ไพเราะเอื้อง เอมโอษฐ์ โอทา
เสนางค์โยค คำมา นบแล้ว
พลศิริยาตรา ปวง คณิสร
เกษตรลาภพูนทัพแท้ว เลขเพี้ยง ภูมิไท ฯ
โยคยาตรา พยัตติ
โยคพยัตติ เนาวพยัติ ที่ ๒ ปูมราชธรรม
อันว่าโยคยาตรานั้น ถ้าแลพระมหากระษัตริย์พระองค์ใดจะยาตรายกทัพศึกไปไซร้ให้ชุมนุมโหราจารย์แลราชครูแลสมณพราหมณ์แล้วให้หาฤกษ์อันดี แลให้รู้จักยายีนาคร แล้วให้บูชาพระเจดีย์แลศรีมหาโพธิ แลสมณพราหมณ์ แลกทำพลีกรรมในเมืองแลนอกเมือง เลี้ยงดูทแกล้วทหารไพร่พลทั้งปวง แลให้แผ้วถนนหนทางประดับด้วยราชวัติฉัตรธง ครั้นแลได้ฤกษ์ไซร้ ให้ประคมฆ้องกลองเป็นสัญญาสำคัญไว้แล้ว เสด็จด้วยยาน ๔ ประการคือ ช้าง ม้า รถ แล*อวน เป็นพาหนะ แลกางเศวตฉัตรขึ้นไว้ แล้วจึงบำเรอด้วยฆ้องกลองแตรสังข์ดุริยดนตรี แลฝ่ายทหารทั้งปวงนั้นใส่หมวกแลประดับด้วยหางยูงแลขนนกอันมีพรรณ แลถืออาวุธต่าง ๆ สำหรับณรงค์นั้น แล้วก็ห้อมล้อมโดยซ้าย ขวา หน้า หลังตามหมู่ตามกรมนั้น จึงพระมหากระษัตริย์นั้น**พิษฐานหลั่งน้ำด้วยขันทอง ขอพรแก่เทพดาอันรักษาเศวตฉัตรนั้นแล้ว จึงตีกลองไชยโดยฤกษ์ แลทอดพระเนตรเล็งแล ใกล้ไกลโดยทิศทั้งสี่นั้นแล้ว จึงควรยาตรา ตกแต่งการดังนี้ ชื่อว่าโยคยาตราแล
[*] ความในเอกสารต้นฉบับใช้ว่า “อวน” แต่ในคัมภีร์เนาวพยัตติฉบับชำระคัดลอกในสมัยรัชกาลที่ ๑ ว่า “ยาน” (อ้าง:
http://vajirayana.org/ปูมราชธรรม)
อาวุธที่ประเสริฐในโลก
พระไตรปิฎก เล่ม 46 ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ภาค 1 (พระสุตตันตปิฎก)
อาวุธที่ประเสริฐที่สุดในโลกมี 4 อย่าง คือ วชิราวุธของท้าวสักกะ คทาวุธของ ท้าวเวสวัณ นัยนาวุธของพระยายม ทุสสาวุธของอาฬวกยักษ์ (อ.อาฬวกสูตร) 46/454/8
**พิษฐาน ว่านั้น ควรครือๆกับเพลงพื้นบ้านทั่วๆไปด้วย อันที่จะกล่าวคำเป็นอธิษฐานพร้อม ที่ไว้ใช้ร้องรับเหตุวันตรุษ วันสงกรานต์ และวันเทศกาลพิธี ที่จะจัดกระทำให้วิจิตรนั้นๆ เป็นต้น แต่กระนั้นคงจะได้เรียกย่อให้สั้นลง กับด้วยมหรสพศักดิ์สิทธิ์ และสังคีตนั้น “จึงว่ากระทำพิษฐาน และว่า ร้องเพลงพิษฐาน”, ข้อที่เรียกกันมาจากคำว่าพิษฐาน จนเป็นคำว่าพิศดารนั้น ก็อาจใช่ก็ได้ หรือว่าจะเรียกชื่อมาจากการพิศดารนั้นที่ได้มีอธิษฐาน รวมกันเข้าทั้งคำว่าพิศดาร และคำว่าอธิษฐาน (ธิษฐาน) แล้วว่า “พิษฐาน” คำเรียกนั้นเกิดขึ้น แล้วคงใช้เรียกกันเป็นคำพูดแบบย่อ (ผู้เขียน)
ทัพยาตรา โยคยาตรา พยัตติ ปูมราชธรรม (ธรรมยาตราฝ่ายอาณาจักร)
