เท่าที่ติดตามพรรคอนาคตใหม่ของ ธนาธร-ปิยบุตรแล้วมีหลายประเด็นน่าสนใจและอยากให้มีคนร่วมสนับสนุนกันเยอะๆ
เพราะเรียกว่าตีตรงจุดที่จะเปลี่ยนโครงสร้างสังคมไทยได้ทั้งหมดเลย ที่ผ่านมาไม่มีผู้มีอำนาจคนไหนกล้าคิดกล้าหยิบยก
มาเป็นนโยบายหลัก คงเป็นเพราะทำให้เสียคะแนนนิยมในวงกว้าง เพราะมีผู้เสียผลประโยชน์และเสียอำนาจ
กระทบไปทุกภาคส่วนไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน อาทิเช่น
- เน้นกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นวางแผนเอง เก็บภาษีเอง ใช้เงินเอง รักษาผลประโยชน์กันเอง แทนที่จะให้ใครไม่รู้ชี้นิ้วสั่ง
เป็นเมกะโปรเจคท์ที่สุดท้ายก็กลายเป็นขยะ ไม่ตรงความต้องการประชาชน แถมไม่ยอมให้ตรวจสอบ
- ส่งเสริมประชาธิปไตยทางตรง อันนี้ฟังจากคุณธนาธรซึ่งยกเทคโนโลยี blockchain มาประกอบ อันนี้เป็นระบบในอุดมคติที่
ประชาชนรอคอย แทนที่จะยกอำนาจสิทธิ์ขาดให้ผู้แทนไปตัดสินใจแทนทุกเรื่อง ก็ให้ประชาชนโหวตโดยตรงเป็นเรื่องๆเลย
ว่าโครงการจะให้ทำหรือไม่ จะให้ใช้เงินหรือไม่ ให้ออกมาเป็นกฎหมายหรือไม่
- กระจายปัจจัยการผลิตลดการผูกขาด อันนี้สำคัญมากเพราะเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ คือเปิดโอกาสให้คนมีฝีมือได้ใช้
ฝีมือเต็มที่ ดังนั้น productivity ของประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แทนที่จะปล่อยให้ชนชั้นนำเป็นผู้ฝ่ายกักตุนเอา
ปัจจัยการผลิตมาทิ้งไว้เฉยๆ แทนที่จะเอาไปใช้เพื่อการผลิต ตัวเองนอนรอเก็งกำไรอย่างเดียวแล้วปล่อยให้ชนชั้นกรรมาชีพ
ปากกัดตีนถีบอยากผลิตก็ผลิตไม่ได้ สุดท้ายประเทศชาติก็ไม่ได้อะไรเลย
- ลดปัญหาคอรัปชั่นโดยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ โดยการตั้งสถานะเริ่มแรก (default) ให้ข้อมูลทั้งหมดต้องถูกเปิดเผยเข้าถึงได้ง่าย
แล้วปล่อยให้ประชาชนที่อยู่ใกล้ชิดในแต่ละวงการตรวจสอบและจี้กันเอง แทนที่จะต้องรอ ปปช. สตง. และกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า
กำลังพลไม่พอและสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดการ
- ลดขนาด เพิ่มประสิทธิภาพกองทัพ และแยกทหารออกจากการเมือง อันนี้ไม่ต้องพูดมากปัจจุบันประชาชนน่าจะคิดตรงกันอยู่แล้ว
งานที่พลเรือนทำได้ดีกว่าก็ให้เป็นของพลเรือนเถอะ เอาแรงงานและความตั้งใจของคนหนุ่มสาวไปใช้ในงานสาธารณประโยชน์ที่จะเกิด
ประโยชน์โดยตรงต่อประเทศชาติดีกว่า
- ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ให้คนทั่วไปตรวจสอบและโต้แย้งได้ จัดให้มีระบบตรวจสอบและประกันคุณภาพงานของระบบยุติธรรม
ให้เมื่อศาลก็ถือเป็นงานบริการประชาชน ควรทำตัวเป็นผู้ให้บริการที่ดีในทุกระดับ
ฯลฯ
เอาเป็นว่าพรรคอนาคตใหม่มีจุดแข็งอย่างหนึ่งคือคนหน้าใหม่ ซึ่งมีลักษณะร่วมคือผลประโยชน์ในระบบอุปถัมภ์ยังมีไม่เยอะ
