ประมาณ 10 กว่าปีก่อน ผมเคยไปเที่ยวและใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ณ เมือง Salisbury ( เมืองสโตนเฮนจ์ ) ประเทศอังกฤษ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในเมืองที่เงียบสงบและสวยงาม ครั้งนั้นผมเดินทางโดยใช้บริการของการบินไทย บินตรง 12 ชั่วโมงไปลงที่กรุงลอนดอน ค่าเครื่องบินไป-กลับประมาณ 45,000 บาท พอไปถึง ผมก็กะพักที่ลอนดอนก่อน อีกสัก 3 วันค่อยเดินทางไปยังเมือง Salisbury เมืองสโตนเฮนจ์ จุดหมายปลายทางของผม
ผมเลือกที่พักตามประสาหนุ่มโสดที่ปาล์มเมอร์ลอร์ช มันเป็นโฮสเทลที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน น่าจะเป็นคฤหาสน์เก่าของตระกูลปาล์มเมอร์ ผมชอบที่นี่นะครับ มันดูขลัง เรียบง่าย และได้อารมณ์แบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว การเที่ยวลอนดอนหนนี้ของผมก่อนจะไปเมือง Salisbury ก็เลือกอะไรที่มันเรียบง่ายไม่หวือหวา ผมเลือก tower bridge เป็นที่แรก ผมรู้สึกว่ามันให้อารมณ์หลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน
ผมจำได้ว่าบรรยากาศในวันนั้นดีมาก ดีจนบอกไม่ถูก ภาพของสะพาน tower bridge มันช่างโรแมนติกมากในวันนั้น
สักพักสะพาน tower bridge ก็เปิดออก ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเห็นสะพานเปิด เพราะเท่าที่เคยมาครั้งก่อน ไม่เคยเห็นเลย วันแรกเลยไม่มีอะไรมากครับ ผมก็เดินเล่นต่อแถวนั้น รับลม รับบรรยากาศแบบสบาย ๆ ผมชอบอารมณ์ที่มันเนิบช้าและเก็บเกี่ยวความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องนึกอะไรมาก วันนี้สะพาน tower bridge เปิดต้อนรับผมแล้ว วันข้างหน้าบรรยากาศของสถานที่ต่าง ๆ ก็น่าจะร่วมต้อนรับผมด้วย ผมเดินชิล ๆ ไปทั่ว แล้วก็พักการถ่ายรูปเนื่องจากอยากเก็บความทรงจำต่าง ๆ ผ่านดวงตาบ้าง วันนั้นอารมณ์ดีมากและหลับอย่างเป็นสุข
มาลอนดอนทีไร สิ่งที่ผมจะไม่พลาดเลยคือ การไปที่ british museum เป็นอีกสถานที่หนึ่งในโลกที่ผมชอบมาก ๆ
มันเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าศึกษาและน่าเรียนรู้
วันที่สอง ผมเลยจมหายอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน
ห้องที่อยู่นานที่สุดยังเป็นห้องอียิปต์เหมือนเคย
วันที่สาม ผมไปหมกตัวอยู่ที่ tate modern พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ผมชอบมาก ๆ มาชมที่นี่ทีไร มันให้ไอเดียกับเราอย่างมากมาย
ใน tate modern มีมุมโปรดหลายมุม แต่หลายมุมเขาก็ห้ามถ่ายรูป
วันที่ 4 ก็ออกเดินทางจากลอนดอนด้วยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงเมือง Salisbury พอมาถึง ผมก็เดินทางไปที่สโตนเฮนจ์ก่อนเลย ไปครั้งนั้นไม่ผิดหวังเพราะอากาศดีมาก และเขายังปล่อยให้เราเดินได้รอบสโตนเฮนจ์หรือจะเข้าไปใกล้หน่อยก็ได้ ครั้งต่อ ๆ มาที่ผมไปที่สโตนเฮนจ์เขามีการเอาเชือกมากั้นแต่ก็เดินได้รอบอยู่ แต่ครั้งล่าสุดที่ได้ไปปรากฏว่าเดินได้แค่ครึ่งรอบ ครั้งนี้จึงถือว่าประทับใจมากที่สุดที่ได้สัมผัสสโตนเฮนจ์อย่างใกล้ชิด เป็นครั้งที่ประทับใจมากจริง ๆ ครับ ผมอยู่ที่นั่นนานมาก จึงนั่งรถกลับมาที่ในเมือง เข้าที่พัก วันพรุ่งนี้ค่อยชมเมือง Salisbury กัน
