สวีเดน
ทริปแรกในชีวิตสำหรับการเดินทางไกลไปถึงยุโรปใช้เวลาราว 11 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 22/12/2017-06/01/2018 ออกจากอาณาเขตประเทศไทย 9 โมงกว่าๆถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบินอลันดา ประเทศสวีเดน เป็นเวลาบ่าย 2 กว่าๆ (ฤดูหนาวเวลาที่สวีเดนจะช้ากว่าไทยเรา 6 ชั่วโมง ) ภาพแรกที่เห็นเมื่อเครื่องจอดสนิทนิ่งแล้วคือความมืดบวกกับหิมะขาวจางๆบนพื้นเมื่อแสงไฟส่อง โอ้ววว..แม่เจ้านี่เพิ่ง 4 โมงเองมืดซะและ และหลังจากนั้นผู้โดยสารก็ทยอยเดินออกจากเครื่องเป้าหมายเดียวกันคือเดินมุ่งหน้าไปยัง ตม.(Immigration)
ด่านแรกก็จ๊ะเอ๋ ..แล้วจ้า บทสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่กับเรา
จนท. : มาทำอะไร
เรา : ท่องเที่ยว
จนท. : มีตั๋วขากลับรึยัง ขอดูหน่อย
เรา : มี จองแล้ว แต่เอกสารที่ปริ้นส์มาอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่โหลดใต้ท้องเครื่อง บวกกับเน็ตเรายังใช้งานไม่ได้เลยเปิดเมลล์ให้ จนท.ดูไม่ได้ คนที่ต่อแถวข้างหลังก็กดดันเหลือเกิน สุดท้ายแฟน(ได้สัญชาติสวีเดนแล้ว) เลยต้องมาช่วยคอนเฟิร์มให้ถึงจะผ่าน..โอ๊ยใจว๊าบเลยเรา
คำเตือน : เอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต เที่ยวบิน โปรแกรมเที่ยว ให้พกติดตัวไว้เลย เพราะเราอาจจะได้ใช้มัน
จบเรื่องเครียดจากสนามบินมาว่ากันด้วยสภาพทั่วไปของสวีเดนเท่าที่สแกนจากสายตา โดยรวมแล้วเป็นประเทศที่สวยงาม สะอาดตา น่าพักผ่อน และที่สำคัญวัยรุ่นที่นี่หน้าตาดีมากกก..ก ไก่ยาวๆ ถ้าไม่เชื่อท้าให้บินมาดูให้เห็นกับตาเลยจ้า ว่าวัยรุ่นเขาสวย หล่อ แบบไม่ต้องทำศัลกรรมเลยแหละ (หลบฝ่ามือแฟนแพ๊พพ)
ในส่วนของการเดินทาง การคมนาคมนั้นค่อนข้างจะสะดวกมีให้เลือกเยอะไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถเมล์ รถไฟธรรมดา และรถไฟความเร็วสูง แต่อย่างว่าแหละเราคนไทยอาจจะขัดอารมณ์ไปหน่อยเรื่องเวลา รถที่นี่เขาจะมีเวลาเดินรถเป๊ะมากและไม่ได้มีถี่เหมือนไทยเรา ถ้ามาผิดเวลาอาจจะต้องรอนานเป็นชั่วโมง เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ควรวางแผนการเดินทางให้ดี
คำเตือน : ในกรณีที่เช่ารถ ต้องบอกเลยว่าค่าที่จอดรถที่นี่ราคาแรงพอสมควร แนะนำให้หาข้อมูลราคาของหลายๆที่มาเทียบกันก่อน เพราะบางที่ก็จะมีส่วนลดให้ถ้าจอดนานเกิน 48 ชั่วโมง เป็นต้น ข้างบนคือภาพตัวอย่างบัตรจอดรถ ทุกอย่างเป็นภาษาสวีเดนจ้า
สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องห้ามพลาดคือย่านเมืองโบราณในสต๊อกโฮล์ม เดินชมความสวยงามของตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ซึ่งสามารถเดินลัดเลาะตามซอกซอยได้เลยไม่ต้องใช้รถ คนที่นี่เขานิยมเดินกันเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้ากลัวหลงก็เปิด GPS นำทางไปด้วยก็ได้สะดวกดีค่ะเราก็ทำแบบนั้น
ถ้าต้องขับรถข้ามเมืองแล้วเกิดปวดฉี่ระหว่างทางก็แวะปั๊มได้เลย แต่ห้องน้ำเขาไม่ได้เหมือนไทยเรานะคะ ห้องน้ำเขาจะอยู่ในตัวร้านสะดวกซื้อเราสามารถเดินเข้าไปได้เลยหรือถ้าเกิดความเกรงใจร้านค้าออกมาจากห้องน้ำก็อาจจะซื้อขนมขบเคี้ยวเล็กๆน้อยๆติดมือมากินบนรถก็ได้ (เราก็ทำแบบนี้ด้วยนิสัยขี้เกรงใจ)
นอเวย์
บางท่านคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของประเทศนี้มาบ้างแล้วเรื่องค่าครองชีพแพง จะบอกว่าแพงมากแพงจริงๆและใช่เลยตามกิตติศัพท์นี้เลยค่ะ จากประสบการณ์ที่เจอมา ค่าเข้าห้องน้ำที่ Central Station 20 NOK (Norwegian Krone) ก็ราวๆ 80 บาทไทยเอ๊งง !! (เสียงสูงง..อิอิ) สตั๊นไป 3 วิ แต่สุดท้ายก็ต้องเข้าเพราะอัดอั้นมาหลายชั่วโมงแล้ว ด้วยบทเรียนราคาแพงนี้ทุกครั้งก่อนออกจากที่พักเลยต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเพราะแอบเสียดายตังค์ จบเรื่องเข้าห้องน้ำมาว่ากันด้วยเรื่องเที่ยวดีกว่าตื่นเต้นๆๆ
ออสโลว์มาแล้วประทับใจมากค่ะ เป็นเมืองที่สวย สะอาด น่าอยู่ ผู้คนหน้าตาดี หิมะก็ขาวสวยไปทั่วเมืองเลย โดยรวมแล้วประทับใจค่ะ ด้วยความที่มีเวลาจำกัดเลยได้เที่ยวแค่ไม่กี่ที่
เรื่องการเดินทางอยากจะแนะนำให้ซื้อตั๋วรถประจำทางแบบ 1 Day นะคะถึงจะคุ้มเพราะเราสามารถใช้บัตรนี้กับรถราง รถเมล์ ที่วิ่งทั่วเมืองได้ไม่มีจำกัดเที่ยว ตอนที่ซื้อบัตรราคาอยู่ที่ 90 NOK/คน (360 บาท) หน้าตาบัตรก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ พอขึ้นรถปุ๊บก็ใช้บัตรนี้แตะบนเครื่องได้เลยเขาไม่มีกระเป๋ารถเมล์เหมือนบ้านเรา
เดนมาร์ก
จากสวีเดนสามารถนั่งรถบัสหรือขับรถไปเดนมาร์กได้เลย สะดวกมากซึ่งจะเดินทางจากเมือง Gothenburg ของสวีเดนไปยัง Copenhagen เมืองหลวงของเดนมาร์ก รถบัสใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเอง นั่งเพลินๆไปเดี๋ยวก็ถึง..อิอิ นี่คือรสบัสที่เรานั่งไปเดนมาร์กค่ะ
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ส่วนตัวก็อาจจะเร็วหน่อยแต่ข้อเสียคือต้องจ่ายค่าผ่านด่านข้ามประเทศค่อนข้างแพงถ้าคิดเป็นเงินไทย ครั้งนี้เราไปเที่ยวกันแบบชิวล์ๆ 1 Day trip ด้วยรถบัส ซึ่งเป้าหมายหลักของเราคือ Little mermaid เป็นที่แรก ปล.มาเพื่อสิ่งนี้จริงๆแล้วมันก็เล็กจริงๆสมชื่อ !!
