แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกาในต่างประเทศค่ะ

สัวสดีค่ะ
วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าอเมริกาในต่างประเทศนะคะ ^^
ปล. ด้วยความที่เรามีวีซ่าใบอยู่ของประเทศที่เราอยู่ตอนนี้ เลยอาจจะเป็นส่วนที่ทำให้เรื่องผ่านง่ายขึ้น แต่เรามาแค่แชร์ประสบการณ์ไม่ได้จะมาทำอวดรู้อวดดีนะคะ เผื่อสำหรับท่านที่อยู่ต่างประเทศแต่อยากไปอเมริกา อาจจะอยากรู้บ้างเลยเล่าประสบการณ์ค่ะ
เริ่มกันเลยค่ะ
เรื่องของเรื่องคือเราต้องเดินทางไปอเมริกากับทางโรงเรียนค่ะ เป็นการเดินทางเพื่อไปทำโปรเจ็คเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของUSA ค่ะ สถานที่ที่เราจะไปคือนิวยอร์กค่ะ ไปอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์
ถึงเราจะมีวีซ่าใบอยู่ของประเทศที่เราอยู่ แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องทำวีซ่าและปัญหาหนักเลยคือ โรงเรียนไม่ยอมออกใบรับรองนักเรียนและไม่ยอมช่วยเรื่องวีซ่าเลย!!!
เราก็เอาแล้ว จะทำยังไง เพราะโปรเจ็คดีมันส่งผลต่อการเรียนจบของเราด้วย เราเลยเริ่มค้นหาทางพันทิปและโทรไปสอบถามVISA service ที่น๊านนานกว่าจะรับ😂
เรารอสายประมารครึ่งชั่วโมง จนเขารับก็เลยอธิบายให้เค้าฟัง ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกมาว่า “ให้กรอกใบวีซ่าDS-160” เราก็งง เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติม ง่ายๆเลยคือกรอกวีซ่าทำเรื่องทุกอย่างเหมือนเวลาที่คนไทยในประเทศไทยจะไปขอวีซ่าที่สถานทูต ต่างกันแค่ของเราเป็นสถานทูตในประเทศที่เราอยู่

จากนั้นเราก็ไปเจอกระทู้สอนวิธีกรอกแบบฟอร์ม เราเลยศึกษาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารอะไรต่างๆ จากนั้นเราก็กรอกข้อมูลทุกอย่างเสร็จ
พอเสร็จแล้วเราก็จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าประมาณห้าพันบาทเศษๆ (แปลจากค่าเงินประเทศเรานะคะ) และได้รับใบยืนยันการสัมภาษณ์มาเรียบร้อย
เราได้วันสัมภาษณ์ตอนนั้นเป็นวันจันทร์ เวลา 10:45
เอกสารที่เราเตรียมไปคือ
1. ใบรับรองจากโรงเรียน (เราไปตีกับครูที่จะเดินทางไปด้วย จนได้มันมาได้😒)
2.วีซ่ามบอยู่ของประเทศนั้นๆ (อันนี้สำคัญมาก!! แต่วันที่เราไปสัมภาษณ์วีซ่าใบอยู่ดันหมดอายุพอดี ซึ่งตอนไปสัมภาษณ์กำลังอยู่ในช่วงต่อวีซ่า)
3.พาสปอร์ตทุกเล่มที่มี (เห็นกระทู้อื่นเขียนให้เอาไปเราเลยเอาไปเผื่อค่ะ)
4.รูปบัตรสำหรับทำวีซ่า (จริงๆถ้ารุปที่ใช้กรอกDS-160 ดีอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นค่ะ แต่แนะนำให้เอาไปเผื่อจะได้ไม่เสียเวลา)
5.เอกสารรับรองเงินเดือน (เราทำงาน McD ค่ะ เงินเดือนก็อาจจะไม่เยอะเหมือนคนทำงานทั้วไปเพราะเป็นแค่Part-time แต่ก็ปริ๊นไปค่ะ)
6.เอกสารรับรองการทำงาน (อันนี้เราไม่ได้เอาไป เนื่องจากหัวหน้าลืมปริ๊นให้...)
7.ที่อยู่ของประเทศนั่นๆ

