อันนี้เป็นกระทู้เก่าของเราเมื่อคราวที่แล้วค่ะ
ไปญี่ปุ่นกับเพื่อนแฟน นอนSunnide ดูวิวฟูจิ เที่ยวนิกโก้ กินขาปูยักษ์ 5 วัน ทั้งทริป 27,000 บาท แบบนี้ก็ได้เหรอ
https://ppantip.com/topic/36221581
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
มา List ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ดูกันก่อนรีวิวจะได้รู้ว่าเราทำได้จริง
ทริปของพวกเรามีด้วยกันทั้งหมด 11 คน และมีชื่อทริปครั้งนี้ว่า
"ทริปตีนแตก-ยับ ตะลุยเจแปน ซีซั่น 2"
อันดับแรกค่าตั๋วอันนี้ราคาขึ้นอยู่กับการโหลดกระเป๋าเป็นหลัก
ใครโหลดมากก็แพงหน่อย ใครโหลดน้อยก็ถูกหน่อย
ค่าตั๋วสายการบิน Air Asia X รวมโหลดกระเป๋า ไป-กลับ 20 กิโล 10,480 บาท
ค่า JR East South Hokkaido Pass ซื้อจากที่ไทย 7,400 บาท
ค่า ที่พักรวม 5 คืน ทั้งหมด 4,500 บาท
- One Night 1980 Hostel ที่อุเอโนะ 1 คืน (พักแคปซูล)
- New Ohte ที่ฮาโกดาเตะ 1 คืน (หนึ่งห้องพัก 4 คน)
- Grid Sapporo Hostel&Hotel 2 คืน ที่ซัปโปโร (หนึ่งห้องพัก 4 คน)
- Hanabi Hotel 1 คืน ที่ชินจูกุ (หนึ่งห้องพัก 11 คน)
ค่า Pocket Wifi หารแล้ว 6 วัน ตกคนละ 400 บาท
ค่าเงินกองกลาง ที่เก็บไปเป็นค่าเดินทางนอกเหนือจากพาสที่ใช้
ค่าอาหารมื้อใหญ่บางมื้อ รวมไปถึงค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
เก็บก่อนเดินทางคนละ 10,000 บาท
รวมเป็นทั้งสิ้นก่อนการเดินทางพวกเราจ่ายเงินไป
คนละ 32,780 บาท (อ้าวทำไมเกิน)
แต่ไม่ได้มีแค่นั้นค่ะ เนื่องจากเป็นเงินกองกลาง เพราะฉะนั้นเลยมีเหลือคืนกลับมา
ครั้งแรก 15,000 เยน กับ อีก 500 เงินไทย รวมเป็นทั้งสิ้น 5,500 บาท
เอายอดเงินแรก 32,780 - 5,500 เท่ากับว่าพวกเราใช้ไปทั้งสิ้น 27,280 บาท
ซึ่งยอดเงินนี้ยังไม่รวม ค่าช้อปปิ้ง ค่าของฝาก และอาหารบางมื้อ รวมไปถึงขนมกินเล่น
แต่ในยอดเงินนี้พวกเราก็ได้กินอาหารมื้อใหญ่ในร้านอาหารที่อยู่ในแพลน อาทิเช่น
- Lucky pierrot เบอร์เกอร์ที่ฮาโกดาเตะ
- Suzuya shokudo ข้าวหน้าปลาดิบที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
- Seafood Buffet NANDA บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ไม่อั้นที่ซัปโปโร
- Isomaru Suisan พวกปลาดิบ และ Miso Crab ที่ชินจูกุ
เราจะมารีวิวให้ดูกันค่ะ ว่าพวกเราทำยังไงกินอยู่กันยังไง ต้องลำบากลำบนมากแค่ไหน
กับการเดินทางด้วยรถไฟ 20 เที่ยว จาก Kawazu สู่ Hokkaido ดินแดนที่ใครใครก็อยากไป
2 มีนาคม 2561
มาเริ่มต้นการเดินทางวันแรกกันค่ะ
พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน AirAsia X
ออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 10.45น. ถึงที่ สนามบินนาริตะ Terminal 2 เวลา 19.00น.
