สวัสดีครับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน  ผมเคยไปกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนนานแล้วครับ แต่ไม่มีโอกาสนำรูปมาลงสักที วันนี้ได้ฤกษ์เลยขอนำมาลงไว้หน่อยนะครับ ตอนไปสมัยนั้นยังรุ่น ๆ อยู่ครับ มันก็เลยเหมือนกับการไปผจญภัย สมัยนั้นขอวีซ่าค่อนข้างยากครับ สมัยนั้นไปการบินไทยครับ ตั๋วเครื่องบินไป - กลับราคา 35,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกแล้วนะครับในสมัยนั้น



เนื่องจากยังรุ่น ๆ อยู่ ผมก็เลยพักที่ ACCO HOSTEL ครับ เป็นที่พักที่ไม่ใหญ่และไม่แพง (สมัยนี้น่าจะแพงเหมือนกัน) แต่บรรยากาศก็ดูสบาย ๆ ครับ เรามาดูบรรยากาศของที่พักกันดีกว่า



ที่พักจะดูอาร์ต ๆ หน่อยครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายในห้อง ห้องพักจะเป็นห้องรวมชายครับ มี 12 เตียง พักรวมกัน ห้องน้ำต่างหาก
พอได้ที่พักแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นกันดีกว่าครับ



ตอนไปสำรวจเมือง ผมก็ขึ้นรถเมล์บ้าง เดินบ้าง รู้สึกว่ากรุงสตอกโฮล์มเงียบสงบดีครับ บรรยากาศแบบนี้ล่ะที่ผมชอบ ผู้คนก็น้อย รถราก็ไม่พลุกพล่าน















พอหายเหนื่อยก็ออกไปสำรวจเมืองของเขาต่อครับ คนสตอกโฮล์มชอบขี่จักรยานกันครับ ที่นี่มีเลนจักรยานอยู่ทั่วเมือง แล้วหลายตรอกก็จะมีร้านขายและซ่อมจักรยาน รถราน้อยครับ ทำให้อากาศดีมาก ตอนนั้นผมไปช่วงกลาง ๆ ปี อากาศกำลังสบายครับ อุณหภูมิน่าจะอยู่ประมาณ 8-10 องศาเซลเซียส เดินเล่นสบาย ๆ ไม่ได้รู้สึกหนาวแต่อย่างใด แค่รู้สึกเย็น ๆ แค่นั้นเองครับ วันนี้คงต้องพักแล้วครับ พรุ่งนี้กะว่าจะไปชมพระราชวังของเขาครับ



วันที่สอง ผมออกไปชมพระราชวังของเขาครับ เนื่องจากนานแล้วเลยไม่แน่ใจว่าพระราชวังของเขาชื่อว่าอะไร แต่ก็สวยงามและดูขลังมากนะครับ ภาพด้านบนเป็นทางเข้าพระราชวังครับ



ช่วงด้านในที่พอเดินเข้าไปก็จะคล้าย ๆ ที่ลอนดอนหรือที่บ้านเราครับ คือจะมีทหารรักษาการณ์ยืนนิ่งอยู่ วันที่ไป คนเขาไม่ค่อยนิยมไปถ่ายรูปกับทหารครับ ทำให้ผมก็ไม่กล้าไปถ่ายด้วย แค่เก็บภาพสวย ๆ ของทหารนายนี้มา ผมเดินเล่นไปสักพักก็สังเกตว่าเขาน่ากำลังจะมีการเดินสวนสนามกันครับ ก็เลยตามไปดูกับเขาด้วย







ออกจากวังก็เดินชมสถานที่ราชการของเมืองครับ ทำให้ผมรักกรุงสตอกโฮล์มมาก ๆ เลย เพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีระเบียบ ไม่แออัด และผู้คนนิสัยดี เดินเล่นชมเมืองแล้วก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ จากนั้นผมก็เดินเลยเข้าไปตรงย่านเมืองเก่าครับที่เป็นทางเดินแคบ ๆ แต่ก็สวยดีครับ เสียดายที่ภาพที่ถ่ายไม่ค่อยชัดครับ รูปไม่สวยเลย เลยถือโอกาสไม่นำมาลงก็แล้วกันนะครับ เรากลับไปพักผ่อนกันดีกว่าครับ เพราะพรุ่งนี้ เราจะล่องเรือชมทัศนียภาพของอ่าวสตอกโฮล์มครับ



