เมื่อวานมัวแต่ดีใจที่เกมปล่อยแพทช์ใหม่ออกมา เลยไม่อยากเขียนมันซะเลย 55
วันนี้จริงๆก็ไม่อยากเขียนอีกแหละ แต่ได้หนังเรื่อง the bucket list ช่วยไว้ เลยต้องลุกมาเขียนไดอารี่
เมื่อวานจริงๆเป็นวันที่วิ่งเกิน 30 นาทีอีกครั้ง จากเมื่อก่อน 30 นาทีกระจอกมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ กลายเป็นเหนื่อยชิปห_าย
จริงๆอะไรดลใจก็ไม่รู้ทำให้ต้องไหว้ทักทายพี่ๆที่เป็นนักวิ่งตัวยงที่มาก่อนหน้า ถ้ากรูคิดแบบคนมองโลกแคบ กรูก็วิ่งของกรูไป ไม่ต้องสนใจใครแบบคนยุคนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักใครก็ได้
ถามว่าทำไปแล้วได้อะไร ก็ได้คนรู้จักเพิ่มขึ้น มีเพื่อนดีกว่ามีศัตรูอยู่แล้ว ทำให้นึกถึงสมัยตอนวิ่งเมื่อสมัยอยู่เกาะลอยศรีราชาเลย ได้คนช่วยลากตอนวิ่งด้วย
วันนี้ ยังคงไม่มีอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือเพราะมัวจดจ่อกับเกมส์ที่เพิ่งออกมาใหม่ แต้หัวค่ำอะไรดลใจก็ไม่รู้ให้ดูหนังซักเริ่อง พอเปิด Netflix ก็ได้เรื่อง The bucket list ออกมา
หนังเรื่องนี้ ให้ข้อคิดเยอะมาก หากว่ากรูแก่ใกล้ตายก็ต้องทำแบบมอแกน ฟรีแมนในเรื่องแน่ แต่กรูจะหาเพื่อนแบบแจ๊ค นิโคลสันในเรื่องยังไงว่ะ ต้องไปดูว่าเศรษฐีคนไหนล้มป่วยแล้วจะนอนเตียงข้างๆแบบในหนังหรอว่ะ ก็คงไม่ใช่
แม่มเลยทำให้กรูคิดถึงจักรยานรอบโลกขึ้นมาเลย แต่ถ้าจะไปรอบโลกในยุคนี้จริง ไม่มีเงินจะเข้าประเทศเค้ายังไงว่ะ หรือจะเดินไปขอสปอนเซอร์ยังไงว่ะ แค้อาสมบัติจะพิมพ์หนังสือ สนพ.แม่มยังบอกไม่พิมพ์ให้เลย ขนาดอาอยู่วงการหนังสือพิมพ์นะเว้ยเฮ้ย เสียดายหว่ะ การมาของอินเทอร์เนตมันก็ทำให้อดอ่านหนังสือที่อยากจะอ่านด้วย อุตส่าบอกให้อาไป e-book อาก็ไม่ยอมไป เสียดายจริงๆ
ถ้าสิ้นเดือน พ.ค. ยังไม่ได้งานจริงๆ จะขนจักรยานไปปั่นขึ้นมาจากใต้กลับกทม. แล้วค่อยปรับลดเงินเดือนตัวเองลงก็ได้ว่ะ ก่อนออกจากงานยังได้ตั้ง 5 หมื่น ตอนนี้ยื่นไป 4 หมื่นแม่มยังไม่มีโทรศัพท์มาซักแอะ ประสอบการณ์ 8 ปีจากบริษัทชั้นนำไม่ช่วยอะไรกรูเลยหรอว่ะ หรือเรซูเม่กรูแม่มห่วยขั้นอนาจถึงไม่มีที่ไหนกริ๊งกร๊างมาเลย
เฮ้ย จากที่จะเขียนเล่าว่าจะไปปั่นจักรยานแม่มออกทะเลมาเรื่องงานได้ไงว่ะ เอาเหอะ bucket list ของกรูตอนนี้คือ ดูหนังน้ำดีวันละเรื่องก่อน จักรยานค่อยตามมา ไปแบบไอ้บอลพาเที่ยวไปเลย ไหนๆจะไปแล้ว ไปให้สุด
