เริ่มกันเลยนะคะ ทริปนี้เป็นทริปที่เราจัดเอง ไปเที่ยวกับพ่อแม่มาเมื่อวันที่ 20-25 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา ไปค้างที่ญี่ปุ่น5คืนค่ะ รูปทุกรูปในกระทู้ใช้Sony a6000ถ่ายนะคะ ก่อนหน้านี้เคยไปญี่ปุ่นมาแล้ว2ครั้ง คือ ฮอกไกโด กับ จูบุ จากคติประจำใจ ทุกทริปเราต้องมีหิมะ เพราะเป็นคนเสพติดหิมะมาก
เราเลยประเดิมเปิดภูมิภาคที่3เลย ก่อนไปก็คาดไว้อยู่แล้วว่าหิมะน่าจะหนาอยู่ เพราะTohokuหิมะค่อนข้างตกหนักอยู่แล้ว แต่ไปจริงดันบังเอิ้นบังเอิญเจอวันพายุหิมะเข้าอีก ฮาาาา
ทริปนี้เราไปจังหวัด Tokyo - Miyagi - Akita - Yamagata - Fukushima นะคะ
วันแรกเริ่มทริปกันที่สนามบินนาริตะนะคะ เราบินมาถึงตอนเช้า สายการบินScoot
พอทำการแลกJR Passเรียบร้อย เราใช้JR Eastนะคะ ราคา19,000เยน
แวะซื้อเบนโตะที่โตเกียวนิดหน่อย ก็เตรียมดิ่งตรงไปSendaiเลยค่ะ เรานั้งHayabusaไปนะคะ เร็วจนหูอื้อเวลาเข้าอุโมงค์ ต้องกลืนน้ำลายบ่อยๆ
เบนโตะค่ะ อร่อยดี ปูเยอะมากกกก
เรามาถึงSendaiประมาณบ่ายโมงค่ะ นอนที่โรงแรม APA Villa Hotel Sendai-eki Itsutsubashi เดินจากสถานีประมาณ1km ไม่ไกลมาก มีออนเซ็นให้แช่ด้วย
ส่วนตัวชอบSendaiนะคะ เป็นเมืองที่ดูใหญ่ แต่คนไม่ได้พลุกพล่านมาก ชอบถนนหนทาง
พอถึงแล้วหลังจากฝากกระเป๋าที่โรงแรม ปรากฏว่ารองเท้าหิมะที่ซื้อที่ไทยนานแล้ว พื้นหลุดค่ะ โอเอ็มจี ความเศร้านี้ เลยถอดพื้นทิ้งแล้วก็ไปเดินหาซื้อใหม่ ได้มาของABC Mart ราคาประมาณ1,300บาทไทย แงงงง แต่ขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องซื้อ เพราะวันต่อไปหิมะจะหนามาก เดี๋ยวจะไม่รอด
หลังจากเดินวนๆหาซื้อรองเท้าเสร็จ ก็ไปอ่าวMatsushimaกันเลย นั่งรถไฟประมาณ40นาที พอไปถึงก็ค่อนข้างเย็นพอสมควร เพราะฤดูหนาวพระอาทิตย์ค่อนข้างตกเร็ว
ลงรถที่สถานีMatsushimakaigan เดินเรียบทะเลอีกนิดเดียวก็จะเห็นสะพานแดงค่ะ เห็นเป้าหมายอยู่ไกลลิบๆ มีบริการล่องเรือชมอ่าวด้วยนะคะ แต่เราเวลาค่อนข้างจำกัดเลยไม่ได้ล่อง พระอาทิตย์ดูใกล้ตกมากๆ ต้องรีบหน่อย
มารู้จักอ่าวMatsushimaกันคร่าวๆก่อน อ่าวนี้ตั้งอยู้ในจังหวัดMiyagi เคยติดอันดับ1ใน3ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นนะคะ เพราะมีเกาะแก่งที่มีรูปร่างแปลกตามากมายกว่า260เกาะ และก็เป็นอ่าวที่โดนสึนามิครั้งใหญ่ของโทโฮคุเมื่อปี2011ด้วย
เดินมาไกลมาก ถึงแล้วววว จ่ายเงินค่าข้ามสะพานเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเลยค่ะ ข้ามสะพานไปจะเป็นเกาะให้เดินวน แต่เราเดินไปจุดชมวิวแล้วย้อนกลับเลยนะคะ เพราะใกล้มืดแล้ว ชอบฟ้าวันนี้มากกกกกก
