สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลย ข้อมูลทั้งหมดในกระทู้นี้มาจากการค้นคว้าหาทางอินเตอร์เนทและจากการไปสอบถามกับบุคลากรทางการแพทย์หลาย ๆ ท่านที่มีเมตตาให้คำแนะนำในการป้องกันมานะครับ โดยหากข้อมูลในกระทู้ของผมมีข้อมูลส่วนไหนที่ผิดพลาดหรือตกหล่นไป รบกวนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ช่วยให้คำแนะนำได้เลยนะครับ ผมจะได้แก้ไขและกระทู้จะได้มีข้อมูลที่ถูกต้องและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
จุดประสงค์ของกระทู้นี้ เริ่มจากผมเองก็เป็นอีกคนที่ได้มีการใช้ Application ในการหาคู่นอนสำหรับการมี Sex เป็นครั้งคราวและมองว่าแม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยหรือ condom ก็ยังมีโอกาสในการที่จะติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ผมจึงได้ทำการสืบค้นข้อมูลและพยายามหาวิธีเพิ่มความปลอดภัยในการมี Sex ให้กับตนเอง
โดยหัวข้อที่ผมจะนำมาเสนอในวันนี้นั้นจะเป็นเรื่องของ PrEP หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเพร็บนั้นเอง โดยผมได้แบ่งกระทู้ออกเป็นตั้งแต่การกำเนิดของ PrEP ยันวิธีการเดินทางไปรับ PrEP ฟรีมาทาน ดังนั้นหวังว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ก็อยากให้ลองพิจารณาเพิ่มความปลอดภัยให้กับท่านนะครับ เพราะการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติ แต่เพศสัมพันธ์ที่ดีคือเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยครับ
00 จุดกำเนิดของยา PrEP
อธิบายเพิ่มเติมจากภาพด้านบนนะครับ จากที่ผมสืบค้นมา มีรายงานว่า ปกติแล้วเชื้อ HIV จะค่อย ๆ ลุกลามไปที่ละจุดภายในร่างกาย ดังนั้นแล้วเราจึงยังมีโอกาสในการยับยั้งเชื้อโดยการทานยา PEP แต่หลายครั้งต่อหลายครั้งที่ผู้ป่วยรับยา PEP ช้าเกินไปจนทำให้ติดเชื้อ HIV ดังนั้นแล้วจึงได้มีการดัดแปลงแนวความคิด จากการรักษาภายหลังก็เป็นการส่งยาเข้าไปดักรอล่วงหน้าเลยภายในร่างกายนั้นเอง
01 PrEP คืออะไร?
PrEP คืออะไร? พูดง่ายๆมันคือยา Anti-virus ประเภทหนึ่ง โดยจะมีกระบวนการทำงานในการ
ลดทอนความเสี่ยงจากการที่เราไปสัมผัสกับเชื้อ HIV โดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมใส่ถุงยางอนามัย / ถุงแตก / ถุงรั่ว หากเราทานเจ้า PrEP ไว้ก่อนก็จะสามารถลดทอนความเสี่ยงในการติดเชื้อลงไปได้ถึง 92 %
ย้ำนะครับว่าลดทอนความเสี่ยงลงไปได้แค่เพียง 92 % นั้
นหมายความว่าแม้เราจะทาน PrEP แต่ก็ควรสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่คิดจะมีเพศสัมพันธ์ครับ
02 PrEP ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? ประกอบไปด้วย tenofovir (TDF) ขนาด 300 มก. และ emtricitabine (FTC) ขนาด 200 มก. ซึ่งรวมอยู่ในยาเม็ดเดียวกัน (TDF/FTC) โดยจะต้องทานทุกวัน วันละ 1 เม็ด และ
ควรทานในเวลาเดียวกันของทุก ๆ วัน เพราะการทายานห่างกันอาจมีผลทำให้เชื้อเกิดการดื้อยาได้ สมมติว่าหากวันใดลืมทาน PrEP ไปแต่ไม่นานจากเวลาประจำปกติก็ควรทาน แต่หากใกล้ถึงรอบใหม่แล้วก็ค่อยทานรอบใหม่ก็ได้ครับโดย
ไม่จำเป็นต้องทางซ้ำ 2 เม็ด และตัวยาเพร็บจะสามารถส่งผลได้ดีที่สุดหลังจาก
ทานติดต่อกัน 7-10 วันนั้นเอง