Crazy Diary - ไดอารี่คนบ้า - ตอนที่ 11+12 - 30+31 มี.ค.18 - กลับมาดูหนัง
วันนี้จริงๆก็ไม่อยากเขียนอีกแหละ แต่ได้หนังเรื่อง the bucket list ช่วยไว้ เลยต้องลุกมาเขียนไดอารี่
เมื่อวานจริงๆเป็นวันที่วิ่งเกิน 30 นาทีอีกครั้ง จากเมื่อก่อน 30 นาทีกระจอกมาก แต่ตอนนี้ไม่ใช่ กลายเป็นเหนื่อยชิปห_าย
จริงๆอะไรดลใจก็ไม่รู้ทำให้ต้องไหว้ทักทายพี่ๆที่เป็นนักวิ่งตัวยงที่มาก่อนหน้า ถ้ากรูคิดแบบคนมองโลกแคบ กรูก็วิ่งของกรูไป ไม่ต้องสนใจใครแบบคนยุคนี้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนก็ไม่จำเป็นต้องรู้จักใครก็ได้
ถามว่าทำไปแล้วได้อะไร ก็ได้คนรู้จักเพิ่มขึ้น มีเพื่อนดีกว่ามีศัตรูอยู่แล้ว ทำให้นึกถึงสมัยตอนวิ่งเมื่อสมัยอยู่เกาะลอยศรีราชาเลย ได้คนช่วยลากตอนวิ่งด้วย
วันนี้ ยังคงไม่มีอารมณ์ที่จะอ่านหนังสือเพราะมัวจดจ่อกับเกมส์ที่เพิ่งออกมาใหม่ แต้หัวค่ำอะไรดลใจก็ไม่รู้ให้ดูหนังซักเริ่อง พอเปิด Netflix ก็ได้เรื่อง The bucket list ออกมา
หนังเรื่องนี้ ให้ข้อคิดเยอะมาก หากว่ากรูแก่ใกล้ตายก็ต้องทำแบบมอแกน ฟรีแมนในเรื่องแน่ แต่กรูจะหาเพื่อนแบบแจ๊ค นิโคลสันในเรื่องยังไงว่ะ ต้องไปดูว่าเศรษฐีคนไหนล้มป่วยแล้วจะนอนเตียงข้างๆแบบในหนังหรอว่ะ ก็คงไม่ใช่
แม่มเลยทำให้กรูคิดถึงจักรยานรอบโลกขึ้นมาเลย แต่ถ้าจะไปรอบโลกในยุคนี้จริง ไม่มีเงินจะเข้าประเทศเค้ายังไงว่ะ หรือจะเดินไปขอสปอนเซอร์ยังไงว่ะ แค้อาสมบัติจะพิมพ์หนังสือ สนพ.แม่มยังบอกไม่พิมพ์ให้เลย ขนาดอาอยู่วงการหนังสือพิมพ์นะเว้ยเฮ้ย เสียดายหว่ะ การมาของอินเทอร์เนตมันก็ทำให้อดอ่านหนังสือที่อยากจะอ่านด้วย อุตส่าบอกให้อาไป e-book อาก็ไม่ยอมไป เสียดายจริงๆ
ถ้าสิ้นเดือน พ.ค. ยังไม่ได้งานจริงๆ จะขนจักรยานไปปั่นขึ้นมาจากใต้กลับกทม. แล้วค่อยปรับลดเงินเดือนตัวเองลงก็ได้ว่ะ ก่อนออกจากงานยังได้ตั้ง 5 หมื่น ตอนนี้ยื่นไป 4 หมื่นแม่มยังไม่มีโทรศัพท์มาซักแอะ ประสอบการณ์ 8 ปีจากบริษัทชั้นนำไม่ช่วยอะไรกรูเลยหรอว่ะ หรือเรซูเม่กรูแม่มห่วยขั้นอนาจถึงไม่มีที่ไหนกริ๊งกร๊างมาเลย
เฮ้ย จากที่จะเขียนเล่าว่าจะไปปั่นจักรยานแม่มออกทะเลมาเรื่องงานได้ไงว่ะ เอาเหอะ bucket list ของกรูตอนนี้คือ ดูหนังน้ำดีวันละเรื่องก่อน จักรยานค่อยตามมา ไปแบบไอ้บอลพาเที่ยวไปเลย ไหนๆจะไปแล้ว ไปให้สุด