สวัสดีครับชาวพันธิปทุกท่าน ผมเจ้าของโรงฆ่าสัตว์คนเดิม (เพิ่มเติมคือตอนนี้เริ่มทำศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือด้วย)
หลังจากที่ได้เขียนกระทู้แนะนำ "คู่มือการไถ่ชีวิตโค-กระบือ" กันไปก่อนนี้
ปรากฎว่ากระทู้ได้รับการตอบรับจากสมาชิกอย่างดีจนได้เป็นกระทู้ Panthip Pick อยู่ช่วงนึง
อีกทั้งยังมีหลายท่านติดต่อสอบถามเข้ามาขอคำแนะนำและสอบถามเพิ่มเติมจำนวนมาก
ตอนนี้ผ่านไป 1 เดือน จึงขออนุญาตตั้งกระทู้เพิ่มเพื่อเจาะประเด็นให้ละเอียดลงไปในแต่ละส่วนที่คนส่วนใหญ่ติดต่อมาสอบถามเพิ่ม
หมายเหตุ: ท่านใดยังไม่ได้อ่านกระทู้เก่า "คู่มือไถ่ชีวิตโค-กระบือ" เชิญได้ที่ https://ppantip.com/topic/37366584
สำหรับ 1 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการจุดประกายจากชาวพันธิป
ศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โรงฆ่าสัตว์วัฒนามีทโปรดัก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี สามารถช่วยชีวิตน้องวัวได้รวม 36 ตัว
ตอนนี้น้องๆยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจกักโรคก่อนส่งมอบให้เกษตรกร
ในโครงการ "ธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ" ต่อไป
******************
ท่านใดสนใจร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ หรือขอคำปรึกษาเชิญได้ที่
FBเพจ : ศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โรงฆ่าสัตว์วัฒนามีทโปรดัก
Line ID: @savememorr
098-564-6636 (AIS)
095-827-6263 (True)
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ด้วยเหตุที่ว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้นำน้องไปเลี้ยงเอง แต่จะต้องฝากน้องวัวไว้กับคนอื่นๆช่วยเลี้ยงเค้าแทน
ดังนั้น เราจึงควรต้องมีการคัดเลือกน้องๆสักนิดนึงก่อนที่เราจะไถ่ชีวิตเค้าไปส่งต่อให้เกษตรกรเลี้ยง
ท่องไว้ให้ขึ้นใจครับ "วัว-ควายต้องดี น้องเค้าถึงจะมีชีวิตรอด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีท่านนึงโทรมาปรึกษาว่าเอาน้องไปเลี้ยงเองแล้วกลายเป็นภาระของคุณแม่ที่ต่างจังหวัดซึ่งอายุก็มากขึ้นแล้ว เริ่มดูแลไม่ไหว ตอนนี้ยังหาผู้ที่จะมารับช่วงต่อน้องไปอีกทีนึง T.T
ลองคิดกันดู นี่ขนาดเราเลี้ยงกันเองด้วยความสงสารไม่ได้หวังประโยชน์อะไรนะครับ บางทีเรายังไม่ไหว
แล้วเกษตรกรที่เค้าต้องการผลตอบแทนจากการเลี้ยงหล่ะ เค้าจะต้องได้แค่ไหนถึงจะยอมเลี้ยงน้องให้เราโดยไม่แอบเอาไปขาย
แต่เราจะรู้วิธีการเลือกน้องได้อย่างไร? แล้วราคาแบบไหนถึงเหมาะสม?