ยังมีคนใกล้ชิดให้ต้องเกรงอกเกรงใจไม่มาก ทำให้สามารถแสดงความคิดเชิงอุดมคติและโลกสวยแบบนี้ออกมาได้
แต่มันก็เป็นจุดอ่อนสำคัญด้วยเพราะยังขาดฐานเสียงสนับสนุน แถมนโยบายแต่ละเรื่องแรงๆทั้งนั้น ถ้าทำทุกเรื่องพร้อมกันก็เท่ากับ
กระทบคนทุกคนที่จะเป็นฐานเสียงให้ ในความเป็นจริงคือคนทุกคนกลัวการเปลี่ยนแปลงและยังไงก็ต้องมองผลประโยชน์ตัวเองด้วยเสมอ
มองไม่ออกเหมือนกันว่าพรรคธนาธร-ปิยบุตรจะได้ผู้แทนจากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ยังไง เพราะบัตรลงคะแนนเหลือใบเดียว
คะแนน สส. และคะแนนพรรคไปพร้อมกัน
ธนาธรจะสามารถส่งผู้สมัครลงทุกเขตได้หรือไม่ และถึงแม้นโยบายพรรคจะโดนใจแต่ถ้าตัวผู้สมัครไม่โดนใจ คิดว่าคนจะเลือกไหม
ปล. ความเห็นส่วนตัวสำหรับพรรคอนาคตใหม่ (บางเรื่องคงกำลังทำกันอยู่แล้วมั้ง และบางเรื่องก็ชวนให้แคลงใจอยู่)
1.ควรหาผู้อาวุโสในแต่ละวงการมาเป็น back โดยเร่งด่วน ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีเครือข่ายผู้สนับสนุนและมีแนวคิดร่วมอีกเป็นจำนวนมาก
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้คนรุ่นใหม่ผูกขาดอำนาจคิดและทำไปทุกเรื่อง เด็กรุ่นใหม่แสดงตนเป็นผู้รับใช้ผู้อาวุโสบ้างก็ไม่เสียหาย
2.แสดงจุดยืนให้ชัดต่อขั้วอำนาจฝ่ายทักษิณเดิม ช่วยวิพากษ์วิจารณ์ให้ชัดด้วยว่าการใช้อำนาจแบบทักษิณมีความเลวร้ายอย่างไร
มีนโยบายในการควบคุมนักการเมืองที่ลุแก่อำนาจอย่างไร จะป้องกันการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อสร้างฐานเสียงทางการเมืองอย่างไร
อย่างลืมว่าความขัดแย้งสิบปีเกิดขึ้นมายังไง อยากแก้ปัญหาจาก คสช. ก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดจากทักษิณให้แรงเท่ากันด้วย
3.หลีกเลี่ยงการใช้สื่อและแนวร่วมขั้วอำนาจฝ่ายทักษิณเดิมเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะด้วยความบริสุทธิ์หรือไม่ ยอมลงแรงไปสร้างเครื่องมือ
และแนวร่วมใหม่ดีกว่า ให้เกิดภาพลักษณ์ที่เป็นตัวแทนประชาชนทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาจริงๆ
4.อย่ายุ่งเรื่องกฎหมายหมิ่นฯเลย เอาตามตรงประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกว่า ม.112 เป็นปัญหากับวิถีชีวิตหรอก แถมโครงการพระราชดำริ
จำนวนมากประชาชนก็เห็นประโยชน์จริงๆ ปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเองตามสภาพสังคมเถอะ เอาเวลาไปจัดการกระบวนการ
ใช้อำนาจรัฐที่กระทบต่อประชาชนโดยตรงดีกว่า จะลดอำนาจชนชั้นนำ กระจายอำนาจ กระจายโอกาส ปฏิรูปข้าราชการ ก็ว่ากันไป
5.ควรให้การปฏิรูปที่ดินเป็นนโยบายหลัก กฎหมายภาษีที่ดินที่ค้างอยู่ควรสานต่อและทำให้ดีขึ้น
