สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
บางส่วนจากห้องเรียนคนรากหญ้า https://ppantip.com/topic/36541843
เส้นทางชีวิตและการต่อสู้ของมาลาลา
มาลาลา ยูซาฟไซ เป็นเด็กหญิงชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในเขตสวัต
เมื่อเธออายุ 11 ปี กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันได้แผ่อิทธิพลมาถึงเขตที่อยู่ของเธอ
และประกาศห้ามเด็กผู้หญิงทุกคนไปโรงเรียน
ไม่เพียงเธอฝ่าฝืนคำสั่งโดยไปโรงเรียนเท่านั้น เธอยังรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
เพื่อเรียกร้องสิทธิให้เด็กผู้หญิงได้ไปโรงเรียน ทั้งที่เธออายุได้เพียง 11 ขวบ
มาลาลาบันทึกเรื่องของเธอลงเป็น blog ของเว็บไซต์ BBC จนมีผู้สนใจอย่างมาก
ไม่นานหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ได้มาถ่ายทำสารคดีชีวิตของเธอ
ทำให้เธอมีชื่อเสียง และได้รับเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลเยาวชนเพื่อสันติภาพ
กลุ่มตาลีบันพยายามข่มขู่เธอหลายครั้ง เมื่อไม่สามารถหยุดเธอได้ พวกเขาจึงส่งคนมาสังหารเธอ
ตอนนั้นเธออายุเพียง 15 ปี
วันที่ 9 ต.ค. 2555 วันเกิดเหตุมือสังหารจี้รถโรงเรียนให้หยุด แล้วขึ้นไปกล่าวว่า
"คนไหนคือมาลาลา ถ้าไม่มีใครรับฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน" พอทราบตัวมาลาลาจึงได้ยิงเข้าที่ศีรษะของเธอ
เธอถูกยิงเข้าที่ศีรษะ โอกาสรอดน้อยมาก กระสุนทะลุผ่านศีรษะของมาลาลาทำให้สมองซีกซ้ายได้รับบาดเจ็บ
เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที นอกจากมาลาลาแล้ว เพื่อนนักเรียนสองคนในรถก็ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วย
มาลาลากับสีชมพู ปาฏิหาริย์ ได้สร้างสัญลักษณ์ระดับโลกของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ
ผู้คนมากมายห่วงใยเธอ ทั้งครอบครัว เพื่อน ครู คณะแพทย์ นักการเมือง เศรษฐียูเออี และผู้คนทั่วโลก
พวกเขาพยายามรั้งลมหายใจของเธอไว้ และส่งตัวข้ามทวีปไปยังประเทศอังกฤษ
อาการของมาลาลาอยู่ในขั้นวิกฤต เป็นตายเท่ากัน แพทย์พยายามช่วยเหลือผ่าตัดหลายครั้งจนช่วยชีวิตไว้ได้
ปาฏิหาริย์มีจริง เธอรอดชีวิต
สังคมเครือข่ายออนไลน์ จะพบรูปภาพเด็กหญิงทั้งเด็กนานาชาติใช้ผ้าสีชมพูคลุมศีรษะแบบมาลาลากันคึกคัก
มีทั้งที่ใช้รณรงค์เรื่องสิทธิเด็ก สิทธิในการศึกษา ไปจนถึงเป็นชุดแฟนซีที่แต่งกันในวันฮัลโลวีน
ที่มาของผ้าคลุมสีชมพูนี้มาจากหน้าปกของหนังสืออัตชีวประวัติ
"I Am Malala เด็กหญิงที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิแห่งการศึกษาและถูกตาลิบันยิงศีรษะ"
เริ่มตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2556
เนื้อหาในเล่มมีส่วนหนึ่งที่บอกว่ามาลาลาชอบสีชมพูมาก ในตอนที่เธอเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัดเอากระสุนออก
