เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ดิฉันและแฟนได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบป้องกัน คือไม่ได้โดนกัด และไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน
เนื่องจากคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงเพราะสุนัขจรแถวบ้านมักจะมาเล่นมาเลียเป็นประจำ
และเพิ่งทราบจากข้อมูลของสถานเสาวภาว่าสามารถฉีดป้องกันล่วงหน้าได้ไม่ต้องรอโดนกัด
ดิฉันและแฟนเข้าไปฉีดที่รพ.พญาไท1 ซึ่งพยาบาลหลายคนดูงง นึกว่าดิฉันโดนกัด พอยืนยันว่ามาฉีดป้องกันก็งงกัน
พอพบคุณหมอ คุณหมอก็พูดอธิบายดี ว่ามีการฉีดแบบ pre exposure
ดิฉันย้ำคุณหมออีกครั้งว่าดิฉันไม่เคยฉีดมาก่อน และไม่ได้โดนกัด
คุณหมอตกลงให้ฉีดสองเข็มวันที่ 0 และ 3 นับวันที่ 10 มี.ค.เป็นวันเริ่มวันที่ 0
ถึงตอนนี้ดิฉันเอะใจ เพราะที่อ่านข้อมูลจากสถานเสาวภาระบุว่าฉีดวันที่ 0 7 21หรือ28
ตอนนั้นก็คิดว่าเอาเถอะ เราจะรู้ดีกว่าหมอได้อย่างไร อาจจะเป็นยาตัวใหม่ที่ฉีดจำนวนครั้งน้อยลงก็ได้
จนวันนี้ วันที่ 13 มี.ค. ไปฉีดเข็มที่สอง (นับเป็นวันที่ 3)มา ฉีดกับพยาบาลไม่ได้พบหมอ
เมื่อฉีดเสร็จ พยาบาลก็บอกว่าครบแล้ว ป้องกันได้ 1 ปี
แฟนดิฉันเห็นว่ากล่องยาก็เป็นยาตัวเดียวกับที่สถานเสาวภาบอก เมื่อกลับแล้วคาใจก็เลยโทรกลับไปถามรพ.อีกรอบว่าฉีดแค่นี้จริงหรอ
พยาบาลก็ยืนยันว่าเขาทำตาม protocol ปกติ ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าสงสัยจะปรึกษาคุณหมอให้แล้วจะติดต่อมา
ดิฉันสงสัยว่าเราจะมีภูมิคุ้มกันจริงหรือไม่ จึงถามเพื่อนหลายคนที่เป็นหมอซึ่งเพื่อนก็ได้ให้ความเห็นว่าควรฉีดเพิ่มอีกเข็ม สองเข็มไม่พอ
และได้โทรสอบถามที่สถานเสาวภา เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟัง เจ้าหน้าที่ก็งง บอกว่า protocol 0 3 นั้นสำหรับฉีดกระตุ้นผู้ที่เคยได้รับวัคซีนแล้ว
เจ้าหน้าที่ได้ปรึกษาหมอแล้วบอกว่าให้เข้าไปที่สถานเสาวภาเพื่อไปฉีดเพิ่มในวันที่ 7 และ 28
ดิฉันโทรไปที่รพ.พญาไทอีกรอบเพื่อยืนยันข้อมูลที่ดิฉันได้รับจากสถานเสาวภา พยาบาลพูดวกไปวนมาเลี่ยงที่จะพูดว่าโรงพยาบาลฉีดผิด
พูดแต่ว่าได้ปรึกษาคุณหมอและเภสัชกรแล้ว จะใช้ protocol แบบสถานเสาวภา โดยจะฉีดเพิ่มอีกเข็มในวันที่ 21 จะให้ทำนัดเพิ่มเลยหรือไม่
ดิฉันจึงจี้ว่าตกลงดิฉันเข้าใจถูกใช่ไหมว่าฉีดแบบ 0 3 มันไม่ครบ พยาบาลบอกว่าอันนั้นเป็นสำหรับฉีดกระตุ้นผู้ที่มีภูมิแล้วโดนกัด
ดิฉันบอกว่าแต่ดิฉันแจ้งหมอไปชัดเจนแล้วว่าไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และไม่ได้โดนกัด
พยาบาลบอกว่าขออภัยในความคลาดเคลื่อน แล้วก็บอกว่าที่ฉีดเข็มสองในวันที่ 3 นั้นใช้แทนวันที่ 7 ได้ จะนัดให้ไปฉีดเพิ่มวันที่ 21
ดิฉันบอกว่ายังไม่ต้องนัด ดิฉันจะคุยกับสถานเสาวภาก่อนและคงเข้าไปฉีดที่สถานเสาวภาเนื่องจากไม่ไว้ใจหมอของรพ.พญาไทแล้ว
โดยปกติดิฉันเป็นคนไข้ที่ไว้ใจหมอ เพราะมีเพื่อนเป็นหมอหลายคน ดิฉันมักจะไม่พอใจเมื่อเห็นใครทำตัว "รู้ดีกว่าหมอ"
และนึกเถียงแทนทุกครั้งที่ได้ยินคนบอกว่า "เลิกไปแล้วรพ.พญาไทน่ะ"
แต่ครั้งนี้ถือว่าหมอของรพ.พญาไททำลายศรัทธาที่ดิฉันเคยมีอย่างสิ้นเชิง ทั้งต่อหมอและต่อรพ.
