Seongsan Ilchubong (Sunrise Peak),Jeju-do
สวัสดีค่ะทุกคน ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวเกาหลีในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2018 (7-14/03/18) โดยเดินทางไปกับเพื่อนสาวอีก 1 คน ทั้งหมด 8 วันเต็มๆ เริ่มต้นที่การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิคืนวันที่ 6 มีนา เวลา 21.45 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน terminal 2 วันที่ 7 มีนา เวลา 04.50 น. โดยสายการบิน Korean Air Boeing 747-400 ผังการนั่งเป็นแบบ 3-4-3 ส่วนใหญ่จะเป็นคุนลุงคุณป้าเกาหลี มีต่างชาติและคนไทยเล็กน้อยประปราย พอขึ้นเครื่องไปได้สักพักลูกเรือจะเริ่มเสริฟอาหารโดยจะมี บิบิมบับ,เนื้อและปลาให้เลือก ตอนแรกลังเลใจระหว่างบิบิมบับกับเนื้อสุดท้ายต้องยอมแพ้ให้เนื้อ บิบิมบับเรานั้นค่อยไปกินที่เกาก็ได้เนอะ
รสชาติกลางๆถึงจืด มีขนมปังก้อนที่แข็งจนรู้สึกอันตรายถ้าหล่นใส่หัวฮ่าๆ สลัดกุ้งตัมเล็กๆ และสามารถเลือกเครื่องดื่มได้มีตั้งแต่น่ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เบียร์ และไวน์(แดง,ขาว) หลังจากอิ่มท้องเราก็มาต่อกันที่ entertainment ด้านหน้าเจ้าค่ะ หนังค่อนข้างใหม่ วันนั้นดูเรื่อง Coco ส่วนเพื่อนดู Wonder นั่งร้องไห้กันสองคนขำมาก อ่อลืมบอกไม่มีซับไทยนะค่ะ มีแต่เกาหลี จีนและญี่ปุ่น แต่มีเสียงพากย์อังกฤษค่ะขออำลาเก็บแรงสำหรับวันพรุ่งนี้อีกยาวไกล ปิดไฟ
04.50 น. มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน terminal 2 เค้าเพิ่งเปิดให้บริการไม่นานประมาณต้นปี 2018 นี้เองมีไม่กี่สายการบินที่บินลงที่ terminal 2 (Korean air, Delta,KLM และ Air france) ทุกอย่างใหม่มากจริงๆ มีอปป้ารอตอนรับอยู่เต็มไปหมด มาถึงตม. ด่านเร้าใจโชคดีมีความง่วงสูงมากเลยไม่มีอาการตื่นเต้นแต่อย่างใด คนก็ไม่เยอะมากค่ะ แต่ แต่ แต่ ใกล้ถึงตม.แถวเราด้านหน้าสองคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นหมดเลยค่ะ เป็นผู้หญิงไทยคนหนึ่ง และต่างชาติหน้าตาไปทางแขกคนหนึ่ง ถึงเราและเพื่อนผ่านภายในห้าวินาที วินาที่แรกยื่น passport พร้อมทักทาย วินาทีที่ 2 ตม.แสกน passport วินาทีที่ 3 ตม.กดปุ่มให้แสกนนิ้วมีบอกเป็นภาษาไทยด้วยนะค่ะ สบาย วินาทีที่ 4 รับ passport พร้อมใบขาเข้าแบบปริ้นเล็กๆ ไม่มีปั๊มนะค่ะ วินาทีที่ 5 เดินเข้าเกาหลีอย่างสวยงามรอรับกระเป๋าค่ะ
Sim Card
หลังจากนั้นเราก็เดิน ออกมารับ sim card ของ KT Korea Telecom อยู่ตรงชั้นเดียวกับขาออกเลยค่ะเหมือนจะเปิด 24 ชั่วโมงนะค่ะ จองผ่าน KKday 10 วัน 962 บาท เป็นแบบเล่น data ได้ไม่จำกัด ( เน็ตที่นี้เร็วมากไม่ต้องสงสัย) นำใบจองไปยื่นจะมีพนักงานค่อยช่วยเหลือจนกว่าจะมีสัญญาณใช้สมบูรณ์ มาพร้อมกับที่จิ้มซิมและเค้าจะเก็บซิมเก่าเราให้เรียบร้อย สบายบรือค่ะ
ส่วนเพื่อน จขกท ใช้ sim2fly AIS ก็สัญญาณดีเหมือนกันใช้ได้ทุกที่ไม่มีปัญหาและเน็ตเร็วเหมือนกัน ราคาต่างกัน คือ 399 บาทเท่านั้นใช้ความเร็วสูงสุดได้ 4 gb 8 วัน ก่อนใช้จะต้องลงทะเบียนก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สามารถลงทะเบียนซิมได้ที่ AIS Shop, ร้าน Telewiz, AIS Shop สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2, บูธ International Roaming สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 และ AIS Shop สนามบินดอนเมือง ชั้น 1 (บริเวณทางเชื่อมอาคาร 1 และอาคาร 2)
ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะค่ะ แต่มันถูกกว่าเยอะค่ะ และยังมีอีกตัวเลือกนึงคือ pocket wifi ถูกกว่าเยอะค่ะไปหลายคนนิคุ้มแต่ขี้เกียจพกค่ะ จริงๆเกาหลีเองมี free wifi อยู่ทั่วเมืองและตามที่พักก็มี wifi ไม่ต้องเปิด sim card หรือ pocket ก็ได้ค่ะอันนี้เอาสะดวกเพราะจะเช่ารถขับที่เชจูและเพื่อฉุกเฉินด้วยค่ะ
Korail Pass
หลังจากเปิด ซิมเสร็จเราก็เดินลงไปชั้นด้านล่างชั้น basement คือล่างสุดๆตามป้าย KTX ไปเลยเพื่อไปรับ Korail pass ที่จองมาตั้งแต่ที่ไทยตัดผ่านบัตรเครดิตเท่านั้นค่ะ เราจองไปแบบ saver (จะต้องเดินทาง 2 คนขึ้นไปโดยเงื่อนไขคือต้องเดินทางพร้อมกันทุกเที่ยวเดี๋ยวจะบอกรายละเอียดการจองอีกครั้ง) 2-flexible day โดยที่สองวันที่เลือกเดินทางจะเป็นวันใดก็ได้ในภายในสิบวันนับจากวันแรก โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางวันติดกัน เช่น จะใช้ KTX วันแรกคืนวันที่ 10 มีนาคม เป็นการเดินทางเที่ยวแรก สามารถเดินทาง วันไหนอีกก็ได้โดย KTX อีก 1 วันภายในวันที่ 19 มีนาคม โดยไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งสะดวกมาก ราคา 91,000 won/คน หน้าตาใบจองจะเป็นประมาณนี้
มันคุ้มกว่าการจอง KTX เป็นเที่ยวหากเราเดินทางเยอะของเราที่ใช้คือ
1. KTX จาก Busan กลับ Seoul(ราคาต่อเที่ยวคือ 59,800 won/คน/เที่ยว อ้างอิงราคาแบบชั้นประหยัด)
2.KTX จาก Seoul ไป-กลับ Jeonju (34,600 won/คน/เที่ยว อ้างอิงราคาแบบชั้นประหยัด)
รวม 129000 wonต่อคนหากไม่ใช้Korail pass ประหยัดไปถึง 38,000 wonต่อคน ใครจะไปเที่ยวก็ลองวางแผนดูดีๆนะค่ะ
จริงสามารถรับได้ที่สถานี KTX ใหญ่ได้หมดเลยแต่เราว่าแบบนี้สะดวกดี โดยใช้ใบจองที่ปริ้นมาสามารถให้เค้าจองตั๋วที่นั่งตามวันและเวลาที่เราต้องการได้เลยนะค่ะแจ้งวันเวลาเดินทาง เรียบร้อยตั๋วออกมาเก็บไว้ให้ดีๆค่ะ และเวลาเราเหลือเยอะมากด้วยเพราะจองไฟลท์จาก gimpo airport ไป เชจูตอนบ่ายเพราะกลัวติด ตม.นาน มีเวลาเหลือแบบเดินไปกิมโพยังทันเลยค่ะฮ่าๆ
สำคัญมากต้องดูเลขขบวน(Train No.) เลขตู้(Car No.) เวลาให้ดีเพราะรถไฟออกตรงเวลามากช้า 1 นาทีคือไม่ทันหากเราอยู่ท้ายขบวนมากรีบขึ้นตู้อื่นก่อนได้แล้วเดินมาที่ตู้และที่นั่งของตัวเองหากไม่ทันจริงๆ
หน้าตาตั๋ว
แต่ตอนเราไปไม่มีการตรวจตั๋วเลยค่ะ ทุกรอบที่ขึ้น งงมากเหมือนกันวิ่งไปชานชาลาเอง ขึ้นไปนั่งเองไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วเลย ใช้ความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ล้วนๆแต่คิดว่าน่าจะมีการสุ่มตรวจหรืออาจจะดูถ้ามีคนนั่งที่ซ้ำกันอาจจะมีการตรวจเกิดขึ้น
ปล.มีตั๋วยืนด้วยนะค่ะ ราคาใกล้ๆกันค่ะเดินทางนานไม่น่าจะโอเค น่าจะสำหรับช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางเยอะๆ
วิธีจอง Korai pass
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เข้าไปที่http://www.letskorail.com/ebizbf/EbizbfForeign_pr16100.do?gubun=1 เลือกตรง korail pass ด้านบนขวาเลือกแบบที่ต้องการจองเดินทาง
