ดูลิงก์ของทุกตอน (ที่เขียนเสร็จแล้ว) ได้ตามด้านล่างเลยค่ะ
+.+.+ลุยเดี่ยวเที่ยวตอนตกกงาน 72 วัน จาก USA ถึง PERU+.+.+
https://ppantip.com/topic/37467736
ถ้าเบื่อพีระมิดแล้ว เราไปเที่ยว “น้ำตกร้อน” กัน!!!
ต้องรีบตื่นทั้งที่ไม่อยากตื่น บอกตัวเองว่าไปนั่งรถ Chicken Bus ก็ได้ แต่พอนึกถึงจุดที่นั่งอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย ยอมตื่นก็ได้อ่ะ!!!
รีบเก็บข้าวของแล้วหา Taxi ไป Pullmantur เช้าๆ อย่างงี้แน่นอนว่าต้องโดน Taxi โขกราคาค่ะ เปิดมาได้ตั้ง Q50 เราเลยเดินหนี มี Taxi ผู้หญิงมาเปิดที่ Q35 เราต่อเหลือ Q25 แรกๆ ก็ไม่ยอมไป จนมีผู้ชายเดินมาจากไหนไม่รู้มาทัก เราเค้าเลยรีบเรียกเราขึ้นรถ (สงสัยมัยคงเคยมี case อันตรายอะไรป่าวหว่า?)
พอถึง Pullmantur คำตอบที่ได้คือ “ตั๋วเต็มค่ะ” อร๊ายยยย....ระหว่างคิดว่าจะเอายังไงดี สถานีรถที่มันไปชายแดนขึ้นตรงไหน คุณน้องคนขายก็โพล่งขึ้นมาว่า “แต่ตอนบ่ายน่าจะมีนะคะ” บ่ายที่ว่านี่คือบ่ายสอง จะไปเมืองอื่นก็ไม่ได้ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ตกลงใจไปแล้วกัน เราเลือกที่นั่งเสร็จสรรพ ขอริมหน้าต่าง บลาๆๆ พอตัดเงินบัตรเครดิตปุ๊บ
คุณน้องคนขาย: คือตอนนี้เหลือแค่ที่นั่งด้านหลังริมทางเดินที่เดียว
เรา: อ้าว (ตัดบัตรแล้วค่อยมาบอก อะไรฟระ อยากจะพร่ำพรรณาเป็นภาษาสเปน แต่ชีวิตนี้พูดได้แค่ สวัสดีกับขอบคุณ เลย ได้แค่อ้าว)
คุณน้องคนขาย: โอเคมั๊ยคะ
เรา: (มันก็ต้อง) โอเค (สิ ก็ตัดเงินชั้นไปแล้วหนิ)
จัวหวะที่รับตั๋ว เปิด Lonely Planet พร้อมจะเอากระเป๋าไปฝาก Locker นั้น
คุณน้องคนขายตั๋ว: รีบขึ้นรถเลยค่ะ รถจะออกแล้ว
เรา: รถกี่โมง?
