ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่ชอบซื้อของแบรนด์ในช็อปไทยตามห้างอยู่แล้วโดยเฉพาะกระเป๋า ทำให้ได้รับบริการจากพนักงานหลายแบรนด์พอสมควร แต่วันนี้ถึงกับอึ้ง หน้าชา มือสั่นกับแบรนด์ ๆ หนึ่งที่ขึ้นต้นด้วยตัว D ระดับไฮเอนสำหรับผู้หญิงและมีเครื่องสำอางขายด้วย
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราได้ซื้อกระเป๋าใบหนึ่งเป็นทรง wallet on chain สีสวยเลยแหละ ราคาก็สบายกระเป๋า สบายมากเพราะเงินหายหมด 555 เอาเป็นว่าเป็นกระเป๋าที่ส่วนตัวเรากับน้องสาวเราชอบ เพราะใช้งานในวันที่สบาย ๆ ไม่อยากพกไรเยอะ
จำได้ว่าตอนนั้นที่เดินเข้าไปซื้อก็เจอกับพนักงานผู้หญิงผมสั้น อายุน่าจะมากกว่าทุกคนในร้าน พนักงานคนนี้ก็เริ่มเอากระเป๋าใบนู้นนี้นั้นมาให้ดู ให้ลอง นางก็พูดเชียร์ว่าเอาใบนี้ไหมคะ เอาใบนั้นไหมคะ อยากลองแบบไหนบ้างคะ เรามีหลายแบบ นู้นนี้นั่น เอาเป็นว่าแทบจะประเคนยกมาให้ดูเลยละกัน
พอเราตัดสินใจซื้อกระเป๋าใบนี้จ่ายเงินปั๊บ เราก็ปล่อยให้น้องสาวเรานั่งอยู่กับพี่พนักงานคนนั้น เพราะเราก็เดินดูเข็มขัด ผ้าพันคอไปเรื่อย ตอนนั้นของแพ็คใส่กล่อง ใส่ถุงเรียบร้อย พนักงานก็เดินมาหา เราก็ให้นางหยิบเข็มขัดให้ดู ผ้าพันคอ ซึ่งนางเต็มใจเอาเข็มขัดมาให้ลองที่เอว เอาผ้าพันคอมาพาดที่คอให้ แต่เรายังไม่ได้ซื้อเข็มขัดและผ้าพันคอ เพราะยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ พอดูเสร็จก็เดินออกมาจากร้านด้วยความอิ่มอกอิ่มใจในบริการ แต่ไม่นานความอิ่มอกอิ่มใจนั้นก็เกือบจะสำลักออกมาในไม่กี่วันหลังจากนั้น
หลังจากได้รับกระเป๋า เราก็ยังไม่ได้เปิดกระเป๋าจากกล่องเลย ก็เก็บไว้จนล่วงเลยมาถึงวันอาทิตย์ คิดว่าเดี๋ยววันจันทร์ลองเอามาใช้ดู ตอนเย็นวันอาทิตย์ก็เลยเปิดกล่องออกมาเพื่อที่จะลองหิ้วโดยเอาโซ่ที่มากับกระเป๋ามาเกี่ยวกระเป๋าทั้งสองข้าง ตอนแรกก็แอบตกใจว่าทำไมตัวเกี่ยวไม่เเข็งแรงและดูบอบบางมาก แต่เราก็ลองเกี่ยวลองเอามือถือใส่กระเป๋า ลองสะพายดูว่าเป็นไงบ้าง
