หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า "ความรัก คือการให้อภัย" แต่หากเราต้องอยู่กับคนที่ทำร้ายจิตใจเราทุกครั้ง
เมื่อเขาโกรธ คุณสามารถให้อภัยเขาได้ตลอดไหมคะ? ตอนนี้สับสนค่ะ จะเลือกไปต่อ หรือหยุดไว้แค่นี้
เริ่มเลยนะคะ....เรากับแฟนคบกันมาได้เข้าปีที่ 10 ก็มีแพลนว่าจะสร้างครอบครัว (ทั้งเราและเขาอายุจะเข้าหลัก4แล้วค่ะ)
แล้วจะแต่งงานกันปีหน้า แฟนก็ไปทำการสู่ขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้นปีเลยทำการซื้อบ้านร่วมกัน
ทั้งเราและเขามีหน้าที่การงานที่มั่นคงพอสมควร แต่จะมีปัญหาเรื่องสภาวะทางอารมณ์....ทั้งเราและเขา
เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราเป็นมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะอยู่กับโรคนี้จนชิน ส่วนเขาเพิ่งเป็นมาไม่นานจากการล้มเหลวในชีวิต
เรื่องของเขาเราขอข้ามนะคะ
เมื่อต้นเดือนที่แล้วเรากับเขามีปัญหากัน ซึ่งครั้งนี้เขาบอกเลิกเรา และแสดงกิริยาที่ก้าวร้าว
รวมถึงคำพูดที่รุนแรง เราโทรปรึกษาครอบครัวว่าจะเอายังไงดี ทางครอบครัวเราต้องการให้เรากลับไปอยู่บ้าน
ที่เราซื้อไว้ก่อนหน้านี้ เพราะในเมื่อพูดขนาดนั้น ทางพ่อและแม่ก็ไม่อยากให้เราต้องมาเสียเวลารอ
เราก็ขอใช้เวลาคิด 2-3 วันเพื่อให้แน่ใจว่า เราอยู่ได้โดยไม่มีเขานะ (แม่เราให้เราใช้สติคิดดีๆก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะถ้าเราก้าวออกมาแล้ว
นั่นหมายความว่าจะไม่มีการย้อนกลับไปอีก) แต่เขาก็กลับมาค่ำๆของวันถัดไป เข้ามากอด และขอโทษเรา
แต่ความรู้สึกของเรามันไม่เหมือนเดิม ก่อนหน้านี้เราเลยมีปัญหาหนักๆกัน 2 ครั้งและครั้งนี้คือครั้งที่ 3
ครั้งแรกที่มีปัญหากัน เราคอยซัพพอตเค้า เค้าด่าว่าครอบครัวเรา ทำร้ายร่างกาย ใช้คำพูดที่รุนแรง
ครั้งที่สองเขามีปัญหากับครอบครัว เราก็อยู่ข้างเขา คอยซัพพอตเขา แต่ครั้งนี้ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังใช้คำพูดที่รุนแรงเสมอ
และล่าสุด คือ เขามีปัญหากับครอบครัวเขา บวกกับทะเลาะกับเรา เขาใช้คำพูดที่รุนแรง ก้าวร้าวครอบครัวเรา
ตอกย้ำอดีตที่เราเคยเจ็บปวด (เราเป็น major depressive disorder) จากการผิดหวังในเรื่องของความรัก
ซึ่งทุกครั้งที่เรามีปัญหาชีวิต การแสดงออกของเราคือ ทำร้ายตัวเอง ทานยาเกินขนาด วางแผนฆ่าตัวตาย
เขาบอกว่า ไม่มีใครทนเราได้ แฟนเก่าก็ไม่เอา พ่อแม่ก็ไม่เอา เลยมาลำบากเขา?
เรานั่งงงว่า แล้วเขาจะไปสู่ขอเราจากพ่อแม่เราทำไม? จากร้องไห้อยู่ถึงกับชะงัก
วันนั้นเขาสัญญาว่าจะดูแลเราให้ดีที่สุด เหมือนที่พ่อแม่เคยดูแล เขารับปากว่าจะไม่ทำร้ายเราไม่ว่าจะด้วยอะไร
แต่ครั้งนี้เขากลับบอกว่า พ่อแม่เรายังไม่มาดูแลเราเลย? เวลาเราทำร้ายร่างกายตัวเองจนเข้ารพ.