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะไปซื้อผ้าคลุมศีรษะตามชุดท้องถิ่นของชาวพัชตุนให้มาลาลา จึงถามเด็กสาวว่าชอบสีอะไร
มาลาลากล่าวว่า "แน่นอน ฉันตอบว่าสีชมพู"
ผู้พิชิตรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่อายุน้อยที่สุดในโลก
วันศุกร์ที่ 10 ต.ค.57 มาลาลา ยูซาฟไซ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับนายไกลาศ สัตยาธี
นักเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้แรงงานเด็กในอินเดีย
ไม่เพียงพวกเขาไม่สามารถสังหารเธอได้ แต่ยังไม่สามารถดับความหวังและความฝันของเธอ
กลับกลายเป็นยิ่งส่งเสริมให้เธอเปล่งประกายอยู่ในใจของคนทั่วโลก
เธอกลายเป็น "ไอคอน" และ "ไอดอล" ของเด็กสาวทั้งชาวตะวันออกและชาวตะวันตกด้วย
ในวันไปกล่าวสุนทรพจน์ที่เวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตามคำเชิญของนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น
เป็นอีกครั้งที่มาลาลาเลือกชุดสีชมพู สีโปรด
สุนทรพจน์สะท้านโลกที่ “ยูเอ็น”
“เราเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลในโลกนี้ต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย เพื่อที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตราย
เราเรียกร้องให้ยูเอ็นขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กทุกคนในโลกนี้”
“ความปราถนาของข้าพเจ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งความหวังและความฝันที่ข้าพเจ้ามียังคงเดิม”
“ถ้าหากผู้หญิงและเด็กลุกขึ้นเพื่อเรียกร้องในสิทธิ์ของพวกเธอ ไม่มีใครที่สามารถจะหยุดพวกเธอได้”
“และถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเรามุ่งหวังแล้ว
ให้พวกเราทำให้ตัวเองแข็งแกร่งด้วยความรู้และปกป้องตัวเองด้วยความเป็นหนึ่งเดียว”
“ข้าพเจ้าไม่เป็นปรปักษ์กับผู้ใด หรือการที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้
ไม่ได้ต้องการกล่าวเป็นปรปักษ์กับกลุ่มตอลิบานหรือกลุ่มก่อการร้ายอื่นแต่อย่างใด
ข้าพเจ้ามายืนในที่นี้เพียงเพื่อต้องการพูดแทนเด็กทุกคนในโลกในการขอโอกาสทางการศึกษาให้กับทั้งเขาและเธอเหล่านั้น”
มาลาลา หัวใจเธอมันน่ากราบ
ถึงแม้เธอจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้รับรางวัลมากมาย แต่ที่บ้านเกิดเธอ ปากีสถาน เธอกลับมีทั้งคนชื่นชมและต่อต้าน
นั่นเพราะ ธรรมเนียมของสังคมเธอจะยกย่องให้ผู้ชายเป็นผู้นำ ผู้หญิงต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
การที่เธอลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิเช่นนี้ ย่อมทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงต่อสู้อย่างมุ่งมั่น
มาลาลาเผยถึงการเขียนสุนทรพจน์ที่ UN ว่า
"ฉันไม่ได้เขียนสุนทรพจน์นี้ให้กับคนที่เข้ามาร่วมงานกับสหประชาชาติฟังเท่านั้น
ฉันเขียนขึ้นเพื่อทุกคนทั่วโลกที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้...
