วันนี้อยากจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์ตรงที่เจอการจัดวางพระผิดที่ว่าส่งผลต่อชีวิตขนาดไหน นอกจากพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วอีกสิ่งที่ต้องระวังให้มากในการจัดวางคือรูปบรรพบุรุษ เมื่อก่อนเราไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เลยรวมถึงเรื่องฮวงจุ้ยอะไรนั่น คิดว่าไม่เห็นจะมีผลเท่าไหร่ ศาสตร์ของจีนมาใช้กับเมืองไทยเมืองร้อนแถมชีวิตสมัยใหม่มันจะเหมือนของโบราณหรอ แต่ผิดถนัด โดยเฉพาะช่วงสองสามปีมานี้เรารับผลกระทบหนักมากๆ ไม่ใช่จากแค่ผีอย่างเดียว แต่จากพลังทิพย์ที่อยู่รอบตัว ทั้งผีทั้งเทพ ทำอะไรผิด ก็โดนอ่วม..

ประสบการณ์ที่ว่านั้นเกิดเมื่อประมาณสามปีได้มั้ง คือเราแต่งงานแล้วก็จริงแต่เราก็ยังอยู่บ้านตัวเองด้วยเนื่องจากที่ทำงานเราอยู่ที่บ้าน จะมีลูกค้ามาติดต่อก็ต้องอยู่ แต่บ้านสามีอยู่ไกลพอสมควรและสามีก็ทำงานบางทีแสตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมงในบางสัปดาห์ ก็ไม่สะดวกจะมารับส่งเราทุกวัน เลยตกลงว่าจะอยู่บ้านตัวเอง จ-ศ แล้วเย็นวันศุกร์ให้สามีมารับ แล้วมาส่งที่บ้านเย็นวันอาทิตย์หรือเช้าวันจันทร์ แต่หลังๆเราไปอยู่บ้านสามีนานขึ้นเพราะสามีบ่นว่าอยู่ด้วยกันน้อยไป ทีนี้มีอยู่วันหนึ่งคุณน้ามาเยี่ยมบ้าน ก็ถามคุณน้าว่าช่วยดูขึ้นไปดูพระที่อยู่ในห้องนอนให้หน่อยได้ไหมว่าจัดวางถูกหรือยัง คุณน้าไม่ขึ้น บอกแต่ว่าพระไว้ในห้องนอนไม่ได้ แต่พระของเราไม่ใช่พระพุทธรูป แต่เป็นพระเครื่ององค์เล็กๆ แต่เนื่องจากไม่ได้ใส่ติดตัวและมีหลายองค์ เลยวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้องนอน ก็มีโต๊ะหมู่จิ๋ว เอาพระเครื่องมาวางบนโต๊ะหมู่จิ๋วแล้วก็สวดมนต์เป็นประจำซึ่งเราก็รู้สึกว่าชีวิตก็ดี ไม่มีอะไรติดขัด ยิ่งสวดมนต์ งานยิ่งเข้า เงินก็มา เพียงแค่อยากรู้ว่าเราวางตำแหน่งถูกหรือยังแค่นั้น

แต่เนื่องจากคุณน้าพูดแบบนั้น เราก็เข้าใจว่ามันคงไม่ดีจริงๆนั่นแหละ เลยเอาออกมาไว้นอกห้อง ซึ่งหน้าห้องเราจะเป็นโต๊ะทำงานใหญ่ คือใหญ่กว่าในห้อง มีปริ้นเตอร์อะไรครบ ก็เลยย้ายโต๊ะหมู่จิ๋วมาไว้บนโต๊ะทำงานหน้าห้องแทน หลังจากนั้นเวลาเราไปบ้านสามี เราจะรู้สึกร้อนใจมาก เหมือนอยากกลับบ้าน เป็นห่วงเหมือนที่บ้านมีอะไร พอโทรถามที่บ้านก็ไม่มีใครเป็นอะไร เป็นแบบนี้อยู่สามสี่ครั้ง คืออยู่ได้ไม่นานต้องให้สามีพากลับมาดูที่บ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นมีอะไร แล้วช่วงที่ทำงานที่โต๊ะหน้าห้อง อยู่ดีๆพระเครื่องบนโต๊ะหมู่จิ๋วก็เหมือนโดนกวาดให้ตกลงมาที่พื้น ตกลงมาครึ่งหิ้งเลย เราก็ว่าสงสัยเราตั้งไม่ดีเลยหล่น ก็ตั้งใหม่ ผ่านไปอีกสักอาทิตย์หนึ่ง เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นอีก เราก็งง เพราะตอนอยู่ในห้อง ตั้งแบบนี้ก็ไม่เห็นเคยหล่น แต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเราคือ ปกติงานเราก็จะมีเรื่อยๆ ทั้งลูกค้าเก่าลูกค้าใหม่ บางเดือนไม่ดีมันก็ยังมีรายได้เข้าพอสมควร ปกติรายได้โอเคอยู่ถึงแม้ว่าหลังแต่งงานงานจะลดลงบ้างจากปัจจัยหลายอย่าง แต่รายได้เราไม่เคยขาด