เช้าวันที่ 5 ผมก็สำรวจในโซนที่เรียกง่าย ๆ ว่าเมืองใหม่ก่อน (เพราะที่นี่เขามีย่านเมืองเก่าด้วย) พบว่าบ้านเมืองของเขาน่ารักมากทีเดียว
เมืองนี้จะมีลำธารกลางเมือง เราจะพบลำธารนี้เกือบจะทุกที่
ที่ชอบมาก ๆ คือหลายที่ของลำธารจะมีห่านหรือหงส์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ มันช่างสวยงามมากเลยครับ
หลายจุดจะมีชาวเมืองนำอาหารมาให้ห่านหรือหงส์เหล่านั้น ผมอ่ะ หลงใหลเมืองนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลย
ช่วงวันที่ 6 - 8 ผมมีมุมโปรดหลายมุมมากในเมืองนี้เอาไว้นั่งเล่น อ่านนิยาย แต่งกลอน
หรือแม้กระทั่งเอาชาไปนั่งดื่มริมลำธารหรือสนามหญ้ากลางเมือง เราไปดูมุมโปรดของผมกันดีกว่าครับ มีหลายมุมมากเหมือนกันครับ
ภาพด้านบนนี้ก็ถือเป็นมุมกินดื่มครับ
ประมาณวันที่ 9 ผมตั้งใจไปโบสถ์ Salisbury บางคนบอกว่าโบสถ์ที่นี่มีชื่อเสียงมาก
น่าเสียดายมากครับที่ช่วงนั้นโบสถ์ปิดปรับปรุง แต่โบสถ์สวยมาก แค่ชมบรรยากาศรอบ ๆ ก็คุ้มแล้ว
เด็กนักเรียนที่นี่เมื่อเลิกเรียนก็มักจะมาหาที่คุยกันตรงสนามหน้าโบสถ์
ออกจากแถวโบสถ์ก็มาเดินเล่นในเมืองต่อครับ
พอเดินมาริมลำธาร ก็จะเจอเจ้าห่านหรือหงส์เหมือนเดิม
ประมาณวันที่ 10 - 11 ผมก็ไปเดินเล่นในย่านเมืองเก่า ชอบมากครับ เป็นย่านที่มีเสน่ห์มาก
หลังจากดื่มด่ำกับเมือง Salisbury ผมก็กลับไปลอนดอน อยู่ที่ลอนดอนอีกประมาณ 3 วัน ก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ครับ ที่หนึ่งที่ประทับใจคือตลาดนัด covent garden ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เที่ยวที่นี่ครับเพราะมันไม่ได้เปิดทุกวัน แต่พอได้เที่ยวก็รู้สึกดีมาก เพราะเป็นตลาดนัดที่คนลอนดอนมาเที่ยวกันเยอะมาก ๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากหลายเชื้อชาติด้วยครับ
ผมอำลาลอนดอนด้วยการไปชมทัศนียภาพที่หอนาฬิกาบิ๊กเบน โดยข้ามไปตรงมุมที่คุ้นเคย
ถ้ามีโอกาสคงได้มาที่นี่อีกครับ จนกว่าจะพบกันอีก สวัสดีครับ
*** เที่ยวและใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ณ เมือง Salisbury ( เมืองสโตนเฮนจ์ ) ประเทศอังกฤษ ***
ประมาณ 10 กว่าปีก่อน ผมเคยไปเที่ยวและใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ณ เมือง Salisbury ( เมืองสโตนเฮนจ์ ) ประเทศอังกฤษ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตในเมืองที่เงียบสงบและสวยงาม ครั้งนั้นผมเดินทางโดยใช้บริการของการบินไทย บินตรง 12 ชั่วโมงไปลงที่กรุงลอนดอน ค่าเครื่องบินไป-กลับประมาณ 45,000 บาท พอไปถึง ผมก็กะพักที่ลอนดอนก่อน อีกสัก 3 วันค่อยเดินทางไปยังเมือง Salisbury เมืองสโตนเฮนจ์ จุดหมายปลายทางของผม