ให้ทุกท่านอ้างอิงตามที่เคยแนะนำในกระทู้ก่อนเลยครับ
เราควรเลือกน้องที่อายุน้อย ไม่แคระแกรน เหมาะแก่การผสมพันธุ์ สามารถให้ลูกได้โดยเร็วที่สุด
วิธีตรวจสอบอายุ
โค-กระบือ สามารถมีอายุยืนยาวได้มากถึง 18-20ปี แต่ช่วงที่เหมาะแก่การเจริญพันธุ์จะอยู่ในช่วงต้นๆหลังจาก 2 ขวบเป็นต้นไป
ฉะนั้นแล้วถ้าอิงตามเงื่อนไขของธนาคารโค-กระบือฯ ช่วงอายุที่ดีที่สุดน่าจะอยู่ในช่วง 1ปีครึ่ง ถึง 3ปี เพราะจะได้โคอายุน้อยสามารถใช้เป็นแม่พันธ์ุได้อีกหลายปี โดยเราสามารถตรวจสอบอายุโคได้ดังนี้
1.ดูคร่าวๆจากโครงร่าง หน้าตา การมีเขา
วัวควายเค้าก็มีหน้าแก่หน้าอ่อนครับ เราพอจะสามารถแยกแยะดูออกได้บ้าง
บางตัวขนาดตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าแก่ เขายาวมาเลย พวกนี้เค้าจะเป็นพันธุ์พื้นเมืองครับ มีลักษณะแคระแกรน ไม่เหมาะแก่การที่เกษตรกรนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ แต่ต้องระวังนะครับ อย่าสังเกตุจากความยาวเขาเป็นหลัก เพราะบางทีวัวก็ไม่มีเขาเนื่องมาจากสายพันธุ์ หรือมีการสูญเขาตั้งแต่เล็ก ฉะนั้นวัวแก่ๆอาจจะไม่ได้มีเขายาวก็ได้
หน้าอ่อนแบบนี้ ยังสาวๆเอาะๆค่ะ
2.ตรวจจากฟัน
เราสามารถตรวจสอบอายุได้จากการสังเกตุฟันแท้ ฟันน้ำนม และการผุกร่อนของฟัน
โดยฟันน้ำนมจะมีซี่เล็กกว่าฟันแท้มาก และจะเริ่มหลุดโดยมีฟันแท้ขึ้นแทนที่ตามอายุ
ฟันน้ำนมทั้งหมด - อายุไม่เกิน 18-24 เดือน
ฟันแท้ 1 คู่ - อายุ 2 ปี
ฟันแท้ 2 คู่ - อายุ 3 ปี
ฟันแท้ 3 คู่ - อายุ 4 ปี
ฟันแท้ 4 คู่ - อายุ 4 ปีขึ้นไป
หลังจากนั้นฟันแท้จะเริ่มมีการผุกร่อน มีร่องฟัน (ยิ่งผุกร่อนมาก ยิ่งมีอายุมาก)
ตัวนี้อายุน้อย ฟันน้ำนมยังอยู่ครบ โครงร่างดี สูง กล้ามเนื้อสวย
การตรวจสอบโครงร่าง
1.การดูรูปร่างส่วนสูง
เมื่อเราประเมินอายุของวัวแล้ว เราต้องมาดูว่าขนาดส่วนสูงเค้าสัมพันธ์ุกับอายุหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้วัวพันธ์ุดีไม่แคระแกรนไปเลี้ยงต่อ
สำหรับความสูงของวัว เราจะวัดกันที่บริเวณซอกด้านหลังของขาหน้า สูงขึ้นไปถึงกลางลำตัว (บริเวณจุดต่ำสุดด้านหลังหนอก)
โดยทั่วไปถ้าเป็นวัวพันธุ์พื้นเมืองจะมีลักษณะแคระแกรน แม้จะโตเต็มที่หรือแก่แล้วก็จะมีความสูงแค่ระดับ 1.00-1.20 เมตรเท่านั้น
มีลักษณะ ขาสั้น ตัวสั้น ท้องกาง ไม่เหมาะแก่การนำไปทำแม่พันธุ์
ภาพนี้เป็นวัวพื้นเมืองทั้งหมด ความสูงอยู๋ในระดับแค่ 1 - 1.10 เมตร