ต่อไปดิฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าดิฉันได้รับยา ได้รับการรักษาที่ถูกต้องสมควร
จริงอยู่หมอไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่ถ้าหมอไม่รู้ไม่แน่ใจ ก็ควรจะมีขั้นตอนการปรึกษาระหว่างกัน
ยิ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่น่าจะเป็นเรื่องซับซ้อนถึงขนาดฉีดผิดได้
ิยิ่งไปกว่านั้นอีกวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโรคที่กำลังระบาด รพ.ก็ควรจะมี journal ให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้อ่านทันที
นี่รอคนไข้รู้เอง สงสัยเองว่าตัวเองได้รับยาไม่ครบ ไม่ได้ผล
กรณีนี้ถ้าดิฉันไม่เคยอ่านบทความของสถานเสาวภาที่กำลังโด่งดัง ดิฉันก็จะไม่เอะใจเช่นกัน และคงไว้ใจหมอว่าสองเข็มคือครบแล้วพอแล้ว
ถ้าต่อมาฉันโดนกัดจริง ก็อาจจะไปให้ข้อมูลกับหมอคลาดเคลื่อนในตอนนั้นว่าตัวเองได้รับวัคซีนครบมาแล้ว
ยิ่งทำให้การรักษาคลาดเคลื่อนไปกันใหญ่
ถึงตอนนั้นมาเรียกร้องเอาความรับผิดชอบอะไรจากหมอและรพ.ก็คงทำไม่ได้ และก็คงคิดไม่ถึงด้วยว่าผิดพลาดตรงไหน
ดิฉันรบกวนฝากให้บุคลากรและผู้บริหารรพ.พญาไทได้คิด ว่าจะป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร
และฝากบุคคลทั่วไปที่ไม่อยากทำตัว "รู้ดีกว่าหมอ" แบบดิฉัน ว่าอย่าปากหนัก แย้งไปเถอะว่าอ่านมา หมอจะแย้งจะอธิบายว่ายังไงค่อยคุยกัน
หมอจะอารมณ์เสียว่าทำไมเชื่อโซเชียลมากกว่าหมอ ก็ช่างหมอแล้ว
จะได้ไม่ต้องมาอารมณ์เสียและเสียเวลาแบบดิฉันครั้งนี้
รพ.พญาไท 1 หมอชุ่ยมาก
เนื่องจากคิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงเพราะสุนัขจรแถวบ้านมักจะมาเล่นมาเลียเป็นประจำ
และเพิ่งทราบจากข้อมูลของสถานเสาวภาว่าสามารถฉีดป้องกันล่วงหน้าได้ไม่ต้องรอโดนกัด
ดิฉันและแฟนเข้าไปฉีดที่รพ.พญาไท1 ซึ่งพยาบาลหลายคนดูงง นึกว่าดิฉันโดนกัด พอยืนยันว่ามาฉีดป้องกันก็งงกัน
พอพบคุณหมอ คุณหมอก็พูดอธิบายดี ว่ามีการฉีดแบบ pre exposure
ดิฉันย้ำคุณหมออีกครั้งว่าดิฉันไม่เคยฉีดมาก่อน และไม่ได้โดนกัด
คุณหมอตกลงให้ฉีดสองเข็มวันที่ 0 และ 3 นับวันที่ 10 มี.ค.เป็นวันเริ่มวันที่ 0
ถึงตอนนี้ดิฉันเอะใจ เพราะที่อ่านข้อมูลจากสถานเสาวภาระบุว่าฉีดวันที่ 0 7 21หรือ28
ตอนนั้นก็คิดว่าเอาเถอะ เราจะรู้ดีกว่าหมอได้อย่างไร อาจจะเป็นยาตัวใหม่ที่ฉีดจำนวนครั้งน้อยลงก็ได้
จนวันนี้ วันที่ 13 มี.ค. ไปฉีดเข็มที่สอง (นับเป็นวันที่ 3)มา ฉีดกับพยาบาลไม่ได้พบหมอ
เมื่อฉีดเสร็จ พยาบาลก็บอกว่าครบแล้ว ป้องกันได้ 1 ปี
แฟนดิฉันเห็นว่ากล่องยาก็เป็นยาตัวเดียวกับที่สถานเสาวภาบอก เมื่อกลับแล้วคาใจก็เลยโทรกลับไปถามรพ.อีกรอบว่าฉีดแค่นี้จริงหรอ
พยาบาลก็ยืนยันว่าเขาทำตาม protocol ปกติ ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าสงสัยจะปรึกษาคุณหมอให้แล้วจะติดต่อมา
ดิฉันสงสัยว่าเราจะมีภูมิคุ้มกันจริงหรือไม่ จึงถามเพื่อนหลายคนที่เป็นหมอซึ่งเพื่อนก็ได้ให้ความเห็นว่าควรฉีดเพิ่มอีกเข็ม สองเข็มไม่พอ