03 ประเทศไทยมีบริการเจาะเลือดฟรี (ปีละ 2 ครั้ง/คน *แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละหน่วยงาน) PrEP ก็มีแจกฟรีนะครับ :}
โดยปกติแล้วที่คลินิกนรินามนั้นจะมีบริการตรวจเลือดฟรี 2ครั้ง/1ปี สำหรับ 1 บุคคล (ต้องโชว์บัตรประชาชน) และสำหรับท่านที่ไม่ประสงค์ออกนามก็สามารถตรวจได้โดยเสียค่าบริการตามอัตราที่ปรากฏครับ นอกจากที่คลินิกนิรนามแล้วหลายๆคลินิกเองก็ได้มีบริการตรวจเลือดฟรีสำหรับประชาชนชาสไืยเหมือนกัน สามารถค้นหาและลองติดต่อสถาพยาบาลหรือสถานอนามัยใกล้ๆบ้านท่านได้เลยนะครับ
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้มีการแจกจ่าย PrEP โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งค่าเจาะเลือดและค่ายา อาทิ โครงการคลินิก swing สีลม (
http://www.swingthailand.org/ ) โครงการอดัม เลิฟ อิส (
http://adamslove.org/d.php?id=86 ) โดยทั้งสองโครงการไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมการทดลอง และนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีอีกหลาย ๆ โครงการที่นอกจากจะได้ยาแล้วยังได้ค่าเข้าร่วมโครงการอีกด้วย
04 ขั้นตอนและวิธีการไปรับ PrEP ฟรีนะครับ
ขั้นตอนการไปรับ PrEP 1
หลังจากที่เราเลือกโครงการที่เราต้องการจะเข้าร่วมได้แล้ว เราจะต้องไปเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบว่าเราไม่ได้เป็นผู้ที่ติดเชื้อ HIV อยู่แล้วรึเปล่า เพราะยา PrEP เองนะเปรียบเสมือนยาต้าน
'ก่อนการมีเพศสัมพันธ์' ดังนั้นแล้วผู้ที่ติดเชื้อ HIV จะไม่สามารถรับยา PrEP ไปทานได้
ด้วยเหตุผลว่าอาจจะทำให้เชื้อในร่างกายดื้อยานั้นเองครับ หรืออีกกรณีสำหรับผู้ที่มีร่างกายไม่ปกติ เช่น ค่าตับ/ไต ผิดปกติ จำพวกนี้จะเป็นอาการของบุคคลที่ไม่สามารถรับ PrEP ได้เช่นกัน เพราะยาเพร็บเองก็ถือเป็นยาชนิดหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อตับ/ไต
ขั้นตอนการไปรับ PrEP 2 เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเราสามารถรับ PrEP ไปทานได้เพราะร่างกายมีค่าที่ปกติ คุณหมอจะแจกให้เรามาทั้งสิ้น 1 กระปุกหรือ 30 เม็ดเพื่อนำกลับไปรับประทาน 1 เม็ด/วัน เมื่อครบ 1 เดือนหรือ 30 วัน จึงมาตรวจอีกครั้งและได้รับกลับไป 2 กระปุก หลังจากครั้งที่ 3 เป็นต้นไป คุณจะได้รับยา PrEP ครั้งละ 3 กระปุกต่อ1 ครั้งที่มาตรวจ เท่ากับว่าใน 1 ปีเราจะได้รับการตรวจเลือดทุก ๆ สามเดือน หรือก็คือ 4 ครั้ง/ปี นั้นเอง
ย้ำอีกครั้ง !! แม้ PrEP จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 92 % แต่ก็ยังมีรายงานผู้ที่ติดเชื้อ HIV แม้จะทาน PrEP อยู่ถึงสองเคสจากต่างประเทศแล้ว ดังนั้นแล้ว นอกจากการทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลารวมไปถึงการตรวจเลือดอย่างเป็นประจำ ก็ต้องไม่ละเลยการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยเช่นกันครับ คิดเสมอว่าเราแค่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับ 8 % ที่ไม่รู้ว่าหวยจะออกที่เราตอนไหน
05 ผลกระทบการจากรับประทาน PrEP
