ดิฉันโดนสามีที่เราร่วมทุกข์กันมา เป็นกำลังใจและช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆจนมีวันนี้ได้ พอสบายเขากลับทรยศหักหลังต่อความรักของดิฉัน
ดิฉันตัดสินใจว่าจะหย่าค่ะ แต่มีข้อข้องใจเกี่ยวกับสินสมรส ขอความกรุณาผู้รู้แนะนำด้วยค่ะ
ดิฉันคบสามีมาได้10ปี แต่เพิ่งมาจดทะเบียนสมรสตอนมีบุตร
มีบุตรด้วยกัน1คน อายุ2ขวบ
สินทรัพย์ที่หามา มิใช่โดยมรดก
1.บ้านA ชื่อสามีกู้ซื้อมาระหว่างเริ่มคบกัน ปัจจุบันยังผ่อนธนาคาร (ตอนรีไฟแนนซ์ดิฉันซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว ไปเซ็นต์รับทราบหนี้)
2.บ้านB ชื่อดิฉันเป็นผู้กู้ซื้อ อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ และ ยังผ่อนธนาคาร
3.บ้านC กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ สามีเป็นผู้กู้ซื้อ(ดิฉันเซ็นต์รับทราบหนี้)
4.รถยนต์2 คัน ปลอดภาระ เป็นเจ้าของฝ่ายละคัน
5.กิจการที่ก่อรายได้ จดทะเบียนในนาม หจก. จำนวน2ห้าง ดิฉันแล้วสามีถือกันคนละ1หจก.
รายได้ที่เข้ามาจะเป็นรายงวดงาน เงินจะโอนเข้ามที่บัญชีในนาม หจก. แล้วสามีจะให้เบิกจำนวนทั้งหมดมาไว้ที่เขา เพื่อง่ายต่อการจัดการค่าใช้จ่ายสั่งซื้อของ และค่าใช้จ่ายในบ้าน
สามีและดิฉันช่วยกันดูแลภาพรวมกิจการทั้งหมด
จนกระทั่งดิฉันท้องและมีภาวะแท้งคุกคาม รวมถึงเมื่อคลอดออกมาสามีให้ดิฉันพักอยู่ดูแลลูก เขาดูแลภาพรวมกิจการ ดิฉันจะคอยเป็นธุรการดูแลเอกสารและจัดการบัญชี ไม่ได้ออกพบลูกค้าข้างนอกเหมือนอย่างเคย
คำถามค่ะ
1.สินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องแบ่งกันอย่างไรค่ะ หนี้บ้านที่ดิฉันไปเซ็นต์รับรู้หนี้ ต้องจัดการอย่างไรค่ะ หย่าแล้วดิฉันไม่มีกรรมสิทธิ์ ในบ้านและหนี้พร้อมกันรึเปล่า
2.สามีมีกรรม์ประกันชีวิตหลายฉบับ ซึ่งตอนนี้ดิฉันเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากหย่าร้างกัน ดิฉันสามารถให้เขาเปลี่ยนเป็นชื่อลูก และทำข้อตกลงว่าให้คงไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง แม้เขามีบุตรที่เกิดจากภรรยาใหม่ได้ไหมค่ะ
3.กรณีนี้ดิฉันสามารถเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้ไหมค่ะ
อย่างที่แจ้ง ถึงแม้ชื่อกิจการเป็นของดิฉัน แต่เมื่อเงินเข้าดิฉันต้องโอนให้เข้าทั้งหมดรวมถึงรายได้ที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวเขาไปติดต่องาน ดิฉันไม่มีส่วนช่วยใดๆเลย
4.บุตรอยู่ในอุปการะของดิฉัน ข้อนี้คิดว่ายังไงสามีก็ยอมค่ะเนื่องจากเขาต้องดูแม่ที่แก่ชราและไม่มีพี่น้อง รวมถึงเขาแทบจะไม่เคยเลี้ยงลูกเลยค่ะ
5.หากดิฉันต้องการให้เขาส่งเสียเลี้ยงดูบุตร จะต้องทำอย่างไรค่ะ เพื่อเป็นข้อผูกมัดไม่ให้เขาไม่เบี้ยวจ่ายในอนาคต (เคยเห็นหลายกรณีแล้วตอนหย่าก็ตกลงดิบดีว่าจะให้ พอผ่านไปเดือน2เดือนก็ตีเนียนไม่จ่าย)
6.ถ้าจะฟ้องชู้ต้องมีหลักฐานประมาณไหนค่ะ ตอนนี้มีแค่สนทนาเชิงชู้สาว มีรูปส่งระหว่างกัน ช่วยเหลือกันนัดแนะกัน แต่ไม่มีรูปร่วมรักกัน
ดิฉันคิดทบทวนดีแล้วค่ะ การกระทำของเขามันยากต่อการให้อภัย
ในเมื่อไม่รักกันแล้วแยกกันอยู่ดีกว่า ทนอยู่ไปเพื่อลูกแล้วมาบึ้งตึงใส่กัน
ดิฉันเชื่อว่าลูกรับรู้ได้ บางครั้งดิฉันเครียดกับสามีมีเผลอไปอารมณ์เสียบงกับลูก
ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับเด็กเลย
พิมพ์ในมือถือ หากอ่านยากหรือตกหล่นคำใดขออภัยด้วยค่ะ
ต้องการหย่า รบกวนผู้รู้แนะนำเกี่ยวกับการแบ่งสินสมรสด้วยค่ะ
ดิฉันตัดสินใจว่าจะหย่าค่ะ แต่มีข้อข้องใจเกี่ยวกับสินสมรส ขอความกรุณาผู้รู้แนะนำด้วยค่ะ
ดิฉันคบสามีมาได้10ปี แต่เพิ่งมาจดทะเบียนสมรสตอนมีบุตร
มีบุตรด้วยกัน1คน อายุ2ขวบ
สินทรัพย์ที่หามา มิใช่โดยมรดก
1.บ้านA ชื่อสามีกู้ซื้อมาระหว่างเริ่มคบกัน ปัจจุบันยังผ่อนธนาคาร (ตอนรีไฟแนนซ์ดิฉันซึ่งจดทะเบียนสมรสแล้ว ไปเซ็นต์รับทราบหนี้)
2.บ้านB ชื่อดิฉันเป็นผู้กู้ซื้อ อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ และ ยังผ่อนธนาคาร
3.บ้านC กำลังจะย้ายเข้าไปอยู่ สามีเป็นผู้กู้ซื้อ(ดิฉันเซ็นต์รับทราบหนี้)
4.รถยนต์2 คัน ปลอดภาระ เป็นเจ้าของฝ่ายละคัน
5.กิจการที่ก่อรายได้ จดทะเบียนในนาม หจก. จำนวน2ห้าง ดิฉันแล้วสามีถือกันคนละ1หจก.
