ที่จะตอบคำถามว่า ทำไมยังเป็นแฟนหงส์อยู่ได้ทั้งๆที่ไร้แชมป์มานาน
เครดิตเพจ วิเคราะห์ยอลจริงจัง
สตีเว่น เจอร์ราร์ด คือสัญลักษณ์ของสโมสรลิเวอร์พูล
เขาคือสเกาเซอร์ เป็นความภูมิใจของคนท้องถิ่น เติบโตมาตามระบบ จากเยาวชน ก้าวขึ้นชุดใหญ่ และเป็นกัปตันทีม
เจอร์ราร์ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่เหล่าเดอะ ค็อปรักมากที่สุด ตลอดชีวิตค้าแข้งของเขา เหมือนว่าทั้งหัวใจมอบให้ลิเวอร์พูลแค่ทีมเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่ง คนอย่างเจอร์ราร์ด เคยโดนแฟนลิเวอร์พูลเผาเสื้อมาแล้ว
เพราะเขาเคยประกาศว่าจะย้ายทีม คือใครมาเหนี่ยวรั้งยังไงก็ไม่สนทั้งนั้น
แฟนๆเมื่อรักมาก ก็ต้องเกลียดมากเป็นธรรมดา ความสัมพันธ์ของเขากับแฟนหงส์แดง ปะทุจนถึงขีดสุด
ทำไมเจอร์ราร์ด ถึงอยากย้ายขนาดนั้น แล้วอะไรที่เปลี่ยนใจเขาได้ ทั้งๆที่ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว
ถ้าหาก ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปนิดเดียว วันนี้เจอร์ราร์ดอาจไม่ใช่ตำนานของลิเวอร์พูล แต่เขาอาจเป็นตำนานของเชลซี หรือเรอัล มาดริดแทน
----------------------------------------
ตั้งแต่เจอร์ราร์ด ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 1998 เขาพัฒนาฝีเท้าตัวเองอย่างรวดเร็วมาก
จากเริ่มต้นที่แบ็กขวา เขาเปลี่ยนตำแหน่งมาเล่นมิดฟิลด์ และได้รับการยกย่อง ให้เป็นกองกลางแห่งยุค
พลังการวิ่งที่ไม่มีหมด พลังการยิงประตูที่รุนแรง ลูกจ่ายบอลที่เฉียบขาด และยังมีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ นี่คือบุคลิกของสุดยอดมิดฟิลด์ชัดๆ
แฟนหงส์แดงรักเขาอย่างรวดเร็ว มีไม่บ่อยนัก ที่นักเตะจากท้องถิ่น จะก้าวขึ้นมาเป็นระดับโลกได้แบบนี้ เจอร์ราร์ดคือความภูมิใจของเมอร์ซีไซด์
เจอร์ราร์ดเองก็ผูกพันกับลิเวอร์พูล แต่อีกใจของเขา ในฐานะนักเตะเขาต้องการคว้าความสำเร็จที่จับต้องได้ และต้องการแชมป์พรีเมียร์ลีก
แต่มันช่างดูยากเหลือเกินที่จะได้แชมป์ลีก หากเล่นให้กับลิเวอร์พูลต่อไป เพราะทีมไม่ได้ใกล้กับการลุ้นแชมป์เลย
ฤดูกาล 2002-03 จนอันดับ 5 , ฤดูกาล 2003-04 จบอันดับ 4 คือไม่เห็นวี่แววของการลุ้นแชมป์
ขณะที่แมนฯยูไนเต็ด มีลุ้นทุกปี ทางอาร์เซน่อลก็เป็นอินวินซิเบิ้ล ทีมไร้พ่าย แล้วยังมีเชลซี ที่เพิ่งมีเจ้าของใหม่ชื่อโรมัน อบราโมวิชอีก
มันดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูลอยู่ห่างไกลเหลือเกินกับการไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก นั่นทำให้เจอร์ราร์ดตั้งคำถามกับตัวเอง "ถ้าอยู่ลิเวอร์พูลต่อไป เขาจะมีสิทธิได้แชมป์หรอ?"
