ขอนแก่น แจ้งห้ามปล่อยโคมลอยรอบสนามบิน 6 โมง-4ทุ่ม

เตือน!! สนามบินขอนแก่น ประกาศแจ้งห้ามปล่อยโคมลอย โคมควันในช่วง 18.00 – 22.00 น. ตั้งแต่วันนี้ จนสิ้นสุดออกพรรษา หวั่นเกิดผลกระทบต่ออากาศยาน ฝ่าฝืนมีความผิด ม.232 โทษจำคุกและปรับ ...

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ต.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ท่าอากาศยานขอนแก่น นายกิติชัย สัจจลักษณ์ รักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานจังหวัดขอนแก่น เผยถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และการลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจในระเบียบและข้อบังคับ ว่าด้วยความปลอดภัยในอากาศยานและโดยรอบท่าอากาศยาน เกี่ยวกับการปล่อยโคมลอย และโคมควัน ในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งพบว่าขณะนี้หลายพื้นที่ของ จ.ขอนแก่น ได้จัดงานประเพณีออกพรรษากันแล้ว จึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ชุมชนและคุ้มวัดต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่ในรัศมีและพิสัยการบิน โดยรอบท่าอากาศยานขอนแก่น ระยะทาง 14 กม. คอบคลุมพื้นที่ อ.น้ำพอง,บ้านฝาง และ อ.เมืองขอนแก่นในการ ห้ามปล่อยโคมลอยและโคมควัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 22.00 น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนสิ้นสุดเทศกาลวันออกพรรษา เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อพิสัยในการทำการบินและการสัญจรทางอากาศ

ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีสายการบินพาณิชย์ทำการบินในเส้นทางท่าอากาศยานขอนแก่น-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานขอนแก่น-ท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งไปและกลับรวม 10 เที่ยวบิน จาก 3 สายการบินหลัก ประกอบด้วย สายการบินไทยสมายล์,นกแอร์ และไทยแอร์เอเชีย ขณะเดียวกันยังคงมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจในกฎระเบียบและข้อบังคับดังกล่าว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและเข้าใจร่วมกันเพราะการปล่อยโคมควันและโคมลอยนั้นเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของคนอีสานมาอย่างยาวนานที่มักจะทำการปล่อยในช่วงเทศกาลวันออกพรรษาต่อเนื่องถึงเทศกาลวันลอยกระทง

"สนามบินขอนแก่น ได้กำหนดแผนการดำเนินงานว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดต่ออากาศยาน ทั้งในช่วงของการจราจรทางอากาศ การลดเพดานบินเพื่อลงหรือขึ้นจากท่าอากาศยาน และในช่วงของการบินเข้ามาในเส้นทางรันเวย์ และลานจอดเครื่องบิน ทั้งหมดจะถูกจำกัดพื้นที่ไม่ให้โคมลอย หรือโคมควันเข้ามา ในพื้นที่หรือเข้ามาในรัศมีการทำการของอากาศยานในภาพรวมทั้งหมด โดยเฉพาะรัศมี 14 กม.เพื่อความปลอดภัย"นายกิตติชัย กล่าว

นายกิติชัย กล่าวอีกว่า ปัจจุบันจากการตรวจสอบพบว่าโคมลอย และโคมควันมีการดัดแปลงสภาพให้สามารถลอยได้สูงขึ้น และบินไปตามทิศทางลม โดยไม่สามารถบังคับหรือกำหนดระยะเวลาที่ตกได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการพุ่งชน หรือลอยติดกับเครื่องบิน ในช่วงของการทำการขึ้นและลง ของเครื่องบินได้อย่างมาก และถ้าหากโคมลอยและโคมควันลอยไปติดในช่องเครื่องยนต์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณปีกของเครื่องบินก็จะเกิดการดูดโคมลอยเข้าไปพร้อมอากาศก็จะส่งผลต่อการเกิดความเสียหายอย่างมากเลยทีเดียว ดังนั้นตลอดทั้งสัปดาห์นี้ยังคงเพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบการลักลอบปล่อยโคมลอย และโคมชนิดต่างๆอย่างเข้มงวด ซึ่งหากตรวจพบจะมีการประสานงานร่วมตำรวจท้องที่ดำเนินการจับกุม ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 232(1)โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1,000-14,000 บาท และความผิดว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ มาตรา6(3)โทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่ทุกสนามบินของไทยจะต้องปฏิบัติตาม.

http://www.thairath.co.th/content/534974
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่