วันนี้ได้รับจดหมายจากบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งค่ะ บอกว่าเรามีหนี้ค้างชำระกับบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นเงิน 872.33 บาท
ให้ชำระก่อน 30 เมษายน ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
จุดที่อยากจะถามเพื่อนๆคือ
1. บริษัทกฎหมายนี้มีตัวตนจริงๆมั้ย เพราะเท่าดู เคยมีหลายกระทู้เลยค่ะ ที่ได้รับจดหมายทำนองเดียวกันจากบริษัทนี้ แต่ดูที่เบอร์โทรที่หัวจดหมายของเราไม่เหมือนกับของอีกกระทู้นึง ถ้าเบอร์มือถือก็ว่าไปอย่างแต่เบอร์ 02 ไม่ใช่ค่ะ คนละเบอร์เลย แต่เบอร์แฟ็กซ์เป็นเบอร์เดียวกัน
2.ถ้ามีตัวตนจริง ทรูให้บริษัทนี้มีติดตามทวงหนี้จริงหรือเปล่า เท่าที่เช็คดูจากSME Link บริษัทนี้ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะได้รับมอบหมายจากทรูซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราเอง
3.เลขที่สัญญา ซึ่งเราดูแล้วจากใบแจ้งหนี้ทุกใบของทรูที่จดภายใต้ชื่อเรา ไม่มีเลขที่สัญญานี้
4.ตรงแบบฟอร์มชำระเงิน ระบุว่า "บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต้องสะกดว่า ทรู อินเทอร์เน็ต
5. นำเลข 13 หลักผู้เสียภาษีกับ
http://www.rd.go.th/publish/313.0.html ก็ไม่พบค่ะ
แต่เลขของทรู อินเทอร์เน็ต คือ 0105549025026 จากเว็บของสรรพากร
จริงๆอยากจบกระทู้ไว้แค่นี้ แต่ขณะที่กำลังตั้งกระทู้พนักงานทรูก็ติดต่อมา หากทางทรูชี้แจงได้ว่ามันเป็นยอดอะไรของ ใบแจ้งหนี้เดือนไหน เลขที่อะไรได้ก็จะยินดีจ่ายค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากรหัสลูกค้าให้ ซึ่งได้ความว่า
มันเป็นยอดค้างจริงๆ ค่ะ จากการที่เราเปลี่ยนไปใช้ทรูสมาร์ทช้อย ทำให้แต่เดิมที่เราเป็นลูกค้า ของทรูมูฟ อินเตอร์เนต และวิสชั่น ถูกรวมบิลมาเป็นใบเดียว แล้วเลยต้องยกเลิกรหัสลูกค้าเดิม (ทั้งสามบริการเกิดจากนิติบุคคลคนละเจ้ากัน แต่เรามักจะพูดว่าทรูๆ เลยคิดตลอดว่ามันเป็นนิติบุคคลเดียว สรุปว่าทางกฎหมายทั้งสามเจ้านี้คือคนละเจ้ากัน) ทำให้ในระบบปัจจุบันเรามองไม่เห็นยอดค้างของบิลอินเตอร์เนตเดิม อันนี้ยอมรับได้
แต่ว่ามีงงๆอยู่เหมือนกันเพราะปกติพวกนี้จะเป็นระบบเก็บเงินล่วงหน้าอยู่แล้ว ถ้าเราเลิกใช้อินเตอร์เน็ตแบบเก่าเดือนธันวาคม แสดงว่าค่าบริการของธันวาคมเราจ่ายไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แล้วทำไมยังมีใบแจ้งหนี้ของเดือนธันวาคมมาอีก และระบบแจ้งว่ายอดสุดท้ายที่จ่ายคือยอดของเดือนพ.ย.