โชคไม่เข้าข้างสายฝนโปรยปรายลงมาทั้งวันทำให้แอบเซ็ง ภาพรวมทั่วไปของเดนมาร์กจากสายตาที่มองเห็นคือ บ้านเมืองเขาไม่ค่อยสะอาด ยังมีขยะให้เห็นเยอะสองข้างทางและบริเวณที่เป็นสาธารณะ ซึ่งต่างจากนอเวย์และสวีเดนที่แทบจะไม่เห็นขยะเลยถ้าไม่ตั้งใจมองหา แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องสถาปัตยกรรม อาคาร สถานที่เขาสวยงามมากเป็นศิลปะที่หาดูได้ยากจริงๆ
อันนี้เป็นแค่ภาพสวยงามบางส่วนที่ถ่ายมายังไงก็ไม่สู้เห็นของจริงนะคะ ส่วนรถไฟที่นี่มีพื้นที่สำหรับรถจักรยานด้วยค่ะ เท่ย์สุดๆ
ส่วนอันนี้คือความชอบส่วนตัวค่ะ ด้วยเทคนิคการจัดเก็บจักรยานแบบประหยัดพื้นที่มาก ถ้าเป็นไทยเราคงจอดเกลื่อนกลาดไปแล้ว
ครั้งนึงในชีวิตได้มาเที่ยว เปิดตา เห็นอะไรที่แปลกๆรวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย (ที่บ้านเรายังไม่มี)ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ ในส่วนของการเดินทางโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างสับสน(อาจเพราะเป็นครั้งแรก) เขามีขบวนรถไฟค่อนข้างเยอะ หลายสาย ทำให้เราต้องหลง งง แบบผิดๆถูกๆถามคนไปเรื่อยตามประสา ที่นี่ไม่ต่างจากนอเวย์คือซื้อบัตรแบบ 1 Day การใช้งานก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าจะไปเที่ยวจุดใหน อย่างไร ก็ให้ศึกษาเส้นทางไว้ล่วงหน้าจะดีมากค่ะ เพราะถ้ามีเวลาน้อยอย่างเราก็จะเสียเวลาไปกับการหลงทางเดี๋ยวจะไม่คุ้มเอา
สุดท้ายนี้ถ้าใครมีโอกาสได้ท่องโลกกว้างก็อยากจะแนะนำให้มาเที่ยวทางแถบสแกนดิเนเวียกันนะคะ รับรองว่าท่านผู้อ่านจะไม่ผิดหวัง และขอปิดท้ายด้วยภาพสวยๆของคืน Count Down 2017 ที่สต๊อกโฮล์มนะคะ
[CR] แชร์ประสบการณ์เที่ยวสวีเดน นอเวย์ เดนมาร์ก 2018 (สแกนดิเนเวีย)
ทริปแรกในชีวิตสำหรับการเดินทางไกลไปถึงยุโรปใช้เวลาราว 11 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 22/12/2017-06/01/2018 ออกจากอาณาเขตประเทศไทย 9 โมงกว่าๆถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบินอลันดา ประเทศสวีเดน เป็นเวลาบ่าย 2 กว่าๆ (ฤดูหนาวเวลาที่สวีเดนจะช้ากว่าไทยเรา 6 ชั่วโมง ) ภาพแรกที่เห็นเมื่อเครื่องจอดสนิทนิ่งแล้วคือความมืดบวกกับหิมะขาวจางๆบนพื้นเมื่อแสงไฟส่อง โอ้ววว..แม่เจ้านี่เพิ่ง 4 โมงเองมืดซะและ และหลังจากนั้นผู้โดยสารก็ทยอยเดินออกจากเครื่องเป้าหมายเดียวกันคือเดินมุ่งหน้าไปยัง ตม.(Immigration)
ด่านแรกก็จ๊ะเอ๋ ..แล้วจ้า บทสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่กับเรา
จนท. : มาทำอะไร
เรา : ท่องเที่ยว
จนท. : มีตั๋วขากลับรึยัง ขอดูหน่อย
เรา : มี จองแล้ว แต่เอกสารที่ปริ้นส์มาอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่โหลดใต้ท้องเครื่อง บวกกับเน็ตเรายังใช้งานไม่ได้เลยเปิดเมลล์ให้ จนท.ดูไม่ได้ คนที่ต่อแถวข้างหลังก็กดดันเหลือเกิน สุดท้ายแฟน(ได้สัญชาติสวีเดนแล้ว) เลยต้องมาช่วยคอนเฟิร์มให้ถึงจะผ่าน..โอ๊ยใจว๊าบเลยเรา
