เปิดฤดูกาลกันอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับโมโตจีพีฤดูกาล 2018 สเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของสนามแรกคือทุกอย่างที่อัดอั้นกันมาตลอด 3 เดือนในช่วงปิดฤดูกาล พลังงานที่ถูกสะสมเอาไว้อย่างล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นของนักแข่งเองหรือทีมงานนั้นต่างถูกนำมาปลดปล่อยที่นี่ เรียกได้ว่าซัดกันเต็มที่แบบยังไม่ต้องกังวลเรื่องใดๆ เพราะทุกอย่างคือเริ่มต้นนับ 1 ที่นี่กันใหม่
สำหรับผลการแข่งขันที่การ์ต้าปีนี้นั้น ทั้ง 3 รุ่น จริงๆรวมไปถึงรายการเอเชีย ทาเลนท์ คัพอีกรายการหนึ่งล้วนแต่มีผลการแข่งขันที่คู่คี่สูสีกันมากๆ การขับเคี่ยวกันของอันดับ 1 และ 2 นั้นยังกะพายุทะเลทรายที่พัดโหมกระหน่ำ โดยทั้ง 4 รุ่นนั้นจบการแข่งขันด้วยระยะห่างของผู้ชนะและอันดับ 2 นั้นอยู่ในช่วง 0.1 วินาทีทั้งหมด
ตะวันตกดินที่สนามโลแซลฯ
สืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนตารางเวลาของการฝึกซ้อมและแข่งขันของรายการนี้และมีการลดจำนวนวันจาก 4 ลงมาเป็น 3 วัน ทำให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นนิดหน่อย และควันหลงตามมาหลังจากการฝึกซ้อมในวันศุกร์อยู่พอสมควร รุ่น Moto3 อาจจะไม่มีอะไรมาก Moto2 นั้นยังก้ำกึ่ง แต่ MotoGP นี่สิ เจอปัญหาเรื่องความแตกต่างของอุณภูมิผิวแทรคระหว่างช่วงซ้อมกับการแข่งจริงไปแบบเต็มๆ
โดยอุณหภูมิของ FP1 ที่วิ่งในช่วงบ่ายแก่ๆกับ FP2 ที่ซ้อมในเวลาแข่งจริงนั้นต่างกันถึงเกือบๆ 20 องศา ทำให้นักแข่งหลายคนเช่น มาร์ค มาเกวซบอกว่า FP1 นี่เหมือนออกไปวิ่งกินลมเฉยๆ เอาข้อมูลไปใช้ในการเซ็ตอัพรถตอนแข่งจริงไม่ได้เลย พอนักข่าวมีการไปยังนักแข่งเรื่องเวลาแข่งว่าควรจะเป็นกี่โมงดี บางคนก็เห็นด้วยกับออกสตาร์ทตอนทุ่มนึง บางคนก็อยากได้ซัก 2 ทุ่ม คือความคิดเห็นมีค่อนข้างหลากหลาย ดูแล้วก็คงจะมีการเปลี่ยนเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เวลาที่เหมาะสมที่สุด
ไอ แอม โอเค
เหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในช่วงการฝึกซ้อม นอกจากจะมีกระสมที่พัดกระหน่ำในบางช่วงแล้ว หนึ่งในนั้นคือการล้มของวาเลนติโน่รอสซี่ ที่ถือว่าล้มด้วยความเร็วสูงอยู่พอสมควร แต่ยังดีที่เจ้าตัวสามารถยังเดินออกมาได้แบบไร้รอยขีดข่วน
[MotoGP] Review สนาม 1/2018 : คู่เดิม ที่เดิมและผลลัพท์ที่เหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือความเร้าใจ
สำหรับผลการแข่งขันที่การ์ต้าปีนี้นั้น ทั้ง 3 รุ่น จริงๆรวมไปถึงรายการเอเชีย ทาเลนท์ คัพอีกรายการหนึ่งล้วนแต่มีผลการแข่งขันที่คู่คี่สูสีกันมากๆ การขับเคี่ยวกันของอันดับ 1 และ 2 นั้นยังกะพายุทะเลทรายที่พัดโหมกระหน่ำ โดยทั้ง 4 รุ่นนั้นจบการแข่งขันด้วยระยะห่างของผู้ชนะและอันดับ 2 นั้นอยู่ในช่วง 0.1 วินาทีทั้งหมด
สืบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนตารางเวลาของการฝึกซ้อมและแข่งขันของรายการนี้และมีการลดจำนวนวันจาก 4 ลงมาเป็น 3 วัน ทำให้มีความวุ่นวายเกิดขึ้นนิดหน่อย และควันหลงตามมาหลังจากการฝึกซ้อมในวันศุกร์อยู่พอสมควร รุ่น Moto3 อาจจะไม่มีอะไรมาก Moto2 นั้นยังก้ำกึ่ง แต่ MotoGP นี่สิ เจอปัญหาเรื่องความแตกต่างของอุณภูมิผิวแทรคระหว่างช่วงซ้อมกับการแข่งจริงไปแบบเต็มๆ
โดยอุณหภูมิของ FP1 ที่วิ่งในช่วงบ่ายแก่ๆกับ FP2 ที่ซ้อมในเวลาแข่งจริงนั้นต่างกันถึงเกือบๆ 20 องศา ทำให้นักแข่งหลายคนเช่น มาร์ค มาเกวซบอกว่า FP1 นี่เหมือนออกไปวิ่งกินลมเฉยๆ เอาข้อมูลไปใช้ในการเซ็ตอัพรถตอนแข่งจริงไม่ได้เลย พอนักข่าวมีการไปยังนักแข่งเรื่องเวลาแข่งว่าควรจะเป็นกี่โมงดี บางคนก็เห็นด้วยกับออกสตาร์ทตอนทุ่มนึง บางคนก็อยากได้ซัก 2 ทุ่ม คือความคิดเห็นมีค่อนข้างหลากหลาย ดูแล้วก็คงจะมีการเปลี่ยนเปลี่ยนไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้เวลาที่เหมาะสมที่สุด
เหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในช่วงการฝึกซ้อม นอกจากจะมีกระสมที่พัดกระหน่ำในบางช่วงแล้ว หนึ่งในนั้นคือการล้มของวาเลนติโน่รอสซี่ ที่ถือว่าล้มด้วยความเร็วสูงอยู่พอสมควร แต่ยังดีที่เจ้าตัวสามารถยังเดินออกมาได้แบบไร้รอยขีดข่วน