1.คนเดียว(Single แบ่งเป็น adult หรือ child น้อยกว่า 13 ปีแต่มากกว่า 4 ปี) เด็กที่อายุน้อยกว่า 4 ปีเดินทางฟรี โดยจะต้องมีผู้ดูแลอายุมากว่า 13 ปี 1 คน ต่อเด็ก 1 คน
2.เป็นกลุ่ม( Saver 2 ถึง 5 คนที่เดินทางพร้อมกัน)
3. นักศึกษา(Youth อายุ 13-25 ปี หรือใช้บัตร ISIC card ย่อมาจาก International Student Identity Card ยื่นหลักฐานและสั่งมาส่งที่บ้านได้ราคา 400 บาทค่ะ
โดยบัตรแต่ละประเภทราคาจะต่างกันตามนี้ จะใช้ขึ้นได้กับรถไฟเกือบทุกประเภทนะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้KTX, KTX-Sancheon, ITX-Samaeul, ITX-CheongChun, Samaeul, Mugunghwa, Nuriro, O-train, V-train, S-train, DMZ-train, A-train, Westgold-train
* SRT, metro, temporary tourist trains are not included. Cr.http://www.letskorail.com/ebizbf/EbizBfKrPassAbout.do แต่เป็น Economy class ถ้าจะนั่งเป็น First class จะต้องเพิ่มเงินค่ะ
Cr.http://www.letskorail.com/ebizbf/EbizBfKrPassAbout.do
เอกสารที่ต้องใช้จะเป็นชื่อเรา เลขที่ passport ชื่อผู้ร่วมเดินทางและเลขที่ passport วันที่เดินทางวันแรกโดยใช้ korail passและบัตรเครดิต
การเดินทางไปสนามบินกิมโพ
หลังจากเสร็จสรรพกับ Korail pass ที่ชั้นเดียวกันเดินมาอีกนิดไปซื้อตั๋ว limousine bus KAL กันต่อเพื่อไปสนามบินกิมโพเลยค่ะเพื่อต่อเครื่องในประเทศไปเกาะเชจู ยังไม่ 6 โมงเช้าเลยค่ะทุกอย่างรวดเร็วมากที่เราเลือก limousine bus เพราะ เราแลกไมล์ Skypass มาค่ะใช้ไป 1,000 ไมล์ ปริ้นใบออกมาด้วยนะค่ะใบนั้นจะเป็นตั๋วมีอายุ 1 เดือนหลังแลกไมล์มา เหลือซื้อเพิ่มอีกแค่ 1 ใบของเพื่อน ราคา 7,500 wonต่อเที่ยวหาร 2 เหลือ 3,250 won/คน คุ้มเว่อร์ เดินไปที่ชานชาลารอรถมีป้ายบอกชัดเจนเดินไปรอรถมา จะมีพนักงานยืนอยู่ข้างรถโหลดกระเป๋าใต้รถแล้วจะได้รับ tag กระเป๋ากันการหยิบผิดและสูญหายค่ะ ขีนไปนั่งสงบจิตสงบใจได้ ที่นั่งเป็นแบบ 2-1 ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ
หน้าตาตั๋ว Bus ที่แลกไมล์มา
ตั๋วที่ซื้อมาจะบอกสายเลขบัสคือ 6707A platform ที่ต้องไปขึ้นคือ 17
จริงๆจากสนามบินอินชอนสามารถเดินทางไปสนามบินกิมโพได้หลายวิธี
1.Limousine บัสราคา 7,500 won ประมาณ 40 นาที
2.Airport rail road ต้องเป็น
all stop train เท่านั้นนะ ไม่ใช่ AREX นะระวังไปผิดยาวเข้าโซลไปเลยนะ ~3,450 won จาก terminal 1 และ 4,350 won จาก terminal 2 โดย T-money ใช้เวลาพอกับ limousine bus ค่ะ
3.Taxi start ที่ 3,000 won ค่ะแล้วแต่ขนาดและความพรีเมี่ยม taxi แบบธรรมดาจะมี charge เพิ่ม 20% หลัง 24.00-04.00 นะแต่ถ้าเป็น First class หรือ Oversized taxi จะไม่ charge เพิ่มแล้ว และยังมีแบบ international taxi ให้เลือกด้วยนะคือคนขับเค้าจะพูดภาษาอื่นนอกจากเกาหลีได้ค่ะ เช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น
เดินทางไปสนามบินกิมโพกันเลย~
เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ
[CR] ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ in เชจู-ปูซาน-จอนจู-โซล [Jeju-Busan-Jeonju-Busan],South Korea.