ลึกๆ ในใจ ฉันหวังว่าคำพูดของฉันจะช่วยปลุกความกล้าหาญในใจเด็กทุกคนและลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง"
เรียบเรียงจาก (ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ)
https://ppantip.com/topic/30944869
https://www.amnesty.or.th/news/press/663
https://ppantip.com/topic/30729980
https://ppantip.com/topic/32705565
http://www2.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000125823
https://women.kapook.com/view71675.html
เส้นทางชีวิตและการต่อสู้ของมาลาลา
มาลาลา ยูซาฟไซ เป็นเด็กหญิงชาวปากีสถาน อาศัยอยู่ในเขตสวัต
เมื่อเธออายุ 11 ปี กลุ่มก่อการร้ายตาลีบันได้แผ่อิทธิพลมาถึงเขตที่อยู่ของเธอ
และประกาศห้ามเด็กผู้หญิงทุกคนไปโรงเรียน
ไม่เพียงเธอฝ่าฝืนคำสั่งโดยไปโรงเรียนเท่านั้น เธอยังรณรงค์อย่างต่อเนื่อง
เพื่อเรียกร้องสิทธิให้เด็กผู้หญิงได้ไปโรงเรียน ทั้งที่เธออายุได้เพียง 11 ขวบ
มาลาลาบันทึกเรื่องของเธอลงเป็น blog ของเว็บไซต์ BBC จนมีผู้สนใจอย่างมาก
ไม่นานหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ได้มาถ่ายทำสารคดีชีวิตของเธอ
ทำให้เธอมีชื่อเสียง และได้รับเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัลเยาวชนเพื่อสันติภาพ
กลุ่มตาลีบันพยายามข่มขู่เธอหลายครั้ง เมื่อไม่สามารถหยุดเธอได้ พวกเขาจึงส่งคนมาสังหารเธอ
ตอนนั้นเธออายุเพียง 15 ปี
วันที่ 9 ต.ค. 2555 วันเกิดเหตุมือสังหารจี้รถโรงเรียนให้หยุด แล้วขึ้นไปกล่าวว่า
"คนไหนคือมาลาลา ถ้าไม่มีใครรับฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน" พอทราบตัวมาลาลาจึงได้ยิงเข้าที่ศีรษะของเธอ
เธอถูกยิงเข้าที่ศีรษะ โอกาสรอดน้อยมาก กระสุนทะลุผ่านศีรษะของมาลาลาทำให้สมองซีกซ้ายได้รับบาดเจ็บ
เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที นอกจากมาลาลาแล้ว เพื่อนนักเรียนสองคนในรถก็ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วย
มาลาลากับสีชมพู ปาฏิหาริย์ ได้สร้างสัญลักษณ์ระดับโลกของการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ
ผู้คนมากมายห่วงใยเธอ ทั้งครอบครัว เพื่อน ครู คณะแพทย์ นักการเมือง เศรษฐียูเออี และผู้คนทั่วโลก
พวกเขาพยายามรั้งลมหายใจของเธอไว้ และส่งตัวข้ามทวีปไปยังประเทศอังกฤษ
อาการของมาลาลาอยู่ในขั้นวิกฤต เป็นตายเท่ากัน แพทย์พยายามช่วยเหลือผ่าตัดหลายครั้งจนช่วยชีวิตไว้ได้
ปาฏิหาริย์มีจริง เธอรอดชีวิต
สังคมเครือข่ายออนไลน์ จะพบรูปภาพเด็กหญิงทั้งเด็กนานาชาติใช้ผ้าสีชมพูคลุมศีรษะแบบมาลาลากันคึกคัก
มีทั้งที่ใช้รณรงค์เรื่องสิทธิเด็ก สิทธิในการศึกษา ไปจนถึงเป็นชุดแฟนซีที่แต่งกันในวันฮัลโลวีน
ที่มาของผ้าคลุมสีชมพูนี้มาจากหน้าปกของหนังสืออัตชีวประวัติ
"I Am Malala เด็กหญิงที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิแห่งการศึกษาและถูกตาลิบันยิงศีรษะ"
เริ่มตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเมื่อเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2556