มาถึงวันสัมภาษณ์ เตรียมตัวอย่างดี แต่งตัวอย่างดี แต่ดั๊นนนน เกิดเหตุสุดวิสัย เผลอนั่งกิน McDonalds’s (ที่ตัวเองทำงานนี่แหละ555) จนลืมดูเวลารถไฟ รถไฟไวสุดที่เราสามารถขึ้นได้คือจะไปถึงสถานทูต 10:40!!
ด้วยความประมาทของตัวเอง ทำให้ต้องวิ่งแบบสุดๆเลย วิ่งไม่พอดั๊นขึ้นรถเมล์ผิดด้านอีก โชคดีที่ว่าสถานทูตอยู่ไม่ไกลจากสถานนีเท่าไหร่ เลยวิ่งแบบสุดขีดจำกัดน้ำหนักลดเลยทีเดียว😂 (เวอร์ละ)
พอไปถึง มีคิวพอประมาณ แล้วคือวันนั้นอากศหนาวมาก พี่เจ้าหน้าที่สุดหล่อก็ปล่อยคนเข้าไปแค่ 2 คนต่อครั้ง ใช่ค่ะ สองคนต่อครั้ง ที่เหลือ 8-9 ชีวิตรอหนาวสั่นข้างนอก ยกเว้นสำหรับคนที่จะไปต่อพาสปอร์ตอเมริกา เจ้าหน้าที่จะให้เข้าไปข้างในก่อน
ระหว่างรอก็มีคุณป้าท่านหนึ่งวิ่งมา และต้องเข้าไปสัมภาษณ์เวลาเดียวกับเรา 10:45 ซึ่งตอนนั้นคือ 11:00 แล้ว เรายืนรอประมาณ 15 นาที คุณป้าแกกลัวไม่ทันก็เลยถามเจ้าหน้าที่ว่าแบบนี้ฉันจะทันมั้ย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบว่าทัน ตราบใดที่เข้าก่อน 11:45 (ตอนนั้นโล่งใจและขอบคุณคุณป้ามากเพราะเราไม่กล้าถาม) แต่คุณป้าดันเอาคอมมาด้วย ซึ่งตรงนั้นไม่มีที่ฝากของ ไม่มีอะไรเลย เจ้าหน้าที่บอกไม่ว่ายังไงก็เข้าไม่ได้เด็ดขาด ป้าแกเลยต้องวิ่งกลับไทยที่รถ เผื่อที่จะเอาคอมไปเก็บ

สักพักก็ถึงคิวของเราค่ะ ตื่นเต้นมากกก อ่านในพันทิปคือกลัวไม่ผ่าน แต่ก็ทำใจไว้เผื่อ เพราะถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้
พอเราเข้ามาในสถานทูต คือต้องผ่าน security ก่อน อุปกรณ์ไฟ้าทุกอย่าง ต้องฝากไว้กับเจ้าหน้าที่ และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่พูดถึงคือ โทรศัพท์,หูฟัง,กุญแจ,power bank, สายชาร์จอะไรต่างๆนาๆ ตอนนั้นเรามี cheese เบอร์เกอร์ไปด้วย เลยถามเขาว่าต้องฝากมั้ย 😂 คือหนูไม่ได้จะกวนนะคะ แต่หนูแค่สงสัย 555 เจ้าหน้าที่ก็ขำกันแล้วเราก็เข้าไปข้างในค่ะ
เหมือนจะดีแต่ไม่ดีเพราะเราดัน “คืดว่าทำพาสปอร์ตหาย!!!” ตอนนั้นคือรีบวิ่งออกมาจากสถานทูต เจ้าหน้าที่ก่อนน่านี้ก็ถามมีอะไรรึเปล่า เราก็ตอบว่าเราคิดว่าเราทำพาสปอร์ตหาย คือร้องไห้แล้วตอนนั้น แต่!! ดูไปดูมาในซองเอกสาร ปรากฎนางหลบซะลึกจนเรามองไม่เห็น คือดีใจมมาก!!
คิวก็เริ่มเยอะ เราก็เลยต้องไปต่อคิวใหม่ข้างนอก เจ้าหน้าที่ถามว่าเจอแล้วหรอ เราตอบเสียงสั่นว่าเจอแล้ว😭 เจ้าหน้าที่คือน่ารักมาก เค้าเลยให้เราแซงคิว เราก็ขอบคุณก้มหัวให้หลายรอบเลย ส่วนคุณป้าที่เอาคอมไปเก็บ แกต้องมาต่อแถวใหม่ แกก็ถามเจ้าหน้าที่ “ทีงี้ให้เธอคนนี้แซงคิวได้ ทำไมฉันถึงไม่ได้ล่ะ” ตอนนั้นเราเลยหยุดเดิน กำลังจะกลับไปต่อใหม่เพราะกลัว แต่ป้าแกก็บอก ไปๆเถอะ เราก็เห้อออ
พอเข้ามาในห้องsecurity (อีกแล้ว) เจอเจ้าหน้าที่ตรวจเข็คคนเดิม แกก็ทักทายเรา Hi again😂 เราก็ตอบกลับ

