เรามีปัญหาสุขภาพ คือ หูข้างขวา เป็นอะไรไม่รู้ ตื่นมาเช้าวันอังคาร 20 มี.ค.2561 ได้ยินเสียงเหมือน เราอยู่ในห้องที่เงียบสนิท มันจะเป็นเสียงที่อธิบายได้ยากนิดนึง คล้ายๆอื้อๆตึงๆ และ เรารู้สึกงงๆ เป็นบางขณะ แต่ไม่นาน พอดีวันนั้นไม่ว่าง เลยไม่ได้ไปหาหมอ วันรุ่งขึ้น พุธ 21 มี.ค.2561 เราค้นหาบนอินเตอร์เน็ท เจอคลีนิคหู ฯลฯ ในเชียงใหม่ อุตส่าห์ดีใจ แต่หมอคนนั้นไม่อยู่...หยุดยาวจนถึง 22 มี.ค.2561 เราเลยตัดสินใจเข้าไป ร.พ.เอกชนแห่งหนึ่งแถวคูเมือง (เราอยู่เชียงใหม่) จ.ท.ของ ร.พ.บอกว่ามีหมอคนเดียว อาจต้องรอนาน เรามีธุระ เลยไม่ได้รอตรวจ
เช้าวันรุ่งขึ้น พฤหัสฯ 22 มี.ค.2561 แฟนเรามีนัด follow up กับหมอที่ ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน 10:30 น. แต่เราโทรเลื่อนนัดเป็นช่วงบ่าย เพราะหูเราสำคัญกว่า เราค้นเจอบนอินเตอร์เน็ตถึง ร.พ.รัฐ ในเมืองแถวสวนดอก เราจึงรีบไป ตอน 10 โมง ต้องจอดรถเสียเงิน และเดินไปเป็นกิโลฯ พอกรอกรายละเอียดเสร็จ ไปจุดคัดกรอง แล้วก็ขึ้นไปรอบนตึก เรานั่งรอหน้าเคาท์เตอร์ จ.ท.เรียก 3 รอบ ในเวลาเกือบ 2 ช.ม. หวังว่ารอบที่ 4 จะมีชื่อเรา ก็ไม่มี เราได้สังเกตเห็นว่า จ.ท.เรียกคนที่มีมาหลังเราเข้าไปก่อนหลายคน (คือมาทีหลัง เพราะได้ยิน จ.ท.ที่เคาท์เตอร์ถามว่าวันนี้เป็นอะไรมา? ไม่ใช่มีนัดกับหมอแน่นอน...)
จนทนไม่ไหว พอเราเห็นหมายเลขของหนึ่งในคนไข้ที่เพิ่งออกมาจากห้องตรวจเป็นเลขหลังเราเท่านั้นแหล่ะ เราจึงเดินเข้าไปพูดกับ จ.ท.ว่า ทำไมเรียกคนมาทีหลังเข้าตรวจก่อน จ.ท.คนดังกล่าวว่า คนไข้นั้นมีนัด เราว่าไม่ใช่แล้ว เพราะเราได้ยิน จ.ท.ถามคนไข้คนนั้นว่าเป็นอะไรมา ถ้ามีนัด จะต้องถามทำไม จ.ท.คนนั้น จึงพูดว่า อ๋อ น้องเขาเป็นนักเรียน!!! อะไรนะ? มันแปลว่าอะไรน่ะ? แปลว่านักเรียน (จริงๆเป็นเด็กนักศึกษาตัวสูงกว่าเราอีก) มีสิทธิ์พิเศษ ได้รับการตรวจก่อนหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น จะเขียนหมายเลขให้เขาไปด้วยทำไม เพราะว่าเราเห็นแล้วมันเสียความรู้สึกมากๆ เรานั่งรอเกือบ 2 ชั่วโมงโดยไม่ได้ถาม ไม่ได้บ่น ทำไมไม่เขียนแปะไว้ให้ทำใจก่อนเลยว่า "ถ้าคนไข้เป็นนักศึกษา จะได้รับสิทธิ์เข้าตรวจก่อน" อยากทราบว่ามันมี กฏ แบบนี้จริงๆหรือ?