คุณน้องคนขาย: 6.15am ค่ะ
เดชะบุญที่พูดสเปนไม่เป็น เลยไม่ได้พร่ำบ่นไป คำว่า “ตอนนี้” มีที่นั่งเหลือที่เดียวของคุณน้อง คือ “ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้จริงๆ เราก็รีบกระหืดกระหอบขึ้นรถไปสิคะ จากที่ตั้งใจว่าจะนอน ไม่ได้นอนค่ะ เพราะรถเป็นแบบไฮโซ มีอาหารเสริฟประหนึ่งนั่งเครื่องบิน
เสริฟอาหารเสร็จเสริฟน้ำผลไม้ต่อ กว่าจะกินเสร็จก็มาถึงชายแดนกัวเตมาลาแล้ว ตรงนี้ต้องลงไปด้วยตัวเองค่ะ และผ่านออกมาอย่างง่ายดาย รถขับไปไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ถึงขาเข้า El Salvador ละ แต่ไม่เห็นมีใครลง แต่มีคนมาตรวจบัตรบนรถ แล้วเอาพาสปอร์ตเราไป ด้วยความที่ไฮโซ จ่ายเงินแพง เลยนั่งกระดิกเท้ารอบนรถให้พาสปอร์ตกลับมาเสริฟพร้อมตราประทับเข้าเมืองอย่างสวยๆ ไม่ต้องลงไปตากแดดอาบฝุ่น
นั่งเป็นไฮโซได้อีกประมาณชั่วโมงนึง รถก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ปั๊มน้ำมัน เรามองแผนที่ โอ้ย...อีก 6 กม. ถึง Santa Ana นั่งชิวๆ ต่อค่ะ แต่พนักงานมาตะโกนเรียกให้เราลงค่ะ ถึงแล้ว Santa Ana ถึงอะไรคะ? ถึงปั๊มน้ำมันนอกเมือง ทำอะไรไม่ได้ก็หอบหิ้วข้าวของข้ามถนนไปรถรอเมล์ที่จะเข้าเมืองต่อไป จากการสอบถามเด็กปั๊มบอกให้นั่ง R3 หรือ R5 ก็ได้ มันเข้าเมือง แต่เข้าไปไหนก็ไม่รู้
เรานั่ง R5 โชคดีที่มันลงห่างจากที่พักไม่ถึง 500 เมตร ถือว่าขึ้นรถถูกสายไม่ต้องเดินไกลมาก ถึงที่ Hostel ประมาณ 11 โมง ถามเค้าว่าไปไหนดี เค้าบอกเวลาอย่างนี้มีตัวเลือกไม่มาก ไม่ไป Tazumal (พีระมิด) ก็ไป น้ำตกร้อน Malacatiupan ตั้งแต่มาเหยียบ Central America ไปพีระมิดมากี่ที่แล้ว เบื่อสิคะ ไปดูน้ำตกร้อนดีกว่าว่าไปยังไง
จากที่พักนั่งรถสาย 51D เพื่อไป Bus terminal แล้วต่อด้วยสายที่มันเขียนว่าไป Chachuapa พอกระโดดขึ้นรถยื่นเงินให้ USD1 ไม่ทอนค่ะ บอกว่าเรานั่งไกลก็ต้องราคานี้แหละ เดี๋ยวนะ!!! นั่งจากชายแดนเป็นชั่วโมง ราคายังไม่ถึงเหรียญ นี่นั่งวนอยู่ไม่ไกลมากคิดอะไรตั้งเหรียญ ระหว่างนั้นก็ดูว่าคนอื่นๆ จ่ายเท่าไหร่แ ล้วตั๋วที่ให้มันราคาสูงสุดก็แค่ 0.48 เหรียญ!!! ทวงต่อไปอย่ายอมแพ้ แต่ยังไงมันก็ไม่คืน แถมพาเราไปทิ้งที่สวนสาธารณะในเมือง Atiquizaya แล้วเรียกให้ Taxi มาเชือดเราต่ออีก
ด้วยความที่ไม่ยอมเสียโง่อีก เดินเองก็ได้ เดินๆ ไปแล้วคิดได้ “ชั้นเดินไปไหนเนี่ย?” เลยถามคนแถวนั้น สรุปว่าเดินผิดทิศสุดๆ เราต้องเดินไปที่ Municipal Hall แล้วเค้าว่าจะมีรถ Pick up truck คิดคนละ 1 เหรียญ พาไปที่น้ำตก เราก็เดินวนหาๆๆๆ ไม่มีรถคันไหนใกล้เคียงกับคำว่า Pick up ถามตำรวจแถวนั้นก็พูดไม่รู้เรื่อง (ที่ไม่รู้เรื่องน่าจะเป็นเราที่ฟังไม่ออกมากกว่า) เลยเดินไปถาม tourism ได้คำตอบมาว่า.....ว่าอะไรก็ไม่รู้ เพราะเค้าพูดอังกฤษไม่ได้!!! น้ำตาไหลพราก ไม่เป็นไรค่ะ เดินได้แค่ 6 กม. เอง (จุดนี้กล้าใช้คำว่า “เอง” เน๊อะ)
เราเดินมาได้กิโลกว่าๆ ทางเริ่มเป็นลูกลัง ตอนนั้นมีรถ Tuk Tuk ผ่านมาพอดี เลยตัดสินใจเรียกเลยค่ะ (จะเดินกินฝุ่นอีกทำไม) แต่ราคาบาดใจมาก จะเอาตั้ง USD5 เหอะๆ เดินต่อไปสิคะ จนคันที่สองผ่านมาเอา USD3 ราคามาตรฐาน เราพยายามต่อเหลือ USD2 ก็ไม่ยอม ไม่มีทางเลือกก็ต้องกระโดดขึ้นรถ แล้วจากนั้น “รถดับ” !!! แล้วชั้นจะไปถึงน้ำตกมั๊ยวันนี้????