มีร่องรอยเมเปิ้ล ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงน่าจะสวยไม่เบา
พอเดินไม่นานพระอาทิตย์ก็ตกค่ะ เลยบึ่งกลับเซ็นได เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเที่ยวต่อ
มาเซ็นไดทั้งที เค้าว่ากันว่าต้องกินลิ้นวัว เพราะSendaiลิ้นวัวดังมาก เดินไปไหนก็เห็นร้านขายเต็มไปหมด เรากินร้านDate no Gyutan นะคะ อยู่ในJR Sendaiเลย
แกงกระหรี่ลิ้นวัว เราว่าพอตุ๋นลิ้นแล้ว มันขาดความกรุบที่เป็นเอกลักษณ์ของลิ้นวัวไปหน่อย
ลิ้นวัวย่างเกลือกรุบนุ่มๆดีค่ะ แนะนำ มาพร้อมกับซุป สลัดและข้าว หอมอร่อยมาก เข้ากับรสเกลือเค็มๆมากค่ะ 3ผ่าน ปกติเป็นคนชอบลิ้นอยู่แล้วด้วย
มาSendaiทั้งที ของขึ้นชื่ออีกอย่างที่ต้องลองก็คือ'ซุนตะโมจิ'ค่ะ เป็นโมจิถั่วแระ เรากินเป็นSoft Creamนะคะ อร่อยดี หอมนม แต่ไม่ค่อยได้กลิ่นโมจิเท่าไหร่
เราขอจบวันแรกนี้ด้วยการแช่ออนเซ็นที่โรงแรมเลยนะคะ พรุ่งนี้เราจะไปจังหวัดAkitaกัน ต้องตื่นเร็วกันหน่อย
วันที่2นี้ เราตื่นกันเช้า ประมาณตี5กว่าๆ เพื่อไปให้ทันรถชินคันเซ็นKomachiขบวนแรกที่จะออกจากSendai ไปTazawakoเวลา 06:40นะคะ วันนี้เรามีเป้าหมายจะไปTsuru no yu Onsen, ทะเลสาบTazawa แล้วก็Kakunodateกัน ไปเล้ยยยย สตาร์ทโตะ โกๆ
หลังจากซื้อข้าวกล่องกันเรียบร้อยก็ขึ้นชินคันเซ็นกันเลยค่ะ ขบวนสีเขียวคือHayabusaที่ไปShin Hakodate สีแดงKomachiไปจังหวัดAkita จะผูกติดกันไป แล้วแยกขบวนกันที่เมืองMoriokaจังหวัดIwateค่ะ ดังนั้นห้ามขึ้นผิดขบวนเด็ดขาด แต่จริงแล้ว เท่าที่เราทราบรถไฟชินคันเซ็นขบวนทางTohokuเป็นที่นั่งแบบReserved Seatทุกขบวน ดังนั้นอย่าลืมจองที่นั่งกันล่วงหน้านะคะ
ขึ้นรถกันเลย สีเหลืองสดใส
วันนี้ข้าวกล่องเราภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษเพราะมันฟินมาก เป็นข้าวกล่องที่เราชอบที่สุดในทริปนี้ ดีแบบ กินแล้วบินได้
ก่อนที่จะมาพรีเซ้นท์ข้าวกล่องของเรา เอาของแม่มาโชว์ก่อน
เป็นข้าวกล่องMusubimaru มาสคอตของเมืองSendai
เปิดมาน่ารักมากก
มาต่อกันที่ข้าวกล่องของเรา ที่เราชอบมากๆๆๆๆๆๆ
แต่นแต๊นนนน
คือมันดูธรรมดามาก แต่อร่อยแบบอร้อยอร่อยจริงๆนะ
ละเราก็นั่งรถไฟไปเรื่อยๆออกจากเซ็นได ก็เริ่มเห็นหิมะเป็นหย่อมๆแล้วหนาขึ้นเรื่อยๆ แงงงงง ดีมากกกกกก ฉันชอบหิมะที่สุด
พระอาทิตย์ขึ้นวันนี้สวยมาก มีนกกาบินว่อน กินข้าวกล่องไปด้วยได้ฟีลสุดๆ
ไม่ได้โม้นะ มีนกกาบินจริงๆ
ความพยายามถ่ายรูปแข่งกับความเร็วชินคันเซ็นนี้