เพราะที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่เป็นปัญหาหลักในปัจจุบัน ที่ดินมีจำนวนจำกัดแต่ถูกเอามาใช้เพื่อเก็งกำไรแทนที่จะให้คนอื่นได้ใช้เพื่อการผลิต
ฟังแนวคิดพรรคของ ธนาธร-ปิยบุตร หลายๆอย่างแล้วน่าสนใจและน่าสนับสนุนมาก
เพราะเรียกว่าตีตรงจุดที่จะเปลี่ยนโครงสร้างสังคมไทยได้ทั้งหมดเลย ที่ผ่านมาไม่มีผู้มีอำนาจคนไหนกล้าคิดกล้าหยิบยก
มาเป็นนโยบายหลัก คงเป็นเพราะทำให้เสียคะแนนนิยมในวงกว้าง เพราะมีผู้เสียผลประโยชน์และเสียอำนาจ
กระทบไปทุกภาคส่วนไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน อาทิเช่น
- เน้นกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นวางแผนเอง เก็บภาษีเอง ใช้เงินเอง รักษาผลประโยชน์กันเอง แทนที่จะให้ใครไม่รู้ชี้นิ้วสั่ง
เป็นเมกะโปรเจคท์ที่สุดท้ายก็กลายเป็นขยะ ไม่ตรงความต้องการประชาชน แถมไม่ยอมให้ตรวจสอบ
- ส่งเสริมประชาธิปไตยทางตรง อันนี้ฟังจากคุณธนาธรซึ่งยกเทคโนโลยี blockchain มาประกอบ อันนี้เป็นระบบในอุดมคติที่
ประชาชนรอคอย แทนที่จะยกอำนาจสิทธิ์ขาดให้ผู้แทนไปตัดสินใจแทนทุกเรื่อง ก็ให้ประชาชนโหวตโดยตรงเป็นเรื่องๆเลย
ว่าโครงการจะให้ทำหรือไม่ จะให้ใช้เงินหรือไม่ ให้ออกมาเป็นกฎหมายหรือไม่
- กระจายปัจจัยการผลิตลดการผูกขาด อันนี้สำคัญมากเพราะเป็นรากฐานเศรษฐกิจของประเทศ คือเปิดโอกาสให้คนมีฝีมือได้ใช้
ฝีมือเต็มที่ ดังนั้น productivity ของประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แทนที่จะปล่อยให้ชนชั้นนำเป็นผู้ฝ่ายกักตุนเอา
ปัจจัยการผลิตมาทิ้งไว้เฉยๆ แทนที่จะเอาไปใช้เพื่อการผลิต ตัวเองนอนรอเก็งกำไรอย่างเดียวแล้วปล่อยให้ชนชั้นกรรมาชีพ
ปากกัดตีนถีบอยากผลิตก็ผลิตไม่ได้ สุดท้ายประเทศชาติก็ไม่ได้อะไรเลย
- ลดปัญหาคอรัปชั่นโดยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ โดยการตั้งสถานะเริ่มแรก (default) ให้ข้อมูลทั้งหมดต้องถูกเปิดเผยเข้าถึงได้ง่าย
แล้วปล่อยให้ประชาชนที่อยู่ใกล้ชิดในแต่ละวงการตรวจสอบและจี้กันเอง แทนที่จะต้องรอ ปปช. สตง. และกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า
กำลังพลไม่พอและสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดการ
- ลดขนาด เพิ่มประสิทธิภาพกองทัพ และแยกทหารออกจากการเมือง อันนี้ไม่ต้องพูดมากปัจจุบันประชาชนน่าจะคิดตรงกันอยู่แล้ว
งานที่พลเรือนทำได้ดีกว่าก็ให้เป็นของพลเรือนเถอะ เอาแรงงานและความตั้งใจของคนหนุ่มสาวไปใช้ในงานสาธารณประโยชน์ที่จะเกิด
ประโยชน์โดยตรงต่อประเทศชาติดีกว่า
- ปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ให้คนทั่วไปตรวจสอบและโต้แย้งได้ จัดให้มีระบบตรวจสอบและประกันคุณภาพงานของระบบยุติธรรม
ให้เมื่อศาลก็ถือเป็นงานบริการประชาชน ควรทำตัวเป็นผู้ให้บริการที่ดีในทุกระดับ
ฯลฯ
เอาเป็นว่าพรรคอนาคตใหม่มีจุดแข็งอย่างหนึ่งคือคนหน้าใหม่ ซึ่งมีลักษณะร่วมคือผลประโยชน์ในระบบอุปถัมภ์ยังมีไม่เยอะ