รถขับมาถึงทางเข้า ที่นี่ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า เดินเข้าไปได้ เหมือนน้ำตก private ของเราเอง เพราะมันสงัดและเปลี่ยวมากๆ ยังดีที่มีหนุ่มสาวคู่นึงจู๋จี่กันอยู่แถวนั้น คอยบอกทางให้เรา เราก็เดินเข้าไปแล้วพบว่า “มันก็แค่น้ำตกธรรมดา"
เราเดินไปทางขวาเรียบถนนที่มาเรื่อยๆ แล้วพบว่ามันลงไปไม่ได้ ได้แต่ถ่ายรูปจากด้านบน
เราเลยตั้งใจจะเดินกลับเลย เพราะจะให้ข้ามไปอีกฝั่งของน้ำตก มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันต้องกระโดดห้ามหิมซึ่งกว้าง....กว้างเกินกว่าคนสูง 150 ซม. พร้อมกระเป๋าหนักๆ 1 ใบ จะข้ามไปได้ ตอนนั้นคู่รักคู่เดิมเดินมาพอดี เค้ากระโดดข้ามไปแล้วให้เราส่งกระเป๋าให้เค้า คือถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่ข้ามไปแน่นอน ยังไงก็ต้องกลายเป็นหมูน้ำตกอยู่ตรงนั้น
เราลงไปเดินเล่นถ่ายรูปพักนึง จนคู่รักจะกลับเลยชวนเราออกไปด้วย เค้าต้องหยั่งรู้ว่าเตี้ยๆ อย่างนี้ไม่มีปัญญาข้ามไปคนเดียวแน่นอน!!! ตอนกำลังจะออกมาเค้าบอกเราว่า น้ำตกที่นี่ด้านบนจะอุ่นๆ ส่วนข้างล่างจะเย็น อร๊ายยยย.....รีบวิ่งกลับไปเอามือกวักๆ น้ำ เออ! มันอุ่นจริงๆ ด้วย นี่คือความพิเศษที่ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปภาพไม่ได้สินะ ถ้าเค้าไม่บอกเราคงเคือง Guesthouse ไปอีกพักใหญ่ที่แนะนำให้เรามาดูน้ำตกธรรมดาๆ ขากลับเราเลยแชร์ Tuk Tuk กลับพร้อมกับเค้า ประหยัดเงินไปได้อีกนิดหน่อย จากนั้นก็ล่ำลาแล้วแยกย้ายกันกลับ
ขากลับเรามาขึ้นรถที่สวนสาธารณะที่เราโดนปล่อย ราคาแค่ 0.41 เหรียญ เมื่อเช้าชั้นโดนมันโกงจริงๆ ด้วย!!! ไหนๆ ก็โดนโกงแล้ว เราเลยฉลองการโดนโกงของเราด้วยการต้มบะหมื่กึ่งสำเร็จรูปกินล้างแค้น (เกี่ยวมั๊ย?) แล้วต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อภูเขาไฟ Santa Ana ที่เป็นความตั้งใจของเราในการมา El Salvador ครั้งนี้
[CR] +.+.+ลุยเดี่ยวเที่ยวตอนตกกงาน จาก USA ถึง PERU+.+.+ (DAY26: MALACATIUPAN FALLS (EL SALVADOR))
+.+.+ลุยเดี่ยวเที่ยวตอนตกกงาน 72 วัน จาก USA ถึง PERU+.+.+
https://ppantip.com/topic/37467736
ถ้าเบื่อพีระมิดแล้ว เราไปเที่ยว “น้ำตกร้อน” กัน!!!
