วันนี้มีอะไรอยากจะมาแนะนำเพื่อนๆ ที่เป็น anxiety กับ depression และไม่อยากกินยาหมอหรือยาหมอไม่ได้ผลเท่าที่ควร
อยากแนะนำอาหารเสริมตัวนึงซึ่งเป็นสมุนไพรชื่อ Ashwagandha ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ขาย และสมุนไพรตัวนี้มีขายหลายยี่ห้อมากๆ
และขอไม่แนะนำยี่ห้อที่กินอยู่เพราะกลัวว่าจะหาว่าเรามาขายของ อยากให้ไปหากันเอาเอง
และอีกอย่างเราอยู่ต่างประเทศ ทำงานเป็นช่างเล็บ ไม่ได้ขายของไม่มีส่ววนได้ส่วนเสียใดๆ กับบริษัทยาต่างๆ ทั้งสิ้น
แต่ขอเตือนก่อนว่าจะพิมพ์ยาวมากเพราะอยากจะให้ได้อ่านกันเป็นความรู้ ถ้าไม่ชอบก็ข้ามไปได้ค่ะ
ส่วนตัวแล้วเรามีปัญหาเป็น social anxiety มานานมากตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้นมาจนถึงตอนนี้อายุ 32 ปีแล้ว จนตอนหลังมีอาการ
major depressive disorder ร่วมด้วยเนื่องจากรักษา anxiety มานานมากแต่ไม่หายสักทีจะเพราะเหตุอะไรก็ตาม
ได้รับยาหมอมาหลายปีและเปลี่ยนยาลองยาเปลี่ยนหมอไปเรื่อยๆ จะทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร และมักจะได้รับผลข้างเคียง
ที่รุนแรงเช่น anxiety ดีขึ้นบ้าง แต่ depression รุนแรงจนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย ยาบางตัวทำให้ depression ดีขึ้นแต่ดันทำให้
anxiety เป็นหนักขึ้นจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ บางตัวทำให้มี nightmares ตอนหลับ หรือไม่ก็ restless leg syndrome
บางตัวทำให้เรากลายเป็นคนกร้าวร้าวโมโหรุนแรง คือแต่ละอย่าง ผลข้างเคียงมันรุนแรงมากจนเรารับไม่ได้จริงๆ จึงต้องหยุดรักษาไป
แต่ที่ผ่านมาเราทรมานมากๆ เพราะว่าเราเป็น social anxiety ค่อนข้างรุนแรงและหน้าที่การงานหลายๆ อย่างที่เคยทำ
มันหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนไม่ได้ เราเองมีปัญหาชีวิตด้านอื่นๆ ที่ทำให้เรารู้สึกเครียดตลอดเวลา เราจึงคอยพยายามค้นหาทางเลือกอื่น
คือการหาอาหารเสริมหรือไวตามินต่างๆ โดยศึกษาหาความรู้เอาทางอินเตอร์เน็ต ลองหลายๆ อย่าง ไวตามินตัวนั้นตัวนี้
ใครว่าดีก็ลองหมดแต่ก็ไม่ได้ผล แม้แต่อาหารเสริมที่ในอมริกาว่ากันว่าใช้ได้ผลดีเกือบเทียบเท่า prescription medication
เราลองมาหลายตัวแต่ไม่เกิดอะไรใดๆ 555
จนกระทั่งวันนึงเราไปร้านขายของชำแนวธรรมชาติบำบัดและ organics แถวเมืองที่เราอยู่ พนักงานขายมาช่วยเหลือเรา
และสอบถามว่าเราหาอะไรอยู่ เราก็บอกเล่าอาการไป เขาแนะนำให้ลอง holy basil และ Ashwagandha ซึ่งเราไม่เคยลองทั้งสองตัว
เราไม่ได้ซื้อกับทางร้านแต่เรากลับบ้านมาหาข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อ และเท่าที่เราอ่านมา ทั้งสองตัวเป็นเหมือนอาหารเสริม
