ปืนไรเฟิล ShAk-12 ใช้ลูกกระสุนปืน
ขนาด 12.7 x 55 มม
ได้รับการพัฒนาขึ้นมาในปี 2017 สำหรับ
หน่วยรบพิเศษ Spetsnaz สังกัด
Federal Security Service (FSB's)

ทีมนักพัฒนาปืนกลรุ่นนี้ได้รับข้อกำหนด
ในการปรับปรุงพัฒนาให้ใช้งานได้
สำหรับยุทธการ 3 ประเภท

1. การสู้รบในระยะใกล้ชิด
ในพื้นที่สู้รบในเมือง

2. การยิงเจาะเกราะกำบังของศัตรู
ให้ได้มากที่สุด (กำแพงอิฐทะลุได้โดยง่าย)

3. การยิงที่มี อำนาจหยุดยั้งทันที
และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ในการยิงระยะปะชิดตัวศัตรู

ปืนกล Shak-12 หรือ ASh-12.7   
จะมีระยะทางหวังผลภายใน 100 เมตร
ทั้งยังสามารถบรรจุกระสุนเจาะเกราะ
โจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 300 เมตร

ปืนไรเฟิลอัตโนมัติรุ่นนี้
จะมีรูปแบบ Bullpup
ซึ่งจะช่วยให้ใช้อาวุธได้ง่ายขึ้นในพื้นที่จำกัด

ซองกระสุน/แมกกาซีนบรรจุกระสุนได้ 2 แบบ
10 นัดในกรณีติดอุปกรณ์เก็บเสียง
20 นัดในกรณีใช้งานทั่วไป/ส่งเสียงดัง
ตัวเลือกโหมดการยิง
จะอยู่ที่ด้านหลังของแมกกาซีน

เพื่อลดอาการสะบัด/ถีบของปืน ShAK-12
จะมีช่องสองช่องที่ลดอาการดังกล่าว
ตรงบริเวณปากกระบอกปืน
และแผ่นยางรองหุ้มพานท้ายกระบอกปืน
ติดตั้งอุปกรณ์เก็บเสียงบนปากกระบอกปืนได้
ด้านล่างลำกล้องปืนติดตั้งชุดยิงระเบิด
และอุปกรณ์เล็งยิงและตัวพรางแสง
ที่ใช้ราง Picatinny ทั้งด้านบนและด้านล่าง




หนึ่งในอาวุธของรัสเซียที่พัฒนา
โดยบริษัทเอกชนย้อนหลังไปถึงปี 2010
และยังมีสายการผลิตจนถึงทุกวันนี้
โดยผลิตขายให้กับ
Federal Protection Service เป็นหลัก
ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ
ในการปกป้องคุ้มกันประธานาธิบดี
และเจ้าหน้าที่อาวุโสอื่น ๆ ของรัฐ

ปืนไรเฟิลรุ่นนี้มีส่วนประกอบหลัก
ทำจากอลูมิเนียมที่ใช้ในเครื่องบิน
high-strength aviation aluminium
ที่มีความแข็งแรงสูง/ได้รับการออกแบบ
เพื่อให้สามารถทำงานได้
ในช่วงอุณหภูมิ -45 ถึง +60 องศาเซลเซียส

DXL-3 ใช้กระสุน Lapua Magnum
ซึ่งช่วยให้ซุ่มยิง/โจมตีเป้าหมายได้
ในระยะทาง 1,800 เมตร
จัดว่าไม่เลวเลยเมื่อเทียบกับ
มาตรฐานการต่อสู้/ซุ่มยิงในปัจจุบัน

ในช่วงที่นักวิจัยพัฒนาปืนไรเฟิลซุ่มยิงรุ่นนี้
ผู้วิจัยพัฒนาสามารถแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ
ของกระสุน .338 Lapua Magnum
จากการใช้งานในพื้นที่จริง/จำลอง
ที่ได้รับรายงานจากนักซุ่มยิง  ว่า
มีอาการบาดเจ็บจากแรงถืบของปืน
หลังจากยิงกระสุนปืน LM .338 ออกไปแล้ว
อาการบาดเจ็บที่ไหล่ และมีรอยช้ำที่ไหล่
และอาการปวดตามข้อต่อของมือ

