บริษัทเราจะเปิดบริษัทลูก(สาขาย่อย)ในโซนASEANเพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงข่ายไร้สายและในช่วงแรกเริ่มก่อตั้งนี้ทุกคนก็เห็นควรว่าเราถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดที่จะถูกส่งไปเป็นExecutive Directorที่จะนำทีมงานจากจีนเข้าไปดำเนินการควบคุมดูแลและสนับสนุนบริษัทสาขาในประเทศไทยเพราะเราเป็นExecutive Secretaryเพียงคนเดียวของเจ้านนายและยังถือเป็นเพื่อนสนิท/ครอบครัวที่แน่นแฟ้นของเจ้านาย.
เราดีใจที่จะได้กลับไทยแต่ก็เศร้ามากมายที่จะต้องจากลากับเพื่อนๆในประเทศจีน. โดยเฉพาะเพื่อนในออฟฟิศ,เจ้านาย,น้องชาย(ลูกเจ้านาย)และที่สำคัญคือคนที่เราแอบชอบ
จากกระทู้ก่อนคือเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้นเรื่อยมาตามลำดับจะอ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้ค่ะ
https://m.ppantip.com/topic/37322436?
และอันนี้เป็นเรื่องราวช่วงตรุษจีนเป็นเรื่องราวที่เราไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดของคนที่เราชอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้วันทำงานวันสุดท้ายก่อนวันหยุดตรุษจีนบริษัทจัดงานเลี้ยงก็มีทานข้าวแล้วไปดื่มเหล้ากันต่อที่KTV. บริษัทเราจองห้องไว้4ห้องก็แยกกันปาร์ตี้ตามอัธยาศัย เรากับพวกเจ้านายอยู่ห้องเดียวกันทุกคนดื่มเหล้าร้องเพลงเฮฮายกเว้นเราเพราะทุกคนรู้ว่าหากเจ้านายไม่อุณหญาติก็ไม่มีใครกล้ามาชนแก้วกับเรา เราเลยได้แต่ดื่มคนเดียวเงียบๆจนเบียร์หมดไป3ขวดเจ้านายที่ว่างจากการรับชนแก้วถึงบอกให้เราไปชนแก้วกับคนอื่นได้
เรากับอวี้ชิงไม่ค่อยได้ดื่มด้วยกันทำให้อวี้ชิงไม่ยอมดื่มกับเราแต่พอหลังๆเห็นเราดวนเบียร์กับเหมาเหมาแบบกระดกเบียร์ทีเดียวหมดขวดติดกันรวดเดียว3ขวดแล้วยังไม่สะทกสะท้านก็ยอมเล่นเต๋าโกหกกับเรา เราหนะเซียนเต๋าโกหกเลยหละจะบอกให้เพราะเล่นกับพวกเจ้านายบ่อยไงทีนี้อวี้ชิงกับเหมาเหมาเลยโดนเรามอมจนหลบไปอ้วกกันเลยหละ. ช่วงหลังสองคนนั้นเริ่มบ่ายเบียงแกล้งเทเหล้าแค่ครึ่งแก้วเราก็เลยอาสาเป็นแผนกชงเอง. อวี้ชิงก็ชอบส่งสายตาดุดุมาให้พอมีครั้งหนึ่งเราเทให้อวี้ชิงเต็มแก้วเขาก็ส่งสายตามาดุเราพร้อมยื่นมือมาจับคอเราไว้ทำเหมือนจะบีบคอแต่ไม่ได้ออกแรงอะไร. เราจ้องตาเขาแบบใสใสไร้เดียงสา อวี้ชิงจ้องตอบแล้วก็รีบปล่อยมือหันไปทางอื่นแทน