ต้องรีบตื่นทั้งที่ไม่อยากตื่น บอกตัวเองว่าไปนั่งรถ Chicken Bus ก็ได้ แต่พอนึกถึงจุดที่นั่งอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย ยอมตื่นก็ได้อ่ะ!!!
รีบเก็บข้าวของแล้วหา Taxi ไป Pullmantur เช้าๆ อย่างงี้แน่นอนว่าต้องโดน Taxi โขกราคาค่ะ เปิดมาได้ตั้ง Q50 เราเลยเดินหนี มี Taxi ผู้หญิงมาเปิดที่ Q35 เราต่อเหลือ Q25 แรกๆ ก็ไม่ยอมไป จนมีผู้ชายเดินมาจากไหนไม่รู้มาทัก เราเค้าเลยรีบเรียกเราขึ้นรถ (สงสัยมัยคงเคยมี case อันตรายอะไรป่าวหว่า?)
พอถึง Pullmantur คำตอบที่ได้คือ “ตั๋วเต็มค่ะ” อร๊ายยยย....ระหว่างคิดว่าจะเอายังไงดี สถานีรถที่มันไปชายแดนขึ้นตรงไหน คุณน้องคนขายก็โพล่งขึ้นมาว่า “แต่ตอนบ่ายน่าจะมีนะคะ” บ่ายที่ว่านี่คือบ่ายสอง จะไปเมืองอื่นก็ไม่ได้ แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ตกลงใจไปแล้วกัน เราเลือกที่นั่งเสร็จสรรพ ขอริมหน้าต่าง บลาๆๆ พอตัดเงินบัตรเครดิตปุ๊บ
คุณน้องคนขาย: คือตอนนี้เหลือแค่ที่นั่งด้านหลังริมทางเดินที่เดียว
เรา: อ้าว (ตัดบัตรแล้วค่อยมาบอก อะไรฟระ อยากจะพร่ำพรรณาเป็นภาษาสเปน แต่ชีวิตนี้พูดได้แค่ สวัสดีกับขอบคุณ เลย ได้แค่อ้าว)
คุณน้องคนขาย: โอเคมั๊ยคะ
เรา: (มันก็ต้อง) โอเค (สิ ก็ตัดเงินชั้นไปแล้วหนิ)
จัวหวะที่รับตั๋ว เปิด Lonely Planet พร้อมจะเอากระเป๋าไปฝาก Locker นั้น
คุณน้องคนขายตั๋ว: รีบขึ้นรถเลยค่ะ รถจะออกแล้ว
เรา: รถกี่โมง?
