ขอเตือนก่อนในกระทู้นี้มีสปอยเนื้อเรื่องนะคะ
เราเป็นคนนึงที่อ่านเป็นนิยายมาก่อน เนื่องจากบีบบังคับให้แฟนซื้อให้ตั้งแต่ตอนเปิดกล้องใหม่ๆ และนิยายเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราชอบ แต่ไม่ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้นะคะ ที่เราชอบนั้นเพราะนิยายมีความฟีลกู๊ด ชอบการเล่าเรื่องที่ทำให้เราเหมือนได้ตามนางเอกไปใช้ชีวิตและไปท่องตลาดอยุธยา แต่พอมาดูละครก็พบว่ามีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เราก็เป็นพวกรอไม่ไหวไปซื้อเรื่องย่อมาอ่าน
เราเห็นมีบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบใจบท อ.ศัลยา เท่าไหร่ อยากจะบอกว่าออเจ้าทั้งหลายใจเย็นกันก่อนหนา ถ้าได้ดูจนจบ เราว่าไม่ผิดหวังแน่ค่ะ ที่สำคัญอาจารย์ยังช่วยเติมบางส่วนให้รู้สึกเต็มขึ้นอีกด้วย
ขอหนึ่งบรรทัดเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ว่าในกรณีที่หนังสือเรื่องย่อตรงกับบทละครแบบเต็มร้อยนะคะ หัวที่เราซื้อนี่จะค่อนข้างตรงที่สุด แต่ช่วงจบจะรวบรัดบ้าง
มาพูดถึงสิ่งที่แตกต่างจากนิยายกันค่ะ
1. การะเกดนั้นโตกว่าในนิยาย ในนิยายนั้นตอนโดนมนตร์อายุ 16 ค่ะ แต่ในละครคือ 20 การะเกดในละครนั้นร้ายกว่าในนิยาย ส่วนเกศสุรางค์นั้นเราว่าล้นกว่าในนิยายบ้าง แต่ไม่มากซึ่งเบลล่าก็แสดงออกมาได้ดีแล้วค่ะ ส่วนนี้เป็นการปรับเพื่อให้ละครมีสีสีนขึ้น
2. คุณหญิงจำปาและบ่าว ถูกปรับให้ร้ายขึ้น เหตุผลก็เหมือนกับข้างบนเลยค่ะ ปรับเพื่อให้ละครมีสีสันขึ้น เมื่อการะเกดตัวจริงร้ายซะขนาดนั้น ก็ต้องใช้เวลาซื้อใจกันบ้างค่ะ แต่รับรองว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สุดท้ายคุณหญิงและแม่ปริกไม่วายโดนป้ายยาจนต้องเอ็นดูแม่หญิงวิปลาศแน่นอนค่ะ
3. ประเด็นนิสัยการะเกด เรื่องไม่มีมารยาท เถียงผู้ใหญ่ เราว่าอาจารย์กับเลือกเล่นประเด็นความแตกต่างของสังคมในอดีตและปัจจุบันออกมาได้ดี ณ จุดนี้คงห้ามความคิดใครไม่ได้ เพิ่มมาจากนิยายจริงๆ แต่ถ้าตีความตาม เราว่าเจ๋งดีนะ อาจารย์ท่านใส่แง่คิดมาให้ เพราะบางเรื่องนี่เราอ่านยังคิดเลยว่าหมดไปจากสังคมปัจจุบันได้นี่ก็ดีแล้ว
4. ที่ปรับเปลี่ยนแบบเห็นได้ชัดเลยคือ การให้แม่หญิงจันทร์วาดกับหมื่นเรืองคู่กัน ซึ่งเราว่าจุดนี้ดีแล้วค่ะ เพิ่มความสำคัญให้ตัวละครได้มากขึ้นอีก
5. มีตัวละครที่อาจารย์ให้บทบาทมากขึ้น ตัวละครพวกนี้สำคัญแต่ในนิยายออกมาน้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นั่นก็คือ การะเกด มาในรูปวิญญาณอีกสองสามครั้ง แต่คนดูอาจจะรำคาญนิดๆนะคะ เพราะนางยังหวงพี่เดชอยู่ คือเหมือนมาเป็นอุปสรรคเล็กๆให้นางเอก แต่ไม่มากค่ะ ตรงจุดนี้เราชอบนะคะ มันเหมือนเพิ่มโมเม้นต์ของการะเกด และเกศสุรางค์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะเขาเป็นฝาแฝดกัน