ในปี 2004 โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี ได้ติดต่อมาที่เจอร์ราร์ด และยืนยันว่า เขาสนใจอยากให้สตีวี่ จี มาร่วมงานกันจริงๆ ซึ่งเชลซีคงจะสมบูรณ์แบบมาก ถ้าได้เจอร์ราร์ดเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์
เจอร์ราร์ด ทบทวน ก่อนตัดสินใจปฏิเสธ
"ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมสับสนที่สุดในอาชีพนักเตะ ผมคิดเรื่องการย้ายทีม อย่างไรก็ตาม ผมต้องการอยู่กับลิเวอร์พูลต่อ"
เขารู้ดีว่าทีมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง มันไม่โอเคแน่ ถ้าจะทิ้งทีมไปตอนนี้ ยิ่งไมเคิล โอเว่น กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม มาลาไปอยู่เรอัล มาดริดด้วย ถ้าเขาย้ายไปอีกคน ทีมจะอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากจริงๆ
เจอร์ราร์ด เก็บความรู้สึกมาตลอด ใจจริงเขาปรารถนาได้แชมป์ลีกยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
1 ปีผ่านไป ลิเวอร์พูลสร้างปรากฎการณ์ได้แชมป์ยุโรปที่อิสตันบูล แต่หากย้อนไปดูผลงานในพรีเมียร์ลีก หงส์จบอันดับ 5 เท่านั้น
ตรงข้ามกับเชลซี ที่คว้าแชมป์ลีกไปอย่างเหนือชั้น ปีแรกของมูรินโญ่ พาทีมสิงห์บลูส์ได้แชมป์แบบแพ้ทั้งฤดูกาล 1 นัด และเสียประตูแค่ 15 ลูก ใน 38 เกม คือเป็นแชมป์ที่หมดจดมากๆ
ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ลีกก็ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ถือว่าไม่ธรรมดา
มันแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ดีมากๆ เป็นทีมที่มีความพร้อมในการก้าวไปถึงแชมป์ด้วยประการทั้งปวง
ซัมเมอร์ปี 2005 เชลซี ยื่นข้อเสนอ 32 ล้านปอนด์ให้ลิเวอร์พูลพิจารณา ซึ่งนี่เป็นค่าตัวสถิติแพงสุดของนักเตะอังกฤษ แซงหน้าริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เคยย้ายจากลีดส์ มาแมนฯยูไนเต็ดด้วยราคา 29.1 ล้านปอนด์
ปัจจุบันตัวเลข 32 ล้านอาจดูน้อยนิดมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน มันเป็นตัวเลขที่แพงมหาศาลเลยทีเดียว
สำหรับโชเซ่ มูรินโญ่ ไม่เคยปิดบังความรู้สึก เขายืนยันชัดเจนว่าต้องการเจอร์ราร์ดจริงๆ "สิ่งเดียวที่ผมพูดได้ คือถ้าเขาย้ายมาอยู่กับเรา ผมจะอ้าแขนต้อนรับด้วยความยินดีอย่างแน่นอน"
มันทำให้เจอร์ราร์ดต้องตัดสินใจอีกครั้ง เขาจะเลือกทางไหน?
ลิเวอร์พูลเองสัญญาจะเพิ่มค่าเหนื่อยให้ จาก 6 หมื่นปอนด์ เป็น 1 แสนปอนด์ แต่เรื่องเงินไม่ใช่สิ่งที่เจอร์ราร์ดสนใจ เขาต้องการความสำเร็จ ต้องการแชมป์ลีก
ขณะที่เชลซี ซื้อผู้เล่นเกรดเอ เข้ามาคนแล้วคนเล่า แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแย่งแชมป์เลย
ปีที่เชลซีได้แชมป์ ทั้งๆที่พวกเขามีอาร์เยน ร็อบเบน , แฟรงค์ แลมพาร์ด , แดเมียน ดัฟฟ์, โจ โคล และ ดิดิเยร์ ดร็อกบาอยู่แล้ว ในช่วงซัมเมอร์ ยังไปซื้อ ไมเคิล เอสเซียง กับ ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ และดึงเฮร์นัน เครสโปมาอีก มันแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่ไม่หยุดนิ่ง