หลังจากย้ายที่พระ เราไม่มีลูกค้าเลย ขอบอกว่าไม่มีเลย!!!! สองเดือนผ่านไป เราเริ่มสงสัย (ความรู้สึกช้ามาก) บางทีมีโทรมาว่าจะจ้าง แล้วก็หายไป ปกติลูกค้าหน้าร้านก็ต้องมีบ้าง ที่ติดต่อในเนทก็มีพอสมควร แต่นี่ไม่มีเลยทั้งสองทาง ซึ่งทำงานมาเป็นสิบปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ ก็เริ่มสงสัยแล้วว่าแบบนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ย่างเข้าเดือนที่สามเริ่มอยู่ไม่ได้ละ เพราะรู้สึกว่ามันต้องมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เลยลองคิดดูว่าการที่ไม่มีลูกค้าเลยมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งชีวิตเราราบเรียบมากแทบไม่ได้ออกไปไหนหรือทำอะไร ฉะนั้นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างเดียวในช่วงนั้นคือย้ายที่พระ แต่เราก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าการย้ายพระออกมานอกห้องนอนมันไม่ดีอย่างไร เลยลองถามคุณแม่ คุณแม่ก็สวดมนต์ตั้งจิตถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผ่านไปครึ่งวัน คุณแม่ก็มาบอกคำตอบ บอกว่าให้ไปไหว้ขอขมาอากงอาม่าด่วน ให้เอาน้ำชาและขนมเปี้ยไปไหว้ คำตอบหม่าม้ายิ่งเราให้เรางงในงงเข้าไปอีก คือเราเข้าใจว่าย้ายพระ แล้วเกี่ยวอะไรกับอากงอาม่าล่ะเนี่ย เลยโทรไปถามคุณน้าเพื่อความช้วร์ เพราะคุณแม่บอกว่าได้คำตอบมาแค่นี้ ส่วนเหตุผลไม่ได้มีอธิบายไว้ คุณแม่ก็งงๆอยู่เหมือนกัน

คำตอบของคุณน้าทำให้เราร้องอ๋อเลยทีเดียว เพราะคุณน้าบอกว่าตอนนี้อากงอาม่าเข้าบ้านไม่ได้ มายืนด่าเราอยู่หน้าบ้านตลอด เราก็ว่าถ้าบรรพบุรุษมายืนด่าเราหน้าบ้านทุกวัน ชีวิตเรามันคงจะดีได้หรอกนะ แถมหากมีลูกค้ามา ท่านก็คงไล่ไปหมดเพราะคงอยากให้เรารู้ตัว เรื่องของเรื่องก็คือโต๊ะทำงานเราห่างออกไปอีกสองเมตรกว่าๆจะเป็นหิ้งอากงอาม่านั่นเอง พอเราเอาพระออกมา ท่านก็ร้อนจนอยู่ไม่ได้ ร้อนเหมือนไฟเผา จนต้องออกไปอยู่หน้าบ้าน เราก็งงว่าแค่พระเครื่องไม่น่าจะอานุภาพรุนแรงขนาดนี้ แต่คุณแม่ว่าคงเป็นฮู้ที่ได้จากวัดแชกงหมิวที่ฮ่องกง เพราะอันนั้นแรงมาก อย่าว่าแต่อากงอาม่าเลย เราเองยังจับไม่ได้เลย คุณแม่ก็เคยจับแล้วก็เป็นเหมือนเรา ถึงกับมึนหัวหนักมากไปเป็นวัน

คุณน้าเลยบอกให้เราย้ายที่และบอกให้เอาน้ำซาวข้าวมาล้างพื้นที่ ทั้งพื้นที่เก่าที่เคยตั้งและพื้นที่ใหม่ที่จะย้ายเข้าไป แล้วค่อยย้าย เราเลยย้ายเข้าไปห้องนอนเหมือนเดิม แต่ย้ายไปไว้คนละที่เพราะห้องนอนเราเป็นห้องใหญ่แบ่งเป็นสองห้องย่อย ห้องด้านในเป็นห้องนอน ส่วนห้องด้านนอกจะวางตู้หนังสือ ตู้เก็บของ เลยเอาไปไว้ส่วนห้องด้านนอก เพราะแต่เดิมไว้ส่วนด้านใน หลังจากนั้นจึงจุดธูปขอขมาอากงอาม่าและซื้อขนมและน้ำชามาไหว้ อากงอาม่าถึงกลับมาอยู่ที่เดิมได้ คุณน้าบอกว่าทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นแต่จะช้าหน่อยนะ คงอีกหลายเดือนกว่าจะเหมือนเดิม เราก็ว่าไม่เป็นไร แค่ดีขึ้นก็พอแล้ว ซึ่งการตั้งพระผิดที่แค่สองสามเดือน ทำให้เราจนไปเลยหนึ่งปี เพราะปีนั้นเงินเข้าน้อยมาก แต่มันก็ค่อยๆดีขึ้นอย่างที่คุณน้าบอก แต่ก็ช้ามากกว่าจะเป็นปกติ

นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะแชร์เพราะจากคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องอะไรพวกนี้ ไม่คิดว่าจะมีผลอะไรกับชีวิต แต่มันกลับมีผลอย่างมาก เพียงแต่หลายๆคนอาจไม่รู้ว่าที่ติดขัดอะไรอยู่ตอนนี้เป็นเพราะอะไร อาจจะคิดไม่ถึงในสิ่งพวกนี้ แต่พอดีเราเป็นคนที่สามารถรับผลกระทบเรื่องแบบนี้ได้ค่อนข้างรุนแรงกว่าคนอื่น ก็เลยทำให้รู้ว่าเกิดจากอะไร