วันที่ 3 เราจะพาทุกท่านมาล่องเรือในอ่าวสตอกโฮล์มนะครับ แล้วเราก็จะไปแวะตามเกาะแก่งต่าง ๆ ที่เราสามารถแวะได้ เรือที่เราล่องไม่ใช่ลำใหญ่ในภาพนะครับ มันจะลำเล็กหน่อย พอดีตอนถ่ายรูป ผมขึ้นไปที่จุดชมวิวครับ เลยถ่ายเรือเราไม่ได้เพราะเรือใหญ่บังหมด แต่ไม่เป็นไรครับ เราไปเตรียมล่องเรือกันดีกว่า



ภาพด้านบนเป็นช่วงที่เรือกำลังจะออกจากฝั่งครับ จำได้ว่าวันนั้นอากาศดีมาก ไม่เย็นจนเกินไป อุณหภูมิน่าจะประมาณ 12-15 องศาเซลเซียส วันนั้นผู้คนบนเรือมีไม่มากครับ หลายคนเลือกที่จะมานั่งท้ายเรือชมวิว รวมทั้งผมด้วย











กรุงสตอกโฮล์มมีเรือใหญ่ค่อนข้างเยอะนะครับ เพราะเป็นแดนไวกิ้งในสมัยโบราณ จากรูปด้านบน เราจะเห็นเรือชื่อไวกิ้งไลน์อยู่ไกล ๆ










จากรูปข้างบน เป็นบ้านสองหลังที่สวยมาก ๆ ทางด้านซ้ายสีขาว ก็จะมีท่าเรือสีขาว ทางขวาบ้านหลังคาส้ม ก็จะมีท่าเรือหลังคาส้ม การออกแบบบ้านริมน้ำของที่นี่สวย ๆ ทั้งนั้นเลยครับ







ผมทราบมาว่าหลายครอบครัวมีบ้านในเมืองด้วยและก็มีบ้านริมน้ำด้วย ทุกครอบครัวจะต้องมีเรือเป็นของตนเองครับ เพราะพวกเขารู้สึกว่าบรรพบุรุษเป็นชาวไวกิ้งและเก่งด้านการเดินเรือ ก็เลยรับค่านิยมการมีเรือประจำครอบครัวไปด้วย



























โอ เจอหมู่บ้านริมน้ำเต็มไปหมด งดงามมาก















จริง ๆ แล้ว ผมอยู่สตอกโฮล์มทั้งหมด 17 วันครับ แต่เจอภาพแค่ตอนมาถึงและล่องเรือ ภาพอื่นๆ ยังหาไม่เจอครับเพราะนานแล้ว ทริปนี้ประทับใจมาก สตอกโฮล์มเป็นเมืองที่สวยและน่าไปมาก ๆ ผมเองเลือกล่องเรือในอ่าวสตอกโฮล์มแล้วพักไปเรื่อย ๆ เป็นการเที่ยวหาความสงบและห่างไกลตัวเมืองและแหล่งชอปปิ้งครับ ถือเป็นการเที่ยวสตอกโฮล์มอีกแบบนึงที่วันนี้พอมีเวลา เลยหามาให้ชมกันครับ ส่วนรูปกิจกรรมในวันอื่น ๆ ของที่นี่หรือที่อื่น ๆ เช่น สก๊อตแลนด์ เมือง salisbury ที่อังกฤษ ถ้าหาภาพเจอจะนำมาลงใหม่นะครับ

ผมเองก็จะหายไปพักนึง กลับมาเดี๋ยวค่อยว่ากันครับ

สวัสดีครับ