กลับกันวัวลูกผสมพันธ์ุบราห์มันหรือชโรเล่ย์จะมีโครงร่างใหญ่กว่า สูงกว่า ช่วงตัวยาวกว่า มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์ โดยช่วงอายุ 1-2ขวบ ก็สามารถมีความสูงตั้งแต่ 1.10-1.20 เมตรขึ้นไปแล้ว และจะโตขึ้นมากกว่านั้นตามช่วงอายุ
สองภาพนี้เป็นวัวลูกผสม มีความสูงและช่วงตัวที่ยาว เหมาะแก่การไปขยายพันธุ์
2.การดูความสมบูรณ์
วัวที่ผอมเกินไปอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นขาดสารอาหาร หรืออมโรค
กรณีที่ผอมไม่มาก ขาดสารอาหาร เรายังสามารถช่วยโดยการให้ยาบำรุงและขุนอาหารโปรตีนสูงได้ โดยต้องใช้เวลาสักระยะนึง
แต่ในกรณีที่ผอมติดกระดูกไม่มีแรงเดิน ไม่แนะนำให้ซื้อเค้ามาเพราะอาจตายตั้งแต่ตอนเคลื่อนย้ายขนส่ง หรือนำไปเลี้ยงต่อก็รอดยาก
บางครั้งกรณีที่ผอมมากๆ อาจมีโรคติดต่อเช่นวัณโรคอยู่ ซึ่งจะติดต่อไปยังวัวอื่นๆในฝูงด้วย
ตัวนี้ผอมมาก ต้องตรวจโรควัณโรค พร้อมฉีดยาบำรุงรอดูอาการ
การตรวจสุขภาพ
1.การตรวจสุขภาพภายนอก
เบื้องต้นเราต้องดูก่อนว่าน้องวัวที่เราจะไถ่ชีวิตสมบูรณ์แค่ไหน มีอาการเดินเจ็บขาหรือเขย่งหรือไม่ บางลักษณะจะเป็นกรรมพันธ์ุส่งต่อถึงลูกหลานได้
อย่างในภาพด้านล่าง วัวมีอาการเจ็บขาเดินเขย่ง พอสังเกตุดูเห็นแผลที่กีบเท้า ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว ต้องทำการกักโรคและรักษาโดยด่วน หากไม่รักษาจะเป็นแผลเน่ากีบเท้าหลุด ปากเป็นแผลจนไม่สามารถกินอาหารได้ และอาจตายได้
ฉะนั้นดูให้ดีก่อนไถ่ชีวิตเค้าไปปล่อยนะครับ ทำบุญอาจได้บาปไม่รู้ตัว เพราะเอาโรคระบาดไปปล่อยให้สัตว์ตัวอื่น
2.การเจาะเลือดตรวจโรค
โรคที่สำคัญที่สุดเลยคือ
โรคแท้งติดต่อ ซึ่งเป็นโรคอันตรายสามารถติดต่อสู่คนได้ด้วย
อาการในคนจะเป็นไข้ขึ้นๆลงๆ ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยโรคของหมอทั่วไป (มีกรณีที่ตายไปแล้วเพิ่งจะทราบสาเหตุว่าติดเชื้อตัวนี้)
โดยโรคนี้เราไม่สามารถดูจากสภาพภาพนอกได้เลย เพราะในตัวสัตว์เองก็จะมีอาการเป็นๆหายๆ แต่จะมีการฝังโรคไว้ในตัวพร้อมแพร่ไปยังตัวอื่นๆได้ตลอดเวลา โรคนี้ไม่มีการรักษา ทางปศุสัตว์จะต้องสั่งฝังทำลายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ผมเคยเจอเคสที่วัวที่คนไถ่ชีวิตมาแล้วแท้งลูกตลอด สุดท้ายตรวจเจอโรคนี้ก็ต้องทำตามกฏหมายปศุสัตว์กันไป เสียดายที่เราไม่ได้ตรวจกันก่อนไถ่ชีวิตเค้ามา
