คือดิฉันมีปัญหาอยากถามเพื่อนสมาชิกค่ะว่า ดิฉันควรทำอย่างไร สืบเนื่องจากดิฉันกับสามีอยู่ด้วยกันมา
ตั้งแต่ปี 53 จดทะเบียนปี 54 และย้ายบ้านพร้อมกับพ่อแม่มาอยู่บ้านสามี ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาก็มีปัญหากันมาตลอด ทั้งเรื่องหึงหวงดิฉัน ทั้งเรื่องพ่อแม่ของดิฉันที่มาอยู่ด้วย แต่พ่อกับแม่ดิฉัน ก็ช่วยให้เงินเราปลูกบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันด้วย แต่เค้าจะคอยบ่นเสมอว่าเป็นภาระของเค้า ตอนแรกดิฉันไม่ได้ทำงานจึงอดทนกับคำบ่นไม่ได้เลยออกทำงาน ช่วยหาเงิน เงินเดือนออกมากโอนให้เค้าหมด ก็ยังไม่วายโดนว่า
จนประมาณปี 58 ทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดลงไม้ลงมือกันซึ่งครั้งนี้หนักมาก (จริงๆก็แทบทุกครั้ง) ดิฉันทนไม่ไหวขอหย่ากับเค้า และได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เรื่งเค้าทำร้ายร่างกายดิฉัน เป็นเหตุให้เค้าและญาติไม่พอใจ แต่เค้าก็มาง้อขอคืนดีกับดิฉัน ดิฉันก็สงสารลูกจึงให้อภัยแต่เค้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายร่างกายอีก เมื่อกลับมาก็ยังมีปากเสียง และยังมีปัญหาเดิมๆมาตลอด
พอถึงปี 60 ช่วงเปิดเทอมได้ย้ายลูกชายเข้าไปเรียนในตัวเมือง ซึ่งดิฉันก็ทำงานที่นั่นด้วยเช่นกัน จึงขอย้ายไปอยู่ห้องพักในเมือง เพราะบ้านกับเมืองห่างกันประมาณ 60-70 กม. เค้าไม่พอใจ แต่ขัดไม่ได้ (ที่ย้ายมาอีกใจก็เพื่อจะได้ห่างกันจะได้ทะเลาะกันน้อยลง) แต่ที่ไหนได้ทะเลาะกันหนักมากกว่าเดิม เพราะพอมีปัญหาที่บ้านไม่ว่าเรื่องอะไร เค้าจะโทรมาด่าเราทันที
จนถึงช่วงเดือน กรกฎา 60 ดิฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงทะเลาะกันอีกครั้ง คราวนี้ในใจคิดว่าถ้าต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต คงต้องเป็นโรคประสาทตายแน่เลย จึงบอกเลิกเค้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้เอาจิงมาก เพราะไม่รับโทรศัพท์เค้าเลย จนเค้าต้องมาดักรอที่ห้องเพื่อของ้อคืนดี แต่ดิฉันบอกเค้าว่าไม่ได้แล้ว หมดโอกาสแล้ว เค้าบอกว่ายังไงก็จะขอคืนดีให้ได้ และจะขอปรับปรุงตัวใหม่ ซึ่งหลายครั้งมากที่เค้าพูดก็ยังทำไม่ได้ ดิฉันก็บอกไม่ได้เค้าจึงขอร้องว่าขอเวลาทำใจ และขออย่าให้บอกใครเรื่องเลิกกัน เพื่อดิฉันจะเปลี่ยนใจ
ต่อมาประมาณปลายเดือนสิงหา 60 ดิฉันมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยซึ่งเป็นคนที่ทำงานเดียวกัน และก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ดิฉันจึงบอกสามีว่า ดิฉันมีคนใหม่แล้ว คงไม่กลับไปแล้ว เค้าบอกเค้าเสียใจมากและพยายามคาดคั้นว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วเค้าก็ให้นักสืบตามประกบดิฉัน ติดจีพีเอสที่รถดิฉัน จนในที่สุดประมาณ