ที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลในต่างประเทศอย่างแพร่หลายมานานสักพักแล้ว
(แต่ไม่นานเท่าบางตัวเช่น 5HTPที่เราก็เคยลองแต่ง่อยมาก ไม่มีผลอะไรใดๆ เลย) และสามารถช่วยเรืองการนอนไม่หลับได้ด้วย
โดยเฉพาะ holy basil extract แต่สุดท้ายเราตัดสินใจสั่งซื้อ Ashwagandha มาลองรับประทานจาก amazon.com
เราลองกินวันแรก 600 mg. ไม่เกิดอะไรใดๆ 5555 วันที่สองที่สาม ก็ 600 mg ก็ไม่ได้ผลอะไร จนวันที่สี่เราลอง 600 mg เช้าเย็น
เท่ากับวันละ 1200 mg ก็เริ่มรู้สึกเครียดน้อยลงนิดๆ แต่ไม่มั่นใจว่าเราคิดไปเอง placebo effect หรือไม่ เพราะมันไม่ได้เห็นผลชัดเจนขนาดนั้น
เราลองหาข้อมูลในเน็ตอีกทีว่า dosage ที่สูงสุดที่เราสามารถรับประทานได้ต่อวันคือ 6000 mg! เราก็เลยคิดว่าอาการของเราค่อนข้างรุนแรง
กินโดสน้อยๆ เห็นทีจะไม่ได้ผล ก็เลยลอง เช้า 1200 เย็น 600 mg รวมเป็นวันละ 1800 mg สองวันผ่านไป สามารถรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น
พบเจอผู้คนก็ไม่สั่น มือไม่เย็นไม่เหงื่อออกเหมือนปกติ ความคิดแล่นกว่าเดิม มีสมาธิในการทำเล็บมากขึ้น ความเงอะงะเก้อเขิน
ลดน้อยลงมากๆ และโดยรวมความเหนื่อยล้าจากการทำงานก็ไม่มากเท่าปกติ
ณ ปัจจุบันก็กินแต่ตัวนี้ วันไหนคิดว่าไม่ยุ่งมากไม่เหนื่อยหรือเครียดมากที่ร้านเราก็จะกินเช้า 1200 mg เย็น 600 mg ส่วนวันไหนรู้ว่า
จะมีความเครียดสูงมากเราก็กิน 1200 mg วันละสองครั้งเช้าเย็น รวมแล้วก็ 2400 mg ต่อวันเอง ยังไม่ถึงครึ่งของขนาดสูงสุดที่กำหนดไว้
และสำหรับเรามันได้ผลโดยที่อาจจะไม่ 100% แต่มันถึง 50-70% และยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สำหรับเราคือมันมหัศจรรย์มาก
เลยคิดว่าอยากจะเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านและศึกษาสำหรับใครที่สนใจวิถีธรรมชาติจากสมุนไพร
อยากให้ลอง google หาข้อมูลเอาเอง อ่านให้เยอะๆ และถ้ามั่นใจว่าอยากลองค่อยลอง
ส่วนตัวแล้วคิดว่าจะลอง holy basil ด้วยเพราะเท่าที่อ่านมามันก็อเมซิ่งใช่ย่อย อยากรู้ว่ากินพร้อมกันสองตัวจะดีกว่าไหม
holy basil จริงๆ ก็คือสกัดจากใบกะเพราดีๆ นั่นเอง เรายังศึกษาไม่มากพอ อยากจะหาอ่านข้อมูลให้แน่ใจกว่านี้ก่อนจะทดลอง
แต่ตอนนี้เราเริ่มมีความหวังมากขึ้นว่าจะสามารถใช้ชิวิตอย่างใกล้เคียงคนปกติมากขึ้น เมื่อก่อนเราทุกข์และท้อมากๆ
เพราะรู้สึกว่าเรานี่มันตัวประหลาดร่างกายครบ 32 สมองก็มี มือเท้าก็ครบแต่ทำไมต้องมาแพ้ภัยตัวเองแพ้โรคทางจิตใจด้วย
ณ ตอนนี้คิดว่าจะพยายามลองทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เราทำงานหนักมากไม่มีเวลาออกกำลังกาย
อย่างน้อยอยากจะพยายามนอนให้เยอะขึ้นและดื่มน้ำเยอะขึ้นและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