จากสถิติที่ผ่าน ๆ มา ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมักจะมีอาการที่ไม่มากเกินไปกว่าการปวดศีรษะ อาเจียน และน้ำหนักลดลงเล็กน้อย ปัจจุบัน ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัดว่า PrEP ส่งผลอันตรายต่อระบบกระดูกและระบบประสาทตามที่เคยมีคนกล่าวอ้างมา โดยอาการหรือผลข้างเคียงนั้นอาจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละคน
โดยส่วนตัวผมทาน PrEP มาประมาณเกือบหกเดือนได้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่มีเลยครับ ค่าตับไตยังเท่าเดิม ส่วนอาการเช่นปวดศีรษะหรืออะไรก็ไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว (ถึงกับต้องไปหาคุณหมอว่ามันเป็นยาจริง ๆ ใช่ไหม ทำไมไม่เวียนหัวหรืออะไรเลย)
และทั้งหมดนั้นคือ PrEP ที่ผมอยากแนะนำให้คุณรู้จักครับ
_________________________________________________
สุดท้ายแล้ว ส่วนตัวผมมองว่าพฤติกรรมของผู้คนแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังเดินไปข้างหน้า เราเองก็ต้องก้าวเดินตามด้วยเช่นกัน ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่าผมสนับสนุนให้ทุกคนเล่นแอพลิเคชั่นหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะครับ ใจความสำคัญที่สุดของกระทู้นี้คือการที่ผมมองว่า
"คนเราสามารถมี SEX ได้ แต่ SEX ที่ดีคือ safe SEX ครับ" คนไม่เห็นด้วยก็ไม่ผิดอะไร มันเป็นเรื่องปกติ คุณจะทำอะไรก็ทำได้ตราบเท่าที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแม้กระทั้งตัวคุณเอง
สำหรับวันนี้ก็มีสาระความรู้มานำเสนอแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณมาก ๆ ที่อ่านกันมาถึงตรงนี้
สวัสดีไม่มีโรคนะคร๊าบบบบบ
PrEP คืออะไร,ทำไมช่วยป้องกัน HIV ได้ถึง 92%,ไปรับ"ฟรี"ได้จากที่ไหน,มีผลข้างเคียงอะไรไหม,และใครที่ควรกิน PrEP มาฟังกัน :)
จุดประสงค์ของกระทู้นี้ เริ่มจากผมเองก็เป็นอีกคนที่ได้มีการใช้ Application ในการหาคู่นอนสำหรับการมี Sex เป็นครั้งคราวและมองว่าแม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยหรือ condom ก็ยังมีโอกาสในการที่จะติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ผมจึงได้ทำการสืบค้นข้อมูลและพยายามหาวิธีเพิ่มความปลอดภัยในการมี Sex ให้กับตนเอง
โดยหัวข้อที่ผมจะนำมาเสนอในวันนี้นั้นจะเป็นเรื่องของ PrEP หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเพร็บนั้นเอง โดยผมได้แบ่งกระทู้ออกเป็นตั้งแต่การกำเนิดของ PrEP ยันวิธีการเดินทางไปรับ PrEP ฟรีมาทาน ดังนั้นหวังว่าเพื่อน ๆ คนไหนที่มีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ ก็อยากให้ลองพิจารณาเพิ่มความปลอดภัยให้กับท่านนะครับ เพราะการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องปกติ แต่เพศสัมพันธ์ที่ดีคือเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยครับ
00 จุดกำเนิดของยา PrEP
อธิบายเพิ่มเติมจากภาพด้านบนนะครับ จากที่ผมสืบค้นมา มีรายงานว่า ปกติแล้วเชื้อ HIV จะค่อย ๆ ลุกลามไปที่ละจุดภายในร่างกาย ดังนั้นแล้วเราจึงยังมีโอกาสในการยับยั้งเชื้อโดยการทานยา PEP แต่หลายครั้งต่อหลายครั้งที่ผู้ป่วยรับยา PEP ช้าเกินไปจนทำให้ติดเชื้อ HIV ดังนั้นแล้วจึงได้มีการดัดแปลงแนวความคิด จากการรักษาภายหลังก็เป็นการส่งยาเข้าไปดักรอล่วงหน้าเลยภายในร่างกายนั้นเอง