3.การล้วงตรวจมดลูก
การล้วงตรวจมดลูกก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเช็คระบบสืบพันธุ์ว่าเค้ายังสมบูรณ์ดีหรือไม่ ถ้าเลี้ยงไม่ได้ลูกเกษตรกรเงินขาดมือก็แอบเอาวัวเราไปขายแน่ๆ
อีกกรณีนึงคือการสร้างความน่าสงสารมาเอารัดเอาเปรียบผู้ใจบุญโดยอ้างว่าเป็นวัวท้อง
ลองคิดกลับกันดูง่ายๆนะครับ ถ้าเค้ามั่นใจว่าวัวท้อง ทำไมถึงต้องเอาไปโรงเชือดเพื่อขายเป็นเนื้อในราคาวัว1ตัว
แต่ถ้าเอาเข้าไปขายในตลาดนัดสามารถขายได้ในราคาวัวแม่+ลูก ฉะนั้นแล้วที่เค้าบอกว่าท้องเป็นเพียงการสังเกตุและคาดเดาเท่านั้น
ถ้ามาโก่งราคาขายให้ท่าน ท่านอย่าได้ไปยอม ต้องขอให้มีคุณหมอหรือสัตวบาลเข้ามาล้วงตรวจดูก่อนว่าท้องจริงหรือไม่
ราคาที่เหมาะสม
ท่องไว้ครับ
ของดี ราคาถูก = ไม่มีจริง ถ้ามาแบบวัวตัวละหมื่นกว่าบาท ท่านก็จะได้วัวเด็ก หรือไม่ก็วัวแคระๆแกรนๆ ยืนกินหญ้ายังเซ
ส่วนราคาที่เหมาะสมควรจะเป็นเท่าไหร่ ผมขอนำตัวอย่างราคาจากตามกลุ่มขายวัวต่างๆมาเพื่อเป็นแนวทางให้นะครับ จะได้ไม่ถูกหลอกโก่งราคา
ลองเสิร์ชในเฟสบุ๊คเลยครับ มีหลายกลุ่มมาก สามารถเทียบเคียงราคาได้ เช่น
พ่อพันธ์ุ แม่พันธ์ุ ไซส์ใหญ่ยักษ์ก็ราคาไปไกลเลยครับ ขนาดตัวใหญ่น้ำหนักเยอะได้เนื้อเยอะ ถึงเวลาปลดระวางเค้าก็เอาไปส่งโรงเชือด
มาดูไซส์วัวขุนกลางๆ ที่เค้าเอาไปเชือดส่งเขียงทั่วไปกันบ้าง จะเห็นได้ว่าราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ขนาดตัวครับ
ทีนี้มาดูไซส์ที่เหมาะให้เราไถ่ชีวิตเค้าบ้าง พร้อมขยายพันธุ์ ราคาไม่สูงจนเกินไป เลี้ยงแล้วโตได้อีกเยอะ
วัวไซส์นี้หรือเล็กกว่านี้เค้าก็เอามาเข้าโรงเชือดกัน ซึ่งจริงๆยังสามารถเลี้ยงต่อไปได้อีกหลายปี
พวกสาวน้อยแบบนี้ก็ดีครับ เลี้ยงอีกสัก 6-10 เดือนพร้อมมีลูก (เกษตรกรน่าจะยังพอรอไหว)
บางทีพวกนายฮ้อยเค้าซื้อมายกฝูงส่งโรงเชือด ก็จะมีพวกแบบนี้ติดมาครับ ถ้าเค้าพอมีทุนก็จะคัดเก็บเลี้ยงไว้ ถ้าไม่มีทุนก็ขายโรงเชือดไปหมด น่าเสียดาย จริงๆยังไม่คววรถึงเวลาของเค้าเลยครับ
เด็กๆแบบนี้สวยครับ พึ่งหย่านมไม่นาน ต้องเลี้ยงอีกเป็นปีกว่าจะได้ลูก ถ้าเกษตรกรที่รับไปเค้ามีกำลังก็สามารถส่งให้เค้าเลี้ยงต่อได้
ถ้าท่านเจอแบบถูกๆก็จะแม่แก่ๆ แกรนๆ เตี้ยๆ ประมาณนี้
ซึ่งก็ไม่น่าจะได้ลูกเพิ่มอีกเท่าไหร่แล้ว
โดยสรุปคร่าวๆนะครับ (ราคา ณ ปัจจุบัน มีนาคม61)