สวัสดีค่ะทุกคน ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยวเกาหลีในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2018 (7-14/03/18) โดยเดินทางไปกับเพื่อนสาวอีก 1 คน ทั้งหมด 8 วันเต็มๆ เริ่มต้นที่การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิคืนวันที่ 6 มีนา เวลา 21.45 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน terminal 2 วันที่ 7 มีนา เวลา 04.50 น. โดยสายการบิน Korean Air Boeing 747-400 ผังการนั่งเป็นแบบ 3-4-3 ส่วนใหญ่จะเป็นคุนลุงคุณป้าเกาหลี มีต่างชาติและคนไทยเล็กน้อยประปราย พอขึ้นเครื่องไปได้สักพักลูกเรือจะเริ่มเสริฟอาหารโดยจะมี บิบิมบับ,เนื้อและปลาให้เลือก ตอนแรกลังเลใจระหว่างบิบิมบับกับเนื้อสุดท้ายต้องยอมแพ้ให้เนื้อ บิบิมบับเรานั้นค่อยไปกินที่เกาก็ได้เนอะ
รสชาติกลางๆถึงจืด มีขนมปังก้อนที่แข็งจนรู้สึกอันตรายถ้าหล่นใส่หัวฮ่าๆ สลัดกุ้งตัมเล็กๆ และสามารถเลือกเครื่องดื่มได้มีตั้งแต่น่ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำผลไม้ เบียร์ และไวน์(แดง,ขาว) หลังจากอิ่มท้องเราก็มาต่อกันที่ entertainment ด้านหน้าเจ้าค่ะ หนังค่อนข้างใหม่ วันนั้นดูเรื่อง Coco ส่วนเพื่อนดู Wonder นั่งร้องไห้กันสองคนขำมาก อ่อลืมบอกไม่มีซับไทยนะค่ะ มีแต่เกาหลี จีนและญี่ปุ่น แต่มีเสียงพากย์อังกฤษค่ะขออำลาเก็บแรงสำหรับวันพรุ่งนี้อีกยาวไกล ปิดไฟ
04.50 น. มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน terminal 2 เค้าเพิ่งเปิดให้บริการไม่นานประมาณต้นปี 2018 นี้เองมีไม่กี่สายการบินที่บินลงที่ terminal 2 (Korean air, Delta,KLM และ Air france) ทุกอย่างใหม่มากจริงๆ มีอปป้ารอตอนรับอยู่เต็มไปหมด มาถึงตม. ด่านเร้าใจโชคดีมีความง่วงสูงมากเลยไม่มีอาการตื่นเต้นแต่อย่างใด คนก็ไม่เยอะมากค่ะ แต่ แต่ แต่ ใกล้ถึงตม.แถวเราด้านหน้าสองคนโดนเรียกเข้าห้องเย็นหมดเลยค่ะ เป็นผู้หญิงไทยคนหนึ่ง และต่างชาติหน้าตาไปทางแขกคนหนึ่ง ถึงเราและเพื่อนผ่านภายในห้าวินาที วินาที่แรกยื่น passport พร้อมทักทาย วินาทีที่ 2 ตม.แสกน passport วินาทีที่ 3 ตม.กดปุ่มให้แสกนนิ้วมีบอกเป็นภาษาไทยด้วยนะค่ะ สบาย วินาทีที่ 4 รับ passport พร้อมใบขาเข้าแบบปริ้นเล็กๆ ไม่มีปั๊มนะค่ะ วินาทีที่ 5 เดินเข้าเกาหลีอย่างสวยงามรอรับกระเป๋าค่ะ
Sim Card
