อุทาหรณ์ ทำงานแล้วโดนบริษัทเอาเปรียบทุกอย่าง

สวัสดีทุกคนค่ะ กระทู้นี้เราตั้งขึ้นมาเพื่อเตือนตัวเองในอนาคต ระบาย และต้องการเตือนให้คนที่กำลังจะไปสมัครงานที่บริษัทนี้คิดดีๆก่อนจะตกลงเซ็นสัญญาจ้างงาน
บริษัทที่ว่านี้ตั้งอยู่ที่จ.เชียงใหม่ค่ะ เป็นบริษัทชาวต่างชาติ แถวหางดง ขอสงวนไม่บอกชื่อบ.นะคะ
วันนี้เราได้ตัดสินใจออกจากบ.แล้วนะคะ ขอเริ่มเรื่องเลยแล้วกัน
อย่างที่กระทู้ก่อนๆของเราที่เคยตั้งเกี่ยวกับบ.ไม่ยอมขึ้นเงินเดือนให้ตามที่ตกลงกับเราไว้ตอนก่อนจะเซ็นสัญญาทำงาน วันนี้ทุกอย่างกระจ่างเลยค่ะ
คือเราเริ่มทำงานที่นี่เมื่อตุลาปีที่แล้ว โดยในสัญญาแจ้งว่าทดลองงาน3เดือน ช่วงโปร15000บาท ผ่านโปรปรับให้เป็น20000บาท แต่พอเราผ่านโปรตามที่เขียนในสัญญา90วัน คือเดือนมกราคมปีนี้ แต่เงินเดือนกลับได้เท่าเดิม เราก็ได้ถามเจ้านายไปว่าทำไมเงินเดือนยังไม่ขึ้น ครั้งแรกเขาตอบไปว่ายังไม่มีเงินที่จะขึ้นให้ เพราะต้องเตรียมหาที่ทำการออฟฟิศใหม่ เราเลยคิดว่าโอเค เดียวสิ้นเดือนมกราคมคงปรับให้ (บริษัทนี้จ่ายเงินเป็นสัปดาห์ เดียวจะเล่าให้ฟังตอนท้ายว่าทำไมเขาถึงจ่ายแบบนี้) ซึ่งเงินเดือน15000บาท เฉลี่ยที่สัปดาห์ละ3750บาท เราก็อดทน พอถึงปลายเดือนมกราคม ก็ยังเข้าบช.มาแค่3750บาท  เราเลยถามเขาไปอีกทีว่าทำไมยังเป็น3750 ตามที่ตกลงคือผ่านโปรจะปรับเป็น20000ให้ คือสัปดาห์ละ5000บาท คำตอบที่ได้อีกคือ ฉันไม่มีเงิน เพราะฉันเพิ่งทำเรื่องเช่าออฟฟิศใหม่ และเสียเงินกับค่าตกแต่งภายในออฟฟิศไปเยอะ เอาความจริงในจุดนี้เราเริ่มไม่โอเคกับเจ้านายแล้วค่ะ เพราะว่าคุณจะย้ายออฟฟิศ หรือทำอะไรเกี่ยวกับบริาัท มันไม่ควรมากระทบกับเงินเดือนพนักงาน เพราะมันคนละส่วนกัน พนักงานนะคะ ไม่ใช่หุ้นส่วน เรื่องเงินเดือนก็ได้แค่15000มาตลอดจนถึงตอนที่ออกนี้

เรื่องต่อมาคือ เรื่องวันหยุด นางอ้างว่าช่วงนี้ไม่มีโปรเจคใหม่ๆเข้ามาให้บริษัทได้ทำเลย จึงไม่มีเงิน เลยไม่สามารถขึ้นเงินเดือนให้ได้ และด้วยความที่เงินเหลือน้อย(นางบอกมางี้ว่าเงินจะหมด) เลยเริ่มกำหนดวันหยุด ซึ่งวันหยุดลากิจนั้นให้แค่ 3 วันต่อปี ลาป่วยได้แค่ 5 วันต่อปี ลาพักร้อนลาได้เลยนะคะ แต่จะไม่จ่ายเงินในวันที่ลาพักร้อนให้ และหากลาป่วย ต้องมีใบรับรองแพทย์ทุกครั้ง แม้จะลาแค่1วันก็ตาม เหมือนพยายามตั้งกฏมาเพื่อบีบให้พนักงานออกเอง