ตรงข้ามกับหงส์แดง ซื้อแต่ละคน ปีเตอร์ เคราช์งี้, มาร์ก กอนซาเลซ, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ หรือเซ็นฟรี อันโตนิโอ บารากัน คือ ไม่มีแนวโน้มว่าทีมจะแข็งแกร่งขึ้นเลยสักนิด
แพงที่สุดที่หงส์จ่าย คือ 7 ล้านปอนด์ (ปีเตอร์ เคราช์) ส่วนที่เหลือเซ็นถูกๆบ้าง เซ็นฟรีๆบ้าง ไม่มีนักเตะระดับราคาเกิน 10 ล้านสักคนเดียว มันแสดงถึงความไม่จริงใจในการยกระดับทีมของผู้บริหาร
และ นั่นทำให้เจอร์ราร์ดรู้แล้ว ว่าเขาควรทำอย่างไร
5 กรกฎาคม 2005 เจอร์ราร์ด แถลงการณ์ขอย้ายทีมอย่างเป็นทางการ
----------------------------------------
"นี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต" เจอร์ราร์ดแถลง
"หลังจบแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง ผมตั้งใจจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่จริงๆ แต่ 5-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป"
ตอนนี้ ทุกคนรู้ว่า เกมจบแล้ว เชลซีจะได้ตัวเจอร์ราร์ดแน่นอน
ปีเตอร์ เคนย่อน ซีอีโอของเชลซี ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความสุขว่า "เจอร์ราร์ด ได้รับการยกย่องว่า เป็นสุดยอดมิดฟิลด์ มันคงจะเยี่ยมมาก ถ้าเห็นเขาลงสนามร่วมกับแฟรงค์ แลมพาร์ด"
ขณะที่ ริค แพร์รี่ ซีอีโอฝั่งลิเวอร์พูล ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ "เราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่เขาประกาศเจตนารมย์ชัดเจนว่าต้องการย้ายออกไป"
ตอนนี้เรอัล มาดริด เข้ามาร่วมวงด้วย พวกเขาอยากได้ตัวเจอร์ราร์ดเช่นกัน แต่ ดูแนวโน้มแล้วโอกาสไปเชลซีมีมากที่สุด
แฟนลิเวอร์พูลบางส่วน โกรธแค้นกับการตัดสินใจของเจอร์ราร์ด บางคนเอาเสื้อออกมาเผา พวกเขาไม่เข้าใจ ทั้งๆที่มีวันเวลาดีๆร่วมกัน ที่อิสตันบูลขนาดนั้น ทำไมเจอร์ราร์ดถึงกล้าย้ายทีมได้ลง
ลองนึกภาพคูตินโญ่ ขอย้ายทีม มันเจ็บปวดแค่ไหน ตอนเจอร์ราร์ดประกาศขอย้ายทีม มันเจ็บปวดกว่านั้นหลายเท่า
"พวกเราหลายๆคน ต้องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อตั๋ว และบินไปเชียร์ลิเวอร์พูลที่อิสตันบูล บางคนยังผ่อนหนี้ไม่หมดเลยด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะเรารักสโมสร เกมนั้นกับมิลานเราส่งเสียงเชียร์ แม้ทีมจะโดนนำอยู่ 3 ลูก เพราะเราไม่เคยหมดหวังในสโมสร แล้วนายล่ะสตี่วี่ นายจะตัดใจจากทีมนี้ง่ายๆเลยหรอ" แฟนรายหนึ่งเผยความรู้สึก
ตอนนี้การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือเจอร์ราร์ด เขาเหลือแค่ต้องเลือก จะไปเชลซี จะไปเรอัล มาดริด หรือจะอยู่ลิเวอร์พูลต่อ
ช่วงชีวิตนักฟุตบอลมันสั้น เขาก็อยากไปให้ไกลที่สุด แต่อีกใจหนึ่ง ลิเวอร์พูลเองก็เป็นทีมที่เขาเติบโตขึ้นมา มันผูกพันกันมากเหลือเกิน