พอเลี้ยวซ้ายเข้าจังหวัดAkitaแล้ว วิวก็สวยทวีคูณ ดูหิมะนั่นสิพี่ชาย
มาต่อกันเลยนะคะ ขอว้าปไปหลังจากลงรถไฟที่Tazawako Stationนะคะ เวลา 08:31ค่ะ สถานีขาวมากกกกก หิมะปลิวว่อนเลย
ก่อนไปออนเซ็นมาเล่ากันก่อน คือออนเซ็นในแถบนี้จะมีสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนมนมค่ะ เลยได้ชื่อว่าNyuto(หัวนม) Onsen ซึ่งแถวนั้นก็จะมีภูเขาNyutouด้วย ออนเซ็นที่เราจะไปกันวันนี้เป็นออนเซ็นเก่าแก่ของNyuto Onsenค่ะ ซึ่งมีชื่อว่าTsurunoyu Onsenอายุ300กว่าปีมาแล้ว ในออนเซ็นกลางป่าเขาแบบนี้ยังคงมีบ่อรวมอยู่นะคะ เหมือนคนสมัยก่อนใช้บ่อรวมชายหญิงกันเป็นปกติ ไม่นานจึงมีสร้างบ่อกลางแจ้งหญิงล้วนขึ้นมาค่ะ แต่ยังคงไม่มีบ่อกลางแจ้งชายล้วนนะคะ ผู้ชายมีแต่บ่อรวมกับบ่อในที่ร่ม
คำว่าTsuruแปลว่ากระเรียนค่ะ Yuแปลว่าน้ำร้อน รวมกันเลยได้เป็น น้ำร้อนแห่งนกกระเรียน ชื่อเท่สุดๆไปเลย พอพูดถึงคำว่าTsuruแล้ว สปอยไว้ล่วงหน้า
วันหลังๆเราจะไปเที่ยวประสาทนกกระเรียนกัน(Tsuruga Castle) คอยติดตามได้ในตอนต่อๆไป
มารอรถไปArupa Kamokusaตรงนี้ ค่ารถเที่ยวละ620เยนค่ะ ก่อนมารอรถ ไปTazawako Information Centerให้เขาช่วยโทรเช็คกับทางออนเซ็นว่ามีรถตู้มารับจากArupa Kamokusaก็ดีนะคะ แล้วก็ขอตารางรถบัสด้วย
ถึงArupa Kamokusa แล้ว ก็รอรถจากTsurunoyu Onsenมารับ เป็นรถตู้รับส่งฟรีของทางเรียวกังนะคะ
เล่นหิมะรอไม่นานมากรถก็มารับไปOnsenค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ค่าเข้าใช้ออนเซ็น500เยนนะคะ ปิดไม่ให้คนนอกเข้าใช้บริการทุกวันจันทร์ มีผ้าขนหนูให้ซื้อค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้เอาไป
อุณหภูมิวันนั้นต่ำกว่า0นิดหน่อย ไม่หนาวมาก อุณหภูมิแทบจะอุ่นสุดในทริปแล้วค่ะ เพราะหลังจากนี้เราจะเจอ-5upกันทุกวัน ร้องไห้
หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จก็เตรียมไปทะเลสาบTazawakoต่อเลย นั่งรถย้อนกลับมาArupa Kamokusa แล้วกลับไป Tazawa kohan หาอะไรกินกันก่อน เพราะเรามีแพลนจะนั่งรถจากTazawa kohanวนรอบทะเลสาบ
ไม่รู้ว่าใช่ Niwa Udon อุด้งขึ้นชื่อของจังหวัดAkita รึเปล่า แต่อร่อยดีค่ะ
ทานข้าวไปสักพักก็เริ่มสังเกตว่าอากาศวันนี้ไม่เหมาะกับการนั่งรถรอบทะเลสาบจริงๆ เพราะว่าฟ้าปิดมาก และหิมะตกบางๆ ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี มองได้ไม่ไกล แบบภูเขาไม่สะท้อนกับทะเลสาบ เลยข้ามถนนจากTazawa kohanมาเดินเล่นริมทะเลสาบนิดหน่อย ก่อนจะนั่งรถกลับไปTazawako Stationเพื่อไปKakunodate เป้าหมายต่อไปของเราต่อ
รองเท้าราคา1,300ที่ซื้อมาเมื่อวาน
มาสคอตชวนเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนของTazawakoเองค่ะ
ขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะคะ เพราะจำนวนตัวอักษรใกล้เกินแล้ว จะมาต่อในCommentนะคะ
[CR] Tohoku ขาวมากกับวันหิมะตกหนักในรอบ4ปี
เราเลยประเดิมเปิดภูมิภาคที่3เลย ก่อนไปก็คาดไว้อยู่แล้วว่าหิมะน่าจะหนาอยู่ เพราะTohokuหิมะค่อนข้างตกหนักอยู่แล้ว แต่ไปจริงดันบังเอิ้นบังเอิญเจอวันพายุหิมะเข้าอีก ฮาาาา
ทริปนี้เราไปจังหวัด Tokyo - Miyagi - Akita - Yamagata - Fukushima นะคะ
วันแรกเริ่มทริปกันที่สนามบินนาริตะนะคะ เราบินมาถึงตอนเช้า สายการบินScoot
พอทำการแลกJR Passเรียบร้อย เราใช้JR Eastนะคะ ราคา19,000เยน
แวะซื้อเบนโตะที่โตเกียวนิดหน่อย ก็เตรียมดิ่งตรงไปSendaiเลยค่ะ เรานั้งHayabusaไปนะคะ เร็วจนหูอื้อเวลาเข้าอุโมงค์ ต้องกลืนน้ำลายบ่อยๆ
เบนโตะค่ะ อร่อยดี ปูเยอะมากกกก
เรามาถึงSendaiประมาณบ่ายโมงค่ะ นอนที่โรงแรม APA Villa Hotel Sendai-eki Itsutsubashi เดินจากสถานีประมาณ1km ไม่ไกลมาก มีออนเซ็นให้แช่ด้วย
ส่วนตัวชอบSendaiนะคะ เป็นเมืองที่ดูใหญ่ แต่คนไม่ได้พลุกพล่านมาก ชอบถนนหนทาง
พอถึงแล้วหลังจากฝากกระเป๋าที่โรงแรม ปรากฏว่ารองเท้าหิมะที่ซื้อที่ไทยนานแล้ว พื้นหลุดค่ะ โอเอ็มจี ความเศร้านี้ เลยถอดพื้นทิ้งแล้วก็ไปเดินหาซื้อใหม่ ได้มาของABC Mart ราคาประมาณ1,300บาทไทย แงงงง แต่ขนาดนี้แล้วยังไงก็ต้องซื้อ เพราะวันต่อไปหิมะจะหนามาก เดี๋ยวจะไม่รอด
หลังจากเดินวนๆหาซื้อรองเท้าเสร็จ ก็ไปอ่าวMatsushimaกันเลย นั่งรถไฟประมาณ40นาที พอไปถึงก็ค่อนข้างเย็นพอสมควร เพราะฤดูหนาวพระอาทิตย์ค่อนข้างตกเร็ว
ลงรถที่สถานีMatsushimakaigan เดินเรียบทะเลอีกนิดเดียวก็จะเห็นสะพานแดงค่ะ เห็นเป้าหมายอยู่ไกลลิบๆ มีบริการล่องเรือชมอ่าวด้วยนะคะ แต่เราเวลาค่อนข้างจำกัดเลยไม่ได้ล่อง พระอาทิตย์ดูใกล้ตกมากๆ ต้องรีบหน่อย
มารู้จักอ่าวMatsushimaกันคร่าวๆก่อน อ่าวนี้ตั้งอยู้ในจังหวัดMiyagi เคยติดอันดับ1ใน3ของจุดชมวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นนะคะ เพราะมีเกาะแก่งที่มีรูปร่างแปลกตามากมายกว่า260เกาะ และก็เป็นอ่าวที่โดนสึนามิครั้งใหญ่ของโทโฮคุเมื่อปี2011ด้วย
เดินมาไกลมาก ถึงแล้วววว จ่ายเงินค่าข้ามสะพานเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเลยค่ะ ข้ามสะพานไปจะเป็นเกาะให้เดินวน แต่เราเดินไปจุดชมวิวแล้วย้อนกลับเลยนะคะ เพราะใกล้มืดแล้ว ชอบฟ้าวันนี้มากกกกกก
มีร่องรอยเมเปิ้ล ถ้ามาฤดูใบไม้ร่วงน่าจะสวยไม่เบา
