“พี่ๆ มีที่ไปยัง ไปกางเต๊นท์ที่เขากระโจมป่าว”
รุ่นน้องคนเดิม LINE มาชวนเรา ไอเราสองคนก็เป็นพวก เออ ออ ห่อหมก ใครชวนไปไหนก็ เออ ไปๆ! โดยที่ก็ไม่ได้รู้แพลน เคยได้ยินชื่อเขากระโจม แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง พอถึงเวลาก็นัดกันที่บ้านน้องแล้วก็ไปเลย
เขากระโจมอยู่ จ.ราชบุรี ใช้เวลาขับรถจากกรุงเทพฯ ไปราชบุรี ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ขับมาราชบุรีน่ะไม่ยากหรอก ความยากมันอยู่ตรงที่ขับไปเขากระโจมนี่แหละ!
ความยาก Step แรก หลงจ้า!
ขับไปๆ ทำไมมันเริ่มเข้าไปในหมู่บ้านเรื่อยๆ มีโรงเรียนด้วยเอ้า จนคุยกันว่าเราจอดถามคนแถวนั้นเถิด


และนี่คือคนที่เราเลือกจะถามทาง....5555


เราเลย มะ มาจอดรถตั้งสติที่ริมน้ำกันนิดนึง



ริมธารตรงนี้น้ำใสมาก สามารถกางเต๊นท์ข้างๆ นี้ได้ อย่างตอนที่เราแวะ ก็เห็นมีคนมาเตรียมกางเต๊นท์กันอยู่ ตอนกลางคืนนอนฟังเสียงน้ำไหล คงชิลล์ดี


อ่ะ ตั้งสติกันได้แล้ว ก็ไปกันต่อ คราวนี้มาถูกทางแล้ว ทางขึ้นเขากระโจมเรียกได้ว่าวิบากเลยดีกว่า วิ่งขึ้นมาเราก็มาเจอด่านแรกที่เค้าเรียกกันว่า ‘แอ่งน้ำวัดใจ’ คือไม่มีทางอื่นให้ไป ใครอยากไปต่อต้องขับรถลุยแอ่งน้ำนี้ไปเท่านั้น ซึ่งลึกใช่เล่น


ใครที่เอารถส่วนตัวมาก็ต้องมาจอดรถทำใจดูเชิงกันก่อน 555
แต่สำหรับคนที่จ้างรถขึ้นมา ก็สบ๊ายย เรารับจ้างเค้าปรับแต่งรถมาเพื่อทางวิบากแบบกนี้อยู่แล้ว วงล้อเค้าก็น่าจะเกือบ 3 เท่าของรถเราแล้วมั้ง แถมยกสูงแบบที่ว่าเวลาขึ้นนี่ต้องมีบันไดปีนขึ้นไปรึเปล่า 555 ค่าเหมารถขึ้นไปจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 – 3,000 บาท สำหรับใครที่รถไม่พร้อม และขับรถไม่เก่งพอ เราแนะนำให้เหมารถ ให้คนที่เค้าชำนาญทางพาขึ้นไปดีกว่า


หลังจากที่ยืนทำใจกันแล้ว เดอะแก๊งค์เราทุกคนต้องลงจากรถละเดินข้ามสะพานผ่านแอ่งน้ำนี้ไป เหลือแต่คนขับไว้คนเดียว เพื่อลดน้ำหนักบนรถ แล้วน้องคนที่ขับก็เหยียบปรื้ดเดียว ถึงแม้ว่าน้ำจะท่วมมาเกือบมิดล้อ แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี เย้!


ดูวีดีโอตอนขับรถข้ามแอ่งน้ำได้ที่นี่ค่ะ => https://www.facebook.com/wherewegopage/videos/1250783418370369/

ผ่านแอ่งน้ำวัดใจมาแล้ว อย่าได้ดีใจไป ทางขึ้นเขาวิบากยังรออยู่ข้างหน้า
ทางโคลนแฉะๆที่เห็นเมื่อกี้ยังเด็กๆ ถัดจากนั้นโหดกว่านี้อีกเยอะ จนเราไม่สามารถถ่ายรูปมาได้ ทางขรุขระโลกพระจันทร์ยังดูจะน้อยไป คือทางเป็นหลุม เป็นบ่อแบบลึกมาก เวลาขับต้องดูไลน์ถนนดีๆเลย รถโคลงซ้าย ขวา จนรู้สึกว่าเครื่องในเราไหลมากองรวมกันหมดแล้ว นอกจากรถโฟร์วิวแล้ว เราเห็นมีรถมอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นทางวิบากนี้ขึ้นมาเยอะเลย นับถือสุดๆ เค้าต้องมีสกิลการขี่ขั้นเทพมากถึงขึ้นมาได้ขนาดนี้

และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงบนเขากระโจม เย้!


เราขึ้นมาถึงกันประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ เริ่มมีคนมาจับจองที่กางเต๊นท์กันแล้ว


ด้านบนจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานขอขับรถตรวจความเรียบร้อย และประกาศออกโทรโข่งช่วยจัดระเบียบรถและสถานที่กางเต๊นท์ อ้อ ใครไม่ได้เตรียมเสบียงมา ข้างบนนี้เค้ามีเพิงขายของ มีพวกของใช้จำเป็นนิดหน่อย และมาม่าค่ะ แต่ราคาก็จะสูงกว่าข้างล่าง



มีห้องน้ำอยู่นะคะ แต่เราขอบายดีกว่า วันนี้ขอซักแห้งดีกว่าค่ะ 555 ปกติเราก็อาบน้ำห้องน้ำอุทยานได้นะคะ แต่ว่าสภาพห้องน้ำ ณ จุดนี้ ไม่ไหวจริงๆ อาจจะเพราะวันที่เรามา มีคนขึ้นมากางเต๊นท์ค่อนข้างเยอะ ห้องน้ำก็เลย นั่นแหละค่ะ ตามสภาพ

เราเลือกจุดกางเต๊นท์ กางกันเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเตรียมของทำข้าวเย็นทานกัน อาหารก็จะเป็นอาหารง่ายๆ อย่างไก่ทอด หมูผัดพริก อะไรอย่างงี้



พอเย็นๆ คนก็เริ่มเดินไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินกันที่จุดชมวิว


คืนนี้ทุกคนเข้านอนกันเร็วมาก ประมาณ 4 ท่มเกือบทุกเต๊นท์ก็เงียบ เหมือนจะเข้านอนกันหมดแล้ว อาจจะเพราะกะว่าจะตื่นมาถ่ายรูป ดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้ากันแน่ๆ


แต่พอตื่นมาตอนเช้า สิ่งที่เราพบคือ...หมอก!
หมอก หมอก หมอก และหมอก 5555 ขาวโพลนไปหมด มองไม่เห็นอะไรเลย สิ่งที่เราทำได้คือ ต้มมาม่าคัพกินรองท้อง เก็บเต๊นท์ และขับรถฝ่าทางวิบากกลับกัน บ๊าย บาย เขากระโจม.....

ฝากติดตามเพจเราด้วยนะคะ => https://www.facebook.com/wherewegopage/