หลังจากนั้นเราก็เดิน ออกมารับ sim card ของ KT Korea Telecom อยู่ตรงชั้นเดียวกับขาออกเลยค่ะเหมือนจะเปิด 24 ชั่วโมงนะค่ะ จองผ่าน KKday 10 วัน 962 บาท เป็นแบบเล่น data ได้ไม่จำกัด ( เน็ตที่นี้เร็วมากไม่ต้องสงสัย) นำใบจองไปยื่นจะมีพนักงานค่อยช่วยเหลือจนกว่าจะมีสัญญาณใช้สมบูรณ์ มาพร้อมกับที่จิ้มซิมและเค้าจะเก็บซิมเก่าเราให้เรียบร้อย สบายบรือค่ะ
ส่วนเพื่อน จขกท ใช้ sim2fly AIS ก็สัญญาณดีเหมือนกันใช้ได้ทุกที่ไม่มีปัญหาและเน็ตเร็วเหมือนกัน ราคาต่างกัน คือ 399 บาทเท่านั้นใช้ความเร็วสูงสุดได้ 4 gb 8 วัน ก่อนใช้จะต้องลงทะเบียนก่อน[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดนะค่ะ แต่มันถูกกว่าเยอะค่ะ และยังมีอีกตัวเลือกนึงคือ pocket wifi ถูกกว่าเยอะค่ะไปหลายคนนิคุ้มแต่ขี้เกียจพกค่ะ จริงๆเกาหลีเองมี free wifi อยู่ทั่วเมืองและตามที่พักก็มี wifi ไม่ต้องเปิด sim card หรือ pocket ก็ได้ค่ะอันนี้เอาสะดวกเพราะจะเช่ารถขับที่เชจูและเพื่อฉุกเฉินด้วยค่ะ
Korail Pass
หลังจากเปิด ซิมเสร็จเราก็เดินลงไปชั้นด้านล่างชั้น basement คือล่างสุดๆตามป้าย KTX ไปเลยเพื่อไปรับ Korail pass ที่จองมาตั้งแต่ที่ไทยตัดผ่านบัตรเครดิตเท่านั้นค่ะ เราจองไปแบบ saver (จะต้องเดินทาง 2 คนขึ้นไปโดยเงื่อนไขคือต้องเดินทางพร้อมกันทุกเที่ยวเดี๋ยวจะบอกรายละเอียดการจองอีกครั้ง) 2-flexible day โดยที่สองวันที่เลือกเดินทางจะเป็นวันใดก็ได้ในภายในสิบวันนับจากวันแรก โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางวันติดกัน เช่น จะใช้ KTX วันแรกคืนวันที่ 10 มีนาคม เป็นการเดินทางเที่ยวแรก สามารถเดินทาง วันไหนอีกก็ได้โดย KTX อีก 1 วันภายในวันที่ 19 มีนาคม โดยไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่ 11 มีนาคม ซึ่งสะดวกมาก ราคา 91,000 won/คน หน้าตาใบจองจะเป็นประมาณนี้
มันคุ้มกว่าการจอง KTX เป็นเที่ยวหากเราเดินทางเยอะของเราที่ใช้คือ
1. KTX จาก Busan กลับ Seoul(ราคาต่อเที่ยวคือ 59,800 won/คน/เที่ยว อ้างอิงราคาแบบชั้นประหยัด)
2.KTX จาก Seoul ไป-กลับ Jeonju (34,600 won/คน/เที่ยว อ้างอิงราคาแบบชั้นประหยัด)
รวม 129000 wonต่อคนหากไม่ใช้Korail pass ประหยัดไปถึง 38,000 wonต่อคน ใครจะไปเที่ยวก็ลองวางแผนดูดีๆนะค่ะ
จริงสามารถรับได้ที่สถานี KTX ใหญ่ได้หมดเลยแต่เราว่าแบบนี้สะดวกดี โดยใช้ใบจองที่ปริ้นมาสามารถให้เค้าจองตั๋วที่นั่งตามวันและเวลาที่เราต้องการได้เลยนะค่ะแจ้งวันเวลาเดินทาง เรียบร้อยตั๋วออกมาเก็บไว้ให้ดีๆค่ะ และเวลาเราเหลือเยอะมากด้วยเพราะจองไฟลท์จาก gimpo airport ไป เชจูตอนบ่ายเพราะกลัวติด ตม.นาน มีเวลาเหลือแบบเดินไปกิมโพยังทันเลยค่ะฮ่าๆ