พอขากลับเจ้านายมาส่งเราที่ที่พักซึ้งเรากับอวี้ชิงอยู่ซอยเดียวกัน. แต่รปภ.ของหอเราไม่อยู่รออยู่นานสุดท้ายอวี้ชิงเลยตัดสินใจดันเราข้ามรั้วเข้าหอพักไป
ตอนแรกช่วงวันหยุดตรุษจีนเรามีแพลนจะไปเที่ยวจางเจียเจี้ยค่ะก็มีแอบชวนคนที่เราชอบหรือก็คืออวี้ชิงไปด้วยแหละและเขาก็ตอบตกลงแล้วแต่ตอนหลังเจ้านายเราเร่งรัดอวี้ชิงให้กลับบ้านพร้อมเจ้านายและเราเองก็ถูกเพื่อนเบี้ยวนัดเลยกลายเป็นถูกเจ้านายมัดมือชกให้ไปฉงชิ่งบ้านพวกเขาแทน
วันก่อนที่ออกเดินทางเราขับรถไปเที่ยวหางโจวกับเพื่อนที่รู้จักกันนอกบริษัท(เพราะยังไม่รู้ว่าเจ้านายจะกลับบ้านในวันถัดมาเพราะเขาไม่ได้แจ้งกำหนดการเราล่วงหน้า )ระหว่างอยู่หางโจวอวี้ชิงอยู่ๆก็โทรมาทั้งที่ไม่เคยโทรหากันเลยเขาถามว่าวันนี้เขาเข้าไปเอาของที่บริษัททำไมเราไม่อยู่ปรกติเห็นชอบหมกอยู่ห้องทำงาน เราก็บอกว่าเราออกมาหางโจวเดี๋ยวดึกๆกลับไป. พอวันต่อมาเจ้านายโทรมาตามแบบกระทันหันเราก็เลยต้องรีบให้เพื่อนขับรถกลับมาส่งพอมาถึงบริษัทเราไม่เห็นใครเลยในใจก็นึกว่าเขาไปกันแล้วแต่ก็เดินเข้าไปดูในห้องทำงานตัวเองก็พบอวี้ชิงถือกุญแจใหญ่ๆรอล็อคห้องอยู่. เขาถามเราว่าไปหางโจวกับใครไปทำไม ไปยังไง ไปเมื่อไหร่ เราก็ตอบไปตามตรงแต่แอบงงๆว่าปรกติไม่เคยถามนี่หว่า
พอออกเดินทางพวกเราขับรถกันมาแบ่งห้าคันใช้เวลาขับ2วันมีแวะพักระหว่างวัน
ระหว่างทางเรากับอวี้ชิงคุยกันน้อยมากเลยเพราะอยู่กันคนละคันเรานั่งมากับเจ้านายจนถึงฉงชิ่ง
คนในบริษัทส่วนมากเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันเกือบหมดอวี้ชิงกับเจ้านายเราเป็นญาติกันบ้านติดกันแบบหลังคาเดียวกันแต่แยกเรือน(บ้านจีนแบบเก่าโบราณ) เราพักเรือนแม่ของเจ้านายห้องที่เราพักหน้าต่างชนกับห้องอวี้ชิงพอดี. เขินขอลาตายแป๊บ.555+
คืนแรกที่มาถึงเจ้านายก็ออกไปเฮฮากับเพื่อนๆเลยฝากเราไว้ให้ลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงของเขาดูแลซึ่งพี่สาวของเจ้านายก็พาเราออกไปทานปิ้งย่างกับพวกเพื่อนๆสาวๆของเธอ. มีผู้หญิง5คนหนึ่งในนั้นมีพี่สาวของอวี้ชิงอยู่ด้วยและผู้ชายอีก1คนก็คืออวี้ชิงนั้นเอง
เราเดินเท้าจากหมู่บ้านไปในตัวตำบล ระหว่างที่เดินอวี้ชิงก็ถ่ายคลิปล้อเรียนกลุ่มผู้หญิงอัดลงวีแชท.