เสนางค์โยค คำมา นบแล้ว
พลศิริยาตรา ปวง คณิสร
เกษตรลาภพูนทัพแท้ว เลขเพี้ยง ภูมิไท ฯ
โยคยาตรา พยัตติ
โยคพยัตติ เนาวพยัติ ที่ ๒ ปูมราชธรรม
อันว่าโยคยาตรานั้น ถ้าแลพระมหากระษัตริย์พระองค์ใดจะยาตรายกทัพศึกไปไซร้ให้ชุมนุมโหราจารย์แลราชครูแลสมณพราหมณ์แล้วให้หาฤกษ์อันดี แลให้รู้จักยายีนาคร แล้วให้บูชาพระเจดีย์แลศรีมหาโพธิ แลสมณพราหมณ์ แลกทำพลีกรรมในเมืองแลนอกเมือง เลี้ยงดูทแกล้วทหารไพร่พลทั้งปวง แลให้แผ้วถนนหนทางประดับด้วยราชวัติฉัตรธง ครั้นแลได้ฤกษ์ไซร้ ให้ประคมฆ้องกลองเป็นสัญญาสำคัญไว้แล้ว เสด็จด้วยยาน ๔ ประการคือ ช้าง ม้า รถ แล*อวน เป็นพาหนะ แลกางเศวตฉัตรขึ้นไว้ แล้วจึงบำเรอด้วยฆ้องกลองแตรสังข์ดุริยดนตรี แลฝ่ายทหารทั้งปวงนั้นใส่หมวกแลประดับด้วยหางยูงแลขนนกอันมีพรรณ แลถืออาวุธต่าง ๆ สำหรับณรงค์นั้น แล้วก็ห้อมล้อมโดยซ้าย ขวา หน้า หลังตามหมู่ตามกรมนั้น จึงพระมหากระษัตริย์นั้น**พิษฐานหลั่งน้ำด้วยขันทอง ขอพรแก่เทพดาอันรักษาเศวตฉัตรนั้นแล้ว จึงตีกลองไชยโดยฤกษ์ แลทอดพระเนตรเล็งแล ใกล้ไกลโดยทิศทั้งสี่นั้นแล้ว จึงควรยาตรา ตกแต่งการดังนี้ ชื่อว่าโยคยาตราแล
[*] ความในเอกสารต้นฉบับใช้ว่า “อวน” แต่ในคัมภีร์เนาวพยัตติฉบับชำระคัดลอกในสมัยรัชกาลที่ ๑ ว่า “ยาน” (อ้าง: http://vajirayana.org/ปูมราชธรรม)
อาวุธที่ประเสริฐในโลก
พระไตรปิฎก เล่ม 46 ขุททกนิกาย สุตตนิบาต ภาค 1 (พระสุตตันตปิฎก)
อาวุธที่ประเสริฐที่สุดในโลกมี 4 อย่าง คือ วชิราวุธของท้าวสักกะ คทาวุธของ ท้าวเวสวัณ นัยนาวุธของพระยายม ทุสสาวุธของอาฬวกยักษ์ (อ.อาฬวกสูตร) 46/454/8
**พิษฐาน ว่านั้น ควรครือๆกับเพลงพื้นบ้านทั่วๆไปด้วย อันที่จะกล่าวคำเป็นอธิษฐานพร้อม ที่ไว้ใช้ร้องรับเหตุวันตรุษ วันสงกรานต์ และวันเทศกาลพิธี ที่จะจัดกระทำให้วิจิตรนั้นๆ เป็นต้น แต่กระนั้นคงจะได้เรียกย่อให้สั้นลง กับด้วยมหรสพศักดิ์สิทธิ์ และสังคีตนั้น “จึงว่ากระทำพิษฐาน และว่า ร้องเพลงพิษฐาน”, ข้อที่เรียกกันมาจากคำว่าพิษฐาน จนเป็นคำว่าพิศดารนั้น ก็อาจใช่ก็ได้ หรือว่าจะเรียกชื่อมาจากการพิศดารนั้นที่ได้มีอธิษฐาน รวมกันเข้าทั้งคำว่าพิศดาร และคำว่าอธิษฐาน (ธิษฐาน) แล้วว่า “พิษฐาน” คำเรียกนั้นเกิดขึ้น แล้วคงใช้เรียกกันเป็นคำพูดแบบย่อ (ผู้เขียน)