คงเป็นความโชคดีของคนดูไม่น้อยที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีหนังสารคดีเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับนักดนตรีและวงตรีระดับโลกอย่าง Amy,Oasis, X- Japan และในครั้งนี้กับตำนานที่ยังมีชีวิต "Eric Clapton"
แน่นอนว่า ทั้งคงที่ซื้อเข้ามาจัดจำหน่ายและทางโรงภาพยนตร์เองอาจรู้ดีว่า การนำ "หนังประเภทนี้" มาฉายในโรงภาพยนตร์อาจพบกับกับคำว่า "ขาดทุน" แต่ถ้านับคุณค่าทางจิตใจของผู้ชมแล้ว มันช่างเป็น "กำไร" เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนที่รู้จัก ชื่นชอบและคุ้นเคยกับบทเพลง ริฟกีต้าร์ของตำนานที่ชือ Eric Clapton ความตื่นตาตื่นใจคือ การได้เห็นฟุตเทจตั้งแต่เขายังเด็กจนถึงปัจจุบัน บางฟุตเทจไม่เคยถูกเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เราต่างรับรู้ดีว่า เรื่องราวของชายคนนี้มันช่างเป็นทั้งความมืดมนสุดขีดและสว่างเจิดจรัสในตัวคนเดียวกัน ชายผู้ประสบโศกนาฏกรรมที่เชื่อได้ว่า "ร้ายแรงที่สุด" ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจะได้ประสบ สู่การนำความร้าวรานนั้นไปแต่งเป็นบทเพลงอันทรงคุณค่าสู่รางวัลแกรมมี่ อวอร์ด แน่นอนนี่คือเรื่องราวที่แฟนเพลงต่างรู้กันดี แต่การได้เห็น "ภาพ" มายืนยันเรื่องราวที่ได้รับรู้ จากนี้ไปการฟังเพลงของชายผู้นี้คงทำให้เราเข้าใจทั้งคำร้องและทำนองของเขามากขึ้น แล้วที่สุดของที่สุดคือ การได้เห็นภาพและฟังเรื่องราวของชายผู้เป็นตำนานมีกีต้าร์ผู้ล่วงลับ จิมมี่ เฮนดริกซ์กับอีริค แคลปตัน 2 มือกีต้าร์ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นเกลียดและรักกันแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้เห็นพัฒนาการของดนตรีเพลงบลูร๊อคในช่วงปี 70-90 ว่า มันมีพัฒนาการอย่างไรและมันถือเป็นพัฒนาการระดับปฏิวัติเสียด้วยเพราะ อีลิค แคลปตันเปลี่ยนทุกความเข้าใจของเพลงบลูในยุคนั้นให้มีความร๊อคแบบบริติช จนเป็นฐานรากสำคัญของแนวดนตรีที่ชื่อว่า "Post Rock" อีกด้วย มันจึงเป็นทั้งหนังสารคดีชีวิประวัติของบุคคล วงดนตรีและประวัติศาสตร์เพลงร๊อคอีกด้วย
สำหรับคนที่คุ้นหูเพลง Tears in heaven และ Wonderful tonight แต่อาจไม่รู้ว่า อีลิค แคลปตันคือใคร หรือเอ้ะหนังสารคดีชิ้นนี้ดูยากไหม บอกเลยว่า ถ้าใครพอชื่นชอบหนังสารคดีอย่างเรื่อง Amy ไม่ยากเลยที่จะหลงรักหนังสารคดีเรื่องนี้ และถึงขั้นว่าไม่ชอบดูหนังสารคดีเลยเพราะคิดว่า ดูยาก น่าเบื่อ
ขอบอกเลยว่า Eric Clapton : LIFE in 12 bars เหมือนกับเราได้ดูหนังเรื่องนี้ ที่ได้เห็นตัวละครต้องเจออุปสรรค ขวากหนามมากมาย มีปมในวัยเด็กที่ผลักให้เขาเป็นศิลปินที่เป็นตำนาน จากเด็กที่แม่ไม่รับเป็นลูกสู่พ่อลูกสี่ แอบรักเมียเพื่อน ประสบกับโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์จะได้รับ วันนี้ได้ชื่อว่า คือตำนานและอยู่จุดสูงสุดในวงการ ทั้งหมดเหมือนเรากำลังดูหนังจากเรื่องแต่งสักเรื่อง แต่ทั้งหมดมันคือ เรื่องจริง
แต่เพราะมันเป็นเรื่องจริงมากๆ นี้ล่ะ บางจังหวะอาจทำให้คนดูไม่คลิ๊ก หรือต่อไม่ติดกับเรื่องได้บ้าง บางจังหวะก็ใช้การปั้นหรือสูตรสำเร็จแบบภาพยนตร์ในการเล่าเรื่องไปอยู่บ้าง แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าเรียกน้ำตาได้ไหม ก็ถือว่าเรียกได้จนร้องไห้โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
ใครว่า ชีวิตละครไทยน้ำเน่าแล้ว เจอชีวิต Eric Clapton คือมันไม่น่าเชื่อเลยว่า คน ๆ เดียวเจออะไรเข้ามาในชีวิตขนาดนี้ได้อย่างไร
ถ้าใครต้องการหาแรงบันดาลใจ เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลัง เปลี่ยนน้ำตาเป็นกำลังใจ