01 PrEP คืออะไร?
PrEP คืออะไร? พูดง่ายๆมันคือยา Anti-virus ประเภทหนึ่ง โดยจะมีกระบวนการทำงานในการลดทอนความเสี่ยงจากการที่เราไปสัมผัสกับเชื้อ HIV โดยตรง เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สวมใส่ถุงยางอนามัย / ถุงแตก / ถุงรั่ว หากเราทานเจ้า PrEP ไว้ก่อนก็จะสามารถลดทอนความเสี่ยงในการติดเชื้อลงไปได้ถึง 92 % ย้ำนะครับว่าลดทอนความเสี่ยงลงไปได้แค่เพียง 92 % นั้นหมายความว่าแม้เราจะทาน PrEP แต่ก็ควรสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่คิดจะมีเพศสัมพันธ์ครับ
02 PrEP ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? ประกอบไปด้วย tenofovir (TDF) ขนาด 300 มก. และ emtricitabine (FTC) ขนาด 200 มก. ซึ่งรวมอยู่ในยาเม็ดเดียวกัน (TDF/FTC) โดยจะต้องทานทุกวัน วันละ 1 เม็ด และควรทานในเวลาเดียวกันของทุก ๆ วัน เพราะการทายานห่างกันอาจมีผลทำให้เชื้อเกิดการดื้อยาได้ สมมติว่าหากวันใดลืมทาน PrEP ไปแต่ไม่นานจากเวลาประจำปกติก็ควรทาน แต่หากใกล้ถึงรอบใหม่แล้วก็ค่อยทานรอบใหม่ก็ได้ครับโดย
ไม่จำเป็นต้องทางซ้ำ 2 เม็ดและตัวยาเพร็บจะสามารถส่งผลได้ดีที่สุดหลังจากทานติดต่อกัน 7-10 วันนั้นเอง03 ประเทศไทยมีบริการเจาะเลือดฟรี (ปีละ 2 ครั้ง/คน *แล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละหน่วยงาน) PrEP ก็มีแจกฟรีนะครับ :}
โดยปกติแล้วที่คลินิกนรินามนั้นจะมีบริการตรวจเลือดฟรี 2ครั้ง/1ปี สำหรับ 1 บุคคล (ต้องโชว์บัตรประชาชน) และสำหรับท่านที่ไม่ประสงค์ออกนามก็สามารถตรวจได้โดยเสียค่าบริการตามอัตราที่ปรากฏครับ นอกจากที่คลินิกนิรนามแล้วหลายๆคลินิกเองก็ได้มีบริการตรวจเลือดฟรีสำหรับประชาชนชาสไืยเหมือนกัน สามารถค้นหาและลองติดต่อสถาพยาบาลหรือสถานอนามัยใกล้ๆบ้านท่านได้เลยนะครับ
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้มีการแจกจ่าย PrEP โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งค่าเจาะเลือดและค่ายา อาทิ โครงการคลินิก swing สีลม (http://www.swingthailand.org/ ) โครงการอดัม เลิฟ อิส (http://adamslove.org/d.php?id=86 ) โดยทั้งสองโครงการไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมการทดลอง และนอกเหนือจากนี้ก็ยังมีอีกหลาย ๆ โครงการที่นอกจากจะได้ยาแล้วยังได้ค่าเข้าร่วมโครงการอีกด้วย
04 ขั้นตอนและวิธีการไปรับ PrEP ฟรีนะครับ
ขั้นตอนการไปรับ PrEP 1
หลังจากที่เราเลือกโครงการที่เราต้องการจะเข้าร่วมได้แล้ว เราจะต้องไปเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบว่าเราไม่ได้เป็นผู้ที่ติดเชื้อ HIV อยู่แล้วรึเปล่า เพราะยา PrEP เองนะเปรียบเสมือนยาต้าน 'ก่อนการมีเพศสัมพันธ์' ดังนั้นแล้วผู้ที่ติดเชื้อ HIV จะไม่สามารถรับยา PrEP ไปทานได้ ด้วยเหตุผลว่าอาจจะทำให้เชื้อในร่างกายดื้อยานั้นเองครับ หรืออีกกรณีสำหรับผู้ที่มีร่างกายไม่ปกติ เช่น ค่าตับ/ไต ผิดปกติ จำพวกนี้จะเป็นอาการของบุคคลที่ไม่สามารถรับ PrEP ได้เช่นกัน เพราะยาเพร็บเองก็ถือเป็นยาชนิดหนึ่งที่ส่งผลโดยตรงต่อตับ/ไต