ปรากฎว่าโซ่ด้านซ้ายหลุดจากตัวกระเป๋าจ้า อ้าว! เราก็งงเลยดิ แบรนด์ดังขนาดนี้ทำไมเขาถึงทำตัวเกี่ยวไม่แข็งแรงแบบนี้ออกมาขายได้ นี่ขนาดแค่เอามือถือใส่ยังหลุดเลย ถ้ามีพวกกุญแจรถ ของอื่น ๆ จะเกี่ยวกระเป๋าได้หรอ เราเลยตัดสินใจว่าเดี๋ยววันจันทร์จะเอากระเป๋าไปเปลี่ยน หรือถ้าไม่ได้ก็อาจจะเปลี่ยนโซ่กระเป๋าไปเลย เพราะเราคิดว่าอาจเป็นตัวเกี่ยวของโซ่ก็ได้ที่ไม่แข็งแรง แต่ความตั้งใจที่จะเอาไปในวันจันทร์ก็ต้องล้มพับไป เพราะงานดันเข้าแบบไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ยังโทรไปเช็กกับทางร้านให้แน่ใจว่าเขาจะให้เราเปลี่ยน เพราะกำหนดเปลี่ยนหรือคืนอยู่ในช่วงเวลา 7 วัน
พอวันอังคารตอนเที่ยง เราก็รีบพุ่งตัวไปที่ร้านเลยจ้า โดยหนีบเพื่อนอีกคนมาด้วย พร้อมกับน้องสาวคนเดิมที่ไปซื้อด้วยกัน ซึ่งพนักงานแจ้งให้เราทราบว่าต้องตรวจกระเป๋าก่อนว่าไม่ผ่านการใช้งานมา เราก็บอกว่าได้ค่ะ ตอนนั้นก็นั่งรอ ๆ ระหว่างรอก็มีพนักงานเดินเข้า-ออกไปมาตลอด สักพักพนักงานคนที่ขายกระเป๋าให้เราวันนั้นก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วบอกเราว่ากระเป๋าเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้ เพราะตรงที่ปิดประเป๋ามีรอยที่เกิดจากการกดปิดกระเป๋า เราก็บอกว่าโอเค ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอาจจะเป็นรอยตอนที่เราเอามาลองปิด-เปิดกระเป๋าก็เป็นได้
เมื่อเปลี่ยนกระเป๋าไม่ได้ เราก็บอกพนักงานคนนั้นว่า พี่คะตัวคล้องโซ่ไม่แข็งแรงเลย เวลาสะพายแล้วโซ่หลุดจากกระเป๋า พนักงานคนนั้นบอกว่า “จะเปลี่ยนโซ่ทำไม” (นำ้เสียงเเข็ง ดุ และไม่มีหางเสียงแต่อย่างใด) ตอนนั้นเราหน้าชา แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่าไม่ตอบกลับคนนั้นไป เราก็ได้แต่อึ้ง บรรยากาศตอนนั้นในร้านไม่มีลูกค้าท่านอื่นเลย มีแต่เรา เพื่อน และน้องสาว พอน้องสาวได้ยินที่พนักงานพูดก็ดึงตัวเพื่อนเราไปคุยกันว่า “พี่ ๆ ตอนนั้นหนูมาซื้อพนักงานคนนี้แหละ ตอนนั้นพูดจาดี แต่ทำไมตอนนี้เขาพูดจาไม่ดี แถมตะคอกพี่สาวหนูด้วย” (ตอนนั้นสองคนนี้ปล่อยให้เราประจันหน้ากับพนักงานคนนั้นแต่เพียงลำพัง)
จากนั้นพนักงานก็นำเอาโซ่กระเป๋าแบบเดียวกันมาให้เรา เพื่อเปลี่ยนตัวโซ่แทนกระเป๋า โซ่อันแรกเรายังไม่พอใจ เพราะตะขอไม่ติดกัน ขนาดโซ่ที่มากับกระเป๋าเราตอนแรก ตะขอติดกันมันยังเกี่ยวแล้วหลุด อันนี้คงไม่รอด เราก็เลยบอกพนักงานว่าขอเปลี่ยนอันใหม่นะคะ เค้าก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติและห้วนว่า “มีปัญหาอะไร..คะ” (คราวนี้มีคำว่า “คะ” แต่เป็น “คะ” ที่เราฟังแล้วไม่รู้สึกว่ามันสุภาพแต่อย่างใด) ซึ่งเค้าก็เอาโซ่อันใหม่มาให้เปลี่ยน ทีนี้เราเห็นว่าตะขอติดกันดีน่าจะพอใช้ได้ เราก็เลยเอาโซ่อันนี้มา พนักงานอีกคนก็ห่อกระเป๋าใส่กล่องแล้วส่งให้เรา