อันดับแรกที่ต้องทำคือ เอา Exchange Order JR East South Hokkaido Rail Pass ไปแลกเป็นตั๋วจริง
ไม่ยากค่ะเอาไปแลกที่เคาน์เตอร์ของ N’ex พร้อมจองเที่ยวรถไฟ N’ex เข้าเมืองไปในคราวเดียวกันได้เลย
วิธีการแลก ให้พาสปอร์ตตามชื่อที่ระบุบน Exchange Order แล้วเค้าก็จะเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงมาให้
จากนั้นเราก็เดินทางเข้าเมืองกันค่ะ วันนี้เราจะนั่งไปลงที่สถานีโตเกียว แล้วนั่งรถไฟสาย JR ไปลงที่ที่พักแถวอุเอโนะอีกที
รถไฟขบวนที่ 1
พวกเรานั่ง N’ex จาก Narita Terminal 2 มาลงที่ Tokyo Station
(ใช้พาส)
นั่งออกมา 20.47น. ถึง Tokyo Station 21.43น.
โดยปกติถ้าเราไม่ใช้พาสนี้ สามารถซื้อเป็นโปรโมชั่นไปกลับได้จะอยู่ที่ 4,000 เยน
หลังจากที่ถึงสถานีโตเกียว พวกเราก็นั่งรถไฟต่อมาที่ Uguisuidani Station
รถไฟขบวนที่ 2
จาก Tokyo Station นั่ง JR สาย Yamanoteline มาลงที่ Uguisuidani Station
(ใช้พาส)
ถ้าเราไม่ใช้พาสนี้ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 160 เยน
จากสถานีรถไฟเดินต่อมาอีก 15-20 นาที จริงจริงอาจทำเวลาได้เร็วกว่านั้นแต่เนื่องจากพวกเราเป็นกลุ่มใหญ่
ก็ต้องมีแวะ มีรอกันบ้าง จะว่าไปถ้าไม่ได้มากลุ่มใหญ่ขนาดนี้ การเดินทางเข้าที่พักจากสถานีในเวลา 4-5 ทุ่ม มันก็ดูเปลี่ยวมากมาก
หลังจากเดินกันอยู่สักพักพวกเราก็มาถึงที่พักคืนแรก
วันนี้พวกเราพักกันที่
1 Night 1980 Hostel พักแบบแคปซูล แบ่งชั้นชายหญิงชัดเจน
ค่าที่พักคืนนี้พวกเราจ่ายกันไปคนละ
2,340 เยน
ในแคปซูลมีปลั๊กไฟให้สำหรับชาร์จมือถือ มีหมอน ผ้าห่ม แต่ผ้าปูที่นอนต้องมาปูเอง
ถ้าจะเข้าห้องน้ำห้องส้วมต้องเปิดประตูในส่วนที่เป็นบริเวณโซนแคปซูลออกไปแล้วใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้ามา
ที่พักที่นี่เข้าจะมีพวกแปรงสีฟัน ที่คุลมผม ยาสระผม ผ้าขนหนู เตรียมไว้ให้ด้วยนะคะ คนละหนึ่งชุด ข้อดีของการแบ่งโซนห้องน้ำออกจากตัวที่นอนนั่นคือ ทำให้เราจะไม่ได้ยินเสียงเวลาที่มีคนอาบน้ำหรือไดร์ผม อันนี้คือเราเทียบจากแคปซูลอีกที่ที่เคยได้ไปพัก และอีกหนึ่งข้อดีของแคปซูลที่นี่คือ มี Locker ไว้สำหรับไว้กระเป๋าในแต่ละแคปซูลเลย คือลุกจากแคปซูลเดินไม่ถึง 2 ก้าว ก็เป็นห้องเก็บกระเป๋าเราแล้ว สะดวกต่อการแพ็คของมากมาก
[CR] ซากุระที่Kawazu ต่อด้วยHakodate กินปูที่Sapporo ถ่ายรูปเพลินที่Otaru ปิดทริปด้วยShinjuku 6วัน กับงบ30,000
ไปญี่ปุ่นกับเพื่อนแฟน นอนSunnide ดูวิวฟูจิ เที่ยวนิกโก้ กินขาปูยักษ์ 5 วัน ทั้งทริป 27,000 บาท แบบนี้ก็ได้เหรอ
