สวัสดีค่ะ "พี่หยอดวัดยาง" จะพาไปชมยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา Alps กัน
ยอดเขาที่ว่านี้ก็คือ "Mont Blanc" นั่นเองค่ะ ตั้งอยู่ในเขตเมือง Chamonix ประเทศฝรั่งเศส

*** ภาพทั้งหมดมาจากการเดินทางช่วงต้นเดือน มีนาคม 2561 ***
เหมือนเป็นความโชคดีของเราที่ก่อนวันเดินทางนั้น อากาศที่ Chamonix ค่อนข้างแย่ด้วยพิษพายุจากรัสเซียที่ยุโรปได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ
แอบทำใจไปแล้วว่าถ้าอากาศปิด ก็คงได้พับแผนทั้งหมดลงกระเป๋า...
แต่ๆๆๆ เมื่อถึงวันที่เราเดินทางไป... อากาศกลับเป็นใจอย่างไม่น่าเชื่อ กราบงามๆให้ทุกสิ่งอย่างที่ทำให้อากาศดีแบบนี้จริงๆ

เล่าให้ฟังก่อนว่าทริปนี้ ที่หมายหลักของเราจริงๆคือประเทศ Switzerland ค่ะ ตะลอนกันอยู่นานสองนาน และในแพลนก็มีแวะเข้ามาในเขตประเทศฝรั่งเศสเพียงเล็กน้อย ก็คือที่ เมือง Chamonix แห่งนี้ และเมือง Annecy ค่ะ เพราะฉะนั้นการเดินทางมายังเมือง Chamonix ของเราจะมาจากฝั่ง Switzerland นะคะ

อ่านรีวิวเมือง Annecy จิ้มเลย https://ppantip.com/topic/37472411

แต่ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com


สำหรับกระทู้นี้จะแบ่งออกเป็น 4 ก้อนหลักๆนะคะ คือ
- วิธีการเดินทางจาก Switzerland มายังเมือง Chamonix ซึ่งเราเลือกที่จะขึ้นรถไฟสาย Mont Blanc Express  
- บรรยากาศในตัวเมือง Chamonix
- นั่งรถไฟสาย Montenvers ไปชมธารน้ำแข็ง Mer de Glace
- ขึ้นกระเข้า Aiguille du midi เพื่อไปชมยอดเขา Mont Blanc

มาเริ่มกันเลยค่ะ

ในทริปนี้นอกจากเราจะได้ท่องเที่ยวไปในประเทศ Switzerland แบบจัดเต็มแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เราหมายมั่นปั้นมือจะต้องไปให้ได้ก็คือ การขึ้นไปชมยอดเขา Mont Blanc ที่เมือง Chamonix ในประเทศฝรั่งเศสค่ะ และการเดินทางของเราใน route นี้กำลังจะเริ่มต้น

จาก Martigny ซึ่งเป็นเมืองรอยต่อในการเดินทางไปฝรั่งเศส เรานั่งรถไฟสาย Mont Blanc Express ค่ะ
ซึ่งรถไฟสายมีแดง-ขาวนี้จะออกเดินทางจากเมือง Martigny - Chamonix - Saint Gervais


โดยระหว่างทางนั้นบอกเลยว่าวิวหลักล้านอีกแล้วค่ะ
รถไฟสายนี้เป็น scenic route เหมือนๆกับขบวนที่วิ่งไป Zermatt มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวเต็มๆจอ
รถไฟจะค่อยๆไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ วิวสองข้างทางสวยได้โล่ห์ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวหิมะท่วมๆแบบนี้ เหมือนหลุดไปอยู่ในโลกของ Frozen ทำนองนั้น !

ระหว่างที่นั่งชมวิวไปเรื่อยๆ เราก็จะได้เริ่มเห็น landscape ที่แตกต่างออกไปของสองประเทศ บ้านเรือนที่อยู่อาศัยก็ไม่ได้เหมือนกันมากนัก
สังเกตได้ว่าเวลาเข้าเขตฝรั่งเศสแล้ว รถไฟจะวิ่งผ่านกลางหมู่บ้านกันเลยทีเดียว ประมาณว่าผ่านรั้วหลังบ้านกันไปเลย ให้ความรู้สึกใกล้ชิดไปอีกแบบนะ 5555 และก็จะมีนักท่องเที่ยวแก๊งค์กีฬา winter sport ร่วมทางขึ้นรถไฟมาเรื่อยๆ เพราะที่หมายที่จะไปนี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่เหมาะกับการเล่นสกี สโนว์บอร์ดมากๆค่ะ

โดยรถไฟสายนี้ก็จะจอดตามสถานีต่างๆ รายทางค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งในระยะแรกนี้จะสุดสายที่สถานี Vallorcine ในเขตประเทศฝรั่งเศส จากนั้นเราต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟเพื่อไปต่อยัง Chamonix ซึ่งเป็นรถไฟของ SNCF (บริษัทรถไฟของฝรั่งเศส) อย่างเต็มตัว รวมๆเวลาแล้วจาก Martigny ไปถึง Chamonix ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ


รถไฟสาย Mont Blanc Express นี้เป็นเส้นทางที่เราสามารถใช้ Swiss Pass โดยสารได้ฟรีตลอดเส้นทาง แม้จะมีการเปลี่ยนขบวนไปขึ้นรถไฟของฝรั่งเศสก็ตาม มันแหล่มตรงนี้แหละนะ

เช็คตารางเวลารถไฟได้ตาม link นี้นะคะ
***ตารางนี้อัพเดตถึงแต่ 1 เม.ย.61 นะ หลังจากนั้นจะมีการปรับเวลาอีกต้องเช็คกันอีกทีค่ะ***
https://www.chamonix.net/sites/default/files/Attachments/St-Gervais-Le-Fayet-Chamonix-Chatelard-Martigny.pdf



Bonjour ฝรั่งเศส ยินดีต้อนรับสู่ Chamonix-Mont-Blanc

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงอีกหนึ่งเมืองไฮไลท์ของทริปนี้ นั้นคือ Chamonix เมืองที่มีสเน่ห์ล้นเหลือกลางเทือกเขา Alps แห่งประเทศฝรั่งเศส

Chamonix หรือเรียกกันแบบเต็มๆว่า Chamonix-Mont-Blanc เป็นเมืองไม่เล็กไม่ใหญ่ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส
ในจังหวัด Haute-Savoie แคว้น Rhône-Alpes ส่วนตัวแล้วคิดว่าเมืองนี้เหมือนเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับ Zermatt แห่งสวิสเซอร์แลนด์เลยค่ะ
เพราะลักษณะคล้ายกันเหลือเกิน เพียงแต่ Chamonix อาจจะใหญ่กว่าหน่อย ที่นี่เป็นเมืองแห่ง ski resort ที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส

ภายในเมืองเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก และนักท่องเที่ยวเดินกันอย่างคึกคักค่ะ
โดยถนนสายหลักของเมืองชื่อว่า Rue du Docteur Paccard อาคารมีความสวยงาม สีสันสดใส สีภาพวาดฝาผนังให้เห็นเป็นระยะๆ
โดยมีแม่น้ำ I’Arve สายเล็กๆไหลผ่าน เวลาที่เราไปยืนตรงสะพานข้ามแม่น้ำ เราจะสามารถมองเห็นยอดเขา Mont Blanc ได้อย่างชัดเจน (ในวันที่อากาศเป็นใจนะ) นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ประจำเมือง St.Michel ที่เวลามองไปมีเทือกเขาสูงตระหง่านเป็น background


ถ้าใครชอบทานขนม เราขอแนะนำร้าน Coté Macaron ค่ะ เป็นร้านขนมชื่อดังของเมืองนี้เลย
มีทั้งขนมหน้าตาสวยๆ และมาการอง ให้เลือกทานเพียบบบ สายของหวานไม่น่าพลาดค่ะ เปิดทุกวัน 08.00-19.30 น.


ในเมืองจะมีรูปปั้นบุคคลสำคัญของเมืองนี้อยู่ 2จุดค่ะ คือ รูปปั้นของ Dr. Micheal Gabriel Pasccard ซึ่งเป็นผู้พิชิตยอดเขา Mont Blanc สำเร็จเป็นคนแรก  ถัดมาที่อีกแยกนึงของถนน จะเป็นรูปปั้นของคุณ Jacques Balmat ไกด์ท้องถิ่น (คนที่ชี้นิ้วขึ้นไปทางยอดเขา) คนที่พาคุณ Michel Gabriel Passcard เมื่อตะกี้ไปพิชิตยอด Mont Blanc  และต่อมาก็ได้พาคนข้างๆเขาก็คือคุณ Horace-Benedict de Saussure ขุนนางและนักประดิษฐ์ชาวเจนีวาผู้ชื่นชอบการปีนเขาเป็นชีวิตจิตใจ ให้ขึ้นไปพิชิต Mont Blanc อีกคนจนได้รับฉายาว่าเป็นผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวบนเขาAlps


สำหรับมื้อเย็นในวันแรกที่ Chamonix นั้น เราเลือกร้านแบบดุ่มๆ ที่อยู่แถวถนน shopping กลางเมืองนี่แหละคะ
ร้านจะมีค่อนข้างเยอะเลย ถูกใจร้านไหนก็พุ่งตัวเข้าไปโลด คนไทยเราทานอาหารเย็นกันค่อนข้างเร็ว 6 โมงเย็นร้านเปิด ก็เลยเข้าไปเป็นลูกค้ากลุ่มแรกเลยค่ะ 555 นั่งกันเหงาๆอยู่โต๊ะเดียว แต่พอซักทุ่มสองทุ่มนี่ลูกค้าเข้ามาเพียบค่ะ


แผนที่เมือง Chamonix ค่ะ

โหลดแผนที่แบบละเอียดได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ  https://drive.google.com/open?id=1znQqX90fpbzUx0xOmVVJTr9ypRl7n3rK