เราเลยเดินกลับเกือบกิโลฯ มาที่รถ และ จ.ท.ก็ได้โทรเข้ามา บอกว่าถึงคิวเราแล้ว เราบอกว่า"ยกเลิกไปเถอะ เพิ่งจะมาเรียก เราเห็นแล้วว่าเรียกแต่คนมาทีหลังให้เข้าไปก่อน ทำได้ไง ไม่ถูกต้อง" แล้วเราก็ตัดสินใจกลับไป ร.พ.เอกชนตรงคูเมืองเพราะหวังว่าหมอจะมีมากกว่า 1 คน แต่เหมือนเดิม หมอมีเพียงคนเดียว ที่แย่หนักก็คือ หลังจากเอาเครื่องมือส่องดูในหู คุย ซักถามอาการ เป็นเวลาพอสมควร หมอที่มีอยู่เพียงคนเดียวท่านนี้พูดเพียงว่า "หมอต้องขอโทษด้วยเพราะหมอก็บอกไม่ได้ว่าคุณเป็นอะไร?" (...หา...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่าจะได้ยินเลย...) และ "หมอไม่รู้จริงๆ ไม่รู้จะช่วยคุณยังไง" รู้ไหมเราอยากร้องไห้ และเดินงงๆออกมา มาจ่ายเงิน 620 บาท มันเป็นไปได้ไง...แทนที่แกจะตรวจให้ละเอียดกว่านั้น...เรารู้สึกท้อแท้มากๆ
เรากลับมาบ้านพาแฟนไป ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน (แกมีนัด follow up) พอแกคุยกับหมอเสร็จ (หมออายุรกรรม) เราก็เลยเปรยๆกับหมอของแฟน เรื่องหูเราและความพยายามที่เราต้องการหาหมอหู แกใจดีมากๆ หยิบที่ส่องในหูมาดูหูเรา และบอกว่าแกเห็นมีเลือดซิบๆทั้ง 2 ข้าง แต่ข้างขวามีมากกว่า แกว่าอาจเป็นเพราะเราพยายามบริหารท่อหูแรงเกิน ก็ทำให้มันฉีกขาด บาดเจ็บได้ เรารบกวนถามถึงยา แกแนะให้ซื้อ Ibuprofen 400 mg. กินเช้าเย็นคู่กับยาแก้แพ้ เพราะเรามีน้ำมูกด้วย เราก็เกรงใจเพราะแกไม่ใช่หมอรักษาหู จึงขอบคุณและดีใจมีหวังเล็กๆ กลับมาบ้านซื้อ Ibuprofen 400 g. มากินกับ Telfast 60 mg. เช้า 1 ครั้ง และ เย็น 1 ครั้ง และไม่กล้าบริหารหูอีก
จนวันนี้ อา. 25 มี.ค.2561 อาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร หูยังอื้ออึง มึนๆนิดๆ พอดีพาลูกไปหาหมอที่ ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน เพราะลูกไอๆ หายๆ เลยถามหาหมอ แต่พยาบาลบอกว่าหมองด ไม่มา จะมาพรุ่งนี้ เราเนือยๆ เหนื่อยๆ ท้อแท้ คิดในใจว่า นี่มันอะไรกัน เชียงใหม่นะ หมอรักษาหูมีที่ไหนบ้าง ที่จะช่วยเราได้ อาทิตย์นี้เป็นแบบนี้ ทั้งอาทิตย์ ไม่ใช่เราละเลย แต่ไม่มีโอกาส ไม่มีหมอ โอกาสไม่ดี หมอ.....
ใครก็ได้ที่อยู่ในเชียงใหม่ รู้จักหมอรักษาหูพอจะแนะนำเราได้ จะขอบคุณมากๆเลย หรือคุณหมอรักษาหูท่านไหนที่รักษาอยู่ในเชียงใหม่ ถ้าอ่านเจอกระทู้นี้ รู้สึก สงสารเรา ขอได้โปรดเมตตาเราด้วยเถิด แนะนำ พูดคุย อะไรก็ได้ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ขอขอบคุณทุกๆคนล่วงหน้า
ขอความกรุณาเกี่ยวกับเรื่องหมอรักษาหูในเชียงใหม่ด้วย
เช้าวันรุ่งขึ้น พฤหัสฯ 22 มี.ค.2561 แฟนเรามีนัด follow up กับหมอที่ ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน 10:30 น. แต่เราโทรเลื่อนนัดเป็นช่วงบ่าย เพราะหูเราสำคัญกว่า เราค้นเจอบนอินเตอร์เน็ตถึง ร.พ.รัฐ ในเมืองแถวสวนดอก เราจึงรีบไป ตอน 10 โมง ต้องจอดรถเสียเงิน และเดินไปเป็นกิโลฯ พอกรอกรายละเอียดเสร็จ ไปจุดคัดกรอง แล้วก็ขึ้นไปรอบนตึก เรานั่งรอหน้าเคาท์เตอร์ จ.ท.เรียก 3 รอบ ในเวลาเกือบ 2 ช.ม. หวังว่ารอบที่ 4 จะมีชื่อเรา ก็ไม่มี เราได้สังเกตเห็นว่า จ.ท.เรียกคนที่มีมาหลังเราเข้าไปก่อนหลายคน (คือมาทีหลัง เพราะได้ยิน จ.ท.ที่เคาท์เตอร์ถามว่าวันนี้เป็นอะไรมา? ไม่ใช่มีนัดกับหมอแน่นอน...)