สำคัญมากต้องดูเลขขบวน(Train No.) เลขตู้(Car No.) เวลาให้ดีเพราะรถไฟออกตรงเวลามากช้า 1 นาทีคือไม่ทันหากเราอยู่ท้ายขบวนมากรีบขึ้นตู้อื่นก่อนได้แล้วเดินมาที่ตู้และที่นั่งของตัวเองหากไม่ทันจริงๆ
หน้าตาตั๋ว
แต่ตอนเราไปไม่มีการตรวจตั๋วเลยค่ะ ทุกรอบที่ขึ้น งงมากเหมือนกันวิ่งไปชานชาลาเอง ขึ้นไปนั่งเองไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วเลย ใช้ความเชื่อใจและความซื่อสัตย์ล้วนๆแต่คิดว่าน่าจะมีการสุ่มตรวจหรืออาจจะดูถ้ามีคนนั่งที่ซ้ำกันอาจจะมีการตรวจเกิดขึ้น
ปล.มีตั๋วยืนด้วยนะค่ะ ราคาใกล้ๆกันค่ะเดินทางนานไม่น่าจะโอเค น่าจะสำหรับช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางเยอะๆ
วิธีจอง Korai pass [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การเดินทางไปสนามบินกิมโพ
หลังจากเสร็จสรรพกับ Korail pass ที่ชั้นเดียวกันเดินมาอีกนิดไปซื้อตั๋ว limousine bus KAL กันต่อเพื่อไปสนามบินกิมโพเลยค่ะเพื่อต่อเครื่องในประเทศไปเกาะเชจู ยังไม่ 6 โมงเช้าเลยค่ะทุกอย่างรวดเร็วมากที่เราเลือก limousine bus เพราะ เราแลกไมล์ Skypass มาค่ะใช้ไป 1,000 ไมล์ ปริ้นใบออกมาด้วยนะค่ะใบนั้นจะเป็นตั๋วมีอายุ 1 เดือนหลังแลกไมล์มา เหลือซื้อเพิ่มอีกแค่ 1 ใบของเพื่อน ราคา 7,500 wonต่อเที่ยวหาร 2 เหลือ 3,250 won/คน คุ้มเว่อร์ เดินไปที่ชานชาลารอรถมีป้ายบอกชัดเจนเดินไปรอรถมา จะมีพนักงานยืนอยู่ข้างรถโหลดกระเป๋าใต้รถแล้วจะได้รับ tag กระเป๋ากันการหยิบผิดและสูญหายค่ะ ขีนไปนั่งสงบจิตสงบใจได้ ที่นั่งเป็นแบบ 2-1 ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีค่ะ
หน้าตาตั๋ว Bus ที่แลกไมล์มา
ตั๋วที่ซื้อมาจะบอกสายเลขบัสคือ 6707A platform ที่ต้องไปขึ้นคือ 17
จริงๆจากสนามบินอินชอนสามารถเดินทางไปสนามบินกิมโพได้หลายวิธี
1.Limousine บัสราคา 7,500 won ประมาณ 40 นาที
2.Airport rail road ต้องเป็น all stop train เท่านั้นนะ ไม่ใช่ AREX นะระวังไปผิดยาวเข้าโซลไปเลยนะ ~3,450 won จาก terminal 1 และ 4,350 won จาก terminal 2 โดย T-money ใช้เวลาพอกับ limousine bus ค่ะ
3.Taxi start ที่ 3,000 won ค่ะแล้วแต่ขนาดและความพรีเมี่ยม taxi แบบธรรมดาจะมี charge เพิ่ม 20% หลัง 24.00-04.00 นะแต่ถ้าเป็น First class หรือ Oversized taxi จะไม่ charge เพิ่มแล้ว และยังมีแบบ international taxi ให้เลือกด้วยนะคือคนขับเค้าจะพูดภาษาอื่นนอกจากเกาหลีได้ค่ะ เช่น อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น
เดินทางไปสนามบินกิมโพกันเลย~
เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