คำเตือน : เอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต เที่ยวบิน โปรแกรมเที่ยว ให้พกติดตัวไว้เลย เพราะเราอาจจะได้ใช้มัน
จบเรื่องเครียดจากสนามบินมาว่ากันด้วยสภาพทั่วไปของสวีเดนเท่าที่สแกนจากสายตา โดยรวมแล้วเป็นประเทศที่สวยงาม สะอาดตา น่าพักผ่อน และที่สำคัญวัยรุ่นที่นี่หน้าตาดีมากกก..ก ไก่ยาวๆ ถ้าไม่เชื่อท้าให้บินมาดูให้เห็นกับตาเลยจ้า ว่าวัยรุ่นเขาสวย หล่อ แบบไม่ต้องทำศัลกรรมเลยแหละ (หลบฝ่ามือแฟนแพ๊พพ)
ในส่วนของการเดินทาง การคมนาคมนั้นค่อนข้างจะสะดวกมีให้เลือกเยอะไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถเมล์ รถไฟธรรมดา และรถไฟความเร็วสูง แต่อย่างว่าแหละเราคนไทยอาจจะขัดอารมณ์ไปหน่อยเรื่องเวลา รถที่นี่เขาจะมีเวลาเดินรถเป๊ะมากและไม่ได้มีถี่เหมือนไทยเรา ถ้ามาผิดเวลาอาจจะต้องรอนานเป็นชั่วโมง เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ควรวางแผนการเดินทางให้ดี
คำเตือน : ในกรณีที่เช่ารถ ต้องบอกเลยว่าค่าที่จอดรถที่นี่ราคาแรงพอสมควร แนะนำให้หาข้อมูลราคาของหลายๆที่มาเทียบกันก่อน เพราะบางที่ก็จะมีส่วนลดให้ถ้าจอดนานเกิน 48 ชั่วโมง เป็นต้น ข้างบนคือภาพตัวอย่างบัตรจอดรถ ทุกอย่างเป็นภาษาสวีเดนจ้า
สถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องห้ามพลาดคือย่านเมืองโบราณในสต๊อกโฮล์ม เดินชมความสวยงามของตึกรามบ้านช่องและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ซึ่งสามารถเดินลัดเลาะตามซอกซอยได้เลยไม่ต้องใช้รถ คนที่นี่เขานิยมเดินกันเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้ากลัวหลงก็เปิด GPS นำทางไปด้วยก็ได้สะดวกดีค่ะเราก็ทำแบบนั้น
ถ้าต้องขับรถข้ามเมืองแล้วเกิดปวดฉี่ระหว่างทางก็แวะปั๊มได้เลย แต่ห้องน้ำเขาไม่ได้เหมือนไทยเรานะคะ ห้องน้ำเขาจะอยู่ในตัวร้านสะดวกซื้อเราสามารถเดินเข้าไปได้เลยหรือถ้าเกิดความเกรงใจร้านค้าออกมาจากห้องน้ำก็อาจจะซื้อขนมขบเคี้ยวเล็กๆน้อยๆติดมือมากินบนรถก็ได้ (เราก็ทำแบบนี้ด้วยนิสัยขี้เกรงใจ)
นอเวย์
บางท่านคงเคยได้ยินกิตติศัพท์ของประเทศนี้มาบ้างแล้วเรื่องค่าครองชีพแพง จะบอกว่าแพงมากแพงจริงๆและใช่เลยตามกิตติศัพท์นี้เลยค่ะ จากประสบการณ์ที่เจอมา ค่าเข้าห้องน้ำที่ Central Station 20 NOK (Norwegian Krone) ก็ราวๆ 80 บาทไทยเอ๊งง !! (เสียงสูงง..อิอิ) สตั๊นไป 3 วิ แต่สุดท้ายก็ต้องเข้าเพราะอัดอั้นมาหลายชั่วโมงแล้ว ด้วยบทเรียนราคาแพงนี้ทุกครั้งก่อนออกจากที่พักเลยต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเพราะแอบเสียดายตังค์ จบเรื่องเข้าห้องน้ำมาว่ากันด้วยเรื่องเที่ยวดีกว่าตื่นเต้นๆๆ