พอเดินไม่นานพระอาทิตย์ก็ตกค่ะ เลยบึ่งกลับเซ็นได เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเที่ยวต่อ
มาเซ็นไดทั้งที เค้าว่ากันว่าต้องกินลิ้นวัว เพราะSendaiลิ้นวัวดังมาก เดินไปไหนก็เห็นร้านขายเต็มไปหมด เรากินร้านDate no Gyutan นะคะ อยู่ในJR Sendaiเลย
แกงกระหรี่ลิ้นวัว เราว่าพอตุ๋นลิ้นแล้ว มันขาดความกรุบที่เป็นเอกลักษณ์ของลิ้นวัวไปหน่อย
ลิ้นวัวย่างเกลือกรุบนุ่มๆดีค่ะ แนะนำ มาพร้อมกับซุป สลัดและข้าว หอมอร่อยมาก เข้ากับรสเกลือเค็มๆมากค่ะ 3ผ่าน ปกติเป็นคนชอบลิ้นอยู่แล้วด้วย
มาSendaiทั้งที ของขึ้นชื่ออีกอย่างที่ต้องลองก็คือ'ซุนตะโมจิ'ค่ะ เป็นโมจิถั่วแระ เรากินเป็นSoft Creamนะคะ อร่อยดี หอมนม แต่ไม่ค่อยได้กลิ่นโมจิเท่าไหร่
เราขอจบวันแรกนี้ด้วยการแช่ออนเซ็นที่โรงแรมเลยนะคะ พรุ่งนี้เราจะไปจังหวัดAkitaกัน ต้องตื่นเร็วกันหน่อย
วันที่2นี้ เราตื่นกันเช้า ประมาณตี5กว่าๆ เพื่อไปให้ทันรถชินคันเซ็นKomachiขบวนแรกที่จะออกจากSendai ไปTazawakoเวลา 06:40นะคะ วันนี้เรามีเป้าหมายจะไปTsuru no yu Onsen, ทะเลสาบTazawa แล้วก็Kakunodateกัน ไปเล้ยยยย สตาร์ทโตะ โกๆ
หลังจากซื้อข้าวกล่องกันเรียบร้อยก็ขึ้นชินคันเซ็นกันเลยค่ะ ขบวนสีเขียวคือHayabusaที่ไปShin Hakodate สีแดงKomachiไปจังหวัดAkita จะผูกติดกันไป แล้วแยกขบวนกันที่เมืองMoriokaจังหวัดIwateค่ะ ดังนั้นห้ามขึ้นผิดขบวนเด็ดขาด แต่จริงแล้ว เท่าที่เราทราบรถไฟชินคันเซ็นขบวนทางTohokuเป็นที่นั่งแบบReserved Seatทุกขบวน ดังนั้นอย่าลืมจองที่นั่งกันล่วงหน้านะคะ
ขึ้นรถกันเลย สีเหลืองสดใส
วันนี้ข้าวกล่องเราภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษเพราะมันฟินมาก เป็นข้าวกล่องที่เราชอบที่สุดในทริปนี้ ดีแบบ กินแล้วบินได้
ก่อนที่จะมาพรีเซ้นท์ข้าวกล่องของเรา เอาของแม่มาโชว์ก่อน
เป็นข้าวกล่องMusubimaru มาสคอตของเมืองSendai
เปิดมาน่ารักมากก
มาต่อกันที่ข้าวกล่องของเรา ที่เราชอบมากๆๆๆๆๆๆ
แต่นแต๊นนนน
คือมันดูธรรมดามาก แต่อร่อยแบบอร้อยอร่อยจริงๆนะ
ละเราก็นั่งรถไฟไปเรื่อยๆออกจากเซ็นได ก็เริ่มเห็นหิมะเป็นหย่อมๆแล้วหนาขึ้นเรื่อยๆ แงงงงง ดีมากกกกกก ฉันชอบหิมะที่สุด
พระอาทิตย์ขึ้นวันนี้สวยมาก มีนกกาบินว่อน กินข้าวกล่องไปด้วยได้ฟีลสุดๆ
ไม่ได้โม้นะ มีนกกาบินจริงๆ
ความพยายามถ่ายรูปแข่งกับความเร็วชินคันเซ็นนี้
พอเลี้ยวซ้ายเข้าจังหวัดAkitaแล้ว วิวก็สวยทวีคูณ ดูหิมะนั่นสิพี่ชาย
มาต่อกันเลยนะคะ ขอว้าปไปหลังจากลงรถไฟที่Tazawako Stationนะคะ เวลา 08:31ค่ะ สถานีขาวมากกกกก หิมะปลิวว่อนเลย