เชื่อได้ว่า Eric Clapton : LIFE in 12 bars จะให้สิ่งนั้นได้อย่างแน่นอน
Eric Clapton : LIFE in 12 bars คือความงดงามของชีวิตที่ได้ดูหนังสารคดีเรื่องนี้
แน่นอนว่า ทั้งคงที่ซื้อเข้ามาจัดจำหน่ายและทางโรงภาพยนตร์เองอาจรู้ดีว่า การนำ "หนังประเภทนี้" มาฉายในโรงภาพยนตร์อาจพบกับกับคำว่า "ขาดทุน" แต่ถ้านับคุณค่าทางจิตใจของผู้ชมแล้ว มันช่างเป็น "กำไร" เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนที่รู้จัก ชื่นชอบและคุ้นเคยกับบทเพลง ริฟกีต้าร์ของตำนานที่ชือ Eric Clapton ความตื่นตาตื่นใจคือ การได้เห็นฟุตเทจตั้งแต่เขายังเด็กจนถึงปัจจุบัน บางฟุตเทจไม่เคยถูกเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เราต่างรับรู้ดีว่า เรื่องราวของชายคนนี้มันช่างเป็นทั้งความมืดมนสุดขีดและสว่างเจิดจรัสในตัวคนเดียวกัน ชายผู้ประสบโศกนาฏกรรมที่เชื่อได้ว่า "ร้ายแรงที่สุด" ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งจะได้ประสบ สู่การนำความร้าวรานนั้นไปแต่งเป็นบทเพลงอันทรงคุณค่าสู่รางวัลแกรมมี่ อวอร์ด แน่นอนนี่คือเรื่องราวที่แฟนเพลงต่างรู้กันดี แต่การได้เห็น "ภาพ" มายืนยันเรื่องราวที่ได้รับรู้ จากนี้ไปการฟังเพลงของชายผู้นี้คงทำให้เราเข้าใจทั้งคำร้องและทำนองของเขามากขึ้น แล้วที่สุดของที่สุดคือ การได้เห็นภาพและฟังเรื่องราวของชายผู้เป็นตำนานมีกีต้าร์ผู้ล่วงลับ จิมมี่ เฮนดริกซ์กับอีริค แคลปตัน 2 มือกีต้าร์ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นเกลียดและรักกันแค่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้เห็นพัฒนาการของดนตรีเพลงบลูร๊อคในช่วงปี 70-90 ว่า มันมีพัฒนาการอย่างไรและมันถือเป็นพัฒนาการระดับปฏิวัติเสียด้วยเพราะ อีลิค แคลปตันเปลี่ยนทุกความเข้าใจของเพลงบลูในยุคนั้นให้มีความร๊อคแบบบริติช จนเป็นฐานรากสำคัญของแนวดนตรีที่ชื่อว่า "Post Rock" อีกด้วย มันจึงเป็นทั้งหนังสารคดีชีวิประวัติของบุคคล วงดนตรีและประวัติศาสตร์เพลงร๊อคอีกด้วย
สำหรับคนที่คุ้นหูเพลง Tears in heaven และ Wonderful tonight แต่อาจไม่รู้ว่า อีลิค แคลปตันคือใคร หรือเอ้ะหนังสารคดีชิ้นนี้ดูยากไหม บอกเลยว่า ถ้าใครพอชื่นชอบหนังสารคดีอย่างเรื่อง Amy ไม่ยากเลยที่จะหลงรักหนังสารคดีเรื่องนี้ และถึงขั้นว่าไม่ชอบดูหนังสารคดีเลยเพราะคิดว่า ดูยาก น่าเบื่อ
ขอบอกเลยว่า Eric Clapton : LIFE in 12 bars เหมือนกับเราได้ดูหนังเรื่องนี้ ที่ได้เห็นตัวละครต้องเจออุปสรรค ขวากหนามมากมาย มีปมในวัยเด็กที่ผลักให้เขาเป็นศิลปินที่เป็นตำนาน จากเด็กที่แม่ไม่รับเป็นลูกสู่พ่อลูกสี่ แอบรักเมียเพื่อน ประสบกับโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์จะได้รับ วันนี้ได้ชื่อว่า คือตำนานและอยู่จุดสูงสุดในวงการ ทั้งหมดเหมือนเรากำลังดูหนังจากเรื่องแต่งสักเรื่อง แต่ทั้งหมดมันคือ เรื่องจริง
แต่เพราะมันเป็นเรื่องจริงมากๆ นี้ล่ะ บางจังหวะอาจทำให้คนดูไม่คลิ๊ก หรือต่อไม่ติดกับเรื่องได้บ้าง บางจังหวะก็ใช้การปั้นหรือสูตรสำเร็จแบบภาพยนตร์ในการเล่าเรื่องไปอยู่บ้าง แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าเรียกน้ำตาได้ไหม ก็ถือว่าเรียกได้จนร้องไห้โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ
ใครว่า ชีวิตละครไทยน้ำเน่าแล้ว เจอชีวิต Eric Clapton คือมันไม่น่าเชื่อเลยว่า คน ๆ เดียวเจออะไรเข้ามาในชีวิตขนาดนี้ได้อย่างไร
ถ้าใครต้องการหาแรงบันดาลใจ เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลัง เปลี่ยนน้ำตาเป็นกำลังใจ
เชื่อได้ว่า Eric Clapton : LIFE in 12 bars จะให้สิ่งนั้นได้อย่างแน่นอน