มีแต่เขาที่ต้องดูแล เป็นคนพาไปรพ. ทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อแม่เราคอยซัพพอตเราตลอด
หากมีปัญหาหนักๆจะรีบมาไกล่เกลี่ยเพราะรู้ว่าถ้าเราอาการกำเริบจะสติหลุด
เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ พ่อแม่เราก็ซัพพอตเรา จนถึงวันที่เขาไปสู่ขอ หลังจากนั้นจะซัพพอตเฉพาะเวลาที่เรามีปัญหา
เพราะเราและเขาออกมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว แต่เราไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย เรามีบ้าน มีรถ มีงานทำ
เวลาติดขัดแม่เราซัพพอตเราได้เสมอ แม้แต่วันที่แฟนเราเดือดร้อน ก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือ
ล่าสุดเราเปิดใจคุยกับเขา เพราะเราไม่มีความสุขเลย เขาบอกว่า ที่เขาพูดไปทั้งหมดเขารู้สึกจริงๆ ตั้งใจพูดจริงๆ
เขาไม่รู้สึกผิด ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาตั้งใจทำร้ายจิตใจเรา เขาอยากทำให้เราเจ็บปวด และนี่คือสันดารดิบของเขา
เรานั่งอึ้ง เพราะคบกันมาเป็น 10 ปี เขาดีกับเรามาตลอด ไม่เคยมีเรื่องชู้สาว จะมีก็แต่สภาวะทางอารมณ์ที่เกิดจากโรคซึมเศร้า
แต่ครั้งนี้ เราสับสนมาก เขาไม่สะทกสะท้าน ในคำพูดที่พูดออกมา พอเรานั่งนิ่งเขาก็เข้ามากอด และทำเหมือนรักเรา
แต่เรา...ยังลืมสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยค่ะ ทั้งที่ผ่านมาก็จะเป็นเดือนแล้ว
ถ้าเป็นคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้คุณจะเลือกอยู่ หรือ ไปคะ?
"ความรัก คือการให้อภัย" คุณสามารถให้อภัยคนรักได้ตลอดไหมคะ?
เมื่อเขาโกรธ คุณสามารถให้อภัยเขาได้ตลอดไหมคะ? ตอนนี้สับสนค่ะ จะเลือกไปต่อ หรือหยุดไว้แค่นี้
เริ่มเลยนะคะ....เรากับแฟนคบกันมาได้เข้าปีที่ 10 ก็มีแพลนว่าจะสร้างครอบครัว (ทั้งเราและเขาอายุจะเข้าหลัก4แล้วค่ะ)
แล้วจะแต่งงานกันปีหน้า แฟนก็ไปทำการสู่ขอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อต้นปีเลยทำการซื้อบ้านร่วมกัน
ทั้งเราและเขามีหน้าที่การงานที่มั่นคงพอสมควร แต่จะมีปัญหาเรื่องสภาวะทางอารมณ์....ทั้งเราและเขา
เป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เราเป็นมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะอยู่กับโรคนี้จนชิน ส่วนเขาเพิ่งเป็นมาไม่นานจากการล้มเหลวในชีวิต
เรื่องของเขาเราขอข้ามนะคะ
เมื่อต้นเดือนที่แล้วเรากับเขามีปัญหากัน ซึ่งครั้งนี้เขาบอกเลิกเรา และแสดงกิริยาที่ก้าวร้าว
รวมถึงคำพูดที่รุนแรง เราโทรปรึกษาครอบครัวว่าจะเอายังไงดี ทางครอบครัวเราต้องการให้เรากลับไปอยู่บ้าน
ที่เราซื้อไว้ก่อนหน้านี้ เพราะในเมื่อพูดขนาดนั้น ทางพ่อและแม่ก็ไม่อยากให้เราต้องมาเสียเวลารอ