เราเป็นคนเข้ากับคนง่ายแป๊บเดียวก็สนิทกับทุกคนแล้วเราก็ดื่มกันจนพี่สาวอวี้ชิงเมาไม่เป็นท่าต้องแบกยกแบกหามพากลับซึ่งคนที่แบกก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากฉันที่แรงเยอะกว่าผู้หญิงคนอื่นและอวี้ชิงที่เป็นน้องชาย. (อวี้ชิงแลดูดุมากเขาดุพี่สาวอย่างกับพ่อดุลูกเลย)
ช่วงเวลาครึ่งเดือนที่อยู่บ้านเจ้านายเรามีความสุขมาก เราช่วยพ่อ-แม่เจ้านายทำงานบ้านขึ้นเขาไปขุดมันขุดเผือกเผาฟืนสุมไฟ. ทำอาหารหม้อใหญ่กินกันทั้งหมู่บ้านเวลาว่างก็พากันซุกตัวในถังไม้ที่มีถ่านไฟอบอุ่นไว้แก้หนาวและเลี้ยงลูกชายวัย8ขวบของเจ้านายที่ติดเรามากมาแต่ไหนแต่ไร(เจ้านายเราเป็นพ่อม้ายลูกติดเราเรียกลูกเจ้านายว่าน้องชาย). ในขณะที่เจ้านายต้องออกไปปาร์ตี้ตามคำเชิญของเพื่อนฝูงแทบทุกวันอย่างเลี่ยงไม่ได้. ช่วงเวลานั้นก็เป็นวิธีชีวิตแบบที่เราไม่เคยใช้มาก่อนทั้งเรียบง่ายแปลกใหม่และสงบสุขจนเราไม่อยากอยู่ในสังคมเมืองอยากย้ายมาอยู่ในชนบทที่ฉงชิ่งใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่เจ้านายก็บอกว่าตั้งใจทำงานนะที่หลังบ้านตรงนี้เขาจะยกให้เราไว้สร้างบ้าน. . (เราวาดแปลนบ้านไว้เล่นๆวางแผนไว้ว่าภายในสองปีจะสร้างบ้านที่นี่)
พ่อของเจ้านายเขาเรียกเราว่าหลานสาวเขาบอกว่าปีนี้เจ้านายจะแต่งเติมบ้านพวกเขาจะวาดแบบให้เพิ่มเรือนเล็กให้ฉันกับน้องชายอยู่ด้วยกันอีกหน่อยเวลากลับมาจะได้มีห้องเป็นของตัวเอง.
ช่วงตรุษจีนเราเจออวี้ชิงแทบทุกวันแต่ไม่ค่อยมีเวลาคุยกันเลย. เรากับแม่ของอวี้ชิงเสียอีกที่คุยกันบ่อยมากเพราะช่วยกันทำอาหาร(คนในหมู่บ้านนี้จะมาทานข้าวบ้านเจ้านายเรากันส่วนใหญ่).
แม่อวี้ชิงค่อนข้างเอ็นดูเรา. เราเข้ากันได้ดีและเขาค่อนข้างหนักใจว่าลูกชายคนเล็กกำลังจะแต่งงานแต่ทำไมอวี้ชิงถึงยังไม่ยอมหาแฟนสักที. เราก็บอกเขาว่าบางทีเขาอาจจะยังไม่พร้อมเขาคงอยากมีความมั่นคงก่อนก็เป็นได้.(ในใจก็อยากบอกจริงๆว่าหนูขอจองตำแหน่งสะใภ้แม่ได้มั้ย) แม่เขาก็เอาแต่บ่นว่าบ้านก็มีรถก็มีทำไมถึงยังไม่พร้อมสักที(รายได้ต่อปีของอวี้ชิงไม่น้อยเลย. ค่าคอมไม่รวมเงินเดือนก็7หลักต้นๆเงินหยวนจีนต่อปีแล้ว).
วันที่1ตามศักราชจีน หรือก็คือหลังจากวันตรุษจีน1วันพวกเราก็วุ้นวายกับการขึ้นไปไหว้สุสานกัน.ในวันนี้จะมีการจุดพลุจุดประทัดกัน3เวลาก่อนอาหารครึก็ครื้นมาก. พ่อของเจ้านายเล่าให้ฟังว่าสมัยราชวงศ์ชิง ตระกูลของเจ้านายเป็นนายพรานล่าเสือที่มีชื่อเสียงมากดังนั้นวิธีไหว้สุสานและการจุดประทัดเผากระดาษเงินจึงกระทำกันตามแบบนายพรานจะไม่เหมือนคนทั่วไป. เราที่เพิ่งมาใหม่เลยติดสอยห้อยตามผู้ชายในบ้านเจ้านายขึ้นเขาลุยป่าหอบเป้ตระกร้าหวายไปเคารพสุสานกับพวกผู้ชายวัยรุ่นในบ้านซึ้งนำโดยเจ้านาย. น้องชายเจ้านาย(อายุเท่าเราแต่เราเรียกเขาว่าอาสาม)และอวี้ชิง(อวี้ชิงแซ่เดียวกับเจ้านายพ่ออวี้ชิงคือน้องชายของพ่อเจ้านาย)ซึ้งมีเราเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม. วันนั้นเดินเหนื่อยมากทั้งขึ้นเขาทั้งลุยแม่น้ำ. ไปหลายสุสาน. (บางสุสานเก่าถึงขนาดแผ่นจารึกระบุว่าเกิดยุคราชวงศ์เสียชีวิตยุคหมิงกั๋ว明国เลยทีเดียว)
ตกช่วงกลางคืนหลังเที่ยงคืนจุดประทัดเสร็จในตอนที่กำลังกล่อมน้องชายนอนอยู่ๆก็มีคนมาตะโกนเรียกหน้าเรือนใหญ่ซึ้งเจ้านายไม่อยู่เราและพ่อเจ้านายเลยเป็นคนออกไปเปิดประตู. กลายเป็นแม่ของอวี้ชิงมาเคาะเรียกบอกว่าอวี้ชิงดื่มเหล้าเมาหลับอยู่ข้างถนนพวกวัยรุ่นออกไปเล่นไฟ่หมดเหลือแค่หญิงชรากับเด็กไม่กี่คนแบกกลับมาไม่ไหวเลยมาขอความช่วยเหลือ
พ่อเจ้านายและเราเลยรีบตรงไปที่เกิดเหตุช่วยกันหิ้วปีกคนละข้างแบกเจ้าตัวปัญหากลับบ้าน. คือเมาเละไม่เหลือสภาพ พ่อเจ้านายก็บ่นๆตามประสาคนแก่ห่วงหลาน.