ก่อนไปออนเซ็นมาเล่ากันก่อน คือออนเซ็นในแถบนี้จะมีสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนมนมค่ะ เลยได้ชื่อว่าNyuto(หัวนม) Onsen ซึ่งแถวนั้นก็จะมีภูเขาNyutouด้วย ออนเซ็นที่เราจะไปกันวันนี้เป็นออนเซ็นเก่าแก่ของNyuto Onsenค่ะ ซึ่งมีชื่อว่าTsurunoyu Onsenอายุ300กว่าปีมาแล้ว ในออนเซ็นกลางป่าเขาแบบนี้ยังคงมีบ่อรวมอยู่นะคะ เหมือนคนสมัยก่อนใช้บ่อรวมชายหญิงกันเป็นปกติ ไม่นานจึงมีสร้างบ่อกลางแจ้งหญิงล้วนขึ้นมาค่ะ แต่ยังคงไม่มีบ่อกลางแจ้งชายล้วนนะคะ ผู้ชายมีแต่บ่อรวมกับบ่อในที่ร่ม
คำว่าTsuruแปลว่ากระเรียนค่ะ Yuแปลว่าน้ำร้อน รวมกันเลยได้เป็น น้ำร้อนแห่งนกกระเรียน ชื่อเท่สุดๆไปเลย พอพูดถึงคำว่าTsuruแล้ว สปอยไว้ล่วงหน้า
วันหลังๆเราจะไปเที่ยวประสาทนกกระเรียนกัน(Tsuruga Castle) คอยติดตามได้ในตอนต่อๆไป
มารอรถไปArupa Kamokusaตรงนี้ ค่ารถเที่ยวละ620เยนค่ะ ก่อนมารอรถ ไปTazawako Information Centerให้เขาช่วยโทรเช็คกับทางออนเซ็นว่ามีรถตู้มารับจากArupa Kamokusaก็ดีนะคะ แล้วก็ขอตารางรถบัสด้วย
ถึงArupa Kamokusa แล้ว ก็รอรถจากTsurunoyu Onsenมารับ เป็นรถตู้รับส่งฟรีของทางเรียวกังนะคะ
เล่นหิมะรอไม่นานมากรถก็มารับไปOnsenค่ะ
ถึงแล้วค่ะ ค่าเข้าใช้ออนเซ็น500เยนนะคะ ปิดไม่ให้คนนอกเข้าใช้บริการทุกวันจันทร์ มีผ้าขนหนูให้ซื้อค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้เอาไป
อุณหภูมิวันนั้นต่ำกว่า0นิดหน่อย ไม่หนาวมาก อุณหภูมิแทบจะอุ่นสุดในทริปแล้วค่ะ เพราะหลังจากนี้เราจะเจอ-5upกันทุกวัน ร้องไห้
หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จก็เตรียมไปทะเลสาบTazawakoต่อเลย นั่งรถย้อนกลับมาArupa Kamokusa แล้วกลับไป Tazawa kohan หาอะไรกินกันก่อน เพราะเรามีแพลนจะนั่งรถจากTazawa kohanวนรอบทะเลสาบ
ไม่รู้ว่าใช่ Niwa Udon อุด้งขึ้นชื่อของจังหวัดAkita รึเปล่า แต่อร่อยดีค่ะ
ทานข้าวไปสักพักก็เริ่มสังเกตว่าอากาศวันนี้ไม่เหมาะกับการนั่งรถรอบทะเลสาบจริงๆ เพราะว่าฟ้าปิดมาก และหิมะตกบางๆ ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี มองได้ไม่ไกล แบบภูเขาไม่สะท้อนกับทะเลสาบ เลยข้ามถนนจากTazawa kohanมาเดินเล่นริมทะเลสาบนิดหน่อย ก่อนจะนั่งรถกลับไปTazawako Stationเพื่อไปKakunodate เป้าหมายต่อไปของเราต่อ
รองเท้าราคา1,300ที่ซื้อมาเมื่อวาน
มาสคอตชวนเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนของTazawakoเองค่ะ
ขอจบไว้เท่านี้ก่อนนะคะ เพราะจำนวนตัวอักษรใกล้เกินแล้ว จะมาต่อในCommentนะคะ