นักออกแบบ/นักวิจัยพัฒนาอาวุธ Lobaev Arms
สามารถแก้ไขปัญหาลดแรงถีบ
ของปืนไรเฟิลซุ่มยิง DXL-3
ที่เกิดจากการยิงกระสุนปืน LM .338  รุ่นนี้ได้
ทำให้ช่วยเพิ่มความแม่นยำให้กับปืนไรเฟิลรุ่นนี้
ช่วยให้ผู้ซุ่มยิงสามารถยิงกระสุนปืนซ้ำได้อีก
ในช่วงเวลาที่สำคัญและคับขัน
ในช่วงสู้รบได้อย่างต่อเนื่อง
ปืนไรเฟิลรุ่นนี้ผลิตขึ้นมา
ให้สามารถใช้งานได้
ทั้งในสภาพแวดล้อมในเมือง
และในภูมิประเทศที่ทุรกันดารได้



หนึ่งในปืนไรเฟิลรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้น
เพื่อทดแทนปืนไรเฟิล AK-74
ปืนไรเฟิลรุ่นเก่าแก่ของกองทัพของรัสเซีย

Gennadiy Nikonov คือผู้ออกแบบ
ปืนไรเฟิล AN-94
ปรากฏตัวครั้งแรกในรัสเซีย
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990

ปืนไรเฟิลรุ่นนี้ถูกออกแบบมา
เพื่อใช้ลูกกระสุนปืนยอดนิยม
ของกองทัพรัสเซียที่ใช้กันมากที่สุดคือ
กระสุนขนาด 5.45 x 39 มม.
และเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องที่สำคัญของ AK-74
ในเรื่องความแม่นยำในการยิงปืนรุ่นนี้

นักออกแบบ/นักวิจัยพัฒนาปืนไรเฟิลรุ่นนี้
ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา
อาการปืนไรเฟิลสั่นสะเทือน
/สะบัดขึ้นระหว่างยิงปืนรุนนี้
ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ยิงออกไปแล้ว

อาการปืนสะบัดขึ้น Muzzle Rise
มักจะหายไปหรือลดลง
หลังจากที่กระสุนนัดที่ 3
เข้าไปในลำกล้องพร้อมยิงแล้ว
ทำให้ปืนรุ่นนี้ได้รับความนิยมกันมาก
ในหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย

แต่เนื่องจากปืนไรเฟิลรุ่น AN-94
ค่อนข้างยุ่งยากในการผลิต/การบำรุงรักษา
กระทรวงกลาโหมรัสเซียจึงจัดให้กับ
หน่วยรบพิเศษบางหน่วยใช้งานเท่านั้น




✞
เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/NkK5Wp




✞
เรื่องเล่าไร้สาระ

รัสเซียจัดการกับพวกผู้ก่อการร้าย
อย่างรุนแรงแบบโหดสัตว์รัสเซีย
ด้วยการให้เวลากับผู้ก่อการร้าย
ให้ยอมมอบตัว/ยอมจำนน
หรือถ้ามีตัวประกัน/ชาวบ้าน
จะแจ้งให้หลบหนี/ไปให้ไกล ๆ
ถ้าครบกำหนดจะลงมือปฏิบัติการ
แบบไม่เลือกหน้า ไม่สนใจตัวประกัน
ด้วยปรัชญาเหี้ยมโหด
แบบพวกนักรบมองโกล
ที่รัสเซียเคยตกเป็นเมืองขึ้นกว่า  200 ปี

เพราะรัสเซียเดิมเป็นชนเผ่าเร่ร่อน
ในอดีตที่เรียกว่า ชนเผ่าสลาฟ
เลยมักจะมีคำพังเพยกล่าวกันว่า
ใจดีเหมือนชนเผ่าสลาฟ
เจ้าเล่ห์เหมือนพวกชนเผ่าเร่ร่อน
เหี้ยมโหดเหมือนพวกมองโกล

รัสเซีย ยิว จีน จะมีปรัชญาว่า

ถ้าคุณถูกจับเป็นตัวประกัน
ถ้าคุณรอดตายได้ถือว่าคุณโชคดี
ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณด้วย

