มาแล้ววววว หนังที่กระแสดีแบบโหดมากๆ ตั้งแต่ปล่อยตัวอย่างออกมา ผู้คนก็พูดถึงกันให้เต็มโซเชียล แถมพอมีรอบสื่อให้ได้ดูกัน บรรดานักดูหนังก็ให้คะแนนกันเกือบเต็มแทบจะทุกสำนัก ทั้งๆ ที่ดาราก็ไม่ได้เด่นดังน่าดึงดูดอะไร แต่ได้ชื่อผู้กำกับ Steven Spielberg และหนังดัดแปลงมาจากนวนิยายยอดฮิต กระแสคนรอดูเรื่องนี้เลยพุ่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2045 ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ the OASIS ซึ่งเป็นจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ที่สร้างขึ้นมาโดย เจมส์ ฮัลลิเดย์ ผู้มีความอัจฉริยะอย่างไม่ธรรมดา เมื่อฮัลลิเดย์เสียชีวิตลง เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลเอาไว้ให้กับคนแรกที่พบไข่อีสเตอร์ดิจิตอลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่หนึ่งใน the OASIS จนเกิดการแข่งขันขึ้นทั่วโลก เมื่อฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง เวด วัตส์ ตัดสินใจร่วมการแข่งขัน เขาถูกเหวี่ยงเข้าสู่การแข่งขันล่าสมบัติผ่านโลกสุดมหัศจรรย์แห่งความลึกลับ การค้นหา และอันตราย

การเล่าเรื่องราวของหนัง คนที่ไม่ได้เล่นเกมอาจจะงงนิดหน่อย เพราะหนังจะพูดถึงเรื่องภารกิจ หรือปริศนาต่างๆ ที่ทางผู้เล่นต้องทำและแก้ปริศนาเพื่อให้ได้มาซึ่งกุญแจ มันจะเหมือนการเล่นเกม adventure ที่จะพาคนดูเดือนไปด้วยกันตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งหนังอาจจะเก็บรายละเอียดได้ไม่หมด ด้วยความยาวของหนัง หรือด้วยการที่ตัวหนังสือต้องแปลงเป็นคำพูด มันก็เลยทำให้รายละเอียดบางอย่างมาไม่ครบ หรืออาจจะตกหล่น แต่ปกติหนังแนวนี้ถ้ายิ่งไปเกาะติดกับรายละเอียดหรือที่มาที่ไป หรือแม้แต่เหตผล มันจะยิ่งลดความสนุกของหนังลงไปเรื่อยๆ

ข้อดีสุดๆ ของหนัง ไม่ต้องอะไรมาก หนังรวมความเป็น Pop Culture ในยุค 80 มาให้อย่างไม่ยั้ง ทั้งหุ่นจากการ์ตูนสมัยก่อน เอาแค่ที่เห็นในตัวอย่าง เช่น Iron Giant, Gundam หรือตัวละครจากหนังอย่าง Lara Croft, Chun-Li, Harley Quinn หรือแม้แต่รถที่โผล่ในหนังหลายๆ เรื่อง เช่น รถจาก Back to the future, มอเตอร์ไซค์ จาก Akira, Bat Mobile แค่นี้ก็เยอะแยะมากมายแล้ว แถมยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับหนังดังในอดีต และเกมเก่าอย่างเครื่องเคมอาตาริก็มา เรียกว่าใครเกิดทันยุคนั้น ไม่ฟินให้มันรู้ไป

หนังเป็นการตัดสลับระกว่างโลกจริงกับโลกเสมือนในเกม ซึ่งเรื่อง CG ไม่ต้องห่วงเลย หนังเน้นทางนั้นสุดๆ ตัวละครในโลก the OASIS ดูจะโดดเด่นกว่าตัวละครในโลกจริงซะอีก เหมือนดูหนังอนิเมชั่นเป็นหลักด้วยซ้ำ ภาพที่สร้างจาก CG นี่เรียกว่าสุดยอดทุกฉาก ไม่มีฉากไหนที่ดูแล้วขัดหูขัดตา แล้วมาบวกกับเพลงประกอบที่เอาความเป็นเพลงยุค 80 มาทำใหม่ให้มีความทันสมัยเข้าไปเล็กๆ ยิ่งทำให้หนังดูสนุกอย่างบอกไม่ถูก

จุดที่เป็นจุดด้อยเล็กๆ ของหนัง อย่างที่เกริ่นไว้คือ หนังมันค่อนข้างรายละเอียดเยอะมาก แต่บางอย่างก็ถูกลืมไปหรือด้วยองค์ประกบหลายๆ อย่างที่ทำให้หนังใส่เข้าไปได้ไม่หมด กับเรื่องของความสมเหตุสมผลในหลายๆ ด้าน ซึ่งถ้าใครไปยึดติดตรงนี้ ดูไม่สนุกแน่ๆ เพราะหนังมันค่อนข้างแฟนตาซี ก็ต้องมีอะไรที่มันเกินขอบเขตความเป็นจริงไปเยอะ

สุดท้าย ไม่ต้องบอกหรอกว่าควรไปดูหรือไม่ควรไปดู เอาแค่ว่าถ้าไม่ดูก็อาจจะพลาดหนังดีๆ ไปเรื่องนึงเลยล่ะ รับรองว่าจะลุ้นตามตัวหนังไปได้ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ

ฝากเพจด้วยนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/