คิดยังไงกับการแห่เที่ยวตามกระแสหนังหรือละคร

ผมว่ามันดูตลกอ่ะ พอหนังหรือละครสร้างกระแสฮิตขึ้นมา ก็จะมีคนกลุ่มนึงอยากเที่ยวตามรอยละครที่ตัวเองชอบ แห่กันไปเที่ยวจนวันหยุดรถติดยาวเป็นกิโล ที่จอดรถไม่พอ ส้วมเต็ม ขยะเกลื่อนไปทั่ว สถานที่โทรม แล้วก็มาบ่นเจอพ่อค้าแม่ค้าขึ้นราคา โดนโขก โดนฟันหัวแบะ แถมไปเที่ยวก็ไม่มีอะไรแค่ไปถ่ายรูปคู่กับสถานที่ เสร็จแล้วก็แห่กันกลับ ทั้งที่ปีนึงมี 365 วัน ก่อนละครหรือหนังจะฮิต ก็ไม่เห็นอยากจะไปกัน แบบนี้ผมว่าสร้างผลเสียกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมากกว่าผลดี

ล่าสุดก็ตามรอยละครดัง "บุพเพสันนิวาส" ขนาดแต่งชุดไทยสไบเฉียงถือร่มกระดาษสาบังแดด ไปนั่งล้อมวงกินหมูกะทะ กับมะม่วงน้ำปลาหวาน เออ...เอากะพวกนางสินะ แล้วก็ถ่ายรูปโพสลงโซเชี่ยล แต่ไปแล้วได้อะไรกลับมาก็ไม่มีนะ แค่บรรยากาศว่านี่ฉันไปแอคชั่นแบบการะเกดมา
เคยมีมั้ยที่จะแวะพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ดูสิ่งของโบราณ อ่านประวัติที่มา ศึกษาสถานที่ ดื่มด่ำซึมซาบความเป็นอยุธยา มรดกโลกทางวัฒนธรรม

เคยเห็นแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็จะชอบแต่งตัวแบบเค้าแล้วถ่ายรูป แต่คนพื้นเมืองก็มีบ้างที่แต่งตัวตามเทศกาล หรือดินแดนที่เขาแต่งแบบนั้นกันเป็นเรื่องปรกติ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น ก็จะมีให้เห็นบ้าง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นชุดที่ดัดแปลงหรือออกแบบให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ การใช้งาน ไม่ใช่แบบที่เราเห็นกันในงานอุ่นไอรักหรือที่เคยเห็นแต่งไปเดินตลาด เดินสยามพารากอนก่อนนี้ คือชุดใหญ่ไฟกระพริบกันเลยทีเดียว

หลายคนบอกว่าภูมิใจที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย รักษามรดก แต่มันไม่ใช่นะกะแค่แต่งวันสองวัน แถมเป็นชุดเช่ามาซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วแฟชั่นนั้นๆ ก็ผ่านมาเป็นร้อยปีแล้ว ฝรั่งก็ไม่ได้สวมกระโปรงทรงสุ่มไก่ แต่งตัวแบบสมัยพระนางวิกตอเรียเดินถนนกันแล้ว
ถ้าปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับสังคมปัจจุบัน ดีไซน์ให้เข้ากับสภาพอากาศและการใช้ชีวิตเร่งรีบก็โอเคนะ คนไทยยุคนี้ไม่ได้มานั่งร้อยดอกไม้ประดิษฐ์พานพุ่ม ทำขนมไทย ละเลงขนมเบื้องกันแล้ว
ผ้านุ่งไทย ออกแบบให้เป็นรูปแบบร่วมสมัย ผมก็เห็นมีสาวๆ หลายคนนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้สวยงาม ไม่ดูเป็นนางสีดา นางเบญจกายกันแบบหลายคนทำ
ทีงานสงกรานต์ น่าจะสวมเสื้อผ้าอนุรักษ์วัฒนธรรม แต่ก็เปล่า ส่วนใหญ่จะนุ่งแบบที่เห็นๆ กันทุกปี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่