โทษทัณฑ์บาปบุญเป็นเรื่องของพระเจ้า
แต่การลงโทษแทนพระเจ้าคือ เรื่องของข้า

ผู้ใดก็ตามที่อยู่ร่วมกับผู้ก่อการร้าย
ให้ที่พักพิงผู้ก่อการร้าย
ช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย
ไม่ยอมบอกว่ามีผู้ก่อการร้าย
มาซ่อนตัวอยู่ในบ้าน/บ้านข้างเคียง
จะถือว่าเป็นพวกก่อการร้ายทุกคน
จะจัดการแบบผู้ก่อการร้ายทุกคน
ไม่มีการแยกแยะว่า เด็ก สตรี คนชรา

จีน ก็มีมาตั้งแต่กฎหมาย ซางยาง
ที่มีการประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร
พวกขบถ ฝ่ายพ่ายแพ้ทุกคน
บางครั้งยังโยงไปยังเก้าชั่วโคตร
ในสายคู่สมรสทุกคนด้วย
พร้อมทั้งริบทรัพย์สินทั้งหมด
กฎหมายนี้ใช้สืบทอดต่อกันมาหลายพันปี
จนฝังอยู่ในแนวคิดชนชั้นปกครองจีน
จนถึงทุกวันนี้ ตัวอย่างที่เด่นขัด
เหมาเจ๋อตุง ฆาตกรโชกเลือด
ในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม Red Guards

จะเห็นได้กับการจัดการกลุ่มก่อการร้าย
การช่วยเหลือตัวประกันในเงื้อมมือคนร้าย
ของยิว รัสเซีย จีน เห็นได้ตามคลิปต่าง ๆ

ถ้ามีการซุ่มยิงเกิดขึ้นจากบริเวณไหน
รัสเซีย ยิว จีน จะยิงปืนครก
ปืนใหญ่โต้ตอบกลับทันที
หรือให้เครื่องบินทิ้งระเบิด
ปูพรมบริเวณนั้นเลย
ไม่สนใจว่าจะเป็นโรงเรียน
โรงพยาบาล สภากาชาดสากล
มีบ้านเรือนพลเรือนอยู่ปะปนหรือไม่
เพราะถือว่าเป็นพวกแนวร่วมโจร
พวกโจรแอบแฝงไปใช้สถานที่ดังกล่าว

โดยถือคติแบบมงโกลยุคเก่า
ที่จะมีการเผาทุกคนทั้งเป็น
แม้ว่าจะหลบซ่อนอยู่ใน
มัสยิศ สุเหร่า วัดวาอาราม
เพราะถือว่าร่วมมือกับ
พวกศัตรูเลยไม่ยอมจำนน
กับเป็นการฆ่าคนเลว
ที่อาศัยศาสนสถานหลบภัย



รัสเซีย

มีความพยายามรัฐประหารด้วยการยึดรัฐสภา
ใช้สมาชิกรัฐสภาเป็นตัวประกันกว่า 300 คน
สมัยประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน ในตอนนั้น
จึงมีคำสั่งให้หน่วยรบพิเศษ
ใช้รถถัง ปืนครก ยิงถล่ม อาคารรัฐสภาทันที
พร้อมกับลุยแหลกแบบไม่สนใจชีวิตตัวประกัน
ทำให้คณะรัฐประหารยอมจำนน
กลายเป็นกบฎไปเลยในทันใด

กบฎเชสเนียได้จับชาวบ้านในโรงละคร
ที่อยู่ระหว่างชมละครกว่า 400 คน
เพื่อต่อรองกับรัฐบาลรัสเซีย
สมัย วลาดิเมียร์ ปูติน
จึงมีคำสั่งให้ใช้ก๊าซน้ำตาอย่างแรง
ปล่อยเข้าทางช่องแอร์ของโรงละคร
แล้วใช้หน่วยรบพิเศษลุยแหลกทันที
ยิงทิ้งโจรก่อการร้ายทุกคน
แม้ว่ามีจะผู้ก่อการร้ายสตรีรายหนึ่ง
จะยอมจำนนแล้วก็ตาม
ผลการบุกครั้งนั้น
ทำให้ตัวประกันในโรงละคร
ตายมากกว่า 100 คน
และบาดเจ็บอีกนับ 100 คน