วัวหย่านม 4-6 เดือน ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 15,000
วัวอายุ 8-12 เดือน 15,000 - 22,0000
วัวอายุ 12-24 เดือน 20,000 - 30,000
เกินกว่านั้นก็ตามขนาดตัวเลยครับ
แนะนำให้ท่านเดินทางไปดูวัวและเทียบเคียงราคาก่อนทำการไถ่ชีวิต
หรือถ้ามอบให้โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ก็สามารถวางใจได้เพราะมีกรรมการตรวจรับโค
ไถ่ชีวิตโค-กระบือ (คู่มือตอนที่ 2 : เลือกโคที่จะไถ่อย่างไร?) จากเจ้าของโรงฆ่าสัตว์
หลังจากที่ได้เขียนกระทู้แนะนำ "คู่มือการไถ่ชีวิตโค-กระบือ" กันไปก่อนนี้
ปรากฎว่ากระทู้ได้รับการตอบรับจากสมาชิกอย่างดีจนได้เป็นกระทู้ Panthip Pick อยู่ช่วงนึง
อีกทั้งยังมีหลายท่านติดต่อสอบถามเข้ามาขอคำแนะนำและสอบถามเพิ่มเติมจำนวนมาก
ตอนนี้ผ่านไป 1 เดือน จึงขออนุญาตตั้งกระทู้เพิ่มเพื่อเจาะประเด็นให้ละเอียดลงไปในแต่ละส่วนที่คนส่วนใหญ่ติดต่อมาสอบถามเพิ่ม
หมายเหตุ: ท่านใดยังไม่ได้อ่านกระทู้เก่า "คู่มือไถ่ชีวิตโค-กระบือ" เชิญได้ที่ https://ppantip.com/topic/37366584
สำหรับ 1 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการจุดประกายจากชาวพันธิป
ศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โรงฆ่าสัตว์วัฒนามีทโปรดัก อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี สามารถช่วยชีวิตน้องวัวได้รวม 36 ตัว
ตอนนี้น้องๆยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจกักโรคก่อนส่งมอบให้เกษตรกร
ในโครงการ "ธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ" ต่อไป
******************
ท่านใดสนใจร่วมไถ่ชีวิตโค-กระบือ หรือขอคำปรึกษาเชิญได้ที่
FBเพจ : ศูนย์ไถ่ชีวิตโค-กระบือ โรงฆ่าสัตว์วัฒนามีทโปรดัก
Line ID: @savememorr
098-564-6636 (AIS)
095-827-6263 (True)
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ด้วยเหตุที่ว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้นำน้องไปเลี้ยงเอง แต่จะต้องฝากน้องวัวไว้กับคนอื่นๆช่วยเลี้ยงเค้าแทน
ดังนั้น เราจึงควรต้องมีการคัดเลือกน้องๆสักนิดนึงก่อนที่เราจะไถ่ชีวิตเค้าไปส่งต่อให้เกษตรกรเลี้ยง
ท่องไว้ให้ขึ้นใจครับ "วัว-ควายต้องดี น้องเค้าถึงจะมีชีวิตรอด"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่เราจะรู้วิธีการเลือกน้องได้อย่างไร? แล้วราคาแบบไหนถึงเหมาะสม?