จนทนไม่ไหว พอเราเห็นหมายเลขของหนึ่งในคนไข้ที่เพิ่งออกมาจากห้องตรวจเป็นเลขหลังเราเท่านั้นแหล่ะ เราจึงเดินเข้าไปพูดกับ จ.ท.ว่า ทำไมเรียกคนมาทีหลังเข้าตรวจก่อน จ.ท.คนดังกล่าวว่า คนไข้นั้นมีนัด เราว่าไม่ใช่แล้ว เพราะเราได้ยิน จ.ท.ถามคนไข้คนนั้นว่าเป็นอะไรมา ถ้ามีนัด จะต้องถามทำไม จ.ท.คนนั้น จึงพูดว่า อ๋อ น้องเขาเป็นนักเรียน!!! อะไรนะ? มันแปลว่าอะไรน่ะ? แปลว่านักเรียน (จริงๆเป็นเด็กนักศึกษาตัวสูงกว่าเราอีก) มีสิทธิ์พิเศษ ได้รับการตรวจก่อนหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น จะเขียนหมายเลขให้เขาไปด้วยทำไม เพราะว่าเราเห็นแล้วมันเสียความรู้สึกมากๆ เรานั่งรอเกือบ 2 ชั่วโมงโดยไม่ได้ถาม ไม่ได้บ่น ทำไมไม่เขียนแปะไว้ให้ทำใจก่อนเลยว่า "ถ้าคนไข้เป็นนักศึกษา จะได้รับสิทธิ์เข้าตรวจก่อน" อยากทราบว่ามันมี กฏ แบบนี้จริงๆหรือ?
เราเลยเดินกลับเกือบกิโลฯ มาที่รถ และ จ.ท.ก็ได้โทรเข้ามา บอกว่าถึงคิวเราแล้ว เราบอกว่า"ยกเลิกไปเถอะ เพิ่งจะมาเรียก เราเห็นแล้วว่าเรียกแต่คนมาทีหลังให้เข้าไปก่อน ทำได้ไง ไม่ถูกต้อง" แล้วเราก็ตัดสินใจกลับไป ร.พ.เอกชนตรงคูเมืองเพราะหวังว่าหมอจะมีมากกว่า 1 คน แต่เหมือนเดิม หมอมีเพียงคนเดียว ที่แย่หนักก็คือ หลังจากเอาเครื่องมือส่องดูในหู คุย ซักถามอาการ เป็นเวลาพอสมควร หมอที่มีอยู่เพียงคนเดียวท่านนี้พูดเพียงว่า "หมอต้องขอโทษด้วยเพราะหมอก็บอกไม่ได้ว่าคุณเป็นอะไร?" (...หา...นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่าจะได้ยินเลย...) และ "หมอไม่รู้จริงๆ ไม่รู้จะช่วยคุณยังไง" รู้ไหมเราอยากร้องไห้ และเดินงงๆออกมา มาจ่ายเงิน 620 บาท มันเป็นไปได้ไง...แทนที่แกจะตรวจให้ละเอียดกว่านั้น...เรารู้สึกท้อแท้มากๆ
เรากลับมาบ้านพาแฟนไป ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน (แกมีนัด follow up) พอแกคุยกับหมอเสร็จ (หมออายุรกรรม) เราก็เลยเปรยๆกับหมอของแฟน เรื่องหูเราและความพยายามที่เราต้องการหาหมอหู แกใจดีมากๆ หยิบที่ส่องในหูมาดูหูเรา และบอกว่าแกเห็นมีเลือดซิบๆทั้ง 2 ข้าง แต่ข้างขวามีมากกว่า แกว่าอาจเป็นเพราะเราพยายามบริหารท่อหูแรงเกิน ก็ทำให้มันฉีกขาด บาดเจ็บได้ เรารบกวนถามถึงยา แกแนะให้ซื้อ Ibuprofen 400 mg. กินเช้าเย็นคู่กับยาแก้แพ้ เพราะเรามีน้ำมูกด้วย เราก็เกรงใจเพราะแกไม่ใช่หมอรักษาหู จึงขอบคุณและดีใจมีหวังเล็กๆ กลับมาบ้านซื้อ Ibuprofen 400 g. มากินกับ Telfast 60 mg. เช้า 1 ครั้ง และ เย็น 1 ครั้ง และไม่กล้าบริหารหูอีก
จนวันนี้ อา. 25 มี.ค.2561 อาการก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร หูยังอื้ออึง มึนๆนิดๆ พอดีพาลูกไปหาหมอที่ ร.พ.เอกชนใกล้ๆบ้าน เพราะลูกไอๆ หายๆ เลยถามหาหมอ แต่พยาบาลบอกว่าหมองด ไม่มา จะมาพรุ่งนี้ เราเนือยๆ เหนื่อยๆ ท้อแท้ คิดในใจว่า นี่มันอะไรกัน เชียงใหม่นะ หมอรักษาหูมีที่ไหนบ้าง ที่จะช่วยเราได้ อาทิตย์นี้เป็นแบบนี้ ทั้งอาทิตย์ ไม่ใช่เราละเลย แต่ไม่มีโอกาส ไม่มีหมอ โอกาสไม่ดี หมอ.....
ใครก็ได้ที่อยู่ในเชียงใหม่ รู้จักหมอรักษาหูพอจะแนะนำเราได้ จะขอบคุณมากๆเลย หรือคุณหมอรักษาหูท่านไหนที่รักษาอยู่ในเชียงใหม่ ถ้าอ่านเจอกระทู้นี้ รู้สึก สงสารเรา ขอได้โปรดเมตตาเราด้วยเถิด แนะนำ พูดคุย อะไรก็ได้ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ขอขอบคุณทุกๆคนล่วงหน้า