มันเป็นปัญหาที่เขาต้องคิด คิด และคิดให้รอบคอบที่สุด
----------------------------------------
เรอัล มาดริด ยื่นข้อเสนอ 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ตัวเลขใกล้เคียงกับที่เชลซี พร้อมจะให้เจอร์ราร์ด
ส่วนลิเวอร์พูล พร้อมจ่ายได้แค่ 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดของสโมสรแล้ว
เจอร์ราร์ด มีเวลาอีกเล็กน้อยในการตัดสินใจ เขาเองก็ลังเลเช่นกัน
ถ้าไปเชลซี หรือเรอัล มาดริด คุณการันตีแชมป์ลีกแน่ๆ แต่ถ้าอยู่กับลิเวอร์พูล มันได้แชมป์ยากมากจริงๆ ศักยภาพหงส์แดงมันจะไปสู้สองทีมด้านบนได้อย่างไร ณ ชั่วโมงนั้น
ท่ามกลางความสับสนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้
เจอร์ราร์ดเลือกอยู่ลิเวอร์พูลต่อไป
เขายุติข่าวลือ ด้วยการต่อสัญญากับสโมสร รับเงิน 1 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์
ความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับทีม และกับแฟนๆ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้
"กับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น ถ้าจะโทษใครสักคน โทษผมเถอะ ผมเป็นคนที่สับสน และลังเลใจเอง"
"แต่ตอนนี้ ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมจะเซ็นสัญญากับสโมสรต่อไป และยืนยันว่า จะไม่มีเงื่อนไขการฉีกสัญญาในนั้นด้วย"
"ผมรู้ว่า ที่ผ่านมา มีแฟนหลายๆคนที่อาจไม่ชอบในท่าทีของผม ซึ่งผมอยากอธิบายว่า มันก็ยากสำหรับผมเหมือนกัน"
"โทรฟี่เดียวในชีวิตที่ผมยังไม่ได้ นั่นคือพรีเมียร์ลีก มันเป็นอะไรที่ผมต้องการมากที่สุด แต่ผมก็บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า ถ้าผมจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็อยากได้มันกับลิเวอร์พูล"
"สโมสรแห่งนี้คือหัวใจของผม มันเป็นมาตลอด และจะเป็นตลอดไป"
----------------------------------------
ถ้าใช้สมองคิด การย้ายไปเชลซี หรือเรอัล มาดริด น่าจะเป็นชอยส์ที่ดีกว่า
คุณการันตีแชมป์แน่ๆ แถมได้เงินมากกว่า และได้กลายเป็นกลุ่มนักเตะกาลาคติกอส ได้เล่นร่วมกับซีเนอดีน ซีดาน , โรนัลโด้ ,ราอูล ,โรแบร์โต้ คาร์ลอส และเดวิด เบ็คแฮม คือมีสิทธิไปถึงบัลลงดอร์ได้เลย
แต่สุดท้าย เจอร์ราร์ด กลับใช้หัวใจในการเลือก เขาอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป
แม้จะรู้ดีว่า โอกาสเป็นแชมป์มันจะเลือนรางก็ตาม และสุดท้ายแชมป์เดียวที่เขาหวังมาตลอดชีวิต คือแชมป์ลีก ก็เป็นฝันที่ไม่เป็นจริง
แต่มันก็แลกมากับ ความสุขของเขา ได้อยู่กับทีมที่ตัวเองรัก อยู่ท่ามกลางผู้คนที่รักเขา
อาจไม่ได้ไปถึงจุดสูงสุดของโลก แต่ก็ได้เป็นตำนานของสโมสร ที่แฟนๆรักจนถึงวันนี้
----------------------------------------
จากเรื่องของสตีเว่น เจอร์ราร์ด คำถามคือ ในชีวิตของเราถ้าต้องเจอเรื่องสำคัญแบบนี้ เราควรเลือกแบบไหน
สมอง หรือ หัวใจ?
เหตุผล หรือ ความรู้สึก?