ผมเลือกที่พักตามประสาหนุ่มโสดที่ปาล์มเมอร์ลอร์ช มันเป็นโฮสเทลที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน น่าจะเป็นคฤหาสน์เก่าของตระกูลปาล์มเมอร์ ผมชอบที่นี่นะครับ มันดูขลัง เรียบง่าย และได้อารมณ์แบบคลาสสิก เหมาะสำหรับคนที่เดินทางคนเดียว การเที่ยวลอนดอนหนนี้ของผมก่อนจะไปเมือง Salisbury ก็เลือกอะไรที่มันเรียบง่ายไม่หวือหวา ผมเลือก tower bridge เป็นที่แรก ผมรู้สึกว่ามันให้อารมณ์หลาย ๆ อย่างไว้ด้วยกัน
สักพักสะพาน tower bridge ก็เปิดออก ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้มีโอกาสเห็นสะพานเปิด เพราะเท่าที่เคยมาครั้งก่อน ไม่เคยเห็นเลย วันแรกเลยไม่มีอะไรมากครับ ผมก็เดินเล่นต่อแถวนั้น รับลม รับบรรยากาศแบบสบาย ๆ ผมชอบอารมณ์ที่มันเนิบช้าและเก็บเกี่ยวความรู้สึกต่าง ๆ เอาไว้ ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องนึกอะไรมาก วันนี้สะพาน tower bridge เปิดต้อนรับผมแล้ว วันข้างหน้าบรรยากาศของสถานที่ต่าง ๆ ก็น่าจะร่วมต้อนรับผมด้วย ผมเดินชิล ๆ ไปทั่ว แล้วก็พักการถ่ายรูปเนื่องจากอยากเก็บความทรงจำต่าง ๆ ผ่านดวงตาบ้าง วันนั้นอารมณ์ดีมากและหลับอย่างเป็นสุข
มันเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าศึกษาและน่าเรียนรู้
วันที่สอง ผมเลยจมหายอยู่ที่นี่เกือบทั้งวัน
วันที่ 4 ก็ออกเดินทางจากลอนดอนด้วยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงเมือง Salisbury พอมาถึง ผมก็เดินทางไปที่สโตนเฮนจ์ก่อนเลย ไปครั้งนั้นไม่ผิดหวังเพราะอากาศดีมาก และเขายังปล่อยให้เราเดินได้รอบสโตนเฮนจ์หรือจะเข้าไปใกล้หน่อยก็ได้ ครั้งต่อ ๆ มาที่ผมไปที่สโตนเฮนจ์เขามีการเอาเชือกมากั้นแต่ก็เดินได้รอบอยู่ แต่ครั้งล่าสุดที่ได้ไปปรากฏว่าเดินได้แค่ครึ่งรอบ ครั้งนี้จึงถือว่าประทับใจมากที่สุดที่ได้สัมผัสสโตนเฮนจ์อย่างใกล้ชิด เป็นครั้งที่ประทับใจมากจริง ๆ ครับ ผมอยู่ที่นั่นนานมาก จึงนั่งรถกลับมาที่ในเมือง เข้าที่พัก วันพรุ่งนี้ค่อยชมเมือง Salisbury กัน
หรือแม้กระทั่งเอาชาไปนั่งดื่มริมลำธารหรือสนามหญ้ากลางเมือง เราไปดูมุมโปรดของผมกันดีกว่าครับ มีหลายมุมมากเหมือนกันครับ
หลังจากดื่มด่ำกับเมือง Salisbury ผมก็กลับไปลอนดอน อยู่ที่ลอนดอนอีกประมาณ 3 วัน ก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ครับ ที่หนึ่งที่ประทับใจคือตลาดนัด covent garden ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้เที่ยวที่นี่ครับเพราะมันไม่ได้เปิดทุกวัน แต่พอได้เที่ยวก็รู้สึกดีมาก เพราะเป็นตลาดนัดที่คนลอนดอนมาเที่ยวกันเยอะมาก ๆ รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากหลายเชื้อชาติด้วยครับ
ถ้ามีโอกาสคงได้มาที่นี่อีกครับ จนกว่าจะพบกันอีก สวัสดีครับ