ตอนเดินออกมาจากร้าน รู้สึกเลยว่าหน้าชา แต่ไม่รู้จะทำไง ในใจโกรธตัวเองมากที่ไม่ตอกกลับพนักงานคนนั้นไป ยิ่งคิดยิ่งแค้นค่ะว่าแบรนด์ดังระดับโลกเอาพนักงานที่ไม่มีมารยาทมาขายของได้ยังไง ตอนมาซื้อก็พูดจาดี แทบจะอุ้ม แต่ตอนเราของไปเปลี่ยน หน้าตากิริยาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เหมือนเราไปขอของเค้างั้นแหละ
จริง ๆ เราไม่ติดใจการเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้ แต่ไม่ชอบที่พนักงานแสดงกริยาแบบนี้ออกมา แบรนด์ระดับนี้ ราคาระดับนี้ แต่บริการหลังการขายคุณแย่มาก นอกจากไม่มีจิตใจบริการที่ดีแล้ว คุณยังไม่มีวุฒิภาวะที่ดีด้วย ทุกอย่างออกมาทางสีหน้าและน้ำเสียงทั้งหมดแบบนี้ คุณมาทำงานบริการได้ไง เรายังแปลกใจตัวเองที่ไม่เตือนคุณตั้งแต่ในร้าน ปล่อยให้คุณทำกับเราแบบนี้ได้ไง ถ้าคุณได้มาอ่านสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้กับเรา ขอให้คุณได้คิดสักนิดถึงการกระทำของคุณ นอกจากคุณจะทำให้เรารู้สึกแย่แล้ว คุณยังทำให้เราตัดขาดกับแบรนด์ D นี้ไปตลอดกาลด้วย ลาก่อนค่ะ D บายยย..ยย
ทำไมตอนไปซื้อของกับตอนไปเปลี่ยนของ พนักงานถึงกลายเป็นคนละคน???
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราได้ซื้อกระเป๋าใบหนึ่งเป็นทรง wallet on chain สีสวยเลยแหละ ราคาก็สบายกระเป๋า สบายมากเพราะเงินหายหมด 555 เอาเป็นว่าเป็นกระเป๋าที่ส่วนตัวเรากับน้องสาวเราชอบ เพราะใช้งานในวันที่สบาย ๆ ไม่อยากพกไรเยอะ
จำได้ว่าตอนนั้นที่เดินเข้าไปซื้อก็เจอกับพนักงานผู้หญิงผมสั้น อายุน่าจะมากกว่าทุกคนในร้าน พนักงานคนนี้ก็เริ่มเอากระเป๋าใบนู้นนี้นั้นมาให้ดู ให้ลอง นางก็พูดเชียร์ว่าเอาใบนี้ไหมคะ เอาใบนั้นไหมคะ อยากลองแบบไหนบ้างคะ เรามีหลายแบบ นู้นนี้นั่น เอาเป็นว่าแทบจะประเคนยกมาให้ดูเลยละกัน