คุณน้องคนขาย: 6.15am ค่ะ
เดชะบุญที่พูดสเปนไม่เป็น เลยไม่ได้พร่ำบ่นไป คำว่า “ตอนนี้” มีที่นั่งเหลือที่เดียวของคุณน้อง คือ “ตอนนี้ และเดี๋ยวนี้จริงๆ เราก็รีบกระหืดกระหอบขึ้นรถไปสิคะ จากที่ตั้งใจว่าจะนอน ไม่ได้นอนค่ะ เพราะรถเป็นแบบไฮโซ มีอาหารเสริฟประหนึ่งนั่งเครื่องบิน
เสริฟอาหารเสร็จเสริฟน้ำผลไม้ต่อ กว่าจะกินเสร็จก็มาถึงชายแดนกัวเตมาลาแล้ว ตรงนี้ต้องลงไปด้วยตัวเองค่ะ และผ่านออกมาอย่างง่ายดาย รถขับไปไม่ถึงหนึ่งนาทีก็ถึงขาเข้า El Salvador ละ แต่ไม่เห็นมีใครลง แต่มีคนมาตรวจบัตรบนรถ แล้วเอาพาสปอร์ตเราไป ด้วยความที่ไฮโซ จ่ายเงินแพง เลยนั่งกระดิกเท้ารอบนรถให้พาสปอร์ตกลับมาเสริฟพร้อมตราประทับเข้าเมืองอย่างสวยๆ ไม่ต้องลงไปตากแดดอาบฝุ่น
นั่งเป็นไฮโซได้อีกประมาณชั่วโมงนึง รถก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ปั๊มน้ำมัน เรามองแผนที่ โอ้ย...อีก 6 กม. ถึง Santa Ana นั่งชิวๆ ต่อค่ะ แต่พนักงานมาตะโกนเรียกให้เราลงค่ะ ถึงแล้ว Santa Ana ถึงอะไรคะ? ถึงปั๊มน้ำมันนอกเมือง ทำอะไรไม่ได้ก็หอบหิ้วข้าวของข้ามถนนไปรถรอเมล์ที่จะเข้าเมืองต่อไป จากการสอบถามเด็กปั๊มบอกให้นั่ง R3 หรือ R5 ก็ได้ มันเข้าเมือง แต่เข้าไปไหนก็ไม่รู้
เรานั่ง R5 โชคดีที่มันลงห่างจากที่พักไม่ถึง 500 เมตร ถือว่าขึ้นรถถูกสายไม่ต้องเดินไกลมาก ถึงที่ Hostel ประมาณ 11 โมง ถามเค้าว่าไปไหนดี เค้าบอกเวลาอย่างนี้มีตัวเลือกไม่มาก ไม่ไป Tazumal (พีระมิด) ก็ไป น้ำตกร้อน Malacatiupan ตั้งแต่มาเหยียบ Central America ไปพีระมิดมากี่ที่แล้ว เบื่อสิคะ ไปดูน้ำตกร้อนดีกว่าว่าไปยังไง
จากที่พักนั่งรถสาย 51D เพื่อไป Bus terminal แล้วต่อด้วยสายที่มันเขียนว่าไป Chachuapa พอกระโดดขึ้นรถยื่นเงินให้ USD1 ไม่ทอนค่ะ บอกว่าเรานั่งไกลก็ต้องราคานี้แหละ เดี๋ยวนะ!!! นั่งจากชายแดนเป็นชั่วโมง ราคายังไม่ถึงเหรียญ นี่นั่งวนอยู่ไม่ไกลมากคิดอะไรตั้งเหรียญ ระหว่างนั้นก็ดูว่าคนอื่นๆ จ่ายเท่าไหร่แ ล้วตั๋วที่ให้มันราคาสูงสุดก็แค่ 0.48 เหรียญ!!! ทวงต่อไปอย่ายอมแพ้ แต่ยังไงมันก็ไม่คืน แถมพาเราไปทิ้งที่สวนสาธารณะในเมือง Atiquizaya แล้วเรียกให้ Taxi มาเชือดเราต่ออีก
ด้วยความที่ไม่ยอมเสียโง่อีก เดินเองก็ได้ เดินๆ ไปแล้วคิดได้ “ชั้นเดินไปไหนเนี่ย?” เลยถามคนแถวนั้น สรุปว่าเดินผิดทิศสุดๆ เราต้องเดินไปที่ Municipal Hall แล้วเค้าว่าจะมีรถ Pick up truck คิดคนละ 1 เหรียญ พาไปที่น้ำตก เราก็เดินวนหาๆๆๆ ไม่มีรถคันไหนใกล้เคียงกับคำว่า Pick up ถามตำรวจแถวนั้นก็พูดไม่รู้เรื่อง (ที่ไม่รู้เรื่องน่าจะเป็นเราที่ฟังไม่ออกมากกว่า) เลยเดินไปถาม tourism ได้คำตอบมาว่า.....ว่าอะไรก็ไม่รู้ เพราะเค้าพูดอังกฤษไม่ได้!!! น้ำตาไหลพราก ไม่เป็นไรค่ะ เดินได้แค่ 6 กม. เอง (จุดนี้กล้าใช้คำว่า “เอง” เน๊อะ)
เราเดินมาได้กิโลกว่าๆ ทางเริ่มเป็นลูกลัง ตอนนั้นมีรถ Tuk Tuk ผ่านมาพอดี เลยตัดสินใจเรียกเลยค่ะ (จะเดินกินฝุ่นอีกทำไม) แต่ราคาบาดใจมาก จะเอาตั้ง USD5 เหอะๆ เดินต่อไปสิคะ จนคันที่สองผ่านมาเอา USD3 ราคามาตรฐาน เราพยายามต่อเหลือ USD2 ก็ไม่ยอม ไม่มีทางเลือกก็ต้องกระโดดขึ้นรถ แล้วจากนั้น “รถดับ” !!! แล้วชั้นจะไปถึงน้ำตกมั๊ยวันนี้????