https://ppantip.com/topic/36221581
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
มา List ค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ดูกันก่อนรีวิวจะได้รู้ว่าเราทำได้จริง
ทริปของพวกเรามีด้วยกันทั้งหมด 11 คน และมีชื่อทริปครั้งนี้ว่า
"ทริปตีนแตก-ยับ ตะลุยเจแปน ซีซั่น 2"
อันดับแรกค่าตั๋วอันนี้ราคาขึ้นอยู่กับการโหลดกระเป๋าเป็นหลัก
ใครโหลดมากก็แพงหน่อย ใครโหลดน้อยก็ถูกหน่อย
ค่าตั๋วสายการบิน Air Asia X รวมโหลดกระเป๋า ไป-กลับ 20 กิโล 10,480 บาท
ค่า JR East South Hokkaido Pass ซื้อจากที่ไทย 7,400 บาท
ค่า ที่พักรวม 5 คืน ทั้งหมด 4,500 บาท
- One Night 1980 Hostel ที่อุเอโนะ 1 คืน (พักแคปซูล)
- New Ohte ที่ฮาโกดาเตะ 1 คืน (หนึ่งห้องพัก 4 คน)
- Grid Sapporo Hostel&Hotel 2 คืน ที่ซัปโปโร (หนึ่งห้องพัก 4 คน)
- Hanabi Hotel 1 คืน ที่ชินจูกุ (หนึ่งห้องพัก 11 คน)
ค่า Pocket Wifi หารแล้ว 6 วัน ตกคนละ 400 บาท
ค่าเงินกองกลาง ที่เก็บไปเป็นค่าเดินทางนอกเหนือจากพาสที่ใช้
ค่าอาหารมื้อใหญ่บางมื้อ รวมไปถึงค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ
เก็บก่อนเดินทางคนละ 10,000 บาท
รวมเป็นทั้งสิ้นก่อนการเดินทางพวกเราจ่ายเงินไป
คนละ 32,780 บาท (อ้าวทำไมเกิน)
แต่ไม่ได้มีแค่นั้นค่ะ เนื่องจากเป็นเงินกองกลาง เพราะฉะนั้นเลยมีเหลือคืนกลับมา
ครั้งแรก 15,000 เยน กับ อีก 500 เงินไทย รวมเป็นทั้งสิ้น 5,500 บาท
เอายอดเงินแรก 32,780 - 5,500 เท่ากับว่าพวกเราใช้ไปทั้งสิ้น 27,280 บาท
ซึ่งยอดเงินนี้ยังไม่รวม ค่าช้อปปิ้ง ค่าของฝาก และอาหารบางมื้อ รวมไปถึงขนมกินเล่น
แต่ในยอดเงินนี้พวกเราก็ได้กินอาหารมื้อใหญ่ในร้านอาหารที่อยู่ในแพลน อาทิเช่น
- Lucky pierrot เบอร์เกอร์ที่ฮาโกดาเตะ
- Suzuya shokudo ข้าวหน้าปลาดิบที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
- Seafood Buffet NANDA บุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ไม่อั้นที่ซัปโปโร
- Isomaru Suisan พวกปลาดิบ และ Miso Crab ที่ชินจูกุ
เราจะมารีวิวให้ดูกันค่ะ ว่าพวกเราทำยังไงกินอยู่กันยังไง ต้องลำบากลำบนมากแค่ไหน
กับการเดินทางด้วยรถไฟ 20 เที่ยว จาก Kawazu สู่ Hokkaido ดินแดนที่ใครใครก็อยากไป
มาเริ่มต้นการเดินทางวันแรกกันค่ะ
พวกเราเดินทางด้วยสายการบิน AirAsia X
ออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 10.45น. ถึงที่ สนามบินนาริตะ Terminal 2 เวลา 19.00น.
