ไปสัมภาษณ์ วีซ่าอเมริกา ครั้งแรก 😱

เชื่อแล้ว ยอมแล้วจ้าว่าไร้ซึ่งดวง 😭😭
ตั้งแต่รู้วันนัดว่าต้องไปสัมภาษณ์วันที่ 13/03/2018 ก็ตื่นเต้น รีบเช็กเอกสาร เตรียมตัว จะไปอะไร จะยังไง เราก็กลัวจะไม่ผ่าน เพราะอ่านรีวิวมาเยอะ เห็นบ่นกันว่าโหดมาก แต่ด้วยความที่เรียนสหกิจ แล้วตอนนี้ฝึกงานอยู่ ซึ่งทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรเลย ก็ไปกันสดๆเนี้ยละ
🚩พอถึงวันจริงเราขึ้นBTSสำโรง(เราฝึกงานอยู่แถวบางปู) เวลาที่นัดคือ 8.20น. พี่ที่เอเจ้นบอกให้ไปถึง 7.30 น. เพื่อนที่ไปสัมมาแล้วบอก 6.30 น. คือด้วยความเป็นกลาง ก็ตั้งปลุกตั้งแต่ตี5 แต่จ้า ตื่นมาตี5.30 น. อิผีทำไมวันนี้นาฬิกาไม่ปลุก ก็รีบๆ กว่าจะแต่งตัวอาบน้ำก็ปาไปจะ 6.30น. สรุปถึงบีทีเอสสำโรง 6.50 รถไฟออก 6.55น. ไปลงBTSเพลินจิต (ออกทางประตู2)ประมาณ 7.17 น. ในใจก็เริ่มแล้ว แบบเวรละ จะทันไหม แต่ดันปวดฉี่ ซึ่งปกติเป็นคนไม่ค่อยปวดแล้วไม่ค่อยเข้าห้องน้ำข้างนอก แต่ก็นั้นละค่ะ เราจึงเดินไปที่ตึกตรงทางเชื่อมBTS แล้วพอเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็เดินมาตรงปากซอยถนนวิทยุ แล้วก็มอไซค์สิครับโดนไป40บาทแต่เช้าเลย(จริงๆเดินเอาก็ได้นะครับ มันไม่ไกลมาก แต่แนะนำมอไซค์เถอะ แบบเหงื่อออกแล้วไปยืนต่อแถว คงไม่ไหวเนอะ เดะคนจะเยอะเอาด้วย) จากนั้นก็เดินเข้าแถว เอาจริงๆพอมาถึงจะเห็นชุดนักศึกษาเต็มไปหมด ก็พอเดาได้ว่าอ่อเขาทำอะไรกัน เราก็โอเคเดินต่อแถวตามเขาไป

Step 1 ต่อแถวเช็กเอกสาร พอไปถึงเขาให้ดึง DS-160 มาไว้หน้าสุด จะมีพี่เช็กเอกสารกับpassportเราอยู่ แล้วก็รับบัตรคิว ต่อแถวตามบัตรคิวเพื่อตรวจอุปกรณ์ บลาๆๆ ความซวยอยู่ตรงนี้ละครับ⁉️ นอกจากจะมาช้ากว่าที่คิดเพราะตื่นสายและรถติดคือ พอถึงคิวเรา เรามีพาเวอแบงในกระเป๋า ทางสถานทูตให้เอามือถือ(ปิดเครื่องด้วยนะครับ ⚠️เตือนอีกหนึ่งเรื่องจะฝากของได้ต้องฝากพร้อมบัตรนักศึกษาหรือบัตรประชาชนนะครับ อย่าลืมเอาไปกันนะ)และหูฟังฝากไว้ได้ แต่ห้ามเอาพาวเวอร์แบงค์เข้าจ้าา สรุปคือโดนไล่ออกมา‼️หาที่ฝากหรือฝากคนที่มารอ แล้วไปต่อแถวใหม่ ความพีคคือเวลาตอนนั้น 7.50น. แล้วเรามาคนเดียวตะฝากใครฟะ เอาไงอะที่นี้ เลยตัดสินใจเอาวะ วางข้างถนนตรงต้นไม้เนี้ยละ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(เราเพิ่งมารู้ว่า ก่อนถึงสถานทูตตรงก่อนสะพานลอยจะมีพวกร้านค้า ต้องลองไปถามดูนะคะ ว่าเขารับฝากของไหม) เพราะตอนนั้นคือแบบแถวยาวจะถึงสะพานลอยแล้วอ่า ถ้าไปฝากของแล้วกลับมาไม่น่าทัน เลยแบบตัดสินใจต่อแถวแล้วทิ้งของไว้ข้างทาง😱😱 อ่าพอผ่านการต่อแถวใหม่ ฝากมือถือ ตรวจกระเป๋าบลาๆ ก็เดินมารอด้านใน

