เรื่องเกิดขึ้นประมาณช่วงต้นปีค่ะ ดิฉันมีภาวะซึมเศร้า แต่ไม่ได้ร้ายแรงมาก ตอนนั้นเป็นช่วงที่โรคท้องเสียกำลังระบาด ดิฉันก็ตามกระแสด้วยค่ะ ถ่ายเหลวติดต่อกัน5วัน ครอบครัวก็เป็นพยานได้ว่าดิฉันท้องเสียจริง ตอนแรกมาหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในสุโขทัย เขาบอกให้แอดมิด แต่ติดว่าดิฉันมีเรียนต่อในวันต่อไปที่กทม. จึงไม่ได้แอดมิดที่โรงพยาบาลดังกล่าว แต่พอมาเรียน ถ่ายแต่เช้าเลยค่ะ นั่งในห้องน้ำตั้งแต่8โมงเช้าจนเกือบเที่ยง เลยตัดสินใจบอกเพื่อนให้พาไปโรงพยาบาลเพราะจะลุกเข้าห้องน้ำเวลาเรียนบ่อยๆคงไม่ได้ เพื่อนพาไปเข้าโรงพยาบาลเอกชนแถวเดอะมอลล์งามวงศ์วาน พอเข้าโรงพยาบาลได้ก็สอบถามอาการ ยาที่กินประจำ แน่นอนว่าภาวะซึมเศร้ากินยาทุกวันค่ะ เลยติดไปด้วย จากนั้นก็ตรวจเลือดก่อนจะแอดมิด และทางโรงพยาบาลบอกจะเก็บตัวอย่างอุจจาระไปตรวจ แต่! ทางโรงพยาบาลให้ทานยาหยุดถ่ายค่ะ...แล้วแต่มันจะถ่ายเหรอค่ะ ก็ตามระเบียบค่ะ นอกจากไม่ถ่ายยังท้องพุด้วย ค่านอนโรงพยาบาล1คืน คือ...1หมื่นกว่าบาทค่ะ พอติดต่อประกัน ก็บอกว่ายังเป็นสมาชิกไม่ถึง2ปี(กับผีสิ ทำมาจะ4-5ปีแล้วมั้ง) แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดเราด้วยที่ไม่ได้แจ้งประกันว่าเราเปลี่ยนนามสกุล ยอมรับผิดในข้อนี้ ทางโรงพยาบาลบอกกำลังเจรจากับประกันใช้เวลาไปครึ่งวันก็ยังไม่ได้ ทางดิฉันจึงตัดสินใจจ่ายไปก่อนแล้วค่อยเบิกเอากับประกันทีหลัง เสร็จภายใน30นาที ต่อมาก็ไปยืนประกันเพื่อขอเบิกย้อนหลังและทำการแจ้งเรื่องเปลี่ยนนามสกุลไปด้วย และก็รอค่ะ...สุดท้ายทางประกันบอกว่าจะไม่จ่ายเงินเพราะตัวดิฉันป่วยเป็นภาวะซึมเศร้า อาจจะคิดไปเองได้ว่าตัวเองป่วย...เดี๋ยวนะคะ คุณปฏิเสธการจ่ายค่าพยายามเพราะคิดว่าดิฉันคิดไปเองว่าตัวเองป่วย? โอโฮ้ประกัน เอาแบบนี้เลยเหรอค่ะ มีการบอกว่าทางต้นสังกัดกำลังสืบเรื่องกับทางโรงพยาบาลที่เราแอดมิดกับโรงพยาบาลจิตเวชที่เรารักษาตัว ติดต่อไปจริงเหรอค่ะ ทางโรงพยาบาลจิตเวชถ้ามีคนมาขอข้อมูลคนไข้หรือคนไข้ขอเองยังต้องแจ้งตัวคนไข้เพื่อเซ็นอนุญาตเลยค่ะ ไปหาหมอล่าสุด หมอก็บอกไม่เห็นมีใครติดต่อมาเลยนอกจากตัวดิฉันเอง เฮอะๆ
ที่อยากจะบอกคือคนที่ป่วยเป็นภาวะซึมเศร้าก็ป่วยได้ เจ็บไข้ได้ป่วยแบบคนปกตินี้แหละค่ะ แม้แต่คนบ้าก็ป่วยได้นะคะ ถ้าคุณจะปฏิเสธการจ่ายเงินทดแทนเพราะลูกค้าคิดไปเองว่าตัวเองป่วย ก็อย่าทำบริษัทประกันเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