คำตอบ คือ ... เลือกแบบไหนก็ได้ ได้ทั้งนั้น
แต่สิ่งสำคัญกว่าเลือกอะไร คือ อย่าเสียใจกับการเลือกของตัวเอง
อย่าคิดว่า ถ้าวันนั้นเราเลือกแบบนั้นก็คงดี เพราะเราไม่ทางรู้เลย ว่าเลือกอีกทางแล้วจะเป็นอย่างไร มันอาจจะแย่กว่าตอนนี้ก็ได้จริงไหม
ก่อนจะเลือก คิดให้รอบคอบ แต่พอเลือกไปแล้วมันก็ต้องจบ
จะดีหรือร้าย จะมีความสุข หรือจะทุกข์ใจ อย่างน้อยชีวิตนี้เราก็เลือกเอง
#Liverpool #Gerrard #RealMadrid #Chelsea
ป.ล. คุณ Lee Chong Nart รีเควสต์ให้แอดมินเขียนเรื่องสตีเว่น เจอร์ราร์ด จริงๆเรื่องเจอร์ราร์ดมีเยอะ หลายแง่มุมมาก แต่ผมหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมานะครับ
###อีกหนึ่งวิทยานิพนธ์ที่ดีที่สุดของแฟนลิเวอร์พูล
เครดิตเพจ วิเคราะห์ยอลจริงจัง
สตีเว่น เจอร์ราร์ด คือสัญลักษณ์ของสโมสรลิเวอร์พูล
เขาคือสเกาเซอร์ เป็นความภูมิใจของคนท้องถิ่น เติบโตมาตามระบบ จากเยาวชน ก้าวขึ้นชุดใหญ่ และเป็นกัปตันทีม
เจอร์ราร์ด เป็นหนึ่งในนักเตะที่เหล่าเดอะ ค็อปรักมากที่สุด ตลอดชีวิตค้าแข้งของเขา เหมือนว่าทั้งหัวใจมอบให้ลิเวอร์พูลแค่ทีมเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่ง คนอย่างเจอร์ราร์ด เคยโดนแฟนลิเวอร์พูลเผาเสื้อมาแล้ว
เพราะเขาเคยประกาศว่าจะย้ายทีม คือใครมาเหนี่ยวรั้งยังไงก็ไม่สนทั้งนั้น
แฟนๆเมื่อรักมาก ก็ต้องเกลียดมากเป็นธรรมดา ความสัมพันธ์ของเขากับแฟนหงส์แดง ปะทุจนถึงขีดสุด
ทำไมเจอร์ราร์ด ถึงอยากย้ายขนาดนั้น แล้วอะไรที่เปลี่ยนใจเขาได้ ทั้งๆที่ตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้ว
ถ้าหาก ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปนิดเดียว วันนี้เจอร์ราร์ดอาจไม่ใช่ตำนานของลิเวอร์พูล แต่เขาอาจเป็นตำนานของเชลซี หรือเรอัล มาดริดแทน
----------------------------------------
ตั้งแต่เจอร์ราร์ด ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 1998 เขาพัฒนาฝีเท้าตัวเองอย่างรวดเร็วมาก
จากเริ่มต้นที่แบ็กขวา เขาเปลี่ยนตำแหน่งมาเล่นมิดฟิลด์ และได้รับการยกย่อง ให้เป็นกองกลางแห่งยุค
พลังการวิ่งที่ไม่มีหมด พลังการยิงประตูที่รุนแรง ลูกจ่ายบอลที่เฉียบขาด และยังมีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ นี่คือบุคลิกของสุดยอดมิดฟิลด์ชัดๆ
แฟนหงส์แดงรักเขาอย่างรวดเร็ว มีไม่บ่อยนัก ที่นักเตะจากท้องถิ่น จะก้าวขึ้นมาเป็นระดับโลกได้แบบนี้ เจอร์ราร์ดคือความภูมิใจของเมอร์ซีไซด์
เจอร์ราร์ดเองก็ผูกพันกับลิเวอร์พูล แต่อีกใจของเขา ในฐานะนักเตะเขาต้องการคว้าความสำเร็จที่จับต้องได้ และต้องการแชมป์พรีเมียร์ลีก
แต่มันช่างดูยากเหลือเกินที่จะได้แชมป์ลีก หากเล่นให้กับลิเวอร์พูลต่อไป เพราะทีมไม่ได้ใกล้กับการลุ้นแชมป์เลย
ฤดูกาล 2002-03 จนอันดับ 5 , ฤดูกาล 2003-04 จบอันดับ 4 คือไม่เห็นวี่แววของการลุ้นแชมป์
ขณะที่แมนฯยูไนเต็ด มีลุ้นทุกปี ทางอาร์เซน่อลก็เป็นอินวินซิเบิ้ล ทีมไร้พ่าย แล้วยังมีเชลซี ที่เพิ่งมีเจ้าของใหม่ชื่อโรมัน อบราโมวิชอีก
มันดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูลอยู่ห่างไกลเหลือเกินกับการไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก นั่นทำให้เจอร์ราร์ดตั้งคำถามกับตัวเอง "ถ้าอยู่ลิเวอร์พูลต่อไป เขาจะมีสิทธิได้แชมป์หรอ?"