เนื้อหาในเล่มมีส่วนหนึ่งที่บอกว่ามาลาลาชอบสีชมพูมาก ในตอนที่เธอเพิ่งฟื้นจากการผ่าตัดเอากระสุนออก
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะไปซื้อผ้าคลุมศีรษะตามชุดท้องถิ่นของชาวพัชตุนให้มาลาลา จึงถามเด็กสาวว่าชอบสีอะไร
มาลาลากล่าวว่า "แน่นอน ฉันตอบว่าสีชมพู"
ผู้พิชิตรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพที่อายุน้อยที่สุดในโลก
วันศุกร์ที่ 10 ต.ค.57 มาลาลา ยูซาฟไซ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพร่วมกับนายไกลาศ สัตยาธี
นักเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้แรงงานเด็กในอินเดีย
ไม่เพียงพวกเขาไม่สามารถสังหารเธอได้ แต่ยังไม่สามารถดับความหวังและความฝันของเธอ
กลับกลายเป็นยิ่งส่งเสริมให้เธอเปล่งประกายอยู่ในใจของคนทั่วโลก
เธอกลายเป็น "ไอคอน" และ "ไอดอล" ของเด็กสาวทั้งชาวตะวันออกและชาวตะวันตกด้วย
ในวันไปกล่าวสุนทรพจน์ที่เวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ตามคำเชิญของนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น
เป็นอีกครั้งที่มาลาลาเลือกชุดสีชมพู สีโปรด
สุนทรพจน์สะท้านโลกที่ “ยูเอ็น”
“เราเรียกร้องให้ทุกรัฐบาลในโลกนี้ต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย เพื่อที่จะปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตราย
เราเรียกร้องให้ยูเอ็นขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กทุกคนในโลกนี้”
“ความปราถนาของข้าพเจ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งความหวังและความฝันที่ข้าพเจ้ามียังคงเดิม”
“ถ้าหากผู้หญิงและเด็กลุกขึ้นเพื่อเรียกร้องในสิทธิ์ของพวกเธอ ไม่มีใครที่สามารถจะหยุดพวกเธอได้”
“และถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเรามุ่งหวังแล้ว
ให้พวกเราทำให้ตัวเองแข็งแกร่งด้วยความรู้และปกป้องตัวเองด้วยความเป็นหนึ่งเดียว”
“ข้าพเจ้าไม่เป็นปรปักษ์กับผู้ใด หรือการที่ยืนอยู่ ณ ที่นี้
ไม่ได้ต้องการกล่าวเป็นปรปักษ์กับกลุ่มตอลิบานหรือกลุ่มก่อการร้ายอื่นแต่อย่างใด
ข้าพเจ้ามายืนในที่นี้เพียงเพื่อต้องการพูดแทนเด็กทุกคนในโลกในการขอโอกาสทางการศึกษาให้กับทั้งเขาและเธอเหล่านั้น”
มาลาลา หัวใจเธอมันน่ากราบ
ถึงแม้เธอจะมีชื่อเสียงไปทั่วโลก และได้รับรางวัลมากมาย แต่ที่บ้านเกิดเธอ ปากีสถาน เธอกลับมีทั้งคนชื่นชมและต่อต้าน
นั่นเพราะ ธรรมเนียมของสังคมเธอจะยกย่องให้ผู้ชายเป็นผู้นำ ผู้หญิงต้องปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
การที่เธอลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิเช่นนี้ ย่อมทำให้หลายคนไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงต่อสู้อย่างมุ่งมั่น
มาลาลาเผยถึงการเขียนสุนทรพจน์ที่ UN ว่า
"ฉันไม่ได้เขียนสุนทรพจน์นี้ให้กับคนที่เข้ามาร่วมงานกับสหประชาชาติฟังเท่านั้น
ฉันเขียนขึ้นเพื่อทุกคนทั่วโลกที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้...
