"เราไม่เคยไปตปท. เราไม่ใช่คนเก่งอังกฤษ แต่มีความครีเอทีฟ มีความพยายาม" 



บอกเป็นกำลังใจก่อนค่ะ เพราะหลายคนต้องบอกว่า ‘ได้ทุนยังไงก็ต้องเก่งอิ้ง’ เราว่าไม่สำคัญเสมอไป คนเราถึงจะด้อยภาษาต้องมีสามารถด้านอื่น เราก็ต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่เขายอมรับในสิ่งที่เรามี เกรดเราตอนป.ตรี แค่ 2 กว่าเอง ซึ่งเรื่องของเกรด เราเข้าใจดีนะ คนที่ได้เกรดน้อยไม่ใช่ว่าไม่เก่งหรอก แต่บางทีคณะที่เรียนไม่ใช่ หรือมีปัญหาอื่นๆ ที่ทำให้การเรียนเป็นแบบนี้ ไม่ต้องซ๊เรียสนะคะ อดีตคืออดีต ชีวิตมันต้องมีหนทางไปได้ ;)



ทุนนี้เราหาอยู่นานมากเหมือนกันกว่าจะเจอ แล้วข้อมูลเรื่องเรียนนอก 80% ก็ได้มาจากพี่ๆ ใน Pantip ตั้งใจไว้ตั้งแต่ก่อนได้ทุนแล้วว่า ถ้าเรียนเสร็จจะกลับมาแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ ให้เหมือนที่พี่ๆ หลายคนใน Pantip ที่ดีกับเรา ทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกัน แต่ทักถามในข้อความก็ตอบและช่วยเหลือตลอดค่ะ


เราขอเล่าแบบสั้นๆ แต่เข้าใจง่ายนะคะ


สถาบัน : NABA, Nuova Accademia di Belle Arti (http://www.naba.it/en)

เมือง : Milan

ประเทศ : Italy

ทุนที่ได้ : Summer Course Scholarship 2017 (เป็นทุนระยะสั้น ทางมหาวิทยาลัยจ่ายให้ 50%)

สาขาที่เราได้ทุน : Visual & Digital Arts (เป็นวิชาที่อยู่ในคณะ Creative Advertising ของมหาวิทยาลัย)

สาขาที่เปิดรับให้ชิงทุน : Fashion Design, Design, Visual & Digital Arts, Culture and Lifestyle


จุดเริ่มต้นขอทุน

จำไม่ได้ว่าต้นตอของการเจอทุนมาจากไหน แต่หาไปมาก็เจอ เพจของมหาวิทยาลัย https://www.facebook.com/Artviseeducation/ ที่ดูแลโดยคนไทย แล้วเห็นเขาประกาศหน้าเฟซบุ๊ก ว่ามีทุนระยะสั้น ให้ติดต่อได้ที่พี่ที่ดูแล ซึ่งก็คือ พี่เมย์ ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนี้เช่นกัน Line ID : @artvise_education


ขั้นตอนขอทุน
1.    ติดต่อพี่เมย์ เพื่อขอรับบรีฟ ทำโจทย์ส่งประกวดในสาขาที่เราเปิดรับ เขาจะส่งให้ทางอีเมล์
2.    กรอกใบสมัคร พร้อมส่งผลงานที่เราทำให้กับพี่เมย์ ภายในระยะเวลาที่เขากำหนด


** ขั้นตอนการขอมีแค่นี้ค่ะ อาจด้วยเป็นทุนระยะสั้น เขาเลยไม่ได้ต้องการเกรด สำคัญคือทำผลงานให้เข้าตากรรมการก่อน แล้วหลังจากนั้น จะยากตรงการขอวีซ่า แต่เราทำงานแล้ว การรับรองจากบริษัทเลยเป็นเรื่องง่าย เรื่องการขอวีซ่า ศึกษาได้เพิ่มเติมจาก ด้านล่าง เราแยกไว้
หลังได้ทุน

1. ติดต่อพี่เมย์เพื่อยืนยัน และตอบรับการไปเรียน
2. จะมีเอเจนซี่ในอิตาลี ที่ดูแลเรื่องหอพักของมหาวิทยาลัยติดต่อกับเราทางอีเมล์ ซึ่งตรงนี้เราไม่ได้ขออยู่หอพักของเขา เพราะเราพาแม่ไปด้วย บ้านเราไม่มีใครเคยไปตปท. เลยอยากพาแม่ไปตปท.สักครั้งในชีวิต