ตอนเช้าเราเลยตื่นแต่เช้าทำอาหารเช้าให้คนในบ้านเสร็จก็ต้มโจ๊กฟักทองใส่น้ำตาลทรายแดงและหยิบวิตตามินรวมยกไปให้อวี้ชิงโดยที่ไม่อยากให้ใครรู้เราเลยเลือกที่จะปีนหน้าต่างห้องเราไปที่ห้องอวี้ชิงซึ้งอยู่บ้านคนละหลังแต่หน้าต่างชนกัน.
พอเข้าไปก็เจออวี้ชิงนอนขดเป็นก้อนกลมในผ้าห่มผืนหนาเราก็เขย่าปลุกเบาๆพอดีกับที่อวี้ชิงลืมตาขึ้นเหมือนยังไม่สร่างดี. เขาไม่แสดงท่าทีตกใจที่เจอเราแต่กลับเอ่ยปากว่าหิวน้ำ เราเลยยื่นโจ๊กฟักทองให้ เขาก็รับไปดื่มแทนน้ำจนหมดโดยที่ยังนอนอยู่บนเตียง. เราก็ยื่นวิตามินรวมที่เป็นผงแบบเทใต้ลิ้นให้. เขาถามอย่างงัวเงียว่ามันคืออะไรเราก็บอกแค่ว่า
"กินๆไปเถอะไม่ทำให้ตายหรอก ช่วยอาการแฮ็งค์ให้ดีขึ้น".
เขาก็ยังไม่มารับไปแต่บอกให้เราฉีกซองให้. เราเลยฉีกให้แล้วสั่งให้เขาอ้าปากกระดกลิ้นขึ้น. แต่เขานอนในองศาที่เราไม่ถนัดเราเลยจับหน้าเขาให้หันมาดีๆแล้วจับแก้มเขาให้เงยหน้าขึ้นก่อนกรอกผงวิตตามินลงไปแล้วเก็บของห่มผ้าให้เขาก่อนปีนกลับออกไป
คนที่หมู่บ้านนี้หลายคนพยายามเข้าหาเจ้านายเราและเราเพื่อจะขอเป็นเหมยผอ媒婆(แม่สื่อ)ให้เราเพราะทุกคนต่างชมว่าเราเก่ง ขยัน หน้าตาดี. การศึกษาดีทำงานบ้านเป็นทำอาหารอร่อยเหมาะเป็นสะใภ้ในอุดมคติ555+ซึ้งเจ้านายและเราเองก็คอยบอกปัดอย่างนุ่มนวลว่ารอเราอายุมากกว่านี้อีกหน่อยก่อน โดยชื่อที่พวกป้าๆหลายคนเสนอมาจะจับคู่ให้เราก็มีอวี้ชิงรวมอยู่ด้วย.