ปกติเราไม่เคยดูประมาณว่าบิลที่จ่ายมันของเดือนอะไร มีแต่ใกล้ตัดแล้วก็ไปจ่าย ซึ่งตอนนี้เราต้องหวนมาดูแล้วล่ะว่าที่จ่ายไปมันเป็นยอดของเดือนไหน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
ปล.เรื่องตัวตนของสำนักงานกฎหมายไม่น่าจะมีอะไรสำคัญถ้าทางทรูยืนยันได้ว่าให้บริษัทนี้จัดการทวงถามแทน เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่สบายใจจะจ่ายที่ช้อปก็ได้ แต่ถามว่าลูกค้าจะพอใจมั้ย เพราะเราก็ยังใช้บริการของคุณอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน ที่เปลี่ยนคือแค่เปลี่ยนแพ็คเกจในเครือของคุณก็ควรจะทำระบบซัพพอร์ทให้มีดีกว่านี้ ไม่ใช่โอนยอดไปให้สำนักกฎหมายทวง เรื่องนี้ถือว่าคุณสอบตก
ใครเคยได้จดหมายทวงหนี้ของ True จากบริษัทกฎหมายบ้างคะ
ให้ชำระก่อน 30 เมษายน ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
จุดที่อยากจะถามเพื่อนๆคือ
1. บริษัทกฎหมายนี้มีตัวตนจริงๆมั้ย เพราะเท่าดู เคยมีหลายกระทู้เลยค่ะ ที่ได้รับจดหมายทำนองเดียวกันจากบริษัทนี้ แต่ดูที่เบอร์โทรที่หัวจดหมายของเราไม่เหมือนกับของอีกกระทู้นึง ถ้าเบอร์มือถือก็ว่าไปอย่างแต่เบอร์ 02 ไม่ใช่ค่ะ คนละเบอร์เลย แต่เบอร์แฟ็กซ์เป็นเบอร์เดียวกัน
2.ถ้ามีตัวตนจริง ทรูให้บริษัทนี้มีติดตามทวงหนี้จริงหรือเปล่า เท่าที่เช็คดูจากSME Link บริษัทนี้ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะได้รับมอบหมายจากทรูซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราเอง
3.เลขที่สัญญา ซึ่งเราดูแล้วจากใบแจ้งหนี้ทุกใบของทรูที่จดภายใต้ชื่อเรา ไม่มีเลขที่สัญญานี้
4.ตรงแบบฟอร์มชำระเงิน ระบุว่า "บริษัท ทรู อินเตอร์เน็ต จำกัด" ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ต้องสะกดว่า ทรู อินเทอร์เน็ต
5. นำเลข 13 หลักผู้เสียภาษีกับ http://www.rd.go.th/publish/313.0.html ก็ไม่พบค่ะ
แต่เลขของทรู อินเทอร์เน็ต คือ 0105549025026 จากเว็บของสรรพากร
จริงๆอยากจบกระทู้ไว้แค่นี้ แต่ขณะที่กำลังตั้งกระทู้พนักงานทรูก็ติดต่อมา หากทางทรูชี้แจงได้ว่ามันเป็นยอดอะไรของ ใบแจ้งหนี้เดือนไหน เลขที่อะไรได้ก็จะยินดีจ่ายค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากรหัสลูกค้าให้ ซึ่งได้ความว่า
มันเป็นยอดค้างจริงๆ ค่ะ จากการที่เราเปลี่ยนไปใช้ทรูสมาร์ทช้อย ทำให้แต่เดิมที่เราเป็นลูกค้า ของทรูมูฟ อินเตอร์เนต และวิสชั่น ถูกรวมบิลมาเป็นใบเดียว แล้วเลยต้องยกเลิกรหัสลูกค้าเดิม (ทั้งสามบริการเกิดจากนิติบุคคลคนละเจ้ากัน แต่เรามักจะพูดว่าทรูๆ เลยคิดตลอดว่ามันเป็นนิติบุคคลเดียว สรุปว่าทางกฎหมายทั้งสามเจ้านี้คือคนละเจ้ากัน) ทำให้ในระบบปัจจุบันเรามองไม่เห็นยอดค้างของบิลอินเตอร์เนตเดิม อันนี้ยอมรับได้
แต่ว่ามีงงๆอยู่เหมือนกันเพราะปกติพวกนี้จะเป็นระบบเก็บเงินล่วงหน้าอยู่แล้ว ถ้าเราเลิกใช้อินเตอร์เน็ตแบบเก่าเดือนธันวาคม แสดงว่าค่าบริการของธันวาคมเราจ่ายไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แล้วทำไมยังมีใบแจ้งหนี้ของเดือนธันวาคมมาอีก และระบบแจ้งว่ายอดสุดท้ายที่จ่ายคือยอดของเดือนพ.ย.
ปกติเราไม่เคยดูประมาณว่าบิลที่จ่ายมันของเดือนอะไร มีแต่ใกล้ตัดแล้วก็ไปจ่าย ซึ่งตอนนี้เราต้องหวนมาดูแล้วล่ะว่าที่จ่ายไปมันเป็นยอดของเดือนไหน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
ปล.เรื่องตัวตนของสำนักงานกฎหมายไม่น่าจะมีอะไรสำคัญถ้าทางทรูยืนยันได้ว่าให้บริษัทนี้จัดการทวงถามแทน เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไม่สบายใจจะจ่ายที่ช้อปก็ได้ แต่ถามว่าลูกค้าจะพอใจมั้ย เพราะเราก็ยังใช้บริการของคุณอยู่ ไม่ได้หนีไปไหน ที่เปลี่ยนคือแค่เปลี่ยนแพ็คเกจในเครือของคุณก็ควรจะทำระบบซัพพอร์ทให้มีดีกว่านี้ ไม่ใช่โอนยอดไปให้สำนักกฎหมายทวง เรื่องนี้ถือว่าคุณสอบตก