ลึกๆ ในใจ ฉันหวังว่าคำพูดของฉันจะช่วยปลุกความกล้าหาญในใจเด็กทุกคนและลุกขึ้นต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง"
เรียบเรียงจาก (ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ)
https://ppantip.com/topic/30944869
https://www.amnesty.or.th/news/press/663
https://ppantip.com/topic/30729980
https://ppantip.com/topic/32705565
http://www2.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000125823
https://women.kapook.com/view71675.html
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 23/3/2018 (ดรุณีนางหนึ่งนั้น...เรืองนาม)
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
มีเรื่องมาอวดเพื่อนๆ อีกแล้ว
เนื่องจากว่า MC พี่แอ๊ดให้เกียรติมาชวนไปเล่นเกมถุงมือซีซันใหม่ที่ห้องกวี ชุนเทียนก็รีบตอบรับด้วยความยินดี
ถึงแม้ไม่เก่งเรื่องโคลงฉันท์กาพย์กลอน แต่ว่าก็อยากร่วมสนุก และถือว่าได้เรียนรู้ ได้ฝึกไปด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือมิตรภาพของพี่ๆ เพื่อนๆ ห้องถนนนักเขียน ทุกคนน่ารักมากค่ะ มีน้ำใจล้นเหลือ
บรรยากาศอบอุ่นเหมือนห้องเพลงเราเลย
ครั้งนี้ชุนเทียนตั้งชื่อว่า "ถุงมือใจเพชร" ส่งกลอนนี้ไปให้เพื่อนห้องกวีได้ลองทายว่าใครแต่ง
https://ppantip.com/topic/37473108
ไม่มีใครทายถูกสักคน คงเพราะไม่ค่อยได้ส่งผลงาน ไม่มีใครนึกถึง
เป็นอันว่าได้เข้ารอบไปอีกครั้ง ถ้ามีโอกาสวันหลังจะเอาผลงานรอบต่อไปมาให้ชมอีก
เรื่องผลการทายไม่สำคัญ ที่สำคัญคือมีเพื่อนหลายท่านชอบกลอนเรื่องนี้ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งและปลื้มใจมาก
คุณ Christian Trevelyan Grey อุตส่าห์นำผลงานไปเผยแพร่ตั้งกระทู้
💖💖💖 The Nobel Peace Prize - Malala Yousafzai 💖💖💖
https://ppantip.com/topic/37486959
ขอขอบคุณคุณคริสอีกครั้งนะคะ นี่คือผลงานของชุนเทียนที่ส่งไปค่ะ
ชนทั่วทุกเขตคาม.................แซ่ซ้อง
คมคิดยิ่งงดงาม...........ดรุณเด่น ฉกาจแล
ยินชื่อเสียงกึกก้อง...........ทั่วแคว้นแดนดิน
มาลาลา ยูซาฟไซ หัวใจเพชร สาวใจเด็ดมุ่งมั่นการศึกษา
แม้นที่อยู่หนูน้อยเติบโตมา ถูกขู่ว่าถ้าไปเรียนคงเจียนตาย
กลุ่มก่อการแผ่อำนาจประกาศทั่ว ผู้คนกลัวตัวสั่นฝันสลาย
หากฝ่าฝืนคงได้พาชีวาวาย จะทำร้ายหากผู้หญิงไปโรงเรียน
มาลาลาอายุแค่สิบเอ็ดปี มองถ้วนถี่พี่น้องต้องอ่านเขียน
เด็กผู้หญิงก็ควรมีสิทธิได้เรียน จึงพากเพียรต่อต้านการคุกคาม
เธอจึงเป็นขวัญใจไปทุกแห่ง ยิ่งโหมแรงย้ำเตือนเหมือนถูกหยาม
พวกก่อการตัดสินใจก่อนไฟลาม ส่งคนตามสังหารอย่างเลือดเย็น
มาลาลาอายุสิบห้าปี ถูกยิงที่ศีรษะชะตาเข็ญ
โอกาสรอดน้อยมากแสนยากเย็น ทุกคนเป็นห่วงเธอเสมอกัน
แต่แล้วหนาปาฏิหาริย์พลันบังเกิด สุดล้ำเลิศดั่งเป็นเช่นความฝัน