ออสโลว์มาแล้วประทับใจมากค่ะ เป็นเมืองที่สวย สะอาด น่าอยู่ ผู้คนหน้าตาดี หิมะก็ขาวสวยไปทั่วเมืองเลย โดยรวมแล้วประทับใจค่ะ ด้วยความที่มีเวลาจำกัดเลยได้เที่ยวแค่ไม่กี่ที่
เรื่องการเดินทางอยากจะแนะนำให้ซื้อตั๋วรถประจำทางแบบ 1 Day นะคะถึงจะคุ้มเพราะเราสามารถใช้บัตรนี้กับรถราง รถเมล์ ที่วิ่งทั่วเมืองได้ไม่มีจำกัดเที่ยว ตอนที่ซื้อบัตรราคาอยู่ที่ 90 NOK/คน (360 บาท) หน้าตาบัตรก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ พอขึ้นรถปุ๊บก็ใช้บัตรนี้แตะบนเครื่องได้เลยเขาไม่มีกระเป๋ารถเมล์เหมือนบ้านเรา
เดนมาร์ก
จากสวีเดนสามารถนั่งรถบัสหรือขับรถไปเดนมาร์กได้เลย สะดวกมากซึ่งจะเดินทางจากเมือง Gothenburg ของสวีเดนไปยัง Copenhagen เมืองหลวงของเดนมาร์ก รถบัสใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงเอง นั่งเพลินๆไปเดี๋ยวก็ถึง..อิอิ นี่คือรสบัสที่เรานั่งไปเดนมาร์กค่ะ
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ส่วนตัวก็อาจจะเร็วหน่อยแต่ข้อเสียคือต้องจ่ายค่าผ่านด่านข้ามประเทศค่อนข้างแพงถ้าคิดเป็นเงินไทย ครั้งนี้เราไปเที่ยวกันแบบชิวล์ๆ 1 Day trip ด้วยรถบัส ซึ่งเป้าหมายหลักของเราคือ Little mermaid เป็นที่แรก ปล.มาเพื่อสิ่งนี้จริงๆแล้วมันก็เล็กจริงๆสมชื่อ !!
โชคไม่เข้าข้างสายฝนโปรยปรายลงมาทั้งวันทำให้แอบเซ็ง ภาพรวมทั่วไปของเดนมาร์กจากสายตาที่มองเห็นคือ บ้านเมืองเขาไม่ค่อยสะอาด ยังมีขยะให้เห็นเยอะสองข้างทางและบริเวณที่เป็นสาธารณะ ซึ่งต่างจากนอเวย์และสวีเดนที่แทบจะไม่เห็นขยะเลยถ้าไม่ตั้งใจมองหา แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องสถาปัตยกรรม อาคาร สถานที่เขาสวยงามมากเป็นศิลปะที่หาดูได้ยากจริงๆ
อันนี้เป็นแค่ภาพสวยงามบางส่วนที่ถ่ายมายังไงก็ไม่สู้เห็นของจริงนะคะ ส่วนรถไฟที่นี่มีพื้นที่สำหรับรถจักรยานด้วยค่ะ เท่ย์สุดๆ
ส่วนอันนี้คือความชอบส่วนตัวค่ะ ด้วยเทคนิคการจัดเก็บจักรยานแบบประหยัดพื้นที่มาก ถ้าเป็นไทยเราคงจอดเกลื่อนกลาดไปแล้ว
ครั้งนึงในชีวิตได้มาเที่ยว เปิดตา เห็นอะไรที่แปลกๆรวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย (ที่บ้านเรายังไม่มี)ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้วค่ะ ในส่วนของการเดินทางโดยส่วนตัวแล้วค่อนข้างสับสน(อาจเพราะเป็นครั้งแรก) เขามีขบวนรถไฟค่อนข้างเยอะ หลายสาย ทำให้เราต้องหลง งง แบบผิดๆถูกๆถามคนไปเรื่อยตามประสา ที่นี่ไม่ต่างจากนอเวย์คือซื้อบัตรแบบ 1 Day การใช้งานก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าจะไปเที่ยวจุดใหน อย่างไร ก็ให้ศึกษาเส้นทางไว้ล่วงหน้าจะดีมากค่ะ เพราะถ้ามีเวลาน้อยอย่างเราก็จะเสียเวลาไปกับการหลงทางเดี๋ยวจะไม่คุ้มเอา
สุดท้ายนี้ถ้าใครมีโอกาสได้ท่องโลกกว้างก็อยากจะแนะนำให้มาเที่ยวทางแถบสแกนดิเนเวียกันนะคะ รับรองว่าท่านผู้อ่านจะไม่ผิดหวัง และขอปิดท้ายด้วยภาพสวยๆของคืน Count Down 2017 ที่สต๊อกโฮล์มนะคะ