ในปี 2004 โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี ได้ติดต่อมาที่เจอร์ราร์ด และยืนยันว่า เขาสนใจอยากให้สตีวี่ จี มาร่วมงานกันจริงๆ ซึ่งเชลซีคงจะสมบูรณ์แบบมาก ถ้าได้เจอร์ราร์ดเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์
เจอร์ราร์ด ทบทวน ก่อนตัดสินใจปฏิเสธ
"ช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมสับสนที่สุดในอาชีพนักเตะ ผมคิดเรื่องการย้ายทีม อย่างไรก็ตาม ผมต้องการอยู่กับลิเวอร์พูลต่อ"
เขารู้ดีว่าทีมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลง มันไม่โอเคแน่ ถ้าจะทิ้งทีมไปตอนนี้ ยิ่งไมเคิล โอเว่น กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม มาลาไปอยู่เรอัล มาดริดด้วย ถ้าเขาย้ายไปอีกคน ทีมจะอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากมากจริงๆ
เจอร์ราร์ด เก็บความรู้สึกมาตลอด ใจจริงเขาปรารถนาได้แชมป์ลีกยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
1 ปีผ่านไป ลิเวอร์พูลสร้างปรากฎการณ์ได้แชมป์ยุโรปที่อิสตันบูล แต่หากย้อนไปดูผลงานในพรีเมียร์ลีก หงส์จบอันดับ 5 เท่านั้น
ตรงข้ามกับเชลซี ที่คว้าแชมป์ลีกไปอย่างเหนือชั้น ปีแรกของมูรินโญ่ พาทีมสิงห์บลูส์ได้แชมป์แบบแพ้ทั้งฤดูกาล 1 นัด และเสียประตูแค่ 15 ลูก ใน 38 เกม คือเป็นแชมป์ที่หมดจดมากๆ
ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ลีกก็ไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศ ถือว่าไม่ธรรมดา
มันแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ดีมากๆ เป็นทีมที่มีความพร้อมในการก้าวไปถึงแชมป์ด้วยประการทั้งปวง
ซัมเมอร์ปี 2005 เชลซี ยื่นข้อเสนอ 32 ล้านปอนด์ให้ลิเวอร์พูลพิจารณา ซึ่งนี่เป็นค่าตัวสถิติแพงสุดของนักเตะอังกฤษ แซงหน้าริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่เคยย้ายจากลีดส์ มาแมนฯยูไนเต็ดด้วยราคา 29.1 ล้านปอนด์
ปัจจุบันตัวเลข 32 ล้านอาจดูน้อยนิดมาก แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน มันเป็นตัวเลขที่แพงมหาศาลเลยทีเดียว
สำหรับโชเซ่ มูรินโญ่ ไม่เคยปิดบังความรู้สึก เขายืนยันชัดเจนว่าต้องการเจอร์ราร์ดจริงๆ "สิ่งเดียวที่ผมพูดได้ คือถ้าเขาย้ายมาอยู่กับเรา ผมจะอ้าแขนต้อนรับด้วยความยินดีอย่างแน่นอน"
มันทำให้เจอร์ราร์ดต้องตัดสินใจอีกครั้ง เขาจะเลือกทางไหน?
ลิเวอร์พูลเองสัญญาจะเพิ่มค่าเหนื่อยให้ จาก 6 หมื่นปอนด์ เป็น 1 แสนปอนด์ แต่เรื่องเงินไม่ใช่สิ่งที่เจอร์ราร์ดสนใจ เขาต้องการความสำเร็จ ต้องการแชมป์ลีก
ขณะที่เชลซี ซื้อผู้เล่นเกรดเอ เข้ามาคนแล้วคนเล่า แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแย่งแชมป์เลย
ปีที่เชลซีได้แชมป์ ทั้งๆที่พวกเขามีอาร์เยน ร็อบเบน , แฟรงค์ แลมพาร์ด , แดเมียน ดัฟฟ์, โจ โคล และ ดิดิเยร์ ดร็อกบาอยู่แล้ว ในช่วงซัมเมอร์ ยังไปซื้อ ไมเคิล เอสเซียง กับ ฌอน ไรท์-ฟิลิปส์ และดึงเฮร์นัน เครสโปมาอีก มันแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่ไม่หยุดนิ่ง
