รวบหนุ่มวัย 29 ปี อ้างตัวเป็นเพื่อนดาราหนุ่มชื่อดัง เผลอพูดหลุดปากคำว่า “ระเบิด” ขณะเช็คอินในสนามบินสุวรรณภูมิ กำลังจะเดินทางไปไหว้พระที่ย่างกุ้ง
เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายการบินไทยสมายท์ ได้ร่วมกันเชิญตัว นายณภัทช์ อายุ 29 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของนักแสดงหนุ่ม อาร์ต พศุตม์ มาสอบปากคำที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า
หลังจากที่ นายณภัทช์ ได้พูดคำว่า ระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินแห่งหนึ่ง ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายณภัทช์ ให้การว่า ตนกำลังจะเดินทางไปไหว้พระที่เมียนมา ขณะที่ตนกำลังเช็คอินเพื่อโหลดกระเป๋าสัมภาระที่เคาน์เตอร์นั้น ตนได้สอบถามพนักงานสายการบินเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินขากลับ เนื่องจากตนมาทราบภายหลังว่าสายการบินเลื่อนเที่ยวบินเดินทางกลับ โดยแจ้งผ่านทางเมล์ของตน ซึ่งเกรงว่าจะวางแผนการเดินทางไม่ทัน จึงมีการต่อว่าการให้บริการ
หลังจากนั้น พนักงานของสายการบินได้ถามตนก่อนโหลดกระเป๋าว่ามีสิ่งของต้องห้ามโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบินหรือไม่ ซึ่งตนยอมรับว่า เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์บวกกับกำลังมีอารมณ์หงุดหงิดเพราะแจ้งเลื่อนเที่ยวบินกลับ จึงได้พูดขึ้นมาลอยๆ ใส่พนักงานว่า "สิ่งของต้องห้ามไม่มีหรอก มีแต่ระเบิด"
พนักงานจึงได้แจ้งว่า คำที่ตนพูดเป็นคำต้องห้ามและถือเป็นเรื่องใหญ่สำคัญต่อสายการบิน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า เพื่อดำเนินคดี ตนยืนยันว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์และพยายามบอกพนักงานคนดังกล่าว เพื่อขอความอนุโลมแล้วแต่ไม่เป็นผล
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า คำพูดดังกล่าว ถือเป็นคำต้องห้ามใช้ในสนามบินทั่วโลก เป็นไปตามหลักสากล การที่มีผู้โดยสารออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้ นอกจากที่จะต้องยกเลิกการเดินทางแล้วยังถูกดำเนินคดีอีกด้วย
ที่ผ่านมามีผู้โดยสารบางราย พูดคำต้องห้ามบนเครื่องบินขณะกำลังออกบินหรืออยู่ในอากาศยาน จะพูดเป็นการแซวพนักงานสายการบินหรือพูดยอกล้อกันเล่นก็ตาม จะทำให้กัปตันต้องประกาศขอเข้าแผนฉุกเฉินตามหลักสากลซึ่งจะทำให้เสียเวลาการเดินทางของสายการบินทันที จึงอยากฝากเตือนผู้ที่จะใช้บริการสายการบินทุกสายการบินและในสนามบินต้องศึกษาคำต้องห้าม หรือไม่พูดคำต้องห้ามเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้นและผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าพูดคำดังกล่าวจริง โดยสายการบินได้แจ้งความร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงลงบันทึกประจำวันพร้อมทั้ง แจ้งข้อหาว่า แจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แต่การนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานระหว่างบินตื่นตกใจ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไว้ก่อน ทั้งนี้ ต้องดูเจตนาของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มา sanook.
ตลกไม่ออก หนุ่มอ้างเป็นเพื่อนดาราดัง พูดมีระเบิดตอนจะขึ้นเครื่องบิน
รวบหนุ่มวัย 29 ปี อ้างตัวเป็นเพื่อนดาราหนุ่มชื่อดัง เผลอพูดหลุดปากคำว่า “ระเบิด” ขณะเช็คอินในสนามบินสุวรรณภูมิ กำลังจะเดินทางไปไหว้พระที่ย่างกุ้ง
เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สายการบินไทยสมายท์ ได้ร่วมกันเชิญตัว นายณภัทช์ อายุ 29 ปี ที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนของนักแสดงหนุ่ม อาร์ต พศุตม์ มาสอบปากคำที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า
หลังจากที่ นายณภัทช์ ได้พูดคำว่า ระเบิดในสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของสายการบินแห่งหนึ่ง ภายในอาคารผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายณภัทช์ ให้การว่า ตนกำลังจะเดินทางไปไหว้พระที่เมียนมา ขณะที่ตนกำลังเช็คอินเพื่อโหลดกระเป๋าสัมภาระที่เคาน์เตอร์นั้น ตนได้สอบถามพนักงานสายการบินเกี่ยวกับตั๋วเครื่องบินขากลับ เนื่องจากตนมาทราบภายหลังว่าสายการบินเลื่อนเที่ยวบินเดินทางกลับ โดยแจ้งผ่านทางเมล์ของตน ซึ่งเกรงว่าจะวางแผนการเดินทางไม่ทัน จึงมีการต่อว่าการให้บริการ
หลังจากนั้น พนักงานของสายการบินได้ถามตนก่อนโหลดกระเป๋าว่ามีสิ่งของต้องห้ามโหลดเข้าใต้ท้องเครื่องบินหรือไม่ ซึ่งตนยอมรับว่า เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์บวกกับกำลังมีอารมณ์หงุดหงิดเพราะแจ้งเลื่อนเที่ยวบินกลับ จึงได้พูดขึ้นมาลอยๆ ใส่พนักงานว่า "สิ่งของต้องห้ามไม่มีหรอก มีแต่ระเบิด"
พนักงานจึงได้แจ้งว่า คำที่ตนพูดเป็นคำต้องห้ามและถือเป็นเรื่องใหญ่สำคัญต่อสายการบิน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า เพื่อดำเนินคดี ตนยืนยันว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์และพยายามบอกพนักงานคนดังกล่าว เพื่อขอความอนุโลมแล้วแต่ไม่เป็นผล
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า คำพูดดังกล่าว ถือเป็นคำต้องห้ามใช้ในสนามบินทั่วโลก เป็นไปตามหลักสากล การที่มีผู้โดยสารออกมาพูดในลักษณะเช่นนี้ นอกจากที่จะต้องยกเลิกการเดินทางแล้วยังถูกดำเนินคดีอีกด้วย
ที่ผ่านมามีผู้โดยสารบางราย พูดคำต้องห้ามบนเครื่องบินขณะกำลังออกบินหรืออยู่ในอากาศยาน จะพูดเป็นการแซวพนักงานสายการบินหรือพูดยอกล้อกันเล่นก็ตาม จะทำให้กัปตันต้องประกาศขอเข้าแผนฉุกเฉินตามหลักสากลซึ่งจะทำให้เสียเวลาการเดินทางของสายการบินทันที จึงอยากฝากเตือนผู้ที่จะใช้บริการสายการบินทุกสายการบินและในสนามบินต้องศึกษาคำต้องห้าม หรือไม่พูดคำต้องห้ามเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเบื้องต้นและผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าพูดคำดังกล่าวจริง โดยสายการบินได้แจ้งความร้องทุกข์ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย จึงลงบันทึกประจำวันพร้อมทั้ง แจ้งข้อหาว่า แจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ แต่การนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานระหว่างบินตื่นตกใจ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไว้ก่อน ทั้งนี้ ต้องดูเจตนาของผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่มา sanook.