ให้ทุกท่านอ้างอิงตามที่เคยแนะนำในกระทู้ก่อนเลยครับ
เราควรเลือกน้องที่อายุน้อย ไม่แคระแกรน เหมาะแก่การผสมพันธุ์ สามารถให้ลูกได้โดยเร็วที่สุด
วิธีตรวจสอบอายุ
โค-กระบือ สามารถมีอายุยืนยาวได้มากถึง 18-20ปี แต่ช่วงที่เหมาะแก่การเจริญพันธุ์จะอยู่ในช่วงต้นๆหลังจาก 2 ขวบเป็นต้นไป
ฉะนั้นแล้วถ้าอิงตามเงื่อนไขของธนาคารโค-กระบือฯ ช่วงอายุที่ดีที่สุดน่าจะอยู่ในช่วง 1ปีครึ่ง ถึง 3ปี เพราะจะได้โคอายุน้อยสามารถใช้เป็นแม่พันธ์ุได้อีกหลายปี โดยเราสามารถตรวจสอบอายุโคได้ดังนี้
1.ดูคร่าวๆจากโครงร่าง หน้าตา การมีเขา
วัวควายเค้าก็มีหน้าแก่หน้าอ่อนครับ เราพอจะสามารถแยกแยะดูออกได้บ้าง
บางตัวขนาดตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าแก่ เขายาวมาเลย พวกนี้เค้าจะเป็นพันธุ์พื้นเมืองครับ มีลักษณะแคระแกรน ไม่เหมาะแก่การที่เกษตรกรนำไปเลี้ยงขยายพันธุ์ แต่ต้องระวังนะครับ อย่าสังเกตุจากความยาวเขาเป็นหลัก เพราะบางทีวัวก็ไม่มีเขาเนื่องมาจากสายพันธุ์ หรือมีการสูญเขาตั้งแต่เล็ก ฉะนั้นวัวแก่ๆอาจจะไม่ได้มีเขายาวก็ได้
หน้าอ่อนแบบนี้ ยังสาวๆเอาะๆค่ะ
2.ตรวจจากฟัน
เราสามารถตรวจสอบอายุได้จากการสังเกตุฟันแท้ ฟันน้ำนม และการผุกร่อนของฟัน
โดยฟันน้ำนมจะมีซี่เล็กกว่าฟันแท้มาก และจะเริ่มหลุดโดยมีฟันแท้ขึ้นแทนที่ตามอายุ
ฟันน้ำนมทั้งหมด - อายุไม่เกิน 18-24 เดือน
ฟันแท้ 1 คู่ - อายุ 2 ปี
ฟันแท้ 2 คู่ - อายุ 3 ปี
ฟันแท้ 3 คู่ - อายุ 4 ปี
ฟันแท้ 4 คู่ - อายุ 4 ปีขึ้นไป
หลังจากนั้นฟันแท้จะเริ่มมีการผุกร่อน มีร่องฟัน (ยิ่งผุกร่อนมาก ยิ่งมีอายุมาก)
ตัวนี้อายุน้อย ฟันน้ำนมยังอยู่ครบ โครงร่างดี สูง กล้ามเนื้อสวย
การตรวจสอบโครงร่าง
1.การดูรูปร่างส่วนสูง
เมื่อเราประเมินอายุของวัวแล้ว เราต้องมาดูว่าขนาดส่วนสูงเค้าสัมพันธ์ุกับอายุหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้วัวพันธ์ุดีไม่แคระแกรนไปเลี้ยงต่อ
สำหรับความสูงของวัว เราจะวัดกันที่บริเวณซอกด้านหลังของขาหน้า สูงขึ้นไปถึงกลางลำตัว (บริเวณจุดต่ำสุดด้านหลังหนอก)
โดยทั่วไปถ้าเป็นวัวพันธุ์พื้นเมืองจะมีลักษณะแคระแกรน แม้จะโตเต็มที่หรือแก่แล้วก็จะมีความสูงแค่ระดับ 1.00-1.20 เมตรเท่านั้น
มีลักษณะ ขาสั้น ตัวสั้น ท้องกาง ไม่เหมาะแก่การนำไปทำแม่พันธุ์
ภาพนี้เป็นวัวพื้นเมืองทั้งหมด ความสูงอยู๋ในระดับแค่ 1 - 1.10 เมตร