แม่และยาย ในนิยายเราว่ากล่าวถึงสองคนนี้แบบห้วนไปนิดค่ะ ซึ่งอาจารย์ได้ช่วยมาเติมจุดนี้ให้ ซึ่งเราว่าทำให้จบแบบมีความสุขขึ้นนะทั้งส่วนของการะเกด แม่และยาย
6. พระเอกพี่หมื่นของเรา เราว่ามีสีสันกว่าในนิยายนะคะ ในนิยายเราว่าพี่หมื่นนิ่งกว่าละคร ชอบพี่หมื่นในละครมากกว่าคงเป็นเพราะพระเอกเป็นพี่โป๊ปด้วย
7. พาร์ทการเมืองสนุกค่ะ ตัวละครดูมีมิติ นี่รอพระเพทราชากับออกหลวงสรศักดิ์ออกมาเลย ชอบตัวละครที่มีจริงในประวัติศาสตร์มากค่ะ แถมค่ายเลือกนักแสดงได้ดี เพิ่มความน่าสนใจได้จริงๆค่ะ
8. ส่วนนี้เราเฟลนะคะ ถ้ามาแบบเรื่องย่อจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ศรีปราชญ์อาจจะมาในรูปความฝันและการบอกเล่าแทน เราชอบนักแสดงมากเลยค่ะคือ ดรีม ณฐณพ เราว่านิสัยเค้านี่ตรงแคแรกเตอร์ในนิยายเลย แต่ในเรื่องย่อนี่บทพูดยังไม่มีเลยT^T แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเรื่องศรีปราชญ์อาจทำให้ละครยาวขึ้น
9. ปมต่างๆเก็บมาได้ครบค่ะ การดำเนินเรื่อง จะเป็นแบบเสริมมาและแบบปรับเอา ซึ่งเราว่าทำได้โอเคแล้วค่ะ
สรุปนะคะ เราขอบคุณมากค่ะที่บรอดคาซท์เลือกทำละครเรื่องนี้ และเลือกอาจารย์มาเขียนบทละครเรื่องนี้ จากใจคนอ่านนิยายเวอร์ชั่นนิยายก็ดีงามในแบบนิยาย เวอร์ชั่นละครนั้นก็ดีงามในแบบของละคร
อาจารย์ทำหน้าที่ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์ของนิยายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดแล้ว ทั้งเพิ่มสีสัน เพิ่มแง่คิดปรับเนื้อเรื่องตามความเหมาะสม ในขณะที่ยังคงปมและอารมย์ของตัวนิยายส่วนใหญ่เอาไว้ได้
เราในฐานะคนดูและคนอ่านนิยาย เราว่าบทละครของบุพเพสันนิวาส
“สมบูรณ์แบบ” ด้วยฝีมือของอาจารย์แล้วค่ะ
ปล. ขอย้ำอีกรอบค่ะ ว่าเป็นมุมมองของเราผ่านบทละคร
ในกรณีที่เรื่องย่อที่อ่านตรงกับฉายจริงนะคะ
ขอยืนยันว่า อ.ศัลยา ยังคงเป็นนักเขียนบทชั้นครู หลังอ่านเรื่องย่อ บุพเพสันนิวาส จบ (มีสปอย)
เราเป็นคนนึงที่อ่านเป็นนิยายมาก่อน เนื่องจากบีบบังคับให้แฟนซื้อให้ตั้งแต่ตอนเปิดกล้องใหม่ๆ และนิยายเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราชอบ แต่ไม่ถึงขั้นแฟนพันธุ์แท้นะคะ ที่เราชอบนั้นเพราะนิยายมีความฟีลกู๊ด ชอบการเล่าเรื่องที่ทำให้เราเหมือนได้ตามนางเอกไปใช้ชีวิตและไปท่องตลาดอยุธยา แต่พอมาดูละครก็พบว่ามีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง เราก็เป็นพวกรอไม่ไหวไปซื้อเรื่องย่อมาอ่าน
เราเห็นมีบางคนอาจจะไม่ค่อยชอบใจบท อ.ศัลยา เท่าไหร่ อยากจะบอกว่าออเจ้าทั้งหลายใจเย็นกันก่อนหนา ถ้าได้ดูจนจบ เราว่าไม่ผิดหวังแน่ค่ะ ที่สำคัญอาจารย์ยังช่วยเติมบางส่วนให้รู้สึกเต็มขึ้นอีกด้วย