ทั้งยังมีการตามล้างตามเช็ด
ไล่ล่าสังหารกลุ่มคนที่วางแผน
กลุ่มที่สนับสนุนการก่อการร้าย
ต่อให้หนีไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียว
รัสเซียจะส่งคนไปฆ่าให้หมดทุกคน
ถ้าไม่ยอมจำนน/มอบตัวกับทางการ
มีการยึดทรัพย์สินผู้ก่อการร้ายทั้งหมดด้วย
และขับไล่ครอบครัวผู้ก่อการร้ายออกจากที่พัก
ให้คนอื่นเข้ามาครอบครองแทน
เป็นการลงโทษอีกสถานหนึ่ง




ยิว


มีเหตุการ์กลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์
จับตัวประกันทหารยิวจำนวนหนึ่ง
แล้วต่อรองให้ปล่อยตัวนักโทษก่อการร้าย
ชาวปาเลสไตน์ออกจากคุกจำนวนหนึ่ง
ถ้ายิวไม่ทำตามก็จะฆ่าตัวประกันชาวยิว
และเมื่อกลุ่มก่อการร้ายปาเลสไตน์
ฆ่าตัวประกันทหารชาวยิวไปแล้วหนึ่งคน

ทางการยิวก็มีคำสั่ง
ให้ยิงเป้านักโทษปาเลสไตน์
ระดับแกนนำ 10 ศพทันทีในวันนั้น
พร้อมกับประกาศท้าทายเลยว่า
ให้รีบฆ่าตัวประกันชาวยิวเลย
จะได้เลือก 1 ศพแลก 10 ศพ
ทำให้กลุ่มก่อการร้ายไปไม่ถูกเลย
ต้องยุติการเจรจาต่อรอง
ที่เอาชีวิตตัวประกันชาวยิวมาต่อรอง

ผลสุดท้ายมีการไกล่เกลี่ย
โดยองค์การระหว่างประเทศ
พร้อมทั้งการกดดันของสหรัฐอเมริกา
จนยิวยอมแลกตัวประกัน
หลักสิบคนกับหลักร้อยคน

ขณะเดียวกัน
ลูกหลานครอบครัวใดที่ไปก่อการร้ายในยิว
ถ้ายิวรู้ตัวคนร้ายแล้ว
จะถล่มทำลายบ้านเรือนครอบครัวนั้นทิ้งทันที
โดยไม่สนใจว่าจะมีเด็ก ผู้หญิง คนชรา
ยังพักอาศัยอยู่ในบ้านนั้นหรือไม่
ทำให้พวกก่อการร้ายต้องไปหา
เด็กกำพร้า/คนเร่ร่อน/คนไร้บ้าน
มาทำสงครามก่อการร้ายกับยิว
เพื่อป้องกันการถูกทำลายบ้านเรือนครอบครัว

กรณีที่มีการสังหารหมู่นักกีฬาโอลิมปิคยิว
ที่มิวนิค
ยิวก็ตามล้างแค้นแบบตามติดตลอด
กับกลุ่มก่อการร้าย ด้วยการสืบสวนว่า
ใครอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนั้น
จะถูกตามสังหารทิ้งทุกคน
แม้ว่าจะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น
ทำให้พวกผู้ก่อการร้ายที่ยังรอดตาย
จะอยู่ด้วยความหวาดกลัวตลอดชีวิต
ว่าจะถูกสังหารทิ้งในวันใดวันหนึ่ง
ถ้าไม่รีบตายไปก่อน
กับกลัวครอบครัวเดือดร้อน




✞
หมายเหตุ


ไทยมีการยึดทรัพย์สิน
บ้านเรือนที่ดิน/โรงเรียนปอเน๊าะ
ของขบวนการกลุ่มก่อการร้าย
ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งยังเป็นข้อพิพาทกับเจ้าของทรัพย์สิน
ที่อ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย
แม้ว่าศาลจะพิพากษาไปแล้วก็ตาม

แต่มีบางราย
ทางการไทยไม่ยึดทรัพย์สินต่อ
เพราะเวทนาครอบครัวว่ายากจนอย่างแรง