ตรงข้ามกับหงส์แดง ซื้อแต่ละคน ปีเตอร์ เคราช์งี้, มาร์ก กอนซาเลซ, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ หรือเซ็นฟรี อันโตนิโอ บารากัน คือ ไม่มีแนวโน้มว่าทีมจะแข็งแกร่งขึ้นเลยสักนิด
แพงที่สุดที่หงส์จ่าย คือ 7 ล้านปอนด์ (ปีเตอร์ เคราช์) ส่วนที่เหลือเซ็นถูกๆบ้าง เซ็นฟรีๆบ้าง ไม่มีนักเตะระดับราคาเกิน 10 ล้านสักคนเดียว มันแสดงถึงความไม่จริงใจในการยกระดับทีมของผู้บริหาร
และ นั่นทำให้เจอร์ราร์ดรู้แล้ว ว่าเขาควรทำอย่างไร
5 กรกฎาคม 2005 เจอร์ราร์ด แถลงการณ์ขอย้ายทีมอย่างเป็นทางการ
----------------------------------------
"นี่คือการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิต" เจอร์ราร์ดแถลง
"หลังจบแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิง ผมตั้งใจจะเซ็นสัญญาฉบับใหม่จริงๆ แต่ 5-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความรู้สึกมันเปลี่ยนไป"
ตอนนี้ ทุกคนรู้ว่า เกมจบแล้ว เชลซีจะได้ตัวเจอร์ราร์ดแน่นอน
ปีเตอร์ เคนย่อน ซีอีโอของเชลซี ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความสุขว่า "เจอร์ราร์ด ได้รับการยกย่องว่า เป็นสุดยอดมิดฟิลด์ มันคงจะเยี่ยมมาก ถ้าเห็นเขาลงสนามร่วมกับแฟรงค์ แลมพาร์ด"
ขณะที่ ริค แพร์รี่ ซีอีโอฝั่งลิเวอร์พูล ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ "เราทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว แต่เขาประกาศเจตนารมย์ชัดเจนว่าต้องการย้ายออกไป"
ตอนนี้เรอัล มาดริด เข้ามาร่วมวงด้วย พวกเขาอยากได้ตัวเจอร์ราร์ดเช่นกัน แต่ ดูแนวโน้มแล้วโอกาสไปเชลซีมีมากที่สุด
แฟนลิเวอร์พูลบางส่วน โกรธแค้นกับการตัดสินใจของเจอร์ราร์ด บางคนเอาเสื้อออกมาเผา พวกเขาไม่เข้าใจ ทั้งๆที่มีวันเวลาดีๆร่วมกัน ที่อิสตันบูลขนาดนั้น ทำไมเจอร์ราร์ดถึงกล้าย้ายทีมได้ลง
ลองนึกภาพคูตินโญ่ ขอย้ายทีม มันเจ็บปวดแค่ไหน ตอนเจอร์ราร์ดประกาศขอย้ายทีม มันเจ็บปวดกว่านั้นหลายเท่า
"พวกเราหลายๆคน ต้องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อตั๋ว และบินไปเชียร์ลิเวอร์พูลที่อิสตันบูล บางคนยังผ่อนหนี้ไม่หมดเลยด้วยซ้ำ นั่นก็เพราะเรารักสโมสร เกมนั้นกับมิลานเราส่งเสียงเชียร์ แม้ทีมจะโดนนำอยู่ 3 ลูก เพราะเราไม่เคยหมดหวังในสโมสร แล้วนายล่ะสตี่วี่ นายจะตัดใจจากทีมนี้ง่ายๆเลยหรอ" แฟนรายหนึ่งเผยความรู้สึก
ตอนนี้การตัดสินใจทั้งหมดอยู่ในมือเจอร์ราร์ด เขาเหลือแค่ต้องเลือก จะไปเชลซี จะไปเรอัล มาดริด หรือจะอยู่ลิเวอร์พูลต่อ
ช่วงชีวิตนักฟุตบอลมันสั้น เขาก็อยากไปให้ไกลที่สุด แต่อีกใจหนึ่ง ลิเวอร์พูลเองก็เป็นทีมที่เขาเติบโตขึ้นมา มันผูกพันกันมากเหลือเกิน
มันเป็นปัญหาที่เขาต้องคิด คิด และคิดให้รอบคอบที่สุด
----------------------------------------
เรอัล มาดริด ยื่นข้อเสนอ 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ตัวเลขใกล้เคียงกับที่เชลซี พร้อมจะให้เจอร์ราร์ด
