แชร์ประสบการณ์โดนรถบรรทุกชนแล้วหนีบนทางด่วน

เหตุการณ์วันนั้น คือเราขับอยู่บนทางด่วนเส้น กรุงเทพ-ชลบุรี-บางนา ช่วงกม.46  ซึ่งเป็นวันศุกร์ เวลาประมาณ 17.20 น. เราขับรถเก๋งอยู่เลนที่2 นับจากทางซ้าย ขณะขับไปเราก็มองกระจกหลังอยู่เป็นระยะๆ แล้วสังเกตเห็นรถพ่วงบรรทุกสีขาวขับมาด้วยความเร็ว เราก็ระวังและพยายามทิ้งระยะห่าง พอเรามองไปอีกที รู้สึกว่ารถบรรทุกเข้ามาใกล้รถเราเร็วมาก เราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย เตรียมหลบเข้าซ้ายให้รถบรรทุกคันนั้น (เพราะเราจะออกทางเบี่ยงซ้าย เพื่อไปถนนเสรีไทยอยู่แล้ว เลยไม่ได้หลบไปทางเลนขวา) แต่วันนั้นรถเยอะด้วยเพราะช่วงเย็น ฝั่งเลนซ้ายของเรามีรถบรรทุกพ่วงอยู่สองคัน รถเก๋งอีกหนึ่งคัน ทำให้เราเข้าซ้ายไม่ได้ในทันที ช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาที ท้ายรถด้านขวาของเราโดนรถบรรทุกชนเข้าอย่างแรง เสียงดังสนั่น! แล้วรถบรรทุกคันนั้นก็ขับหนีไปอย่างรวดเร็ว!! ส่วนรถเราเสียหลักไถลไปข้างทาง โชคดีที่เราตั้งสติบังคับพวงมาลัยและเบรกไว้ได้ทัน รถจึงไม่ตกไปข้างทาง และโชคดีมากๆที่รถคันข้างๆที่อยู่เลนซ้ายก็เบรกทัน จึงไม่โดนรถเราที่เสียหลักมาชนเข้าไปด้วย ที่โชคดีมากที่สุดคือพี่คันนั้นจอดรถลงมาถามอาการเรา และบอกว่ารถของเค้ามีกล้องหน้ารถ น่าจะถ่ายติดเหตุการณ์ไว้ได้ เดี๋ยวเค้าจะส่งคลิปมาให้เรา ซึ่งความมีน้ำใจของพี่เค้า ทำให้เราตามรถบรรทุกคันนั้นเจอ เนื่องจากเหตุการณ์ขึ้นเกิดเร็วมาก ทำให้เราจดจำป้ายทะเบียนรถไม่ทัน แต่เราก็จำลักษณะรถบรรทุกคันนั้นได้แม่น
เหตุการณ์ก็ประมาณนี้ หลักจากนี้จะเป็นขั้นตอนที่เราทำหลังจากเกิดอุบัติเหตุ เพื่อติดตามรถบรรทุกคันนั้น

-    โทรหาประกัน
-    ถ่ายรูปสภาพรถ สถานที่ เก็บรายละเอียดบริเวณเกิดเหตุให้ได้มากที่สุด
-    *หากเหตุการณ์เกิดขึ้นบนทางด่วน คุณสามารถโทรไปที่เบอร์ของทางหลวง 1586 ต่อ 7 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมกล้องcctv หันกล้องตาม เพื่อดูลักษณะของรถคู่กรณี โดยปกติกล้องcctv ที่อยู่บนทางด่วน จะถูกติดตั้งไว้กิโลเมตรละ1ตัว ทำให้ภาพที่ได้อาจจะไม่ชัดมาก และอาจจะไม่เห็นเหตุการณ์ ดังเช่นกรณีของเราคือ เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังกล้องพอดี จึงเห็นเพียงจังหวะที่รถเราขับมาก่อน แล้วจึงเห็นรถบรรทุกขับตามมาเท่านั้น จังหวะที่โดนชนอยู่ห่างจากกล้อง จึงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ชัด เพราะกล้องcctvที่ติดตั้ง ใช้เพียงเพื่อตรวจดูสภาพการจราจรเท่านั้น
-    หลังจากคุยกับประกันแล้ว เราก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน ที่ ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.
*เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นทางด่วนเราจึงต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจทางหลวง
** ถ้าเหตุเกิดที่บนถนนเส้นทางปกติ ที่ไม่ใช่ทางด่วน ให้ไปแจ้งความที่ สน.ของแต่ละท้องที่ที่รับผิดชอบ
-    หลังจากนั้น วันจันทร์เราก็ไปทำเรื่องขอดูกล้องcctv ขณะเกิดเหตุที่
กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง ถนนหลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ 10520
โทร 02-360-7865  Call center 1586 กด 7
ในกรณีของเราเหตุเกิดขึ้นก่อนผ่านด่านจ่ายเงิน คือพอรถบรรทุกชนรถเราเสร็จแล้ว เค้าจะต้องผ่านด่านจ่ายเงินที่ด่านทับช้าง เราจึงไปขอดูกล้องจากด่านจ่ายเงินด้วย(สำนักงานอยู่ที่เดียวกัน ถามเจ้าหน้าที่เค้าได้เลย) เพื่อดูป้ายทะเบียนรถ รอยตำหนิที่ชนรถเรา ชื่อบริษัทต่างๆของบรรทุกคันนั้น ซึ่งโดยปกติแล้ว ช่องทางจ่ายเงินสำหรับรถบรรทุกใหญ่ คือช่องที่1-3 จึงทำให้ตามหารถคันนั้นไม่ยากนัก
*** ขอชื่นชมคือ พี่ๆเจ้าหน้าที่ที่กองทางหลวงน่ารักมากกกกก ทุกคนช่วยเปิด ช่วยไล่กล้องให้ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว พูดจาดีมากก ซึ้งใจสุดมาก แต่ขอแจ้งนิดนึงคือ พี่เจ้าหน้าที่เค้าจะไม่คอนเฟิร์มให้เรานะว่ารถคันไหน เราต้องตัดสินใจเอง
ส่วนเอกสารที่ใช้ในการขอดูกล้อง
1.    หนังสือขอตรวจสอบและบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ (โดยขอให้ตำรวจที่เราไปแจ้งความออกให้)
2.    สำเนาลงบันทึกประจำวันหรือใบแจ้งความ
3.    สำเนาใบขับขี่
*แต่ถ้าหากว่าเรายังไม่มีหนังสือขอตรวจสอบและบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด เราก็สามารถไปขอดูกล้องก่อนได้ ใช้แค่ใบลงบันทึกประจำวันกับใบขับขี่ แต่เราจะไม่สามารถบันทึกภาพได้

