สถูปน้ำแข็งแก้ไขภัยแล้ง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Sonam Wangchuk, Rolex Awards Laureate, 2016



ผลจากภาวะโลกร้อนที่กระทบกับชาวบ้านใน Himalaya
วิศวกร Sonam Wangchuk จึงสร้างสถูปน้ำแข็งดังกล่าว
Photograph by Lobzang  Dadul/Courtesy Of ©Sonam Wangchuk


Ladakh อยู่ในแถบเทือกเขา Himalayan
เป็นเขตพื้นที่แห้งแล้งตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของ India
มีหมู่บ้าน Pheyang ที่ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล  2,700 เมตร ถึง 4,000 เมตร
มันเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่หนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิจะแตะที่  -30° องศาเซนเซียส
และปริมาณน้ำฝนตก/หิมะตกในแต่ละปีเฉลี่ยเพียง  100 มิลลิเมตร
การตั้งถิ่นฐานของชาวบ้านส่วนมากจึงมักจะตั้งอยู่ใกล้กับลำธารน้ำ
ที่น้ำส่วนมากจะไหลลงไปสู่แม่น้ำสินธุ Indus และแม่น้ำสายอื่น ๆ
การเอาชีวิตอยู่รอดได้ในพื้นที่แห้งแล้งและหนาวเย็นแห่งนี้
คือ ศิลปะการเปลี่ยนลำธารผ่านทางลำรางที่สร้างขึ้นอย่างพิถีพิถัน
เพื่อส่งน้ำไปจนถึงพื้นที่แห้งแล้งที่ใช้เพาะปลูก
ซึ่งมักจะปลูกพืชพวก ข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี ผัก
และต้นไม้ เช่น apricots appleswillow และ poplar


ปัญหา

หมู่บ้านส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสองเดือนที่สำคัญ ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม
จะมีน้ำน้อยมากในลำธาร ทำให้ชาวบ้านต้องแย่งชิงน้ำกัน  เพื่อนำน้ำมารดให้กับพืชผลที่กำลังปลูกใหม่
แต่พอในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ก็จะมีน้ำมากเกินไป  หรือบางครั้งน้ำก็ท่วมฉับพลัน
เพราะหิมะและธารน้ำแข็งที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัยละลายอย่างรวดเร็ว
ครั้นพอถึงช่วงกลางเดือนกันยายน การทำไร่ทำนาก็ต้องยุติลงทั้งหมด(ย่างเข้าฤดูหนาว)
แต่ก็ยังมีลำธารเล็ก ๆ ที่มีน้ำไหลตลอดฤดูหนาวอย่างต่อเนื่อง
แต่น้ำก็จะไหลลงไปสู่แม่น้ำสินธุและแม่น้ำสายอื่น ๆ
โดยชาวบ้านไม่ได้ใช้ประโยชน์แต่อย่างใด

หลายปีที่ผ่านมา ปัญหาเริ่มเลวร้ายขึ้น
เพราะธารน้ำแข็งหิมาลัยกำลังล่มสลาย
จากภาวะโลกร้อนและมลพิษในพื้นที่