Step 2 จะมีกล่องให้หยิบwilberforce(booklet) ซึ่งจะเป็นภาษาไทยเนอะ ก็ควรอ่านๆเตรียมไว้เพื่อตอบเพราะเท่าที่เห็นตอนเราสัม คนก่อนเราโดนถามทุกคนเลยอ่า เราเองก็โดน ก็รอเวลาตามคิว เขาจะประกาศเรียกตามคิวที่ได้นัด เช่นของเรา 8.20น. เป็นรอบๆ ในขั้นตอนนี้ เขาจะให้เราแยกเอกสารออกมาแค่4อย่าง คือ DS160,DS2019,SEVIS และ transcript เขาก็จะถามว่าเคยได้วีซ่าJ1ไหม เอาwilberไปรึยัง อ่านด้วยนะ เดะด้านในจะถาม จากนั้นเขาก็จะให้tracking number เพื่อเช็กสถานะวีซ่าและวันรับ เมื่อสัมผ่าน (⚠️ควรเอาปากกาไปจดด้วยนะครับ)

Step 3 ก็เดินขึ้นบันไดเข้าห้องมาต่อแถว แวะทั้งหมดประมาณ2ช่องได้ ช่องแรกจะเป็นคนไทย สแกนนิ้ว จากนั้นก็ไปอีกช่องที่เป็นฝรั่ง สแกนนิ้วกับเอกสาร

Step 4 จากนั้นต่อคิวรอสัม เราได้สัมกับผู้หญิง หน้าตาสวยมากก ไปถึงก็ถาม ไง ไปเมืองไหน ไปทำอะไร เรียนที่ไหน เรียนคณะอะไร ยากไหม เรียนจบตอนไหน รับปริญญาเมื่อไหร่ แล้วอ่านwilberรึยัง
มันเกี่ยวกับอะไร สิทธิ์อะไรอธิบายหน่อย แล้วทางเกิดปัญหาจะทำยังไง โอเคร เตรียมรอรับวีซ่าของคุณ ยินดีด้วย จากนั้นเขาก็คืน transcript มาให้

Step 5 ดีใจสิครับแล้วก็อย่าลืมเอาของที่ฝากไว้ตอนแรกด้วยนะ ผ่านนนนนนนแล้วจ้าาา

สุดท้ายนี้ ถึงจะซวยจะเกือบไม่ทันเวลา แต่ก็ผ่านละจ้า สำหรับเพื่อนๆที่กำลังใจสัม เราเป็นกำลังใจให้นะ เราเองก็เห็นคนข้างๆกับก่อนหน้าไม่ผ่าน พอได้คุยก็เลยรู้เหตุผล เราอยากบอกเพื่อนๆว่า คือต่อให้ไม่ได้เตรียมตัวหรืออ่านwilberไป แต่อยากให้เพื่อนๆมีสติ ⚠️แล้วก็ถ้าฟังคำถามไม่ทันจริงๆ ขอให้เขาพูดอีกที แต่อย่าตอบมั่วๆไปนะครับ เพราะอาจจะไม่ผ่านได้ สู้ๆนะคะ✌🏼✌🏼

#แถมๆ สรุปของที่เอาเข้าได้แล้วควรเอาไป
✅นาฬิกาเอาเข้าได้นะคะเท่าที่เห็น
✅กระเป๋าเล็กๆก็เอาเข้าได้ (แต่ของในกระเป๋าไม่ควรเอาอะไรที่ไม่จำเป็นไปจ้า)
✅เอาไปแค่กระเป๋าตังกับพวกเอกสารก็พอจ้า
✅มือถือก็ฝากได้อย่างที่บอก
✅ปากกาควรเอาไปจดค่า
❌แต่No powerbankนะคะ
❌ห้ามน้ำหรือของกินทุกอย่างนะครับ

ถ้ามีอะไรอยากรู้หรือสงสัย ก็ทักมาถามได้นะครับ