ต่อมาหลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ยังไม่มีใครลาออก เริ่มมาพูดใส่พี่ที่เข้ามาไล่ๆกับเราว่าเงินหมด อารมณ์เหมือนจะให้พี่คนนี้ออกให้ได้ จนเมื่อสัปดาห์ก่อน พี่คนนี้ยอมเซ็นออก ซึ่งนางบอกว่าจะจ่ายชดเชยให้แค่2สัปดาห์ และวันที่นางให้พี่เขาเซ็นออกนั้น เป็นวันที่ทำงานครบ120วันพอดี นางเลยถือว่ามาทำไม่ถึง120วัน เขาเลยพูดกับพี่คนนั้นว่า ความจริงฉันจะไม่จ่ายให้เธอก็ได้ แต่นี่จ่ายให้เพื่อช่วยเหลือ(พ่อพระมาก) แถมยังให้เหตุผลเดิมคือฉันไม่มีเงิน ฉันต้องเลิกจ้างเธอเพื่อนำเงินไปจ้างโปรแกรมเมอน์และซื้อคอมพิวเตอร์ (เฮลโหลววว ไม่มีเงินแต่จะซื้อคอมพิวเตอร์ ขัดแย้งจุงเบยย) และพี่คนนั้นก็ออกมา และนางก็ยื่นซองเงินให้7500บาท ซึ่งเขาบอกพี่คนนั้นว่าให้เซ็นออกเถอะ ถ้าฟ้องร้องก็จะลำบากเป็นการรบกวนทนายเขา อ้าววว จ้างมาเป็นทนายนะคะ ไม่ได้จ้างมานั่งอ่านกฏหมาย แถมมีการท้าให้ฟ้องเลย แถมยังมีการปรับเปลี่ยนการทดลองงาน เพิ่มจาก3เดือนเป็น4เดือน โดยไม่บอกเรา บอกแค่พี่คนนั้น ในสัญยาก็เขียนแค่90วัน เอาเปรียบเกินไป

พอมาสัปดาห์นี้ เมื่อวาน นางเรียกเราไปคุย นางบอกว่า ช่วงนี้ไม่มีงานให้ทำ เราเลยดูว่าง นางบอกว่าจะรอดูอีก2สัปดาห์ หากยังว่าง ไม่มีโปรเจคเข้ามาแบบนี้ นางต้องเลิกจ้างเรา และจะจ่ายให้2สัปดาห์เหมือนพี่คนข้างบน เราได้ยินแล้วแบบไม่แฟร์มาก เราทำมาจนถึงตอนนี้คือ5เดือนแล้ว เงินไม่ขึ้นให้เรา เราก็พยายามทน ยังจะมาเลิกจ้างเราและจะจ่ายชดเชยให้เท่านี้ แต่เราไม่ยอม เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เราเลยเลือกโทรปรึกษาทั้งกรมแรงงานและศาลแรงงาน เรื่องการฟ้องร้องหากนางไม่ยอมจ่ายชดเชยเรา1เดือนตามกฏหมาย และเราบอกว่าเราจะไม่เซ็นลาออกนะ แต่จะเซ็นในหนังสือเลิกจ้างเท่านั้น เราเลยพิมพ์ตัวอย่างหนังสือเลิกจ้างไปให้เขา คุยกันไปมา จนเขานัดเซ็นหนังสือเลิกจ้างวันศุกร์นี้ พร้อมจะจ่ายเงินให้ในวันนั้น เดียวจะมาอัพเดทว่านางจะให้1เดือนตามที่กฏหมายกำหนดไว้ไหม ถ้าไม่ คงดำเนินการฟ้องร้อง

ทีนี้เราเลยคุยกับพี่ที่โดนออกก่อนเรา เขาก็บอกว่าการพูดเรื่องเลิกจ้างเขาพูดกับพี่เขาเหมือนที่พูดกับเราเลย คือจะจ้างต่ออีก2สัปดาห์ บลาๆๆๆ เราก็โอ้โหห สงสัยเตรียมมาพูดแบบนี้อยู่ละล่ะ แต่ถ้าเอาออกพร้อมกันคงจะดูเลวเกินไปมั้ง ประมานนี้
เราและพี่เขาเคยลองขอเรื่องสลิปเงินเดือน นางไม่ยอมให้ พอมารู้ตอนนี้คือ ของพวกนี้จะใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องนางได้ หากนางไม่จ่ายเงินชดเชยตามกฏหมาย เลยเลือกที่จะจ่ายเงินเป็นสัปดาห์แทนเป็นรายเดือน เพื่อเลี่ยงการออกสลิป และเลี่ยงการแจ้งการเลิกจ้างล่วงหน้าเป็นค่าตกใจ คือหากจ่ายเป็นรายเดือน เขาต้องแจ้งพนักงานอย่างน้อย1เดือนก่อนเลิกจ้าง หากน้อยกว่า1เดือน คือจะต้องจ่ายค่าตกใจ แต่นี่เลือกจ่ายแบบรายสัปดาห์เพราะเรื่องนี้ คือจ่ายเป็นสัปดาห์ก็ต้องแจ้งอย่างน้อย1สัปดาห์ได้ คือเขาใช้ช่องโหว่ของกฏหมายมาเอาเปรียบเรา

