"ในอยุธยาผัวมีอำนาจมากกว่าเมีย" ตัดภาพไปที่ EP10สิ
ร้อยสังวาลไว้ง้อน้องหญิง!!!!
เชื่องกว่าแมวอีกนะเจ้าค่ะ คุณพี่!!!!!!
พระไอยการลักษณะผัวเมียหรือกฎหมายลักษณะผัวเมีย ในสมัยอยุธยานั้น ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน
ทั้งนี้กฎหมายยังได้แบ่งภรรยาออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. 'เมียกลางเมือง' หมายถึง ภรรยาที่พ่อแม่จัดการให้แต่งงานกับลูกชายของตน มีการสู่ขอ เรียกสินสอดและขันหมากตามประเพณี ถือว่าเป็นภรรยาหลวง เมียกลางเมืองจะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของสามี
2. 'ภรรยาพระราชทาน' หมายถึง ภรรยาที่พระมหากษัตริย์พระราชทานมาเพื่อตอบแทนความดีความชอบ ภรรยาพระราชทานจะถือศักดินาเท่ากับเมียกลางเมือง
3. 'เมียกลางนอก' หมายถึง อนุภรรยาที่ชายขอมาเลี้ยง จะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของเมียกลางเมือง
4. 'เมียกลางทาสี' หมายถึง ทาสที่ผู้ชายไถ่ตัวมาเป็นภรรยา หากมีลูกด้วยกัน ศักดินาจะเท่ากับเมียกลางนอก
ภรรยาทั้ง 4 ประเภทมีสถานภาพเสมือนทรัพย์สินของสามี สามีมีสิทธิยกภรรยาให้ใครก็ได้ และยังมีสิทธิจะขายภรรยาของตนโดยไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้าตัวรับรู้หรือยินยอมก็ได้
[[บุพเพสันนิวาส]] ในอยุธยาผัวมีอำนาจมากกว่าเมีย
ร้อยสังวาลไว้ง้อน้องหญิง!!!!
เชื่องกว่าแมวอีกนะเจ้าค่ะ คุณพี่!!!!!!
พระไอยการลักษณะผัวเมียหรือกฎหมายลักษณะผัวเมีย ในสมัยอยุธยานั้น ชายสามารถมีภรรยาได้หลายคน
ทั้งนี้กฎหมายยังได้แบ่งภรรยาออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. 'เมียกลางเมือง' หมายถึง ภรรยาที่พ่อแม่จัดการให้แต่งงานกับลูกชายของตน มีการสู่ขอ เรียกสินสอดและขันหมากตามประเพณี ถือว่าเป็นภรรยาหลวง เมียกลางเมืองจะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของสามี
2. 'ภรรยาพระราชทาน' หมายถึง ภรรยาที่พระมหากษัตริย์พระราชทานมาเพื่อตอบแทนความดีความชอบ ภรรยาพระราชทานจะถือศักดินาเท่ากับเมียกลางเมือง
3. 'เมียกลางนอก' หมายถึง อนุภรรยาที่ชายขอมาเลี้ยง จะถือศักดินาครึ่งหนึ่งของเมียกลางเมือง
4. 'เมียกลางทาสี' หมายถึง ทาสที่ผู้ชายไถ่ตัวมาเป็นภรรยา หากมีลูกด้วยกัน ศักดินาจะเท่ากับเมียกลางนอก
ภรรยาทั้ง 4 ประเภทมีสถานภาพเสมือนทรัพย์สินของสามี สามีมีสิทธิยกภรรยาให้ใครก็ได้ และยังมีสิทธิจะขายภรรยาของตนโดยไม่จำเป็นต้องบอกให้เจ้าตัวรับรู้หรือยินยอมก็ได้