และได้โทรสอบถามที่สถานเสาวภา เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟัง เจ้าหน้าที่ก็งง บอกว่า protocol 0 3 นั้นสำหรับฉีดกระตุ้นผู้ที่เคยได้รับวัคซีนแล้ว
เจ้าหน้าที่ได้ปรึกษาหมอแล้วบอกว่าให้เข้าไปที่สถานเสาวภาเพื่อไปฉีดเพิ่มในวันที่ 7 และ 28
ดิฉันโทรไปที่รพ.พญาไทอีกรอบเพื่อยืนยันข้อมูลที่ดิฉันได้รับจากสถานเสาวภา พยาบาลพูดวกไปวนมาเลี่ยงที่จะพูดว่าโรงพยาบาลฉีดผิด
พูดแต่ว่าได้ปรึกษาคุณหมอและเภสัชกรแล้ว จะใช้ protocol แบบสถานเสาวภา โดยจะฉีดเพิ่มอีกเข็มในวันที่ 21 จะให้ทำนัดเพิ่มเลยหรือไม่
ดิฉันจึงจี้ว่าตกลงดิฉันเข้าใจถูกใช่ไหมว่าฉีดแบบ 0 3 มันไม่ครบ พยาบาลบอกว่าอันนั้นเป็นสำหรับฉีดกระตุ้นผู้ที่มีภูมิแล้วโดนกัด
ดิฉันบอกว่าแต่ดิฉันแจ้งหมอไปชัดเจนแล้วว่าไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน และไม่ได้โดนกัด
พยาบาลบอกว่าขออภัยในความคลาดเคลื่อน แล้วก็บอกว่าที่ฉีดเข็มสองในวันที่ 3 นั้นใช้แทนวันที่ 7 ได้ จะนัดให้ไปฉีดเพิ่มวันที่ 21
ดิฉันบอกว่ายังไม่ต้องนัด ดิฉันจะคุยกับสถานเสาวภาก่อนและคงเข้าไปฉีดที่สถานเสาวภาเนื่องจากไม่ไว้ใจหมอของรพ.พญาไทแล้ว
โดยปกติดิฉันเป็นคนไข้ที่ไว้ใจหมอ เพราะมีเพื่อนเป็นหมอหลายคน ดิฉันมักจะไม่พอใจเมื่อเห็นใครทำตัว "รู้ดีกว่าหมอ"
และนึกเถียงแทนทุกครั้งที่ได้ยินคนบอกว่า "เลิกไปแล้วรพ.พญาไทน่ะ"
แต่ครั้งนี้ถือว่าหมอของรพ.พญาไททำลายศรัทธาที่ดิฉันเคยมีอย่างสิ้นเชิง ทั้งต่อหมอและต่อรพ.
ต่อไปดิฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าดิฉันได้รับยา ได้รับการรักษาที่ถูกต้องสมควร
จริงอยู่หมอไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่ถ้าหมอไม่รู้ไม่แน่ใจ ก็ควรจะมีขั้นตอนการปรึกษาระหว่างกัน
ยิ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่น่าจะเป็นเรื่องซับซ้อนถึงขนาดฉีดผิดได้
ิยิ่งไปกว่านั้นอีกวัคซีนที่เกี่ยวข้องกับโรคที่กำลังระบาด รพ.ก็ควรจะมี journal ให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องได้อ่านทันที
นี่รอคนไข้รู้เอง สงสัยเองว่าตัวเองได้รับยาไม่ครบ ไม่ได้ผล
กรณีนี้ถ้าดิฉันไม่เคยอ่านบทความของสถานเสาวภาที่กำลังโด่งดัง ดิฉันก็จะไม่เอะใจเช่นกัน และคงไว้ใจหมอว่าสองเข็มคือครบแล้วพอแล้ว
ถ้าต่อมาฉันโดนกัดจริง ก็อาจจะไปให้ข้อมูลกับหมอคลาดเคลื่อนในตอนนั้นว่าตัวเองได้รับวัคซีนครบมาแล้ว
ยิ่งทำให้การรักษาคลาดเคลื่อนไปกันใหญ่
ถึงตอนนั้นมาเรียกร้องเอาความรับผิดชอบอะไรจากหมอและรพ.ก็คงทำไม่ได้ และก็คงคิดไม่ถึงด้วยว่าผิดพลาดตรงไหน
ดิฉันรบกวนฝากให้บุคลากรและผู้บริหารรพ.พญาไทได้คิด ว่าจะป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร
และฝากบุคคลทั่วไปที่ไม่อยากทำตัว "รู้ดีกว่าหมอ" แบบดิฉัน ว่าอย่าปากหนัก แย้งไปเถอะว่าอ่านมา หมอจะแย้งจะอธิบายว่ายังไงค่อยคุยกัน
หมอจะอารมณ์เสียว่าทำไมเชื่อโซเชียลมากกว่าหมอ ก็ช่างหมอแล้ว
จะได้ไม่ต้องมาอารมณ์เสียและเสียเวลาแบบดิฉันครั้งนี้