ด้วยความที่หนังประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งคำวิจารณ์ กระแสและรายได้ ทำให้นักวิเคระห์หลายคน รวมถึงผมมองว่าหนังน่าจะมีโอกาสเข้าชิงออสการ์สูง โดยล่าสุดหนังจาก MCU เข้าชิงออสการ์ไป 10 ครั้งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นสาขา Best Visual Effects มีแค่ Iron Man (2008)ที่เข้าชิงสาขา Best Sound Editing และ GOTG (2014)ที่เข้าชิงสาขาแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยมด้วย นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า Black Panther น่าจะเป็นหนัง MCU ที่เข้าชิงออสการ์มากที่สุด
ให้คะแนนโอกาสในแต่ละสาขาเป็นดาว โดยมีคะแนนเต็ม 5
Best Picture (**) - Kevin Feige
หนังมีโอกาสเป็นหนัง Superhero เรื่องแรกที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่The Dark Knight ทำไม่สำเร็จ (แต่สร้างปรากฏการณ์ทำให้ออสการ์เพิ่มผู้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็น 10) ด้วยหนังเป็นหนังSuperhero ที่คำวิจารณ์ดีที่สุดในเว็บไซต์ Rottentomatoes ที่ 97% คะแนนเฉลี่ย 8.2 จากนักวิจารณ์ 350 คนและในเว็บไซต์ Metacriticที่ 88 เต็ม 100 รวมถึงรายได้ในบ้านที่ตอนนี้ผ่านหลัก $500ล้าน เข้าสู่ทำเนียบหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้าน 10 อันดับแรกแล้ว นอกจากนี้หนังยังได้กระแสจากกลุ่มคนผิวสีจำนวนมาก แต่ด้วยความที่หนังไม่ได้เป็นแนวที่จะเข้าชิงออสการ์สาขานี้และยังมีคู่แข่งอีกจำนวนมากทำให้ต้องรอดูต่อไป
Best Supporting Actor (*) - Michael B. Jordan
เหมือนดวงจะถูกโฉลกกับผู้กำกับ Ryan Coogler ที่งาน 2 เรื่องก่อนหน้านี้ที่ร่วมงานกันก็ออกมาดีทั้งคู่ ทั้ง Fruitvale Station (2013), Creed (2015) โดยตัวเขาได้รับคำวิจารณ์ดีทั้ง 2 เรื่องแต่ไปไม่ถึงเข้าชิงออสการ์ทั้งคู่ กลับมาครั้งนี้กับบทสมทบ ที่ทำได้ดีเช่นเคย
Best Production Design (***) - Hahnah Beachler, Jay Hart
หนังมีลุ้นอยู่ในสาขานี้ ด้วยงานออกแบบที่แตกต่างจากเรื่องอื่นที่เคยเข้าชิงออสการ์ หนังได้ผู้เข้าชิง Emmy จากการออกแบบงานสร้างmvของ Beyoncé และผู้ออกแบบงานสร้างของหนังรางวัลออสการ์อย่าง Moonlight อย่าง Hannah Beachler และยังได้ Jay Hart เป็นคนออกแบบฉากที่เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 ครั้งจาก L.A. Confidential (1997) และ Pleasantville (1998)
Best Costume Design (****) - Ruth E. Carter
อีกหนึ่งสิ่งที่โดนเด่นที่สุดของหนังคือเครื่องแต่งกาย ที่ผสมความทันสมัยและความเป็นแอฟริกันเข้ากันได้อย่างลงตัว จากดีไซน์เนอร์ ผู้เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 ครั้งอย่าง Ruth E. Carter จากเรื่อง Malcolm X (1992) และ Amistad (1997)
Best Sound Editing (**), Best Sound Mixing (*)
เป็นสาขาที่หนัง Blockbuster มีโอกาสเข้าชิงสูง หนังได้ผู้เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว มาทำเสียง หนังSuperheroอย่าง Spider-Man 2 (2004), Iron Man (2008) และ The Dark Knight (2008) ก็เคยเข้าชิงสาขาเสียง
Best Makeup and Hairstyling (**)
หนัง Superhero อย่างGOTG (2014)ก็เคยเข้าชิงสาขานี้ หรือSuicide Squad (2016) ก็เคยได้ออสการ์สาขานี้ หนังได้มือแต่งหน้าตัวtopที่เคยได้ออสการ์อย่าง Joel Harlow จากเรื่อง Star Trek (2009) และเข้าชิงจาก The Lone Ranger (2013) และ Star Trek: Beyond (2016)
Best Original Song - Pray for Me (****), All The Stars (****)
เจ้าของ Grammy 12 ตัว อย่าง Kendrick Lamar จับมือมากับผู้เคยเข้าชิงออสการ์สาขาเพลงมาก่อนอย่าง The Weekend ในเพลง Pray for me และนักร้องสาวมาแรง ZSA ในเพลง All The Stars ทั้ง2 เพลงประสบความสำเร็จทั้งคู่ ติด Top10ใน Billboard Hot 100ทั้งคู่