รถขับมาถึงทางเข้า ที่นี่ไม่ต้องเสียเงินค่าเข้า เดินเข้าไปได้ เหมือนน้ำตก private ของเราเอง เพราะมันสงัดและเปลี่ยวมากๆ ยังดีที่มีหนุ่มสาวคู่นึงจู๋จี่กันอยู่แถวนั้น คอยบอกทางให้เรา เราก็เดินเข้าไปแล้วพบว่า “มันก็แค่น้ำตกธรรมดา"
เราเดินไปทางขวาเรียบถนนที่มาเรื่อยๆ แล้วพบว่ามันลงไปไม่ได้ ได้แต่ถ่ายรูปจากด้านบน
เราเลยตั้งใจจะเดินกลับเลย เพราะจะให้ข้ามไปอีกฝั่งของน้ำตก มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันต้องกระโดดห้ามหิมซึ่งกว้าง....กว้างเกินกว่าคนสูง 150 ซม. พร้อมกระเป๋าหนักๆ 1 ใบ จะข้ามไปได้ ตอนนั้นคู่รักคู่เดิมเดินมาพอดี เค้ากระโดดข้ามไปแล้วให้เราส่งกระเป๋าให้เค้า คือถ้าไม่มีเค้าเราคงไม่ข้ามไปแน่นอน ยังไงก็ต้องกลายเป็นหมูน้ำตกอยู่ตรงนั้น
เราลงไปเดินเล่นถ่ายรูปพักนึง จนคู่รักจะกลับเลยชวนเราออกไปด้วย เค้าต้องหยั่งรู้ว่าเตี้ยๆ อย่างนี้ไม่มีปัญญาข้ามไปคนเดียวแน่นอน!!! ตอนกำลังจะออกมาเค้าบอกเราว่า น้ำตกที่นี่ด้านบนจะอุ่นๆ ส่วนข้างล่างจะเย็น อร๊ายยยย.....รีบวิ่งกลับไปเอามือกวักๆ น้ำ เออ! มันอุ่นจริงๆ ด้วย นี่คือความพิเศษที่ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปภาพไม่ได้สินะ ถ้าเค้าไม่บอกเราคงเคือง Guesthouse ไปอีกพักใหญ่ที่แนะนำให้เรามาดูน้ำตกธรรมดาๆ ขากลับเราเลยแชร์ Tuk Tuk กลับพร้อมกับเค้า ประหยัดเงินไปได้อีกนิดหน่อย จากนั้นก็ล่ำลาแล้วแยกย้ายกันกลับ
ขากลับเรามาขึ้นรถที่สวนสาธารณะที่เราโดนปล่อย ราคาแค่ 0.41 เหรียญ เมื่อเช้าชั้นโดนมันโกงจริงๆ ด้วย!!! ไหนๆ ก็โดนโกงแล้ว เราเลยฉลองการโดนโกงของเราด้วยการต้มบะหมื่กึ่งสำเร็จรูปกินล้างแค้น (เกี่ยวมั๊ย?) แล้วต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า เพื่อภูเขาไฟ Santa Ana ที่เป็นความตั้งใจของเราในการมา El Salvador ครั้งนี้