อันดับแรกที่ต้องทำคือ เอา Exchange Order JR East South Hokkaido Rail Pass ไปแลกเป็นตั๋วจริง
ไม่ยากค่ะเอาไปแลกที่เคาน์เตอร์ของ N’ex พร้อมจองเที่ยวรถไฟ N’ex เข้าเมืองไปในคราวเดียวกันได้เลย
วิธีการแลก ให้พาสปอร์ตตามชื่อที่ระบุบน Exchange Order แล้วเค้าก็จะเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงมาให้
จากนั้นเราก็เดินทางเข้าเมืองกันค่ะ วันนี้เราจะนั่งไปลงที่สถานีโตเกียว แล้วนั่งรถไฟสาย JR ไปลงที่ที่พักแถวอุเอโนะอีกที
รถไฟขบวนที่ 1
พวกเรานั่ง N’ex จาก Narita Terminal 2 มาลงที่ Tokyo Station (ใช้พาส)
นั่งออกมา 20.47น. ถึง Tokyo Station 21.43น.
โดยปกติถ้าเราไม่ใช้พาสนี้ สามารถซื้อเป็นโปรโมชั่นไปกลับได้จะอยู่ที่ 4,000 เยน
หลังจากที่ถึงสถานีโตเกียว พวกเราก็นั่งรถไฟต่อมาที่ Uguisuidani Station
รถไฟขบวนที่ 2
จาก Tokyo Station นั่ง JR สาย Yamanoteline มาลงที่ Uguisuidani Station (ใช้พาส)
ถ้าเราไม่ใช้พาสนี้ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 160 เยน
จากสถานีรถไฟเดินต่อมาอีก 15-20 นาที จริงจริงอาจทำเวลาได้เร็วกว่านั้นแต่เนื่องจากพวกเราเป็นกลุ่มใหญ่
ก็ต้องมีแวะ มีรอกันบ้าง จะว่าไปถ้าไม่ได้มากลุ่มใหญ่ขนาดนี้ การเดินทางเข้าที่พักจากสถานีในเวลา 4-5 ทุ่ม มันก็ดูเปลี่ยวมากมาก
หลังจากเดินกันอยู่สักพักพวกเราก็มาถึงที่พักคืนแรก
วันนี้พวกเราพักกันที่ 1 Night 1980 Hostel พักแบบแคปซูล แบ่งชั้นชายหญิงชัดเจน
ค่าที่พักคืนนี้พวกเราจ่ายกันไปคนละ 2,340 เยน
ในแคปซูลมีปลั๊กไฟให้สำหรับชาร์จมือถือ มีหมอน ผ้าห่ม แต่ผ้าปูที่นอนต้องมาปูเอง
ถ้าจะเข้าห้องน้ำห้องส้วมต้องเปิดประตูในส่วนที่เป็นบริเวณโซนแคปซูลออกไปแล้วใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อเข้ามา
ที่พักที่นี่เข้าจะมีพวกแปรงสีฟัน ที่คุลมผม ยาสระผม ผ้าขนหนู เตรียมไว้ให้ด้วยนะคะ คนละหนึ่งชุด ข้อดีของการแบ่งโซนห้องน้ำออกจากตัวที่นอนนั่นคือ ทำให้เราจะไม่ได้ยินเสียงเวลาที่มีคนอาบน้ำหรือไดร์ผม อันนี้คือเราเทียบจากแคปซูลอีกที่ที่เคยได้ไปพัก และอีกหนึ่งข้อดีของแคปซูลที่นี่คือ มี Locker ไว้สำหรับไว้กระเป๋าในแต่ละแคปซูลเลย คือลุกจากแคปซูลเดินไม่ถึง 2 ก้าว ก็เป็นห้องเก็บกระเป๋าเราแล้ว สะดวกต่อการแพ็คของมากมาก