ปลายเดือน ตุลา 60 ก็ได้ภาพถ่ายที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน แล้วเค้าก็เอามาขู่ให้ดิฉันหย่ากับเค้าโดยยกทรัพย์สินให้เค้าทั้งหมด ซึ่งเค้าน่าจะวางแผนกับญาติเค้ามา แต่ดิฉันไม่หย่าเนื่องจาก สามีโกงที่ดินพ่อแม่ดิฉันไป และทางพ่อแม่ดิฉันต้องการคืน จึงไม่ให้หย่า และให้รอจนกว่าจะได้เงินแถมยังไปฟ้องผู้จัดการของดิฉันจนดิฉันและผู้ชายอีกคนต้องเลิกคุยกันไป ขณะนั้นสามีก็กลับมาทำดีกับดิฉันมาพูดดีว่าจะขอให้กลับไปเหมือนเดิม ให้อภัยทุกอย่าง ดีกับดิฉันเหมือนตอนที่จีบดิฉันใหม่ๆ จนดิฉันใจอ่อน ยอมกลับมามีอะไรกันอีก เรื่อยๆ ซึ่งดิฉันก็ยังพักอยู่หอในตัวเมือง ส่วนเค้าก็อยู่บ้าน ซึ่งเราก็ยังคุยกันเรื่องหย่าตลอด เนื่องจากดิฉันก็อยากได้เงินไปคืนพ่อแม่ และจะได้อยู่กับสามีได้โดยที่พ่อแม่ไม่ว่าอีก และเค้าเองก็อยู่กับดิฉันและลูกได้ เราคุยกันแบบนี้ตลอด แต่ระยะหลังมาเค้าเริ่มมีงานมากขึ้น หายไปตลอดช่วง เสาร์อาทิตย์ แต่ด้วยความที่ดิฉันก็งานเยอะ เลยไม่ได้เอะใจว่าเค้ามีผู้หญิงคนอื่นอีกคน
$ พอถึงเวลานัดหย่า เดือนมีนา 61ก่อนหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ดิฉันตรวจปัสสาวะแล้วเกิดท้อง ก็ถามเค้าว่าจะเอายังไง เค้าตอบดิฉันว่าจะรับดิฉันกลับไปอยู่บ้าน ดิฉันก็เลยเชื่อใจเค้า และยอมหย่าโดยเซ็นต์ยกบ้านให้เค้า และทุกอย่างให้เค้า โดยขอแค่เค้าใช้หนี้ของพ่อแม่ แต่พอหย่าแล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเป็นหนังคนละม้วนเลย เค้าบอกให้ดิฉันไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีก แล้วลูกในท้องก็ไปเอาออกซะ เค้าไม่รับ เพราะดิฉันเคยนอกใจเค้า ดิฉันก็บอกเค้าว่านั่นมันก่อนที่พี่จะกลับมาขอคืนดีกับหนูนะ ที่มาตั้งกระทู้เนี่ย คืออยากทราบความคิดเห็นจากคนอื่นบ้างน่ะคะ
ถ้าคุณทำผู้หญิงท้อง คุณจะทำอย่างไร
ตั้งแต่ปี 53 จดทะเบียนปี 54 และย้ายบ้านพร้อมกับพ่อแม่มาอยู่บ้านสามี ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาก็มีปัญหากันมาตลอด ทั้งเรื่องหึงหวงดิฉัน ทั้งเรื่องพ่อแม่ของดิฉันที่มาอยู่ด้วย แต่พ่อกับแม่ดิฉัน ก็ช่วยให้เงินเราปลูกบ้านหลังที่อยู่ปัจจุบันด้วย แต่เค้าจะคอยบ่นเสมอว่าเป็นภาระของเค้า ตอนแรกดิฉันไม่ได้ทำงานจึงอดทนกับคำบ่นไม่ได้เลยออกทำงาน ช่วยหาเงิน เงินเดือนออกมากโอนให้เค้าหมด ก็ยังไม่วายโดนว่า
จนประมาณปี 58 ทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดลงไม้ลงมือกันซึ่งครั้งนี้หนักมาก (จริงๆก็แทบทุกครั้ง) ดิฉันทนไม่ไหวขอหย่ากับเค้า และได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เรื่งเค้าทำร้ายร่างกายดิฉัน เป็นเหตุให้เค้าและญาติไม่พอใจ แต่เค้าก็มาง้อขอคืนดีกับดิฉัน ดิฉันก็สงสารลูกจึงให้อภัยแต่เค้าสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายร่างกายอีก เมื่อกลับมาก็ยังมีปากเสียง และยังมีปัญหาเดิมๆมาตลอด
พอถึงปี 60 ช่วงเปิดเทอมได้ย้ายลูกชายเข้าไปเรียนในตัวเมือง ซึ่งดิฉันก็ทำงานที่นั่นด้วยเช่นกัน จึงขอย้ายไปอยู่ห้องพักในเมือง เพราะบ้านกับเมืองห่างกันประมาณ 60-70 กม. เค้าไม่พอใจ แต่ขัดไม่ได้ (ที่ย้ายมาอีกใจก็เพื่อจะได้ห่างกันจะได้ทะเลาะกันน้อยลง) แต่ที่ไหนได้ทะเลาะกันหนักมากกว่าเดิม เพราะพอมีปัญหาที่บ้านไม่ว่าเรื่องอะไร เค้าจะโทรมาด่าเราทันที
