Tpipp (Update)

กระทู้สนทนา
ตามที่บริษัทนี้เคยเขียนเชียร์ไป (ตัวไหนเชียร์จะคอยติดตามให้) ตอนนั้นจำได้ว่าเคยเทียบกับ Bpp vs Tpipp vs Whaup เพราะราคาไปไม่ไกลและอยู่ในระดับเดียวกับ Ipo

มาวันนี้ ราคาจากเคยเชียร์ร่วงกราวจากช่วง 7.8x มากองอยู่ที่ 6.9x ณ ปัจจุบัน หรือลงมาราว 13% เหตุผลหลักๆน่าจะมาจากการเลื่อน COD ของโรงไฟฟ้าทั้ง 3 โรง (หนังสือชี้ชวนกำหนด COD ครบ 440MW ภายใน 2560) จำได้ว่าราคาเริ่มเทกระจาดครั้งแรกจากระดับ 8.3x ในครั้ง Opp Day (เดือน พ.ย.) ที่แจ้งว่าจะเลื่อน COD 1-2 โรง และราคาก็ถูกเทอีกครั้งในเดือน ก.พ. หลังจากทราบว่าทั้ง 3 โรงก็ยังไม่ได้ COD

หลังจากประกาศงบปี 2560 บริษัทมีกำไรราว 2,600 ล้าน จากการ COD 150MW (80MW เป็นเชื้อเพลิงจากขยะ) โดยไตรมาส 4 แม้จะมีการขายไฟนิวไฮถึง 233 ล้านหน่วย แต่ก็แลกมาด้วยการบันทึกค่าใช้จ่ายจนกำไรผิดคาดไปเกือบ 200 ล้าน (สังเกตว่าทุกโรงไฟฟ้าจะนำค่าใช้จ่าย, ค่าเสื่อมมารวมไว้ใน Q4 กันทั้งหมด) [ปริมาณขายไฟของบริษัท http://www.tpipolenepower.co.th/quarterly_electricity.html]

พัฒนาการเชิงบวกคืออะไร?
-ในเดือน มี.ค. ข่าวที่ชัดเจนสุดคือการ First Sync โรง Tg6 15 มี.ค. และน่าจะผ่านเรียบร้อย เพราะคุณประชัยยืนยันเองผ่าน Facebook เหลือแต่การลงนามเริ่ม COD ในเดือน เม.ย. ส่วนโรงที่ลงทุนสูงสุด Tg8 ก็จะเทสรันในเดือน เม.ย. (รอ Research อีกครั้ง ว่า EHIA รอบ 4 ได้รับยืนยันแล้วหรือไม่) ส่วนโรง Tg7 ดูจากวัตถุประสงค์ไว้คอยแบคอัพ ก็คงไม่สำคัญเท่าโรง Tg6 (Tg6 เป็นโรงที่จะสร้างกำไรได้อีกเท่าตัว)
-นโยบายรัฐยังต่อเวลาโครงการ Quick Wind 78MW หมายความว่าในอนาคตโครงการพวกนี้จะมีการประกาศให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ถือว่าเป็น 1 ในพลังงานทดแทนที่รัฐยังคงสนับสนุนใน 5 ปีที่งดรับ (นอกจากเชื้อเพลิงชีวมวล)
-ไฮไลท์ของบริษัทก็จะเป็นการประกาศรายชื่อโครงการโรงไฟฟ้า 20MW (นนทบุรี) สิ้น เม.ย. นี้ และโรงไฟฟ้า 30-40MW กรุงเทพฯที่อยู่ระหว่างกำหนด TOR

จุดแข็งของบริษัทในตอนนี้
-คือเป็นเรื่อง R&D และ Eco of Scale ที่จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิง RDF เป็น 180MW ซึ่งจะทำให้คู่แข่งมีต้นทุนที่เสียเปรียบกว่ามาก และพัฒนาการความร้อน RDF เดิมทำได้ราว 3,500 Kcal ปัจจุบัน 4,500 Kcal ถือว่าทำได้ระดับเดียวกับเครือ Scg แล้ว (เสียดายเครือนี้ไม่เล่นโรงไฟฟ้า)
-บริษัทยัง Operate แบบ Net Cash ยังไม่มีหนี้ระยะยาว ส่วนทุนราว 2.4 หมื่นล้าน ยังจะสามารถกู้ขยายกิจการได้ 2-3 หมื่นล้าน (จุดแข็งของ Bpp ก็เช่นกัน แต่ Bpp กลับถูกบริษัทแม่แยกพลังงานทดแทนออกมา ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกับลูก)
-บริษัทจ่ายปันผลในระดับ 50% ปีนี้ถ้ากำไรสุทธิราว 5 พันล้าน ก็น่าจะจ่ายได้ไม่ต่ำกว่าเดิมคือ 30 สตางค์ (ปันผล 4-5%) และกันอีก 2,500 ล้านไว้รองรับการขยายธุรกิจ

ปล. Market Cap 5.7 หมื่นล้าน ไม่ใช่บริษัทถูกๆ แต่ก็ไม่ได้แพงถ้าช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจะทำกำไรในระดับ 5-7 พันล้านได้ (คิดที่ P/E 10 เท่า) และยังมีฐานะทางการเงินที่จะขยายธุรกิจได้มากพอสมควร (ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องฐานะทางการเงิน) ...อยากให้ทนถืออีกซักหน่อยครับ
      -Clip ล่าสุดฮะ ผู้บริหารยังไร้เสน่ห์ในการสื่อสารพอควร แต่ดูไม่มีพิษมีภัย https://youtu.be/MprI_G7DG4g
      -บทความในอดีตของผู้บริหาร
       ของ Forbs http://www.forbesthailand.com/people-detail.php?did=1865
       อดีตพอสังเขปของนายรอนนี่ https://www.dailynews.co.th/article/267647
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่