แนวทางแก้ไขปัญหา


ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ในช่วงฤดูหนาว
มีการทดลองที่ SECMOL Alternative Institute the Pheyang Monastery
ใกล้กับอารามสงฆ์ ศาสนาพุทธมหายาน นิกายตันตระแบบธิเบต
จะเห็นการสร้างสถูปน้ำแข็งจากธารน้ำของเทือกเขาหิมาลัย
ด้วยการฉีดน้ำขึ้นไปให้สูงอาศัยหลักแรงโน้มถ่วง(แบบกาลักน้ำ)
แล้วน้ำจะกระจายหล่นลงมากลายเป็นน้ำแข็ง
เกาะตามกิ่งไม้/กองไม้แห้ง รวมตัวกันเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ในช่วงฤดูหนาว
(กิ่งไม้แห้งที่กองสุมกันเหมือนโครงเหล็กถักในงานก่อสร้างอาคาร
โดยมีการทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะฉีดน้ำไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะน้ำในท่อจับตัวกันจนกลายเป็นน้ำแข็งตั้งแต่จากต้นน้ำกลางน้ำปลายน้ำ)
ก้อนน้ำแข็งจะชักนำไอน้ำ/หิมะในฤดูหนาวมาเกาะติด ๆ
พอกจนหนามากขึ้น ๆ จนกลายเป็นสถูปน้ำแข็งยักษ์ใหญ่กว่าเดิมมาก
ซึ่งพอถึงฤดูร้อนสถูปน้ำแข็งจะค่อย ๆ ละลายน้ำออกมาจากความอบอุ่น/แสงแดดแผดเผา
แล้วไหลไปตามลำราง/ระบบน้ำหยดทำให้มีน้ำเพียงพอกับเกษตรกรใช้ทำไร่ทำนาทำสวน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Drikung Skyabgon Chetsang Rinpochey
(Rinpochey ท้ายชื่อนี้ตามความเชื่อทางศาสนาพุทธนิกายธิเบต/ตันตระ
คือ พระลามะชั้นครูที่น่าเคารพยกย่องอย่างยิ่งและถึงแก่กรรมไปแล้ว
แล้วกลับชาติมาเกิดใหม่อีกครั้งเพิ่อสืบทอดศาสนาพุทธมหายาน
แบบท่านองค์ดะไลลามะ ประมุขศาสนาพุทธธิเบต ที่มา  https://bit.ly/2GJpb7D
Chetsang มาจาก เชษฐ พระคุณเจ้า/ผู้อาวุโส)
และท่านได้ทำงานร่วมกับ SECMOL เพื่อเป็นสถานที่สำหรับค้นหานวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกับ
Himalayan Institute of Alternatives  Ladakh(HIAL) โดยได้วางแผนร่วมกัน






Sonam Wangchuk  Photograph By ©Rolex/Stefan Walter



Sonam Wangchuk  คือ วิศวกรที่คิดค้นวิธีทำสถูปน้ำแข็งแก้ไขภัยแล้งให้กับชาวบ้าน
ในปี  2015 ท่านได้ขอรับเงินบริจาคด้วยการขอระดมเงินทุนสนับสนุนโครงการนี้ด้วยคลิปวิดีโอ
ซึ่งมีผู้บริจาคเงินรวม 300 ท่าน คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 125,000 เหรียญสหรัฐจาก Crowdfunding
หรือคิดเป็น 105% จากเป้าหมาย 119,500 เหรียญสหรัฐซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย
โดยท่านจะนำเงินไปซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างสถูปน้ำแข็งสูง 64 ฟุต(19.5 เมตร)
ที่สร้างขึ้นด้วยการฉีดน้ำขึ้นไปในแนวดิ่งอาศัยหลักแรงโน้มถ่วงแบบกาลักน้ำ
ทำให้น้ำหล่นกระจายลงบนกิ่งไม้/กองกิ่งไม้ที่กองสุมกัน
เมื่อน้ำจับตัวกันจนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์
ที่มีรูปทรงคล้ายรูปสถูปเจดีย์ขนาดใหญ่(รูปทรงกรวย)
โดยจะมีการฉีดน้ำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะฉีดน้ำไม่ได้อีกแล้ว
เพราะภายในท่อน้ำที่ส่งน้ำกลายเป็นน้ำแข็งไปแแล้ว
ตั้งแต่จากต้นน้ำกลางน้ำถึงปลายน้ำ
ซึ่งก้อนน้ำแข็งยักษ์นี้จะชักนำไอน้ำ/หิมะในช่วงฤดูหนาว
มาพอกติดกันมากขึ้น ๆ หนาขึ้น ๆ จนเป็นสถูปน้ำแข็งขนาดยักษ์ใหญ่กว่าเดิม

ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่นขึ้นกว่าเดิมพร้อมแสงแดดแผดเผา
ราวช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นหน้าร้อน (ช่วงที่เริ่มขาดแคลนน้ำในอดีต)
น้ำจะค่อย ๆ ละลายจากสถูปน้ำแข็งยักษ์เหล่านี้
แต่สถูปน้ำแข็งเป็นรูปกรวยจึงมีพื้นที่ผิวโดนแสงแดดน้อยกว่าพื้นที่ผิวประเภทอื่น
สายน้ำที่ละลายจากสถูปน้ำแข็งจะถูกส่งไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรในหมู่บ้าน Pheyang ใน Ladakhi
ในรูปลำราง/ระบบน้ำหยด ซึ่งจะมีน้ำเพียงพอสำหรับการรดน้ำให้กับต้นไม้และพืชไร่ชนิดต่าง ๆ
ส่วนในเดือนมิถุนายน  น้ำจากลำธารเทือกเขาหิมาลัย ก็เริ่มไหลตามปกติแล้ว
ขณะที่สถูปน้ำแข็งส่วนใหญ่จะเริ่มละลายเกือบหมดแล้ว

" เราเริ่มให้น้ำเพื่อปลูกพืชตั้งแต่ธันวาคม
แต่ความชื้นก็แทบไม่พอสำหรับพืชเลย
และตอนนี้แทบจะไม่มีน้ำเลย
" Tsering  Angchuk ผู้นำชุมชน

" ปัญหาการขาดแคลนน้ำเป็นเรื่องใหญ่
ทำให้ในอนาคตลูกหลานเรา
คงไม่สามารถทำไร่ทำนาได้อีกต่อไปแล้ว
"
Tsering  Spalzes ชาวนาท้องถิ่น
ทั้งคู่ต่างแสดงในการรณณรงค์ขอเงินสนับสนุน crowdfunding

" การสร้างเขื่อนในพื้นที่นี้เป็นเรื่องลำบาก
เพราะสภาพพื้นดินเป็นก้อนหินแข็งทำงานลำบากมาก

(รวมทั้งรถแมคโครรถบรรทุกจะต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก
ในฤดูน้ำหลากกระแสน้ำจะเชี่ยวกรากและมักพัดพาหินลงมาด้วย)
แต่จากการทดลองทำแบบนี้ก่อนที่จะขอเงินทุนสนับสนุน crowdfunding
เป็นวิธีการที่ประหยัด เรียบง่าย ลงทุนต่ำมาก
ชาวบ้านสามารถบริหารจัดการและพึ่งพาตนเองได้ "
ท่านรินโปเชลามะ กล่าวสนันสนุนโครงการขอรับบริจาคครั้งนี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
The Monk, The Engineer and The Artificial Glacier



ในปี 2014 ท่านได้เริ่มสร้างสถูปน้ำแข็งจำลองต้นแบบสูง  7 เมตร
18 พฤษภาคม ท่านได้ขอให้ Drikung Kargyud Chetsang Rinpochey กับพระสงฆ์ในเขต Pheyang
ร่วมกันชาวบ้านสร้างสถูปน้ำแข็งใน Phey เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ด้วยการสนับสนุนของท่านริมโปเชลามะในการร่วมขอ crowdfunding
เพื่อลงทุนวางระบบท่อน้ำยาว  2.3 กิโลเมตรจากลำธารมาสร้างสถูปน้ำแข็งสูง 20 เมตร

ในปี 2015 จนถึงต้นเดือนกรกฏาคม สถูปน้ำแข็งยังให้น้ำได้ถึง 1.5 ล้านลิตร
เพียงพอกับกล้าพืชไม้ยืนต้นจำนวน 5,000 ต้นที่ชาวบ้านกับพระสงฆ์ร่วมกันปลูก

ทำให้ในปีต่อมา มีการสร้างสถูปน้ำแข็งใน Phyang อีก 20 สถูป
ความสูงราว  30 เมตรโดยขยายฐานให้กว้างขึ้น
ทำให้แต่ละสถูปจะจ่ายน้ำในหน้าแล้งได้ถึง 10 ล้านลิตร
ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบ้านกับพระสงฆ์ร่วมกันปลูกพืชยืนต้นในพื้นที่เพิ่มเติม