ยังมีคนใกล้ชิดให้ต้องเกรงอกเกรงใจไม่มาก ทำให้สามารถแสดงความคิดเชิงอุดมคติและโลกสวยแบบนี้ออกมาได้
แต่มันก็เป็นจุดอ่อนสำคัญด้วยเพราะยังขาดฐานเสียงสนับสนุน แถมนโยบายแต่ละเรื่องแรงๆทั้งนั้น ถ้าทำทุกเรื่องพร้อมกันก็เท่ากับ
กระทบคนทุกคนที่จะเป็นฐานเสียงให้ ในความเป็นจริงคือคนทุกคนกลัวการเปลี่ยนแปลงและยังไงก็ต้องมองผลประโยชน์ตัวเองด้วยเสมอ
มองไม่ออกเหมือนกันว่าพรรคธนาธร-ปิยบุตรจะได้ผู้แทนจากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้ยังไง เพราะบัตรลงคะแนนเหลือใบเดียว
คะแนน สส. และคะแนนพรรคไปพร้อมกัน
ธนาธรจะสามารถส่งผู้สมัครลงทุกเขตได้หรือไม่ และถึงแม้นโยบายพรรคจะโดนใจแต่ถ้าตัวผู้สมัครไม่โดนใจ คิดว่าคนจะเลือกไหม
ปล. ความเห็นส่วนตัวสำหรับพรรคอนาคตใหม่ (บางเรื่องคงกำลังทำกันอยู่แล้วมั้ง และบางเรื่องก็ชวนให้แคลงใจอยู่)
1.ควรหาผู้อาวุโสในแต่ละวงการมาเป็น back โดยเร่งด่วน ยังมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีเครือข่ายผู้สนับสนุนและมีแนวคิดร่วมอีกเป็นจำนวนมาก
ไม่จำเป็นต้องบอกว่าให้คนรุ่นใหม่ผูกขาดอำนาจคิดและทำไปทุกเรื่อง เด็กรุ่นใหม่แสดงตนเป็นผู้รับใช้ผู้อาวุโสบ้างก็ไม่เสียหาย
2.แสดงจุดยืนให้ชัดต่อขั้วอำนาจฝ่ายทักษิณเดิม ช่วยวิพากษ์วิจารณ์ให้ชัดด้วยว่าการใช้อำนาจแบบทักษิณมีความเลวร้ายอย่างไร
มีนโยบายในการควบคุมนักการเมืองที่ลุแก่อำนาจอย่างไร จะป้องกันการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อสร้างฐานเสียงทางการเมืองอย่างไร
อย่างลืมว่าความขัดแย้งสิบปีเกิดขึ้นมายังไง อยากแก้ปัญหาจาก คสช. ก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดจากทักษิณให้แรงเท่ากันด้วย
3.หลีกเลี่ยงการใช้สื่อและแนวร่วมขั้วอำนาจฝ่ายทักษิณเดิมเป็นเครื่องมือ ไม่ว่าจะด้วยความบริสุทธิ์หรือไม่ ยอมลงแรงไปสร้างเครื่องมือ
และแนวร่วมใหม่ดีกว่า ให้เกิดภาพลักษณ์ที่เป็นตัวแทนประชาชนทุกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาจริงๆ
4.อย่ายุ่งเรื่องกฎหมายหมิ่นฯเลย เอาตามตรงประชาชนทั่วไปไม่รู้สึกว่า ม.112 เป็นปัญหากับวิถีชีวิตหรอก แถมโครงการพระราชดำริ
จำนวนมากประชาชนก็เห็นประโยชน์จริงๆ ปล่อยให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเองตามสภาพสังคมเถอะ เอาเวลาไปจัดการกระบวนการ
ใช้อำนาจรัฐที่กระทบต่อประชาชนโดยตรงดีกว่า จะลดอำนาจชนชั้นนำ กระจายอำนาจ กระจายโอกาส ปฏิรูปข้าราชการ ก็ว่ากันไป
5.ควรให้การปฏิรูปที่ดินเป็นนโยบายหลัก กฎหมายภาษีที่ดินที่ค้างอยู่ควรสานต่อและทำให้ดีขึ้น
เพราะที่ดินเป็นปัจจัยการผลิตที่เป็นปัญหาหลักในปัจจุบัน ที่ดินมีจำนวนจำกัดแต่ถูกเอามาใช้เพื่อเก็งกำไรแทนที่จะให้คนอื่นได้ใช้เพื่อการผลิต