ขอหนึ่งบรรทัดเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้ว่าในกรณีที่หนังสือเรื่องย่อตรงกับบทละครแบบเต็มร้อยนะคะ หัวที่เราซื้อนี่จะค่อนข้างตรงที่สุด แต่ช่วงจบจะรวบรัดบ้าง
มาพูดถึงสิ่งที่แตกต่างจากนิยายกันค่ะ
1. การะเกดนั้นโตกว่าในนิยาย ในนิยายนั้นตอนโดนมนตร์อายุ 16 ค่ะ แต่ในละครคือ 20 การะเกดในละครนั้นร้ายกว่าในนิยาย ส่วนเกศสุรางค์นั้นเราว่าล้นกว่าในนิยายบ้าง แต่ไม่มากซึ่งเบลล่าก็แสดงออกมาได้ดีแล้วค่ะ ส่วนนี้เป็นการปรับเพื่อให้ละครมีสีสีนขึ้น
2. คุณหญิงจำปาและบ่าว ถูกปรับให้ร้ายขึ้น เหตุผลก็เหมือนกับข้างบนเลยค่ะ ปรับเพื่อให้ละครมีสีสันขึ้น เมื่อการะเกดตัวจริงร้ายซะขนาดนั้น ก็ต้องใช้เวลาซื้อใจกันบ้างค่ะ แต่รับรองว่า [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. ประเด็นนิสัยการะเกด เรื่องไม่มีมารยาท เถียงผู้ใหญ่ เราว่าอาจารย์กับเลือกเล่นประเด็นความแตกต่างของสังคมในอดีตและปัจจุบันออกมาได้ดี ณ จุดนี้คงห้ามความคิดใครไม่ได้ เพิ่มมาจากนิยายจริงๆ แต่ถ้าตีความตาม เราว่าเจ๋งดีนะ อาจารย์ท่านใส่แง่คิดมาให้ เพราะบางเรื่องนี่เราอ่านยังคิดเลยว่าหมดไปจากสังคมปัจจุบันได้นี่ก็ดีแล้ว
4. ที่ปรับเปลี่ยนแบบเห็นได้ชัดเลยคือ การให้แม่หญิงจันทร์วาดกับหมื่นเรืองคู่กัน ซึ่งเราว่าจุดนี้ดีแล้วค่ะ เพิ่มความสำคัญให้ตัวละครได้มากขึ้นอีก
5. มีตัวละครที่อาจารย์ให้บทบาทมากขึ้น ตัวละครพวกนี้สำคัญแต่ในนิยายออกมาน้อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. พระเอกพี่หมื่นของเรา เราว่ามีสีสันกว่าในนิยายนะคะ ในนิยายเราว่าพี่หมื่นนิ่งกว่าละคร ชอบพี่หมื่นในละครมากกว่าคงเป็นเพราะพระเอกเป็นพี่โป๊ปด้วย
7. พาร์ทการเมืองสนุกค่ะ ตัวละครดูมีมิติ นี่รอพระเพทราชากับออกหลวงสรศักดิ์ออกมาเลย ชอบตัวละครที่มีจริงในประวัติศาสตร์มากค่ะ แถมค่ายเลือกนักแสดงได้ดี เพิ่มความน่าสนใจได้จริงๆค่ะ
8. ส่วนนี้เราเฟลนะคะ ถ้ามาแบบเรื่องย่อจริงๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
9. ปมต่างๆเก็บมาได้ครบค่ะ การดำเนินเรื่อง จะเป็นแบบเสริมมาและแบบปรับเอา ซึ่งเราว่าทำได้โอเคแล้วค่ะ
สรุปนะคะ เราขอบคุณมากค่ะที่บรอดคาซท์เลือกทำละครเรื่องนี้ และเลือกอาจารย์มาเขียนบทละครเรื่องนี้ จากใจคนอ่านนิยายเวอร์ชั่นนิยายก็ดีงามในแบบนิยาย เวอร์ชั่นละครนั้นก็ดีงามในแบบของละคร
อาจารย์ทำหน้าที่ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์ของนิยายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดแล้ว ทั้งเพิ่มสีสัน เพิ่มแง่คิดปรับเนื้อเรื่องตามความเหมาะสม ในขณะที่ยังคงปมและอารมย์ของตัวนิยายส่วนใหญ่เอาไว้ได้
เราในฐานะคนดูและคนอ่านนิยาย เราว่าบทละครของบุพเพสันนิวาส “สมบูรณ์แบบ” ด้วยฝีมือของอาจารย์แล้วค่ะ
ปล. ขอย้ำอีกรอบค่ะ ว่าเป็นมุมมองของเราผ่านบทละคร ในกรณีที่เรื่องย่อที่อ่านตรงกับฉายจริงนะคะ