ในระยะยาวถ้าเราดีขึ้นแบบยั่งยืนถาวรเราจะดีใจมากและจะมาบอกเล่าประสบการณ์ต่อไป
ใครเป็นโรคซึมเศร้า,วิตกกังวล(anxiety disorder, major depressive disorder)อาจมีหนทางดีขึ้นได้ค่ะ
อยากแนะนำอาหารเสริมตัวนึงซึ่งเป็นสมุนไพรชื่อ Ashwagandha ออกตัวก่อนว่าไม่ได้ขาย และสมุนไพรตัวนี้มีขายหลายยี่ห้อมากๆ
และขอไม่แนะนำยี่ห้อที่กินอยู่เพราะกลัวว่าจะหาว่าเรามาขายของ อยากให้ไปหากันเอาเอง
และอีกอย่างเราอยู่ต่างประเทศ ทำงานเป็นช่างเล็บ ไม่ได้ขายของไม่มีส่ววนได้ส่วนเสียใดๆ กับบริษัทยาต่างๆ ทั้งสิ้น
แต่ขอเตือนก่อนว่าจะพิมพ์ยาวมากเพราะอยากจะให้ได้อ่านกันเป็นความรู้ ถ้าไม่ชอบก็ข้ามไปได้ค่ะ
ส่วนตัวแล้วเรามีปัญหาเป็น social anxiety มานานมากตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้นมาจนถึงตอนนี้อายุ 32 ปีแล้ว จนตอนหลังมีอาการ
major depressive disorder ร่วมด้วยเนื่องจากรักษา anxiety มานานมากแต่ไม่หายสักทีจะเพราะเหตุอะไรก็ตาม
ได้รับยาหมอมาหลายปีและเปลี่ยนยาลองยาเปลี่ยนหมอไปเรื่อยๆ จะทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร และมักจะได้รับผลข้างเคียง
ที่รุนแรงเช่น anxiety ดีขึ้นบ้าง แต่ depression รุนแรงจนถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย ยาบางตัวทำให้ depression ดีขึ้นแต่ดันทำให้
anxiety เป็นหนักขึ้นจนไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ บางตัวทำให้มี nightmares ตอนหลับ หรือไม่ก็ restless leg syndrome
บางตัวทำให้เรากลายเป็นคนกร้าวร้าวโมโหรุนแรง คือแต่ละอย่าง ผลข้างเคียงมันรุนแรงมากจนเรารับไม่ได้จริงๆ จึงต้องหยุดรักษาไป
แต่ที่ผ่านมาเราทรมานมากๆ เพราะว่าเราเป็น social anxiety ค่อนข้างรุนแรงและหน้าที่การงานหลายๆ อย่างที่เคยทำ
มันหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนไม่ได้ เราเองมีปัญหาชีวิตด้านอื่นๆ ที่ทำให้เรารู้สึกเครียดตลอดเวลา เราจึงคอยพยายามค้นหาทางเลือกอื่น
คือการหาอาหารเสริมหรือไวตามินต่างๆ โดยศึกษาหาความรู้เอาทางอินเตอร์เน็ต ลองหลายๆ อย่าง ไวตามินตัวนั้นตัวนี้
ใครว่าดีก็ลองหมดแต่ก็ไม่ได้ผล แม้แต่อาหารเสริมที่ในอมริกาว่ากันว่าใช้ได้ผลดีเกือบเทียบเท่า prescription medication
เราลองมาหลายตัวแต่ไม่เกิดอะไรใดๆ 555
จนกระทั่งวันนึงเราไปร้านขายของชำแนวธรรมชาติบำบัดและ organics แถวเมืองที่เราอยู่ พนักงานขายมาช่วยเหลือเรา
และสอบถามว่าเราหาอะไรอยู่ เราก็บอกเล่าอาการไป เขาแนะนำให้ลอง holy basil และ Ashwagandha ซึ่งเราไม่เคยลองทั้งสองตัว
เราไม่ได้ซื้อกับทางร้านแต่เรากลับบ้านมาหาข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อ และเท่าที่เราอ่านมา ทั้งสองตัวเป็นเหมือนอาหารเสริม