พอเราตัดสินใจซื้อกระเป๋าใบนี้จ่ายเงินปั๊บ เราก็ปล่อยให้น้องสาวเรานั่งอยู่กับพี่พนักงานคนนั้น เพราะเราก็เดินดูเข็มขัด ผ้าพันคอไปเรื่อย ตอนนั้นของแพ็คใส่กล่อง ใส่ถุงเรียบร้อย พนักงานก็เดินมาหา เราก็ให้นางหยิบเข็มขัดให้ดู ผ้าพันคอ ซึ่งนางเต็มใจเอาเข็มขัดมาให้ลองที่เอว เอาผ้าพันคอมาพาดที่คอให้ แต่เรายังไม่ได้ซื้อเข็มขัดและผ้าพันคอ เพราะยังไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ พอดูเสร็จก็เดินออกมาจากร้านด้วยความอิ่มอกอิ่มใจในบริการ แต่ไม่นานความอิ่มอกอิ่มใจนั้นก็เกือบจะสำลักออกมาในไม่กี่วันหลังจากนั้น
หลังจากได้รับกระเป๋า เราก็ยังไม่ได้เปิดกระเป๋าจากกล่องเลย ก็เก็บไว้จนล่วงเลยมาถึงวันอาทิตย์ คิดว่าเดี๋ยววันจันทร์ลองเอามาใช้ดู ตอนเย็นวันอาทิตย์ก็เลยเปิดกล่องออกมาเพื่อที่จะลองหิ้วโดยเอาโซ่ที่มากับกระเป๋ามาเกี่ยวกระเป๋าทั้งสองข้าง ตอนแรกก็แอบตกใจว่าทำไมตัวเกี่ยวไม่เเข็งแรงและดูบอบบางมาก แต่เราก็ลองเกี่ยวลองเอามือถือใส่กระเป๋า ลองสะพายดูว่าเป็นไงบ้าง
ปรากฎว่าโซ่ด้านซ้ายหลุดจากตัวกระเป๋าจ้า อ้าว! เราก็งงเลยดิ แบรนด์ดังขนาดนี้ทำไมเขาถึงทำตัวเกี่ยวไม่แข็งแรงแบบนี้ออกมาขายได้ นี่ขนาดแค่เอามือถือใส่ยังหลุดเลย ถ้ามีพวกกุญแจรถ ของอื่น ๆ จะเกี่ยวกระเป๋าได้หรอ เราเลยตัดสินใจว่าเดี๋ยววันจันทร์จะเอากระเป๋าไปเปลี่ยน หรือถ้าไม่ได้ก็อาจจะเปลี่ยนโซ่กระเป๋าไปเลย เพราะเราคิดว่าอาจเป็นตัวเกี่ยวของโซ่ก็ได้ที่ไม่แข็งแรง แต่ความตั้งใจที่จะเอาไปในวันจันทร์ก็ต้องล้มพับไป เพราะงานดันเข้าแบบไม่ได้นัดหมาย แต่ก็ยังโทรไปเช็กกับทางร้านให้แน่ใจว่าเขาจะให้เราเปลี่ยน เพราะกำหนดเปลี่ยนหรือคืนอยู่ในช่วงเวลา 7 วัน
พอวันอังคารตอนเที่ยง เราก็รีบพุ่งตัวไปที่ร้านเลยจ้า โดยหนีบเพื่อนอีกคนมาด้วย พร้อมกับน้องสาวคนเดิมที่ไปซื้อด้วยกัน ซึ่งพนักงานแจ้งให้เราทราบว่าต้องตรวจกระเป๋าก่อนว่าไม่ผ่านการใช้งานมา เราก็บอกว่าได้ค่ะ ตอนนั้นก็นั่งรอ ๆ ระหว่างรอก็มีพนักงานเดินเข้า-ออกไปมาตลอด สักพักพนักงานคนที่ขายกระเป๋าให้เราวันนั้นก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วบอกเราว่ากระเป๋าเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้ เพราะตรงที่ปิดประเป๋ามีรอยที่เกิดจากการกดปิดกระเป๋า เราก็บอกว่าโอเค ไม่เป็นไรค่ะ เพราะอาจจะเป็นรอยตอนที่เราเอามาลองปิด-เปิดกระเป๋าก็เป็นได้