-    หลังจากที่เราได้หลักฐานมาแล้ว ก็เอาให้ไปพี่ตำรวจ เพื่อทำหนังสือเรียกคู่กรณีรับทราบภายในเวลา15วัน ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร และเราไม่รู้ว่าคู่กรณีจะมาหรือไม่ ถ้าไม่มาตำรวจจะเรียกรอบที่2 แต่ตำรวจบอกเราว่า “ก็ต้องเว้นระยะห่างหน่อยนะ พี่ไม่ได้ออกให้ติดๆกันเลย” ด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
-    หลังจากนั้นประมาณ1อาทิตย์ เราติดต่อไปทางตำรวจเพื่อขอให้เพิ่มเติมข้อมูลเลขทะเบียนรถคู่กรณีลงในบันทึกประจำ เพราะตอนนี้เราได้ทะเบียนรถมาแล้ว แต่กว่าตำรวจจะแก้ไขให้ก็ใช้เวลาหลายวัน เค้าแจ้งเราว่า “น้องกลับไปก่อน วันนี้พี่ยุ่งหลายเรื่อง”  
-    หลังจากนั้นเราโทรหาประกันของเราเพื่อสอบถามว่าจะออกใบเคลมรถให้เราได้หรือไม่ เพราะเรามีเลขทะเบียนรถคู่กรณีแล้ว ทางประกันบอกว่า “เคลมให้ไม่ได้ถ้าหากคู่กรณีไม่มาเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา” แถมต่อด้วยว่า “หลักฐานของคุณมันเชื่อถือได้แค่ไหน!” เราเลยบอกว่า “งั้นขอเอกสารแจกรายละเอียดได้มั้ยว่าเหตุผลใดบ้างที่เคลมให้ไม่ได้ เราอยากทราบ” เค้าบอกว่า “ไม่ได้!”
-    เนื่องจากเราทำประกันชั้น3+ ประกันจะเคลมให้เราก็ต่อเมื่อมีคู่กรณีเท่านั้น ทางเราก็พยายามหาข้อมูล หาคลิป หาภาพ มาให้ แต่ทางประกันเค้ายังไม่เชื่อ เค้าจะเอาคลิปที่เห็นเหตุการณ์ที่เราโดนชนชัดๆ ซึ่งทางเราจะหามาไม่ได้จริงๆ แถมประกันยังบ่ายเบี่ยงไม่ตามเรื่องอะไรให้เราเลย ข้อมูลทุกอย่างเราเป็นคนไปตามเองหมด เราเลยบอกประกันว่าเราจำเป็นต้องใช้รถมาก ถ้าคู่กรณีที่ชนเราไม่มารายงานตัวเป็นเดือน เป็นปี รถเราก็ไม่ได้ซ่อมหรอ ประกันก็พูดว่า “คุณก็เก็บบิลไว้ละกัน” ไม่มีคำแนะนำ ไม่มีการช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นจากบริษัทประกันที่เราตัดสินใจทำ และไม่มีอะไรมายืนยันเลยว่าเราจะได้เงินค่าซ่อมรถคืน เพราะจากที่ไปหาข้อมูลมาไม่ค่อยมีใครได้เงินค่าซ่อมรถคืนจากประกันเลย
-    สุดท้ายหลังจากที่เราปรึกษา หาข้อมูลจากหลายๆที่แล้ว เราจึงตัดสินใจให้ทนายเป็นคนจัดการทุกอย่างให้ เพราะคิดดูแล้วว่าเราคงสู้ฝีปากกับประกันไม่ไหวจริงๆ บวกกับทางตำรวจที่ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการติดตามตัวคู่กรณี ทั้งๆที่เรามีหลักฐานและพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจน ตอนนี้ก็ 2 เดือนกว่าแล้ว หลังจากเกิดเหตุไม่ได้รับการติดต่อใดๆเลย
-       เราเชื่อว่ามีหลายคนที่รถโดนชน แล้วประกันไม่มารับผิดชอบ บ่ายเบี่ยงการซ่อมรถให้ ประวิงเวลาการซ่อมเป็นเวลาหลายเดือน จนผู้ที่ทำประกันหมดความอดทนที่จะรอ บวกกับมีความจำเป็นต้องใช้รถ จึงตัดปัญหาด้วยการซ่อมรถเอง เราไม่อยากให้ประกันได้ใจเอาเปรียบผู้บริโภคแบบนี้อีก อยากให้คนที่จะตัดสินใจทำประกันกับบริษัทไหน ลองศึกษาข้อมูลของบริษัทนั้นให้ดีก่อนตัดสินใจ
        ได้เรื่องยังไงจะมาอัพเดทนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่