คราวนี้มาถึงข้างในต่อคิวใหม่ สักพัก็ถึงคิวเรา คือตื่นเต้นมาก ลุกลี้ลุกลนมาก เขาให้เราไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของประเทศเราก่อน (ที่คุยภาษาของประเทศเรา) ขึ้นไปเขาก็ถาม อุตสาห์นั้งรอหวังว่าจะได้เจ้าหน้าที่ที่หน้าเฟลนลี่ ปรากฎได้หน้าโหดมาก😂
เจ้าหน้าที่: “สวัสดี ขอพาสปอร์ตเธอได้มั้ย?”
เรา: “ได้แน่นอนค่ะ (ยื่นพาสปอร์ตให้)”
เจ้าหน้าที่: “ ขอดูวีซ่าใบอยู่ได้มั้ย เธอมีมารึเปล่า (ให้พาสปอร์ตเราคืน)?”
เรา: “มีมาค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ระหว่างการขอวีซ่า เลยมีบัตรที่หมดอายุแล้ว กับใบรับรองของการอยู่กระหว่างต่อวีซ่าค่ะ”
เจ้าหน้าที่: “ขอบคุณค่ะ ดีนะคะ ที่คุณเอามาด้วย”
แล้วเจ้าหน้าที่ก็เดินเอาไปยื่นให้คนที่ออกวีซ่าต่อ

สักพักเขาก็เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่าของเรานั้นอยู่ระหว่างการทำ application
ต่อจากนี้คือมาต่อคิวใหม่ และได้คุยกับคนที่ออกวีซ่าค่ะ เป็นภาษาอังกฤษ (ได้คนหน้าโหดอีกแล้ว)

เจ้าหน้าที่: “สวัสดีครับ ขอพาสปอร์ตด้วยครับ”
เรา: “ค่ะ (ยื่นให้)”
เจ้าหน้าที่: “จะไปไหนหรอ? ไปกี่วัน?”
เรา: “ไปนิวยอร์กค่ะ ไปกับโรงเรียนเพราะต้องไปทำโปรเจ็คค่ะ ไปสองอาทิตย์ค่ะ”
เจ้าหน้าที่: “ตอนนี้เรียนอยู่ที่ไหนครับ?”
เรา: “เรียน High school ค่ะ จบอีก 1 ปี”
เจ้าหน้าที่: “ต่อจากตรงนี้จะไปเรียนที่ไหนครับ?”
เรา: “ ฉันอยากไป businesses university  ค่ะ เราอยากรวย (เราอยากรวยจริงๆค่ะ555)”
เจ้าหน้าที่: “ขำ ฮ่าๆๆๆ”
เรา: “ยิ้มเห่ยๆ”
เจ้าหนาที่: “ฟังนะครับ”
เรา: (ใจเต้นมากไม่ผ่านแน่ๆ)
เจ้าหน้าที่: “ผมจะให้วีซ่ากับคุณนะ แต่ว่าคุณต้องส่งบัตรวีซ่าของประเทศนี้มาให้ก่อน ส่งมาแค่รูปถ่าย เพราะตอนนี้มันไม่มีหลักฐานที่จะเห็นได้เลยว่าคุณจะกลับมาที่ประเทศนี้โดยถูกต้อง”
เรา: “ คะ?”
เจ้าหน้าที่: (อธิบายใหม่)
เรา: “อ่อ โอเคค่ะ แต่ฉันได้วีซ่าแน่ๆใช่มั้ยคะ แล้วพอดีว่าฉันจะได้คำตอบจากการต่อวีซ่าเดือนมีนาค่ะ (เราไปสัมภาษณ์เดือนมกรา)”
เจ้าหน้าที่: “ได้ร้อยเปอร์เซนต์ครับ แต่คุณต้องส่งวีซ่าของประเทศนี้อันใหม่มาให้ผมทางอีเมล์ก่อน ถ่ายรูปก็พอ ไม่ต้องส่งเข้ามาทางสถานทูต จากนั้นก็ส่งพาสปอร์ตมาให้เราทางสถานทูตนะครับ (ยื่นพาสปอร์ตคืน)
เรา: “อ่อโอเคค่ะ ขอบคุณค่ะ”

จากนั้นก็เดินออกมาแบบงงๆ เราได้เอกสารจากสถานทูตว่าเราขาดวีซ่าของประเทศนี้กับให้ส่งพ่สปอร์ตไปหาสถานทูต
หลังจากที่เราได้บัตรวีซ่าแล้ว เราก็เลยถ่ายรูปส่งไปให้เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และส่งพาสปอร์ตด้วย ตอนนี้พึ่งได้รับพาสปอร์ตคืน เราได้ยาวไปถึง 2028
ได้มาเลย 10 ปี ดีใจมากกกก

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เราไม่ได้จะอวดหรืออะไร แต่ว่าอยากแชร์ประสบการณ์ค่ะ มีอะไรถามได้เลยนะคะ ^^

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่