🇹🇭🍬~มาลาริน~ว้าว ! ดูกันชัดๆ...เปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา...ปี 2561 ส่งออก 2 เดือนแรกขยายตัว13.8% สูงสุดรอบ7 ปี

ส่งออก2เดือนแรกขยายตัว13.8% สูงสุดรอบ7ปี



กระทรวงพาณิชย์ รายงานการส่งออกของไทยในเดือนก.พ. 2561 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องที่ 10.3% หรือคิดเป็นมูลค่า 20,365 ล้านดอลลาร์ โดยการส่งออกรวม 2 เดือนแรกขยายตัว 13.8%

การส่งออกรายตลาดขยายตัวได้ดีและสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในทุกตลาดสำคัญ โดยเฉพาะ สหรัฐฯ เอเชียใต้ อาเซียน(5) และ CLMV นอกจากนี้มีการกระจายสู่ตลาดศักยภาพและตลาดใหม่อื่นๆ ได้มากขึ้น
อาทิ ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ตามแนวทางการสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และกระชับความสัมพันธ์เชิงรุก

สินค้ากลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 โดยเฉพาะ ข้าว ไก่สดแช่แข็งและแปรรูปที่ขยายตัวดีต่อเนื่องและเป็นการขยายตัวทั้งด้านปริมาณและราคา รวมถึงผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ที่ขยายตัวได้ดีจากปัจจัยทางด้านราคาเป็นหลัก

ขณะที่ ยางพารา น้ำตาลทราย และอาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูปหดตัวเล็กน้อย

สำหรับสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยสินค้าที่มีการขยายตัวในระดับสูง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ



มูลค่าการค้ารวม

มูลค่าการค้าในรูปของเงินบาท เดือนกุมภาพันธ์

การส่งออกมีมูลค่า 643,706 ล้านบาท หดตัว  0.6% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 626,231 ล้านบาท ขยายตัว 4.7%  ส่งผลให้การค้าเกินดุล 17,475 ล้านบาท

รวม 2 เดือนแรกของปี 2561

การส่งออกมีมูลค่า 1,296,217 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.1%)  การนำเข้ามีมูลค่า 1,290,875 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8.9%)  และการค้าเกินดุล 5,342 ล้านบาท

มูลค่าการค้าในรูปของเงินดอลลาร์ เดือนกุมภาพันธ์

การส่งออกมีมูลค่า 20,365 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 10.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 19,557 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวตัว 16.0%  ส่งผลให้การค้าเกินดุล 808 ล้านดอลลาร์

รวม 2 เดือนแรกของปี 2561

การส่งออกมีมูลค่า 40,467 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 13.8%)  การนำเข้ามีมูลค่า 39,778 ล้านดอลลาร์(เพิ่มขึ้น 20.1%) และการค้าเกินดุล 689 ล้านดอลลาร์


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ไทยเพิ่งส่งออกเนื้อไก่ไปจีน......
ไทยส่งผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเที่ยวปฐมฤกษ์ไปจีนแล้ว



ไทยส่งผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเที่ยวปฐมฤกษ์ไปจีนแล้ว  คาดสร้างรายได้เข้าประเทศได้กว่า 7,000 ล้านบาทต่อปี

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานพิธีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์บรรจุผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกเที่ยวปฐมฤกษ์ ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน สู่ท่าเรือกวนเหล่ย มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านในแม่น้ำโขงของประเทศจีน ห่างจาก อ.เชียงแสน ประมาณ 263 กิโลเมตร ตอกย้ำความเชื่อมั่นในความเชื่อมั่นในคุณภาพ และความปลอดภัยด้านอาหาร (Food safety) ของผู้บริโภคชาวจีนที่มีต่อผลิตภัณฑ์ไก่ของไทย



นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เดิมประเทศไทยเคยส่งออกสินค้าเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ปีกปรุงสุกไปยังประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างต่อเนื่อง แต่ได้หยุดส่งออกเนื่องจากการเกิดโรคไข้หวัดนกระบาด ในช่วงต้นปี 2547  และตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายส่งเสริมการส่งออก ในปี 2560 กรมปศุสัตว์จึงได้เชิญคณะผู้เชี่ยวชาญจากจีน มาตรวจสอบระบบการกำกับดูแลการผลิตเนื้อสัตว์ปีก และตรวจสอบโรงงานเชือดสัตว์ปีกในประเทศไทย จำนวน 19 แห่ง หลังการตรวจสอบเสร็จสิ้นฝ่ายจีนมีความพึงพอใจเป็นอย่างมากจนนำไปสู่การร่วมจัดทำพิธีสาส์นว่าด้วยเงื่อนไขหลักเกณฑ์การตรวจสอบการกักกันและสุขอนามัยในการนำเข้าไก่แช่แข็งและชิ้นส่วนจากราชอาณาจักรไทย ไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างสำนักงานกำกับควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบและกักกันแห่งชาติ (AQSIQ)  สาธารณรัฐและประชาชนจีน และกรมปศุสัตว์