ที่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลในต่างประเทศอย่างแพร่หลายมานานสักพักแล้ว
(แต่ไม่นานเท่าบางตัวเช่น 5HTPที่เราก็เคยลองแต่ง่อยมาก ไม่มีผลอะไรใดๆ เลย) และสามารถช่วยเรืองการนอนไม่หลับได้ด้วย
โดยเฉพาะ holy basil extract แต่สุดท้ายเราตัดสินใจสั่งซื้อ Ashwagandha มาลองรับประทานจาก amazon.com
เราลองกินวันแรก 600 mg. ไม่เกิดอะไรใดๆ 5555 วันที่สองที่สาม ก็ 600 mg ก็ไม่ได้ผลอะไร จนวันที่สี่เราลอง 600 mg เช้าเย็น
เท่ากับวันละ 1200 mg ก็เริ่มรู้สึกเครียดน้อยลงนิดๆ แต่ไม่มั่นใจว่าเราคิดไปเอง placebo effect หรือไม่ เพราะมันไม่ได้เห็นผลชัดเจนขนาดนั้น
เราลองหาข้อมูลในเน็ตอีกทีว่า dosage ที่สูงสุดที่เราสามารถรับประทานได้ต่อวันคือ 6000 mg! เราก็เลยคิดว่าอาการของเราค่อนข้างรุนแรง
กินโดสน้อยๆ เห็นทีจะไม่ได้ผล ก็เลยลอง เช้า 1200 เย็น 600 mg รวมเป็นวันละ 1800 mg สองวันผ่านไป สามารถรับมือกับปัญหาได้ดีขึ้น
พบเจอผู้คนก็ไม่สั่น มือไม่เย็นไม่เหงื่อออกเหมือนปกติ ความคิดแล่นกว่าเดิม มีสมาธิในการทำเล็บมากขึ้น ความเงอะงะเก้อเขิน
ลดน้อยลงมากๆ และโดยรวมความเหนื่อยล้าจากการทำงานก็ไม่มากเท่าปกติ
ณ ปัจจุบันก็กินแต่ตัวนี้ วันไหนคิดว่าไม่ยุ่งมากไม่เหนื่อยหรือเครียดมากที่ร้านเราก็จะกินเช้า 1200 mg เย็น 600 mg ส่วนวันไหนรู้ว่า
จะมีความเครียดสูงมากเราก็กิน 1200 mg วันละสองครั้งเช้าเย็น รวมแล้วก็ 2400 mg ต่อวันเอง ยังไม่ถึงครึ่งของขนาดสูงสุดที่กำหนดไว้
และสำหรับเรามันได้ผลโดยที่อาจจะไม่ 100% แต่มันถึง 50-70% และยังไม่มีผลข้างเคียงใดๆ สำหรับเราคือมันมหัศจรรย์มาก
เลยคิดว่าอยากจะเอามาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านและศึกษาสำหรับใครที่สนใจวิถีธรรมชาติจากสมุนไพร
อยากให้ลอง google หาข้อมูลเอาเอง อ่านให้เยอะๆ และถ้ามั่นใจว่าอยากลองค่อยลอง
ส่วนตัวแล้วคิดว่าจะลอง holy basil ด้วยเพราะเท่าที่อ่านมามันก็อเมซิ่งใช่ย่อย อยากรู้ว่ากินพร้อมกันสองตัวจะดีกว่าไหม
holy basil จริงๆ ก็คือสกัดจากใบกะเพราดีๆ นั่นเอง เรายังศึกษาไม่มากพอ อยากจะหาอ่านข้อมูลให้แน่ใจกว่านี้ก่อนจะทดลอง
แต่ตอนนี้เราเริ่มมีความหวังมากขึ้นว่าจะสามารถใช้ชิวิตอย่างใกล้เคียงคนปกติมากขึ้น เมื่อก่อนเราทุกข์และท้อมากๆ
เพราะรู้สึกว่าเรานี่มันตัวประหลาดร่างกายครบ 32 สมองก็มี มือเท้าก็ครบแต่ทำไมต้องมาแพ้ภัยตัวเองแพ้โรคทางจิตใจด้วย
ณ ตอนนี้คิดว่าจะพยายามลองทำอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เราทำงานหนักมากไม่มีเวลาออกกำลังกาย
อย่างน้อยอยากจะพยายามนอนให้เยอะขึ้นและดื่มน้ำเยอะขึ้นและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น
ในระยะยาวถ้าเราดีขึ้นแบบยั่งยืนถาวรเราจะดีใจมากและจะมาบอกเล่าประสบการณ์ต่อไป