“ป้อน”นิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารช่องวัน พร้อมยินดีกับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” หลังจากคว้าเรตติ้งทล่มทลาย
ทันทีที่ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน สามารถคว้าเรตติ้งไปได้อย่างสวยงามและยังสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์อย่างมาก งานนี้ “บันเทิง คมชัดลึก”ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ป้อน” นิพนธ์ ผู้บริหารช่องวัน ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวและความหนักใจที่เกิดขึ้น เพราะทางช่องมีละครเรื่อง "ดาวจรัสฟ้า" ที่ออกอากาศตรงกัน
“อย่างแรกต้องยินดีด้วยนะ ผมพูดไม่ได้เอาหล่อนะ ยินดีกับความสำเร็จเพราะว่าเราอยู่ในวงการเดียวกัน เท่าที่ทราบทางพี่หน่อง(อรุโณชา ภาณุพันธ์)ใช้เวลาทำงานนานและตั้งใจทำ ยินดีด้วยจริงๆและทำให้ทีวีไม่เคยตาย นี้คือบทพิสูจน์ว่าทีวีไม่เคยตาย อย่างไรละครทำให้คนติดตามได้เยอะคนดูติดละคร และยังได้เรตติ้งสูงๆ นี้คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของคนทำละคร (บุพเพสันนิวาสดึงเรตติ้งไปหมด) ของแบบนี้เราเข้าใจได้นะ เพราะของเขาแรงดีจริงๆ มันเป็นวาระแห่งชาติและเป็นวาระแห่งดิจิทัลทีวี (มองข้ามการเป็นคู่แข่งทางการค้าไปแล้ว) จริงๆมันก็ยังต้องมองนะแต่ที่การบุพเพสันนิวาสได้รับความนิยมถล่มทลายเราต้องแสดงความยินดี เขาทำได้ดีจริงๆและเป็นตัวแทนของคนทำละครทั้งประเทศ มันเป็นคำตอบหนึ่งที่ผมเคยพูดมาตลอดว่าทำละครให้ดีให้สนุกคนจะกลับมาติดตามเองเหมือนที่ผมเคยบอก ถ้าหากคุณทำคอนเทนส์เดิมๆ คุณจะตาย” ป้อนบอก
มาถึงละครเรื่องกาหลมหรทึกทางช่องวันพยายามทำเรื่องแนวใหม่ แต่เรตติ้งและกระแสยังไม่ตอบโจกท์
"ผมคิดว่ากาหลมหรทึก มันเหมือนกับทุกๆ ธุรกิจต้องมีสิ่งหนึ่งที่ีเรียกว่านวัตกรรมใหม่ ไม่งั้นช่องหรือธุรกิจของคุณจะอยู่ที่เดิม สำหรับกาหลมหรทึกเรามองว่ามันเป็นการลงทุนในการทำสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมา เราภูมิใจที่มีนักแสดงเยอะมาเล่น คนเล่นได้ดีมาก และพร้อมใจที่จะเล่นออกมาให้ได้ดี ถามว่าในแง่เรตติ้งมันประสบความสำเร็จใหม่ แน่นอนว่ามันไม่ได้หรอก เราคิดไว้อยู่แล้วนะ แต่เราไม่ตกใจนะ เราต้องเรียนรู้ไปว่าเรตติ้งได้เท่านี้ (ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ผู้คุมโปรเจกท์ถ้ากาหลมหรทึกไปไม่รอด โปรเจกท์ละครแนวทดลองจะถูกพับโปรเจกท์ไปด้วย) คือมันไม่ได้หมายว่าเราจะทำแนวนวัตกรรมใหม่ทุกวันหรอกนะ แต่ว่ามันต้องยืนยันเลย เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงนักแสดง แน่นอน 20.00 น. เราต้องการละครแนวแมส 21.00 น. เราบอกเสมอว่าละครต้องมีหน้าหนังของมันจะไปแค่ไหน เราต้องดูว่ามันไปได้ถึงไหน ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน"