เราก็ขอใช้เวลาคิด 2-3 วันเพื่อให้แน่ใจว่า เราอยู่ได้โดยไม่มีเขานะ (แม่เราให้เราใช้สติคิดดีๆก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะถ้าเราก้าวออกมาแล้ว
นั่นหมายความว่าจะไม่มีการย้อนกลับไปอีก) แต่เขาก็กลับมาค่ำๆของวันถัดไป เข้ามากอด และขอโทษเรา
แต่ความรู้สึกของเรามันไม่เหมือนเดิม ก่อนหน้านี้เราเลยมีปัญหาหนักๆกัน 2 ครั้งและครั้งนี้คือครั้งที่ 3
ครั้งแรกที่มีปัญหากัน เราคอยซัพพอตเค้า เค้าด่าว่าครอบครัวเรา ทำร้ายร่างกาย ใช้คำพูดที่รุนแรง
ครั้งที่สองเขามีปัญหากับครอบครัว เราก็อยู่ข้างเขา คอยซัพพอตเขา แต่ครั้งนี้ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังใช้คำพูดที่รุนแรงเสมอ
และล่าสุด คือ เขามีปัญหากับครอบครัวเขา บวกกับทะเลาะกับเรา เขาใช้คำพูดที่รุนแรง ก้าวร้าวครอบครัวเรา
ตอกย้ำอดีตที่เราเคยเจ็บปวด (เราเป็น major depressive disorder) จากการผิดหวังในเรื่องของความรัก
ซึ่งทุกครั้งที่เรามีปัญหาชีวิต การแสดงออกของเราคือ ทำร้ายตัวเอง ทานยาเกินขนาด วางแผนฆ่าตัวตาย
เขาบอกว่า ไม่มีใครทนเราได้ แฟนเก่าก็ไม่เอา พ่อแม่ก็ไม่เอา เลยมาลำบากเขา?
เรานั่งงงว่า แล้วเขาจะไปสู่ขอเราจากพ่อแม่เราทำไม? จากร้องไห้อยู่ถึงกับชะงัก
วันนั้นเขาสัญญาว่าจะดูแลเราให้ดีที่สุด เหมือนที่พ่อแม่เคยดูแล เขารับปากว่าจะไม่ทำร้ายเราไม่ว่าจะด้วยอะไร
แต่ครั้งนี้เขากลับบอกว่า พ่อแม่เรายังไม่มาดูแลเราเลย? เวลาเราทำร้ายร่างกายตัวเองจนเข้ารพ.
มีแต่เขาที่ต้องดูแล เป็นคนพาไปรพ. ทั้งที่ก่อนหน้านี้พ่อแม่เราคอยซัพพอตเราตลอด
หากมีปัญหาหนักๆจะรีบมาไกล่เกลี่ยเพราะรู้ว่าถ้าเราอาการกำเริบจะสติหลุด
เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ พ่อแม่เราก็ซัพพอตเรา จนถึงวันที่เขาไปสู่ขอ หลังจากนั้นจะซัพพอตเฉพาะเวลาที่เรามีปัญหา
เพราะเราและเขาออกมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว แต่เราไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย เรามีบ้าน มีรถ มีงานทำ
เวลาติดขัดแม่เราซัพพอตเราได้เสมอ แม้แต่วันที่แฟนเราเดือดร้อน ก็เต็มใจที่จะช่วยเหลือ
ล่าสุดเราเปิดใจคุยกับเขา เพราะเราไม่มีความสุขเลย เขาบอกว่า ที่เขาพูดไปทั้งหมดเขารู้สึกจริงๆ ตั้งใจพูดจริงๆ
เขาไม่รู้สึกผิด ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาตั้งใจทำร้ายจิตใจเรา เขาอยากทำให้เราเจ็บปวด และนี่คือสันดารดิบของเขา
เรานั่งอึ้ง เพราะคบกันมาเป็น 10 ปี เขาดีกับเรามาตลอด ไม่เคยมีเรื่องชู้สาว จะมีก็แต่สภาวะทางอารมณ์ที่เกิดจากโรคซึมเศร้า
แต่ครั้งนี้ เราสับสนมาก เขาไม่สะทกสะท้าน ในคำพูดที่พูดออกมา พอเรานั่งนิ่งเขาก็เข้ามากอด และทำเหมือนรักเรา
แต่เรา...ยังลืมสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เลยค่ะ ทั้งที่ผ่านมาก็จะเป็นเดือนแล้ว
ถ้าเป็นคุณเจอเหตุการณ์แบบนี้คุณจะเลือกอยู่ หรือ ไปคะ?