ด้าน นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักงานการขึ้นทะเบียนรับรองและหน่วยรับรองระบบงานแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือ CNCA ได้ประกาศขึ้นทะเบียนรายชื่อบริษัทผู้ผลิตเนื้อไก่สดของไทยจำนวน 7 ราย ทำให้ประเทศไทยสามารถส่งออกเนื้อไก่สดได้อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป โดยจีนกำหนดให้ขนส่งสินค้าผ่านเฉพาะทางท่าเรือกวนเล่ย เมืองเชียงรุ้ง หรือจิ่งหง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนติดชายแดนลาว และอยู่ใกล้กับเขตอ.เชียงแสน จ.เชียงราย

“การส่งออกสินค้าเฉพาะในล็อตแรกนี้มีจำนวน 14 ตู้คอนเทนอนอร์ มูลค่าราว 35 ล้านบาท และจะมีการส่งออกต่อเนื่อง  โดยประเมินว่าการส่งออกของทั้ง 7 โรงงาน จะสร้างรายได้ประมาณ 7,000 ล้านบาท ต่อปี แต่ถ้าได้รับรองโรงงานครบทั้ง 19 แห่ง จะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศไทยประมาณ 20,000 ล้านบาทต่อปี” น.สพ.สมชวน กล่าว

http://www.thansettakij.com/content/272763

พาณิชย์ชี้ส่งออกข้าวไทยมีอนาคต แค่ต้นปีทำสถิติส่งออก ได้สูงสุด 1 ล้านตัน จ่อร่วมประมูลตลาดฟิลิปปินส์ 2.5 แสนตัน ลุ้นราคาขยับต่อเนื่อง



ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ก.พ. 2561 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกประมาณ 1 ล้านตัน โดยเป็นการส่งออกข้าวขาว 7.7 แสนตัน  ราคาส่งออกอยู่ระหว่าง 422-470 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน คำนวณเป็นราคาข้าวเปลือกที่ประมาณ 7,550-8,200 บาท/ตัน สูงกว่าราคาข้าวขาวของปีที่ผ่านมา

อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/economy/540594


ส่งออกรถยนต์ก.พ.61โต4% กว่า102,217คัน มูลค่า5หมื่นล้าน



โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เผยยอดส่งออกรถยนต์ ก.พ.61 โต 4.05% มาที่ 102,217 คัน มูลค่าการส่งออก 52,273 ล้านบาท

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน ก.พ.61 ส่งออกได้ 102,217 คัน เพิ่มขึ้น 4.05% จากเดือน ก.พ.60 โดยมีมูลค่าการส่งออก 52,273.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.72% จากเดือน ก.พ.60 โดยตลาดตะวันออกกลาง และตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้เป็นบวกมา 4 เดือนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ตลาดออสเตรเลียยังคงเติบโตดีมาก ส่วนตลาดแอฟริกา ยุโรป และเอเชียส่งออกลดลง โดยตลาดเอเชียลดลงจากการชะลอส่งออกไปยังประเทศเวียดนามที่คุมเข้มรถยนต์ที่นำเข้า

ทั้งนี้ส่งผลให้ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.พ.61) มีการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปได้ 184,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีมูลค่าการส่งออก 94,287.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน

ขณะที่การผลิตรถยนต์ทั้งหมดในเดือน ก.พ.61 มีทั้งสิ้น 178,237 คัน เพิ่มขึ้น 15.37% จากเดือน ก.พ.60 จากการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกและเพื่อจำหน่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้นทุกประเภท และเพิ่มขึ้น 7.25% จากเดือน ม.ค.61 โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 344,433 คัน เพิ่มขึ้น 12.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/796314


ส่งออกดีกว่าที่ผ่านมา แสดงถึงว่าเราขายของได้มากกว่าที่ผ่านมาสิคะ.....👍👍👍👍👍👍


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่