Best Visual Effect (****)
เป็นหนังจาก MCU เรื่องที่ 9 ที่น่าจะเข้าชิงสาขานี้ ต่อรอลุ้นกับหนัง Blockbusterเรื่องอื่นๆ
Oscarwatch2019#3 Black Panther อาจสร้างปรากฏการณ์เป็นหนัง MCU เรื่องแรกที่คว้าออสการ์มาได้
ให้คะแนนโอกาสในแต่ละสาขาเป็นดาว โดยมีคะแนนเต็ม 5
Best Picture (**) - Kevin Feige
หนังมีโอกาสเป็นหนัง Superhero เรื่องแรกที่เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่The Dark Knight ทำไม่สำเร็จ (แต่สร้างปรากฏการณ์ทำให้ออสการ์เพิ่มผู้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมเป็น 10) ด้วยหนังเป็นหนังSuperhero ที่คำวิจารณ์ดีที่สุดในเว็บไซต์ Rottentomatoes ที่ 97% คะแนนเฉลี่ย 8.2 จากนักวิจารณ์ 350 คนและในเว็บไซต์ Metacriticที่ 88 เต็ม 100 รวมถึงรายได้ในบ้านที่ตอนนี้ผ่านหลัก $500ล้าน เข้าสู่ทำเนียบหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในบ้าน 10 อันดับแรกแล้ว นอกจากนี้หนังยังได้กระแสจากกลุ่มคนผิวสีจำนวนมาก แต่ด้วยความที่หนังไม่ได้เป็นแนวที่จะเข้าชิงออสการ์สาขานี้และยังมีคู่แข่งอีกจำนวนมากทำให้ต้องรอดูต่อไป
Best Supporting Actor (*) - Michael B. Jordan
เหมือนดวงจะถูกโฉลกกับผู้กำกับ Ryan Coogler ที่งาน 2 เรื่องก่อนหน้านี้ที่ร่วมงานกันก็ออกมาดีทั้งคู่ ทั้ง Fruitvale Station (2013), Creed (2015) โดยตัวเขาได้รับคำวิจารณ์ดีทั้ง 2 เรื่องแต่ไปไม่ถึงเข้าชิงออสการ์ทั้งคู่ กลับมาครั้งนี้กับบทสมทบ ที่ทำได้ดีเช่นเคย
Best Production Design (***) - Hahnah Beachler, Jay Hart
หนังมีลุ้นอยู่ในสาขานี้ ด้วยงานออกแบบที่แตกต่างจากเรื่องอื่นที่เคยเข้าชิงออสการ์ หนังได้ผู้เข้าชิง Emmy จากการออกแบบงานสร้างmvของ Beyoncé และผู้ออกแบบงานสร้างของหนังรางวัลออสการ์อย่าง Moonlight อย่าง Hannah Beachler และยังได้ Jay Hart เป็นคนออกแบบฉากที่เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 ครั้งจาก L.A. Confidential (1997) และ Pleasantville (1998)
Best Costume Design (****) - Ruth E. Carter
อีกหนึ่งสิ่งที่โดนเด่นที่สุดของหนังคือเครื่องแต่งกาย ที่ผสมความทันสมัยและความเป็นแอฟริกันเข้ากันได้อย่างลงตัว จากดีไซน์เนอร์ ผู้เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว 2 ครั้งอย่าง Ruth E. Carter จากเรื่อง Malcolm X (1992) และ Amistad (1997)
Best Sound Editing (**), Best Sound Mixing (*)
เป็นสาขาที่หนัง Blockbuster มีโอกาสเข้าชิงสูง หนังได้ผู้เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว มาทำเสียง หนังSuperheroอย่าง Spider-Man 2 (2004), Iron Man (2008) และ The Dark Knight (2008) ก็เคยเข้าชิงสาขาเสียง
Best Makeup and Hairstyling (**)
หนัง Superhero อย่างGOTG (2014)ก็เคยเข้าชิงสาขานี้ หรือSuicide Squad (2016) ก็เคยได้ออสการ์สาขานี้ หนังได้มือแต่งหน้าตัวtopที่เคยได้ออสการ์อย่าง Joel Harlow จากเรื่อง Star Trek (2009) และเข้าชิงจาก The Lone Ranger (2013) และ Star Trek: Beyond (2016)
Best Original Song - Pray for Me (****), All The Stars (****)
เจ้าของ Grammy 12 ตัว อย่าง Kendrick Lamar จับมือมากับผู้เคยเข้าชิงออสการ์สาขาเพลงมาก่อนอย่าง The Weekend ในเพลง Pray for me และนักร้องสาวมาแรง ZSA ในเพลง All The Stars ทั้ง2 เพลงประสบความสำเร็จทั้งคู่ ติด Top10ใน Billboard Hot 100ทั้งคู่
Best Visual Effect (****)
เป็นหนังจาก MCU เรื่องที่ 9 ที่น่าจะเข้าชิงสาขานี้ ต่อรอลุ้นกับหนัง Blockbusterเรื่องอื่นๆ