กลับกันวัวลูกผสมพันธ์ุบราห์มันหรือชโรเล่ย์จะมีโครงร่างใหญ่กว่า สูงกว่า ช่วงตัวยาวกว่า มีกล้ามเนื้อสมบูรณ์ โดยช่วงอายุ 1-2ขวบ ก็สามารถมีความสูงตั้งแต่ 1.10-1.20 เมตรขึ้นไปแล้ว และจะโตขึ้นมากกว่านั้นตามช่วงอายุ
สองภาพนี้เป็นวัวลูกผสม มีความสูงและช่วงตัวที่ยาว เหมาะแก่การไปขยายพันธุ์
2.การดูความสมบูรณ์
วัวที่ผอมเกินไปอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นขาดสารอาหาร หรืออมโรค
กรณีที่ผอมไม่มาก ขาดสารอาหาร เรายังสามารถช่วยโดยการให้ยาบำรุงและขุนอาหารโปรตีนสูงได้ โดยต้องใช้เวลาสักระยะนึง
แต่ในกรณีที่ผอมติดกระดูกไม่มีแรงเดิน ไม่แนะนำให้ซื้อเค้ามาเพราะอาจตายตั้งแต่ตอนเคลื่อนย้ายขนส่ง หรือนำไปเลี้ยงต่อก็รอดยาก
บางครั้งกรณีที่ผอมมากๆ อาจมีโรคติดต่อเช่นวัณโรคอยู่ ซึ่งจะติดต่อไปยังวัวอื่นๆในฝูงด้วย
ตัวนี้ผอมมาก ต้องตรวจโรควัณโรค พร้อมฉีดยาบำรุงรอดูอาการ
การตรวจสุขภาพ
1.การตรวจสุขภาพภายนอก
เบื้องต้นเราต้องดูก่อนว่าน้องวัวที่เราจะไถ่ชีวิตสมบูรณ์แค่ไหน มีอาการเดินเจ็บขาหรือเขย่งหรือไม่ บางลักษณะจะเป็นกรรมพันธ์ุส่งต่อถึงลูกหลานได้
อย่างในภาพด้านล่าง วัวมีอาการเจ็บขาเดินเขย่ง พอสังเกตุดูเห็นแผลที่กีบเท้า ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งสามารถระบาดได้อย่างรวดเร็ว ต้องทำการกักโรคและรักษาโดยด่วน หากไม่รักษาจะเป็นแผลเน่ากีบเท้าหลุด ปากเป็นแผลจนไม่สามารถกินอาหารได้ และอาจตายได้
ฉะนั้นดูให้ดีก่อนไถ่ชีวิตเค้าไปปล่อยนะครับ ทำบุญอาจได้บาปไม่รู้ตัว เพราะเอาโรคระบาดไปปล่อยให้สัตว์ตัวอื่น
2.การเจาะเลือดตรวจโรค
โรคที่สำคัญที่สุดเลยคือโรคแท้งติดต่อ ซึ่งเป็นโรคอันตรายสามารถติดต่อสู่คนได้ด้วย
อาการในคนจะเป็นไข้ขึ้นๆลงๆ ทำให้ยากต่อการวินิจฉัยโรคของหมอทั่วไป (มีกรณีที่ตายไปแล้วเพิ่งจะทราบสาเหตุว่าติดเชื้อตัวนี้)
โดยโรคนี้เราไม่สามารถดูจากสภาพภาพนอกได้เลย เพราะในตัวสัตว์เองก็จะมีอาการเป็นๆหายๆ แต่จะมีการฝังโรคไว้ในตัวพร้อมแพร่ไปยังตัวอื่นๆได้ตลอดเวลา โรคนี้ไม่มีการรักษา ทางปศุสัตว์จะต้องสั่งฝังทำลายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ผมเคยเจอเคสที่วัวที่คนไถ่ชีวิตมาแล้วแท้งลูกตลอด สุดท้ายตรวจเจอโรคนี้ก็ต้องทำตามกฏหมายปศุสัตว์กันไป เสียดายที่เราไม่ได้ตรวจกันก่อนไถ่ชีวิตเค้ามา
3.การล้วงตรวจมดลูก
การล้วงตรวจมดลูกก็เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเช็คระบบสืบพันธุ์ว่าเค้ายังสมบูรณ์ดีหรือไม่ ถ้าเลี้ยงไม่ได้ลูกเกษตรกรเงินขาดมือก็แอบเอาวัวเราไปขายแน่ๆ
อีกกรณีนึงคือการสร้างความน่าสงสารมาเอารัดเอาเปรียบผู้ใจบุญโดยอ้างว่าเป็นวัวท้อง