จนถึงช่วงเดือน กรกฎา 60 ดิฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงทะเลาะกันอีกครั้ง คราวนี้ในใจคิดว่าถ้าต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดชีวิต คงต้องเป็นโรคประสาทตายแน่เลย จึงบอกเลิกเค้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้เอาจิงมาก เพราะไม่รับโทรศัพท์เค้าเลย จนเค้าต้องมาดักรอที่ห้องเพื่อของ้อคืนดี แต่ดิฉันบอกเค้าว่าไม่ได้แล้ว หมดโอกาสแล้ว เค้าบอกว่ายังไงก็จะขอคืนดีให้ได้ และจะขอปรับปรุงตัวใหม่ ซึ่งหลายครั้งมากที่เค้าพูดก็ยังทำไม่ได้ ดิฉันก็บอกไม่ได้เค้าจึงขอร้องว่าขอเวลาทำใจ และขออย่าให้บอกใครเรื่องเลิกกัน เพื่อดิฉันจะเปลี่ยนใจ
ต่อมาประมาณปลายเดือนสิงหา 60 ดิฉันมีผู้ชายเข้ามาคุยด้วยซึ่งเป็นคนที่ทำงานเดียวกัน และก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ดิฉันจึงบอกสามีว่า ดิฉันมีคนใหม่แล้ว คงไม่กลับไปแล้ว เค้าบอกเค้าเสียใจมากและพยายามคาดคั้นว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แล้วเค้าก็ให้นักสืบตามประกบดิฉัน ติดจีพีเอสที่รถดิฉัน จนในที่สุดประมาณ
ปลายเดือน ตุลา 60 ก็ได้ภาพถ่ายที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน แล้วเค้าก็เอามาขู่ให้ดิฉันหย่ากับเค้าโดยยกทรัพย์สินให้เค้าทั้งหมด ซึ่งเค้าน่าจะวางแผนกับญาติเค้ามา แต่ดิฉันไม่หย่าเนื่องจาก สามีโกงที่ดินพ่อแม่ดิฉันไป และทางพ่อแม่ดิฉันต้องการคืน จึงไม่ให้หย่า และให้รอจนกว่าจะได้เงินแถมยังไปฟ้องผู้จัดการของดิฉันจนดิฉันและผู้ชายอีกคนต้องเลิกคุยกันไป ขณะนั้นสามีก็กลับมาทำดีกับดิฉันมาพูดดีว่าจะขอให้กลับไปเหมือนเดิม ให้อภัยทุกอย่าง ดีกับดิฉันเหมือนตอนที่จีบดิฉันใหม่ๆ จนดิฉันใจอ่อน ยอมกลับมามีอะไรกันอีก เรื่อยๆ ซึ่งดิฉันก็ยังพักอยู่หอในตัวเมือง ส่วนเค้าก็อยู่บ้าน ซึ่งเราก็ยังคุยกันเรื่องหย่าตลอด เนื่องจากดิฉันก็อยากได้เงินไปคืนพ่อแม่ และจะได้อยู่กับสามีได้โดยที่พ่อแม่ไม่ว่าอีก และเค้าเองก็อยู่กับดิฉันและลูกได้ เราคุยกันแบบนี้ตลอด แต่ระยะหลังมาเค้าเริ่มมีงานมากขึ้น หายไปตลอดช่วง เสาร์อาทิตย์ แต่ด้วยความที่ดิฉันก็งานเยอะ เลยไม่ได้เอะใจว่าเค้ามีผู้หญิงคนอื่นอีกคน
$ พอถึงเวลานัดหย่า เดือนมีนา 61ก่อนหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ดิฉันตรวจปัสสาวะแล้วเกิดท้อง ก็ถามเค้าว่าจะเอายังไง เค้าตอบดิฉันว่าจะรับดิฉันกลับไปอยู่บ้าน ดิฉันก็เลยเชื่อใจเค้า และยอมหย่าโดยเซ็นต์ยกบ้านให้เค้า และทุกอย่างให้เค้า โดยขอแค่เค้าใช้หนี้ของพ่อแม่ แต่พอหย่าแล้วทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเป็นหนังคนละม้วนเลย เค้าบอกให้ดิฉันไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีก แล้วลูกในท้องก็ไปเอาออกซะ เค้าไม่รับ เพราะดิฉันเคยนอกใจเค้า ดิฉันก็บอกเค้าว่านั่นมันก่อนที่พี่จะกลับมาขอคืนดีกับหนูนะ ที่มาตั้งกระทู้เนี่ย คืออยากทราบความคิดเห็นจากคนอื่นบ้างน่ะคะ