกาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1938 กลายเป็นภาพยนตร์ทำรายได้มากมายที่สุดเป็นประวัติการในยุคนั้นกระแสแรงมากๆทำให้วอล ดิสนี่กลายเป็นผู้สร้างหนังที่ยิ่งใหญ่ปฎิวัติวงการภาพยนตร์แอนิเมชันให้มีศักดิ์ศรีเทียบเท่าคนแสดง จากเรื่องนี้สงผลให้บริษัทเขาเติบโตอย่างรวดเร็วมีแฟนติดตามทั่วโลกการ์ตูนเทพนิยายครองใจคนทั้งโลก
ในค.ศ. 1939 วอลด์ ดิสนี่ย์ ได้รับรางวัลออสการ์เกียรติยศรางวัลเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ เคียงข้างตัวเล็ก อีก 7 ตัว โดยมีคำจารึกเป็นอนุสรณ์กับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า...แด่สโนไวท์ และคนแคระทั้งเจ็ด ก้าวใหม่ที่สำคัญของวงการ ภาพยนตร์ที่ชนะใจผู้ชมนับล้าน และเป็นบุกเบิกพื้นที่แห่งความบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่ ให้แก่ภาพยนตร์การ์ตูน
ข่าวดีหอภาพยนตร์ องค์การมหาชน จะนำเรื่อง Snow White and the Seven Dwarfsที่บูรณะฟิล์มใหม่ทำเป็นระบบดิจิตัลฉายบนจอยักษ์เสียงรอบทิศ
ที่โรงภาพยนตร์สกาลา ในวันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน 2561นี้ รอบเที่ยงตรง ในเทศกาลทึ่งหนังโลก เวลา
12. 00น. บัตร 100 บาททุกที่นั่ง บทความนําเสนอโดย วิวัย จิตต์แจ้ง ร่วมกับหอภาพยนตร์และ เวปพีเพิลซีนเวปคนรักหนัง