http://www.komchadluek.net/news/ent/316904 
“ป้อน”นิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารช่องวัน พร้อมยินดีกับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” หลังจากคว้าเรตติ้งทล่มทลาย
ทันทีที่ละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน สามารถคว้าเรตติ้งไปได้อย่างสวยงามและยังสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์อย่างมาก งานนี้ “บันเทิง คมชัดลึก”ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “ป้อน” นิพนธ์ ผู้บริหารช่องวัน ถึงปรากฏการณ์ดังกล่าวและความหนักใจที่เกิดขึ้น เพราะทางช่องมีละครเรื่อง "ดาวจรัสฟ้า" ที่ออกอากาศตรงกัน
“อย่างแรกต้องยินดีด้วยนะ ผมพูดไม่ได้เอาหล่อนะ ยินดีกับความสำเร็จเพราะว่าเราอยู่ในวงการเดียวกัน เท่าที่ทราบทางพี่หน่อง(อรุโณชา ภาณุพันธ์)ใช้เวลาทำงานนานและตั้งใจทำ ยินดีด้วยจริงๆและทำให้ทีวีไม่เคยตาย นี้คือบทพิสูจน์ว่าทีวีไม่เคยตาย อย่างไรละครทำให้คนติดตามได้เยอะคนดูติดละคร และยังได้เรตติ้งสูงๆ นี้คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของคนทำละคร (บุพเพสันนิวาสดึงเรตติ้งไปหมด) ของแบบนี้เราเข้าใจได้นะ เพราะของเขาแรงดีจริงๆ มันเป็นวาระแห่งชาติและเป็นวาระแห่งดิจิทัลทีวี (มองข้ามการเป็นคู่แข่งทางการค้าไปแล้ว) จริงๆมันก็ยังต้องมองนะแต่ที่การบุพเพสันนิวาสได้รับความนิยมถล่มทลายเราต้องแสดงความยินดี เขาทำได้ดีจริงๆและเป็นตัวแทนของคนทำละครทั้งประเทศ มันเป็นคำตอบหนึ่งที่ผมเคยพูดมาตลอดว่าทำละครให้ดีให้สนุกคนจะกลับมาติดตามเองเหมือนที่ผมเคยบอก ถ้าหากคุณทำคอนเทนส์เดิมๆ คุณจะตาย” ป้อนบอก
มาถึงละครเรื่องกาหลมหรทึกทางช่องวันพยายามทำเรื่องแนวใหม่ แต่เรตติ้งและกระแสยังไม่ตอบโจกท์
"ผมคิดว่ากาหลมหรทึก มันเหมือนกับทุกๆ ธุรกิจต้องมีสิ่งหนึ่งที่ีเรียกว่านวัตกรรมใหม่ ไม่งั้นช่องหรือธุรกิจของคุณจะอยู่ที่เดิม สำหรับกาหลมหรทึกเรามองว่ามันเป็นการลงทุนในการทำสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมา เราภูมิใจที่มีนักแสดงเยอะมาเล่น คนเล่นได้ดีมาก และพร้อมใจที่จะเล่นออกมาให้ได้ดี ถามว่าในแง่เรตติ้งมันประสบความสำเร็จใหม่ แน่นอนว่ามันไม่ได้หรอก เราคิดไว้อยู่แล้วนะ แต่เราไม่ตกใจนะ เราต้องเรียนรู้ไปว่าเรตติ้งได้เท่านี้ (ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ผู้คุมโปรเจกท์ถ้ากาหลมหรทึกไปไม่รอด โปรเจกท์ละครแนวทดลองจะถูกพับโปรเจกท์ไปด้วย) คือมันไม่ได้หมายว่าเราจะทำแนวนวัตกรรมใหม่ทุกวันหรอกนะ แต่ว่ามันต้องยืนยันเลย เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงนักแสดง แน่นอน 20.00 น. เราต้องการละครแนวแมส 21.00 น. เราบอกเสมอว่าละครต้องมีหน้าหนังของมันจะไปแค่ไหน เราต้องดูว่ามันไปได้ถึงไหน ทุกอย่างมีเหตุผลของมัน"
http://www.komchadluek.net/news/ent/316904