เมื่อเปลี่ยนกระเป๋าไม่ได้ เราก็บอกพนักงานคนนั้นว่า พี่คะตัวคล้องโซ่ไม่แข็งแรงเลย เวลาสะพายแล้วโซ่หลุดจากกระเป๋า พนักงานคนนั้นบอกว่า “จะเปลี่ยนโซ่ทำไม” (นำ้เสียงเเข็ง ดุ และไม่มีหางเสียงแต่อย่างใด) ตอนนั้นเราหน้าชา แต่ก็ไม่รู้ทำไมว่าไม่ตอบกลับคนนั้นไป เราก็ได้แต่อึ้ง บรรยากาศตอนนั้นในร้านไม่มีลูกค้าท่านอื่นเลย มีแต่เรา เพื่อน และน้องสาว พอน้องสาวได้ยินที่พนักงานพูดก็ดึงตัวเพื่อนเราไปคุยกันว่า “พี่ ๆ ตอนนั้นหนูมาซื้อพนักงานคนนี้แหละ ตอนนั้นพูดจาดี แต่ทำไมตอนนี้เขาพูดจาไม่ดี แถมตะคอกพี่สาวหนูด้วย” (ตอนนั้นสองคนนี้ปล่อยให้เราประจันหน้ากับพนักงานคนนั้นแต่เพียงลำพัง)
จากนั้นพนักงานก็นำเอาโซ่กระเป๋าแบบเดียวกันมาให้เรา เพื่อเปลี่ยนตัวโซ่แทนกระเป๋า โซ่อันแรกเรายังไม่พอใจ เพราะตะขอไม่ติดกัน ขนาดโซ่ที่มากับกระเป๋าเราตอนแรก ตะขอติดกันมันยังเกี่ยวแล้วหลุด อันนี้คงไม่รอด เราก็เลยบอกพนักงานว่าขอเปลี่ยนอันใหม่นะคะ เค้าก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่ดังกว่าปกติและห้วนว่า “มีปัญหาอะไร..คะ” (คราวนี้มีคำว่า “คะ” แต่เป็น “คะ” ที่เราฟังแล้วไม่รู้สึกว่ามันสุภาพแต่อย่างใด) ซึ่งเค้าก็เอาโซ่อันใหม่มาให้เปลี่ยน ทีนี้เราเห็นว่าตะขอติดกันดีน่าจะพอใช้ได้ เราก็เลยเอาโซ่อันนี้มา พนักงานอีกคนก็ห่อกระเป๋าใส่กล่องแล้วส่งให้เรา
ตอนเดินออกมาจากร้าน รู้สึกเลยว่าหน้าชา แต่ไม่รู้จะทำไง ในใจโกรธตัวเองมากที่ไม่ตอกกลับพนักงานคนนั้นไป ยิ่งคิดยิ่งแค้นค่ะว่าแบรนด์ดังระดับโลกเอาพนักงานที่ไม่มีมารยาทมาขายของได้ยังไง ตอนมาซื้อก็พูดจาดี แทบจะอุ้ม แต่ตอนเราของไปเปลี่ยน หน้าตากิริยาก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เหมือนเราไปขอของเค้างั้นแหละ
จริง ๆ เราไม่ติดใจการเปลี่ยนหรือคืนไม่ได้ แต่ไม่ชอบที่พนักงานแสดงกริยาแบบนี้ออกมา แบรนด์ระดับนี้ ราคาระดับนี้ แต่บริการหลังการขายคุณแย่มาก นอกจากไม่มีจิตใจบริการที่ดีแล้ว คุณยังไม่มีวุฒิภาวะที่ดีด้วย ทุกอย่างออกมาทางสีหน้าและน้ำเสียงทั้งหมดแบบนี้ คุณมาทำงานบริการได้ไง เรายังแปลกใจตัวเองที่ไม่เตือนคุณตั้งแต่ในร้าน ปล่อยให้คุณทำกับเราแบบนี้ได้ไง ถ้าคุณได้มาอ่านสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้กับเรา ขอให้คุณได้คิดสักนิดถึงการกระทำของคุณ นอกจากคุณจะทำให้เรารู้สึกแย่แล้ว คุณยังทำให้เราตัดขาดกับแบรนด์ D นี้ไปตลอดกาลด้วย ลาก่อนค่ะ D บายยย..ยย