มาลาลาตื่นมาได้ในเร็ววัน ทั่วโลกพลันตันตื้นชุ่มชื่นใจ
กระสุนมิเพียงไม่อาจปลิดชีวิต ทั้งความคิดความฝันอันสดใส
ยิ่งบรรเจิดเพริศกว่าเก่าเต็มหัวใจ ยูซาฟไซเปล่งประกายไปทั่วแดน
ครั้นอายุได้สิบเจ็ดเพชรเลอค่า มาลาลาคว้าโนเบลปลื้มสุดแสน
เธอเพียงขอโอกาสส่งเสียงแทน เด็กขาดแคลนการศึกษาน่าเห็นใจ
วอนผู้ใหญ่โปรดให้ความสำคัญ ที่หนึ่งนั้นคือตำราพาสดใส
ความรุนแรงแฝงการร้ายจะห่างไกล หากเราไซร้วางอาวุธจุดปัญญา
(ถุงมือใจเพชร)
หมายเหตุ
- ขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซต์
- ขอบคุณพี่แอ๊ด และเพื่อนๆห้องกวีทุกท่านค่ะ
- ผลงานที่ส่งมีพลาดบทสุดท้ายและคำสร้อยโคลงเล็กน้อย ที่มาลงห้องเพลงได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
- ขอบคุณพี่ซูซี่และคุณคริส ช่วยแนะนำปรับปรุงโคลงให้ถูกต้องสมบูรณ์ขึ้น
....................................................................
ปัจจุบัน มาลาลา ยูซาฟไซ เปิดโรงเรียนสำหรับเด็กหญิง (Malala Yousafzai All-Girls School)
เพื่อผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในประเทศเลบานอนใกล้กับชายแดนของประเทศซีเรีย
มาลาลากล่าวเนื่องในวันเกิดอายุครบรอบ 18 ปีของเธอว่า...
"วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ และในฐานะตัวแทนของเด็กทั่วโลก
ฉันขอวิงวอนไปยังบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ให้ลงทุนในงบประมาณประเทศด้วยหนังสือแทนอาวุธ"
"การศึกษาคืออาวุธที่ทรงพลัง ที่จะสามารถต่อกรกับความรุนแรง การก่อการร้าย
การใช้แรงงานเด็กและความไม่เท่าเทียม
ปากกาและหนังสือจะนำเราทุกคนไปสู่หนทางที่เปี่ยมไปด้วยปัญญา"
ขอคารวะ "หัวใจเพชร" ของมาลาลา ผู้กล้าหาญ ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในการศึกษาของเด็กผู้หญิง
แม้จะต้องอยู่ในภาวะที่เสี่ยงกับชีวิต ได้รับแรงต้านจากสังคมที่เธออยู่เพราะขนบธรรมเนียมเดิมๆ
น่าเสียดายเหลือเกิน ในดินแดนบางแห่ง ทั้งที่มีปัจจัยหลายประการที่เอื้ออำนวยต่อการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี
มีโอกาสที่ประเทศเจริญรุดหน้า แต่คนบางกลุ่มกลับยินดีถูกพันธนาการ ยินดีถูกริดรอนสิทธิเสรีภาพ
ยินดีหยิบยื่นสิทธิอันพึงมีของประชาชนด้วยกันเองให้คนอื่นกดขี่
สุดท้ายขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกท่านค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิด้านใดก็ตาม
ขอให้ต่อสู้ในแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อสิทธิที่ชอบธรรม สำหรับสังคมที่ดีงามและคนรุ่นหลัง
คือหัตถาครองพิภพ ...ศรัณย่า
แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย
ขอเพียงให้เป็นได้ดังที่ตั้งใจ จะทุกข์ทนเดียวดาย ไม่มีความสำคัญ
https://www.youtube.com/watch?v=Le48s8bPzjw