ขั้นตอนการไปรับ PrEP 2 เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเราสามารถรับ PrEP ไปทานได้เพราะร่างกายมีค่าที่ปกติ คุณหมอจะแจกให้เรามาทั้งสิ้น 1 กระปุกหรือ 30 เม็ดเพื่อนำกลับไปรับประทาน 1 เม็ด/วัน เมื่อครบ 1 เดือนหรือ 30 วัน จึงมาตรวจอีกครั้งและได้รับกลับไป 2 กระปุก หลังจากครั้งที่ 3 เป็นต้นไป คุณจะได้รับยา PrEP ครั้งละ 3 กระปุกต่อ1 ครั้งที่มาตรวจ เท่ากับว่าใน 1 ปีเราจะได้รับการตรวจเลือดทุก ๆ สามเดือน หรือก็คือ 4 ครั้ง/ปี นั้นเอง
ย้ำอีกครั้ง !! แม้ PrEP จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV ได้ถึง 92 % แต่ก็ยังมีรายงานผู้ที่ติดเชื้อ HIV แม้จะทาน PrEP อยู่ถึงสองเคสจากต่างประเทศแล้ว ดังนั้นแล้ว นอกจากการทานยาอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลารวมไปถึงการตรวจเลือดอย่างเป็นประจำ ก็ต้องไม่ละเลยการป้องกันด้วยถุงยางอนามัยเช่นกันครับ คิดเสมอว่าเราแค่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงกับ 8 % ที่ไม่รู้ว่าหวยจะออกที่เราตอนไหน
05 ผลกระทบการจากรับประทาน PrEP
จากสถิติที่ผ่าน ๆ มา ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมักจะมีอาการที่ไม่มากเกินไปกว่าการปวดศีรษะ อาเจียน และน้ำหนักลดลงเล็กน้อย ปัจจุบัน ยังไม่พบหลักฐานที่แน่ชัดว่า PrEP ส่งผลอันตรายต่อระบบกระดูกและระบบประสาทตามที่เคยมีคนกล่าวอ้างมา โดยอาการหรือผลข้างเคียงนั้นอาจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละคน
โดยส่วนตัวผมทาน PrEP มาประมาณเกือบหกเดือนได้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่มีเลยครับ ค่าตับไตยังเท่าเดิม ส่วนอาการเช่นปวดศีรษะหรืออะไรก็ไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว (ถึงกับต้องไปหาคุณหมอว่ามันเป็นยาจริง ๆ ใช่ไหม ทำไมไม่เวียนหัวหรืออะไรเลย)
และทั้งหมดนั้นคือ PrEP ที่ผมอยากแนะนำให้คุณรู้จักครับ
สุดท้ายแล้ว ส่วนตัวผมมองว่าพฤติกรรมของผู้คนแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัยและสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เทคโนโลยีกำลังเดินไปข้างหน้า เราเองก็ต้องก้าวเดินตามด้วยเช่นกัน ที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้แปลว่าผมสนับสนุนให้ทุกคนเล่นแอพลิเคชั่นหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะครับ ใจความสำคัญที่สุดของกระทู้นี้คือการที่ผมมองว่า "คนเราสามารถมี SEX ได้ แต่ SEX ที่ดีคือ safe SEX ครับ" คนไม่เห็นด้วยก็ไม่ผิดอะไร มันเป็นเรื่องปกติ คุณจะทำอะไรก็ทำได้ตราบเท่าที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแม้กระทั้งตัวคุณเอง
สำหรับวันนี้ก็มีสาระความรู้มานำเสนอแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณมาก ๆ ที่อ่านกันมาถึงตรงนี้
สวัสดีไม่มีโรคนะคร๊าบบบบบ