ตอนนี้ Sonam  Wangchuk กำลังจะวางระบบท่อน้ำอีกหลายเส้น
เพื่อจะสร้างสถูปน้ำแข็งมากกว่า  50 แห่ง
ซึ่งสถูปน้ำแข็งแต่ละลูกจะสามารถเก็บน้ำได้ราว 10 ล้านลิตรต่อปี
มีน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกพืชราว 25 เอเคอร์ (62.5 ไร่)/สถูป
คาดว่าจะมีน้ำเพียงพอกับการเพาะปลูกราว 3,125  ไร่
ซึ่งจะแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งและยกระดับคุณภาพชีวิตชาวบ้านได้มาก

ผลงานจากโครงการสถูปน้ำแข็งของ Sonam  Wangchuk
ทำให้เป็นที่กล่าวขานกันและรู้จักกันไปทั่วโลก
ในปี 2016 ก็มีการสร้างสถูปน้ำแข็งในยุโรปเป็นครั้งแรก ที่ Swiss Alps
และยังมีโครงการที่จะสร้างสถูปน้ำแข็งอีกจำนวนมาก
เพื่อชะลอน้ำท่วมอย่างฉับพลันในอินเดียและในอีกหลายประเทศด้วย

ท่านเป็นนักประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลจาก Rolex Award for Enterprise ในปี 2016
ซึ่งมีนักประดิษฐ์ท่านอื่นที่ได้รับรางวัลด้วย คือ อาคารที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์  เตาประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้  ท่านจะใช้เงินรางวัลที่ได้รับดังกล่าว  เพื่อจัดตั้ง  มหาวิทยาลัยวิจัย Pan-Himalayan
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคแถบนี้  
และท่านได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมเพื่อความยั่งยืนระดับโลก
Global Award for Sustainable Architecture ในปี 2017







“ ผมสังเกตเห็นว่า มีก้อนน้ำแข็งอยู่ใต้สะพานที่ระดับความสูง 3,000 เมตร
ในระดับความสูงที่จัดว่าต่ำมากในเขตพื้นที่แห่งนี้
และนี่มันคือเดือนพฤษภาคม (ช่วงขาดแคลนน้ำ)
ทำให้ผมต้องคิดว่า  ถ้าเราสามารถเก็บน้ำแข็งได้แบบนี้ใน Phey
ถ้าเราป้องกันมัน(ก้อนน้ำแข็ง)จากแสงแดด

แต่จะหาที่ร่ม(ป้องกันแสงแดด) ได้อย่างไร
ผมจึงเริ่มคิดเกี่ยวกับการสะท้อนแสงของวัตถุ
และแล้ว ผมคิดถึงการลดพื้นที่ผิวของก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่
ดวงอาทิตย์จะสาดส่องพื้นผิวเพื่อให้ร้อนขึ้น
แต่รูปทรงกรวยจะมีพื้นผิวน้อยที่สุด

พื้นที่ผิวของก้อนน้ำแข็งจะค่อย ๆ ละลายอย่างช้า ๆ
แม้ว่ามันจะอยู่ท่ามกลางแสงแดด

พวกเราเป็นชนกลุ่มน้อยที่อยู่ในเทือกเขานี้
ไม่เพียงแต่เรื่องเชื้อชาติที่มีคนน้อยแล้ว
แต่ยังมีเรื่องภูมิอากาศที่เราต้องเผชิญหน้า
บางอย่างที่ทำได้ผลใน New York หรือ New Delhi
แต่ก็ทำไม่ได้ในแถบภูเขาแห่งนี้

เราต้องหาวิธีของเราเองในการแก้ไขปัญหาของพวกเราเอง
ถ้าชาวบ้านในท้องถิ่นเราปรับตัวได้
ลูกหลานของพวกเราจะได้ไม่ต้องกลายเป็นผู้อพยพ
เพราะปัญหาจากสภาพภูมิอากาศ(ที่ทำมาหากินไม่ได้)  " Sonam  Wangchuk


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Can ice stupas solve the water crisis in the Himalayan Desert? - BBC News




เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/xMp7XA
https://goo.gl/8q2oEA
https://goo.gl/pPECHN













แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่