และแล้วช่วงตรุษจีนก็ผ่านไปโดยที่เราและอวี้ชิงก็ไม่มีอะไรพัฒนามากขึ้นเพิ่มเติมคือได้รู้จักแม่เขาก็เท่านั้น
และนี่ก็เป็นเรื่องราวช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้
https://m.ppantip.com/topic/37452223?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วงสัปดาห์ก่อนเราได้กลับประเทศไทย3-4วันไปดำเนินงานตามหน้าที่และเยี่ยมเยียนญาติๆที่ไทย. ซึ้งก่อนออกเดินทาง1วันเป็นวันเกิดของสาวน้อยฝ่ายGraphic Designerเราสั่งจองเค้กไว้จะไปฉลองให้นาง เราจำได้ว่าอวี้ชิงเคยเกริ่นๆตอนเมาว่าชอบสาวน้อยคนนี้เราก็เลยชวนให้เขาขับรถจากโรงงานไปส่งที่บริษัทหน่อยซึ่งเขาก็มองซ้ายมองขวาเหมือนกลัวเจ้านายรู้พอเราบอกว่าเจ้านายไม่อยู่ถึงอยู่ก็บอกสิว่าไปส่งเราเจ้านายไม่ว่าอะไรอยู่แล้วเขาเลยออกมาส่งเรา ซึ่งเขาบอกว่าไม่ได้ชอบสาวน้อยฝ่ายGraphicสักหน่อยแค่พูดเล่นกับเราเฉยๆที่ออกมาคือออกมาส่งเราเท่านั้น. เราก็เออออแล้วถามเขาว่าจะให้เราตอบแทนยังไงดี. เขาก็ทำหน้าทะเล้นบอกว่าขอเราเป็นค่าตอบแทน(以身相许)เราก็รับมุขค่ะบอกว่าได้สิเอาไปเลยเขาก็ยิ้มๆไม่ได้ว่าอะไร
พอเราออกเดินทางกลับไทยเขาก็ส่งข้อความมาว่าฝากซื้อของนู้นนี่นั่น.ไว้กลับมาให้เราแจ้งราคาเขาเอาเงินให้ถ้าเราไม่รับเงินเขาก็จะไม่รับของ. เราเลยบอกว่าเงินไม่ต้องเอาให้ เราซื้อฝากเองรับไม่รับก็จะซื้อมาวางไว้ให้บนโต๊ะทำงานถ้าไม่เอาก็เอาไปจัดการทิ้งเองละกัน. ระหว่างอยู่ไทยก็มีส่งรูปที่ไทยให้เขาดูเขาก็บอกว่าไว้ดูช่วงวันหยุดแรงงานจีน(วันที่1เดือน5)เจ้านายจะให้ลางานเพิ่มนอกเหนือจากวันหยุดได้รึเปล่าถ้าได้และไม่มีธุระอะไรจะไปเที่ยวไทย
วันกลับจีนเราแบกสัมภาระรกรุงรังไปต่อเครื่องที่มาเก๊าก็ช็อปน้ำหอมของกินเพิ่มเติมไปฝากเพื่อนร่วมงานและเจ้านายกับน้องชายก่อนจะเปลี่ยนเครื่องกลับเมืองที่อยู่. ตอนแรกนึกว่าเจ้านายจะมารับแต่อวี้ชิงส่งข้อความมาถามเราว่ากลับวันนี้ไฟท์นี้ใช่มั้ยเขาจะมารับเราเลยบอกเจ้านายว่าเราจะกลับเองนัดรถไว้แล้ว
พอลงเครื่องอวี้ชิงก็พาเราไปทานข้าว. เราคุยกันมากขึ้นแบบที่คำพูดตลอดทั้งปียังไม่มากเท่าวันนี้วันเดียว
เขาพูดถึงผู้หญิงที่เคยควงว่าอยู่ร้านอาหารข้างๆกับที่เราทานกัน. แต่หลังจากวันนั้นเราก็เจอกันน้อยลงและคุยกันน้อยลงเพราะเราต้องเตรียมตัวเตรียมงานกับทีมงานที่จะย้ายไปประจำที่ไทยด้วยกัน
ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกับคนที่แอบชอบคุณจะทำอย่างไร
เราดีใจที่จะได้กลับไทยแต่ก็เศร้ามากมายที่จะต้องจากลากับเพื่อนๆในประเทศจีน. โดยเฉพาะเพื่อนในออฟฟิศ,เจ้านาย,น้องชาย(ลูกเจ้านาย)และที่สำคัญคือคนที่เราแอบชอบ
จากกระทู้ก่อนคือเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้นเรื่อยมาตามลำดับจะอ่านก็ได้ไม่อ่านก็ได้ค่ะ
https://m.ppantip.com/topic/37322436?
และอันนี้เป็นเรื่องราวช่วงตรุษจีนเป็นเรื่องราวที่เราไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดของคนที่เราชอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และนี่ก็เป็นเรื่องราวช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้https://m.ppantip.com/topic/37452223?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้