รายได้ที่เข้ามาจะเป็นรายงวดงาน เงินจะโอนเข้ามที่บัญชีในนาม หจก. แล้วสามีจะให้เบิกจำนวนทั้งหมดมาไว้ที่เขา เพื่อง่ายต่อการจัดการค่าใช้จ่ายสั่งซื้อของ และค่าใช้จ่ายในบ้าน
สามีและดิฉันช่วยกันดูแลภาพรวมกิจการทั้งหมด
จนกระทั่งดิฉันท้องและมีภาวะแท้งคุกคาม รวมถึงเมื่อคลอดออกมาสามีให้ดิฉันพักอยู่ดูแลลูก เขาดูแลภาพรวมกิจการ ดิฉันจะคอยเป็นธุรการดูแลเอกสารและจัดการบัญชี ไม่ได้ออกพบลูกค้าข้างนอกเหมือนอย่างเคย
คำถามค่ะ
1.สินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องแบ่งกันอย่างไรค่ะ หนี้บ้านที่ดิฉันไปเซ็นต์รับรู้หนี้ ต้องจัดการอย่างไรค่ะ หย่าแล้วดิฉันไม่มีกรรมสิทธิ์ ในบ้านและหนี้พร้อมกันรึเปล่า
2.สามีมีกรรม์ประกันชีวิตหลายฉบับ ซึ่งตอนนี้ดิฉันเป็นผู้รับผลประโยชน์ หากหย่าร้างกัน ดิฉันสามารถให้เขาเปลี่ยนเป็นชื่อลูก และทำข้อตกลงว่าให้คงไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง แม้เขามีบุตรที่เกิดจากภรรยาใหม่ได้ไหมค่ะ
3.กรณีนี้ดิฉันสามารถเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้ไหมค่ะ
อย่างที่แจ้ง ถึงแม้ชื่อกิจการเป็นของดิฉัน แต่เมื่อเงินเข้าดิฉันต้องโอนให้เข้าทั้งหมดรวมถึงรายได้ที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวเขาไปติดต่องาน ดิฉันไม่มีส่วนช่วยใดๆเลย
4.บุตรอยู่ในอุปการะของดิฉัน ข้อนี้คิดว่ายังไงสามีก็ยอมค่ะเนื่องจากเขาต้องดูแม่ที่แก่ชราและไม่มีพี่น้อง รวมถึงเขาแทบจะไม่เคยเลี้ยงลูกเลยค่ะ
5.หากดิฉันต้องการให้เขาส่งเสียเลี้ยงดูบุตร จะต้องทำอย่างไรค่ะ เพื่อเป็นข้อผูกมัดไม่ให้เขาไม่เบี้ยวจ่ายในอนาคต (เคยเห็นหลายกรณีแล้วตอนหย่าก็ตกลงดิบดีว่าจะให้ พอผ่านไปเดือน2เดือนก็ตีเนียนไม่จ่าย)
6.ถ้าจะฟ้องชู้ต้องมีหลักฐานประมาณไหนค่ะ ตอนนี้มีแค่สนทนาเชิงชู้สาว มีรูปส่งระหว่างกัน ช่วยเหลือกันนัดแนะกัน แต่ไม่มีรูปร่วมรักกัน
ดิฉันคิดทบทวนดีแล้วค่ะ การกระทำของเขามันยากต่อการให้อภัย
ในเมื่อไม่รักกันแล้วแยกกันอยู่ดีกว่า ทนอยู่ไปเพื่อลูกแล้วมาบึ้งตึงใส่กัน
ดิฉันเชื่อว่าลูกรับรู้ได้ บางครั้งดิฉันเครียดกับสามีมีเผลอไปอารมณ์เสียบงกับลูก
ซึ่งมันไม่เป็นผลดีกับเด็กเลย
พิมพ์ในมือถือ หากอ่านยากหรือตกหล่นคำใดขออภัยด้วยค่ะ