    2.1 เราเลือกพักที่นี่ Lucia Bilocale Bocconi อันนี้ Link ในแมพนะคะ https://goo.gl/maps/XzeN86z6uUL2 เพราะหน้าตึกมีรถรางสาย 15 เข้าไปแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ในตัวเมือง และจากที่พัก เดินไปมหาวิทยาลัยประมาณ 15 นาทีค่ะ เราค่อยๆ เสิร์ชหาจาก Google Map นี่ล่ะจ้า จนเจอว่าที่นี่ทำเลโอเค คนที่ดูแลห้องก็คุยง่าย สอบถามได้หลายอย่างมาก ที่พักนี้มีใน Booking.com ด้วย หาไม่ยาก คุยผ่านข้อความในเว็บไซต์กับเขาได้เลย

3. จ่ายค่าเรียนอีก 50% ทางออนไลน์ ตามขั้นตอนที่ม.บอกในอีเมล์

4. เขาจะส่งจดหมายทุนให้ในอีเมล์เป็นภาษาอิตาลีไว้ยื่นขอวีซ่า ถ้าเราต้องการภาษาอังกฤษ สำหรับการขอลาทำงานที่บริษัท ให้แจ้งเขา แล้วเขาจะส่งจดหมายตัวจริงเป็น Paper มาให้ทางไปรษณีย์

5. ทำวีซ่า ที่นี่ค่ะ http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/index.html รายละเอียดการขอวีซ่าเลื่อนดูด้านล่างเลยจ้า  

ประสบการณ์ตอนเรียน


คอร์สเรียนของเรา    เป็นวิชาที่อยู่ในคณะ Creative Advertising ของมหาวิทยาลัย ฉะนั้นสิ่งที่เรียนก็เน้นไปงาน Advertising เขาจะเอาผลงานเจ๋งๆ มาเปิด แล้วก็ Discuss กัน ว่าทำไมผลงานถึงดี หรือมันเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียนวันนี้ยังไง แล้วเขาก็จะให้ทำโปรเจกต์ทุกครั้งที่เรียนเรื่องนั้นๆ จบ 

ความถนัดด้านดีไซน์ สำหรับคอร์สนี้บอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องเก่งเลย แค่รู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Photoshop ก็พอ เพราะเขาเน้น Concept เท่านั้น ไอเดียมาก่อนความสวยของชิ้นงานเสมอ ทั้งตอนเรียนและตอนส่งงานเข้าประกวด อย่างผลงานที่เราส่ง ไม่ได้สวยนะ ใช้ Photoshop เบื้องต้นมากกกกกก เพื่อนที่เรียนออกแบบมายังบอกว่า งานธรรมดาไปมั้ยว่ะ กลัวเขาจะไม่โอเค มันจะไม่สวยโดนใจเขาหรือเปล่า 5555 เราก็คิดแบบนั้น แต่เราอาศัยการเล่าเรื่อง และ Concept ซึ่งคิดว่าน่าจะตอบโจทย์มหาวิทยาลัยได้พอสมควร

ศึกษานอกห้องเรียน

คอร์สเรา  อาจารย์จะชอบพาไปกับคลาสเรียนถ่ายรูป ทำให้ได้เพื่อนเพิ่ม ได้ดูหอศิลป์ คุยกับศิลปินที่ออกแบบอย่างใกล้ชิด เรียกว่าเหมือนพี่น้องเลยล่ะ แล้วก็พาไปดูบริษัทที่ประสบความสำเร็จด้านโฆษณา ที่เขาทำยอดขายได้ถล่มถลายมาตลอด

ในความเป็นเด็กทุน เราไม่รู้ว่าสาขาอื่นเป็นมั้ย แต่ของเรา ด้วยความที่เราทำงาน สาย Copywriter ซึ่งอาจารย์จะเห็นประสบการณ์การทำงานของเราตั้งแต่ในใบสมัคร ฉะนั้นเวลาทำโปรเจกต์ในห้องเรียน งานเราทุกอย่าง Copy ต้องคม ต้องโดนมากที่สุดในห้อง ซึ่งถ้าน้องๆ หรือพี่ๆ ในนี้ ได้ทุนไป ก็ให้เตรียมตัวในเรื่องนี้ด้วยจ้า เพราะอาจโดนแบบเรา



อาจารย์และเพื่อน   เราโชคดีนะ ทั้งคลาสมีแต่คนนิสัยดี เราไม่ได้พูดอิ้งเก่ง เราบอกอาจารย์และเพื่อนๆ เขาก็เข้าใจ และพูด อธิบาย กับเราหลายรอบ ถ้าเกิดเราฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจ



คอร์สนี้    อาจไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้นมากะทันหัน เพราะเป็นระยะสั้น แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยไปต่างประเทศสักครั้ง เรารับรองว่า จะได้อะไรกลับมาเยอะ อย่างน้อยก็เปิดโลกใหม่ และยิ่งไม่ได้ภาษา ถ้าไปแล้ว สถานการณ์จะทำให้เราต้องฟังอาจารย์ ฟังเพื่อนทัน และต้องพรีเซนท์ผลงานเราได้ ทุกอย่างจะทำให้เราพัฒนาตัวเอง



"ไม่สำคัญเลยว่ามีเวลาอยู่ในต่างประเทศกี่เดือน กี่วัน หรือกี่ชั่วโมง แต่สำคัญที่ทุกนาทีที่เราอยู่ที่นั่น เราใช้มันคุ้มค่ามากแค่ไหน เก็บประสบการณ์มามากมายเท่าไหร่"



ทิ้งท้ายเรื่องขอวีซ่าไปอิตาลีนะคะ 

มีกระทู้นึงอธิบายไว้อย่างดี มีตัวอย่างการกรอกด้วย เราทำทุกอย่างได้ก็เพราะกระทู้นี้เลย จขกท.น่ารักมากกก ถามอะไรก็ตอบหมด ก็เลยขอจขกท. เอา Link มาแปะ แชร์ให้จ้า

>>> 

https://ppantip.com/topic/35993487



**การขอวีซ่าครั้งแรกมันยากหน่อย แต่อย่าท้อจ้าาา เราไม่ได้นอน 3 วันจ้าาาาา




ส่วนของเรา พ่อกับแม่ขายผลไม้ค่ะ ไม่มีทะเบียนการค้าด้วย มันมีโอกาสไป แต่ยากหน่อย สำคัญคือต้องเขียนรายละเอียดแจกแจงการค้าขายให้ชัด มีรูปถ่ายที่ร้านค้าด้วยยิ่งดี (แต่ตอนเราไปยื่นเอกสาร VFS บอกว่ารูปถ่ายไม่ต้อง อาจเพราะเรามีจดหมายทุน มันเลยไม่ต้องขนาดนั้น) 



อันนี้เป็นตัวอย่างจดหมายแนะนำตัวของแม่ เพื่อส่งให้สถานทูตนะคะ 
(เราเป็นคนเขียนให้แม่ก็จริง แต่ในจดหมายต้องเป็นเสมือนว่าแม่เขียนเองนะ เพราะเป็นการให้แม่แนะนำตัวเองต่อสถานทูต)



เดือน วันที่, ปีค.ศ.

Dear Italy Embassy,
I am writing to provide more information regarding my application for a tourist visa from the Italy Embassy in Bangkok. My name is……….I am ….. years old and ID Card Number is.. เลขที่บัตรประชาชน ... and my Passport Number is ... เลขที่หนังสือเดินทาง... My mother and my husband are alive and I have 1 daughter, ….... years old. They all live in Bangkok. I have booked the flights for the departure on ........
and return on........ I am going to travel in Italy with my only daughter who has won a summer course scholarship from NABA University for ...........so this is a great opportunity for me to go aboard with my child ....อธิบายไปว่าอยากไปเพราะอะไร ดียังไง...... My current career is fruit seller. .......

จากตรงนี้ก็เล่าเลยค่ะว่า ของที่ขายเป็นอย่างไร ซื้อจากไหนมาขาย ทำมากี่ปีแล้ว ขายกับใคร รายได้ต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วก็เหตุผลที่ต้องกลับมาเมืองไทยคืออะไร เช่น มีใครต้องดูแลที่บ้าน ต้องช่วยสามีขาย ต้องดูแลกิจการอะไร ก็ว่าไป  แล้วประโยคหลังๆ ก็ลงท้ายว่า มีข้อสงสัยอะไร สามารถสอบถามได้เพิ่มเติม หรือยินดีที่จะยื่นเอกสารอื่นๆ เพิ่ม

You’re faithfully,
ชื่อ นามสกุล




สรุปข้อมูลการติดต่อ

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย : http://www.naba.it/en

เฟซบุ๊กแฟนเพจในไทย : https://www.facebook.com/Artviseeducation/

ติดต่อสอบถามทางไลน์ Line ID : @artvise_education

สถานที่ทำวีซ่าไปอิตาลี : http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/thai/index.html

ขั้นตอนการทำวีซ่า : https://ppantip.com/topic/35993487




จบเท่านี้ค่าาา บางอย่างเราอาจลืมบอก หรืออยากถามอะไร พิมในคอมเมนต์ได้เลย จะได้เปิดโอกาสให้คนอื่นเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเนาะ แต่ถ้ามีบางอย่างที่เปิดเผยไม่ได้ อาจส่งเป็นข้อความแทนนะคะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