ลองคิดกลับกันดูง่ายๆนะครับ ถ้าเค้ามั่นใจว่าวัวท้อง ทำไมถึงต้องเอาไปโรงเชือดเพื่อขายเป็นเนื้อในราคาวัว1ตัว
แต่ถ้าเอาเข้าไปขายในตลาดนัดสามารถขายได้ในราคาวัวแม่+ลูก ฉะนั้นแล้วที่เค้าบอกว่าท้องเป็นเพียงการสังเกตุและคาดเดาเท่านั้น
ถ้ามาโก่งราคาขายให้ท่าน ท่านอย่าได้ไปยอม ต้องขอให้มีคุณหมอหรือสัตวบาลเข้ามาล้วงตรวจดูก่อนว่าท้องจริงหรือไม่
ราคาที่เหมาะสม
ท่องไว้ครับ ของดี ราคาถูก = ไม่มีจริง ถ้ามาแบบวัวตัวละหมื่นกว่าบาท ท่านก็จะได้วัวเด็ก หรือไม่ก็วัวแคระๆแกรนๆ ยืนกินหญ้ายังเซ
ส่วนราคาที่เหมาะสมควรจะเป็นเท่าไหร่ ผมขอนำตัวอย่างราคาจากตามกลุ่มขายวัวต่างๆมาเพื่อเป็นแนวทางให้นะครับ จะได้ไม่ถูกหลอกโก่งราคา
ลองเสิร์ชในเฟสบุ๊คเลยครับ มีหลายกลุ่มมาก สามารถเทียบเคียงราคาได้ เช่น
พ่อพันธ์ุ แม่พันธ์ุ ไซส์ใหญ่ยักษ์ก็ราคาไปไกลเลยครับ ขนาดตัวใหญ่น้ำหนักเยอะได้เนื้อเยอะ ถึงเวลาปลดระวางเค้าก็เอาไปส่งโรงเชือด
มาดูไซส์วัวขุนกลางๆ ที่เค้าเอาไปเชือดส่งเขียงทั่วไปกันบ้าง จะเห็นได้ว่าราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนัก ขนาดตัวครับ
ทีนี้มาดูไซส์ที่เหมาะให้เราไถ่ชีวิตเค้าบ้าง พร้อมขยายพันธุ์ ราคาไม่สูงจนเกินไป เลี้ยงแล้วโตได้อีกเยอะ
วัวไซส์นี้หรือเล็กกว่านี้เค้าก็เอามาเข้าโรงเชือดกัน ซึ่งจริงๆยังสามารถเลี้ยงต่อไปได้อีกหลายปี
พวกสาวน้อยแบบนี้ก็ดีครับ เลี้ยงอีกสัก 6-10 เดือนพร้อมมีลูก (เกษตรกรน่าจะยังพอรอไหว)
บางทีพวกนายฮ้อยเค้าซื้อมายกฝูงส่งโรงเชือด ก็จะมีพวกแบบนี้ติดมาครับ ถ้าเค้าพอมีทุนก็จะคัดเก็บเลี้ยงไว้ ถ้าไม่มีทุนก็ขายโรงเชือดไปหมด น่าเสียดาย จริงๆยังไม่คววรถึงเวลาของเค้าเลยครับ
เด็กๆแบบนี้สวยครับ พึ่งหย่านมไม่นาน ต้องเลี้ยงอีกเป็นปีกว่าจะได้ลูก ถ้าเกษตรกรที่รับไปเค้ามีกำลังก็สามารถส่งให้เค้าเลี้ยงต่อได้
ถ้าท่านเจอแบบถูกๆก็จะแม่แก่ๆ แกรนๆ เตี้ยๆ ประมาณนี้
ซึ่งก็ไม่น่าจะได้ลูกเพิ่มอีกเท่าไหร่แล้ว
โดยสรุปคร่าวๆนะครับ (ราคา ณ ปัจจุบัน มีนาคม61)
วัวหย่านม 4-6 เดือน ราคาอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 15,000
วัวอายุ 8-12 เดือน 15,000 - 22,0000
วัวอายุ 12-24 เดือน 20,000 - 30,000
เกินกว่านั้นก็ตามขนาดตัวเลยครับ
แนะนำให้ท่านเดินทางไปดูวัวและเทียบเคียงราคาก่อนทำการไถ่ชีวิต
หรือถ้ามอบให้โครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ก็สามารถวางใจได้เพราะมีกรรมการตรวจรับโค