สัญญาการจ้างงาน ตามความถูกต้อง เขาต้องสำเนาให้เราเก็บไว้1ฉบับ แต่ที่นี่ไม่มีสำเนาให้เลย ขอดูสัญญาก็อ้างว่าอยู่ที่ทนายบริษัท
และเรื่องที่เจ็บใจที่สุดคือ ฐานเงินเดือนเราคือ15000ในตอนนี้ แต่เขากลับไปใส่ในข้อมูลประกันสังคมว่า9300บาท เพื่อที่จะจ่ายเบี้ยให้น้อย (บริษัทเราจ่ายเงินประกันให้ทุกบาทโดยไม่หักจากเงินเดือนที่จ่ายรายสัปดาห์) ตรงนี้มันน่าเกลียดมาก เพราะมันส่งผลถึงตอนที่เราว่างงานและไปแจ้งขอเงินว่างงานกับประกันสังคม และเงินเบี้ยเมื่อชราภาพ มันไม่แฟร์เลย หากกลัวจ่ายเยอะ ทำไมไม่ใส่ไปเลยว่า15000 แล้วหักจากเงินเดือนเราจะดีกว่านะคะ
และที่รู้มาแบบรับไม่ได้เลยคือ ก่อนหน้าที่เขาจะรับเราและพี่อีกคนมาทำงาน ก็มีพี่คนนึงทำงานกับเขา และเขาก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน คือไม่ขึ้นเงินให้สักที จนพี่คนนั้นทนไม่ไหวเลยออกไปเอง
นี่คือบทเรียนที่ทำให้เราเสียความรู้สึกเป็นที่สุด ต่อไปนี้จะทำงานที่ไหนต้องขอถ่ายสัญญาจ้างงานไว้ และต้องร้องขอสลิปเงินเดือน(เอาความจริงทุกที่ก็มีนะ แต่ที่นี่ไม่มี)
และล่าสุดคือจะรับโปรแกรมเมอร์มาละ คงเริ่มงานต้นเดือนเมษา เราอยากบอกเขามากๆว่า เดียวชะตาชีวิตคุณจะเป็นแบบที่เราๆโดนกัน เพราะเมื่อเขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการ และปล่อยให้เราจัดการให้แล้ว เขาก็จะถีบหัวส่งแบบนี้ แบบพี่คนนั้นคือ ให้ช่วยหาตึกหาออฟฟิศจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย ก็มาบอกให้ออกเพราะไม่มีเงิน เราก็พอได้ฐานคนรู้จักจากต่างประเทศในโซนเอเชียแล้วก็ให้ออกตามที่เล่า ส่วนโปรแกรมเมอร์ เราคิดว่าถ้าเขาเขียนเว็บให้เสร็จตามที่ต้องการแล้ว คงเจอไม่ต่างจากเราหรอก ไม่ได้อยากคิดในแง่ลบ แต่การกระทำเขาคือทำให้คือ เพราะพี่คนเก่าที่ทำก่อนเราจะมา เขาใช้ให้พี่คนนั้นหาพนักงานเพื่อมาโปรโมทบ.ในต่างประเทศ พอได้คน(คือเรา) พี่คนนั้นก็ออก เหมือนเขามาจ้างคนทำงาน พอได้ตามเป้าหมายละก็หาข้ออ้างให้เราออก เล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ คิดว่าคนไทยเอาเปรียบง่ายหรอคะ ไม่ใช่กับเราแน่นอนค่ะ ก็ขอให้เขาโชคดีนะคะ คงจะไม่กลับไปหาอีก ยกเว้นวันศุกร์นี้ 5555

นี่คือลิงค์กระทูเก่าเรื่องที่เขาไม่ขึ้นเงินเดือนให้นะคะ https://ppantip.com/topic/37435774

ตอนนี้ฉลาดขึ้นมาเยอะ ขอบคุณบทเรียนในครั้งนี้ ที่เราโง่เองที่เชื่อใจในตัวเจ้านายคนนี้มากเกินไป เคยเคารพเขามาก และทำงานก็ทำให้เต็มที่มากๆ ตอนนี้หมดเลยความศัรทธาที่มีให้เขาและบริษัท เรื่องอื่นที่เขาทำผิดกฏหมายไทยเราจะไม่พูดถึงนะคะ เอาแค่เรื่องที่เราเจอมา

ใครคิดเห็นอย่างไร แสดงความคิดเห็นได้เลยนะคะ

**แก้ไขคำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่