ส่วนลิเวอร์พูล พร้อมจ่ายได้แค่ 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดของสโมสรแล้ว
เจอร์ราร์ด มีเวลาอีกเล็กน้อยในการตัดสินใจ เขาเองก็ลังเลเช่นกัน
ถ้าไปเชลซี หรือเรอัล มาดริด คุณการันตีแชมป์ลีกแน่ๆ แต่ถ้าอยู่กับลิเวอร์พูล มันได้แชมป์ยากมากจริงๆ ศักยภาพหงส์แดงมันจะไปสู้สองทีมด้านบนได้อย่างไร ณ ชั่วโมงนั้น
ท่ามกลางความสับสนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้
เจอร์ราร์ดเลือกอยู่ลิเวอร์พูลต่อไป
เขายุติข่าวลือ ด้วยการต่อสัญญากับสโมสร รับเงิน 1 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์
ความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกับทีม และกับแฟนๆ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจแบบนี้
"กับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น ถ้าจะโทษใครสักคน โทษผมเถอะ ผมเป็นคนที่สับสน และลังเลใจเอง"
"แต่ตอนนี้ ผมตัดสินใจได้แล้ว ผมจะเซ็นสัญญากับสโมสรต่อไป และยืนยันว่า จะไม่มีเงื่อนไขการฉีกสัญญาในนั้นด้วย"
"ผมรู้ว่า ที่ผ่านมา มีแฟนหลายๆคนที่อาจไม่ชอบในท่าทีของผม ซึ่งผมอยากอธิบายว่า มันก็ยากสำหรับผมเหมือนกัน"
"โทรฟี่เดียวในชีวิตที่ผมยังไม่ได้ นั่นคือพรีเมียร์ลีก มันเป็นอะไรที่ผมต้องการมากที่สุด แต่ผมก็บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า ถ้าผมจะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็อยากได้มันกับลิเวอร์พูล"
"สโมสรแห่งนี้คือหัวใจของผม มันเป็นมาตลอด และจะเป็นตลอดไป"
----------------------------------------
ถ้าใช้สมองคิด การย้ายไปเชลซี หรือเรอัล มาดริด น่าจะเป็นชอยส์ที่ดีกว่า
คุณการันตีแชมป์แน่ๆ แถมได้เงินมากกว่า และได้กลายเป็นกลุ่มนักเตะกาลาคติกอส ได้เล่นร่วมกับซีเนอดีน ซีดาน , โรนัลโด้ ,ราอูล ,โรแบร์โต้ คาร์ลอส และเดวิด เบ็คแฮม คือมีสิทธิไปถึงบัลลงดอร์ได้เลย
แต่สุดท้าย เจอร์ราร์ด กลับใช้หัวใจในการเลือก เขาอยู่กับลิเวอร์พูลต่อไป
แม้จะรู้ดีว่า โอกาสเป็นแชมป์มันจะเลือนรางก็ตาม และสุดท้ายแชมป์เดียวที่เขาหวังมาตลอดชีวิต คือแชมป์ลีก ก็เป็นฝันที่ไม่เป็นจริง
แต่มันก็แลกมากับ ความสุขของเขา ได้อยู่กับทีมที่ตัวเองรัก อยู่ท่ามกลางผู้คนที่รักเขา
อาจไม่ได้ไปถึงจุดสูงสุดของโลก แต่ก็ได้เป็นตำนานของสโมสร ที่แฟนๆรักจนถึงวันนี้
----------------------------------------
จากเรื่องของสตีเว่น เจอร์ราร์ด คำถามคือ ในชีวิตของเราถ้าต้องเจอเรื่องสำคัญแบบนี้ เราควรเลือกแบบไหน
สมอง หรือ หัวใจ?
เหตุผล หรือ ความรู้สึก?
คำตอบ คือ ... เลือกแบบไหนก็ได้ ได้ทั้งนั้น
แต่สิ่งสำคัญกว่าเลือกอะไร คือ อย่าเสียใจกับการเลือกของตัวเอง
อย่าคิดว่า ถ้าวันนั้นเราเลือกแบบนั้นก็คงดี เพราะเราไม่ทางรู้เลย ว่าเลือกอีกทางแล้วจะเป็นอย่างไร มันอาจจะแย่กว่าตอนนี้ก็ได้จริงไหม
ก่อนจะเลือก คิดให้รอบคอบ แต่พอเลือกไปแล้วมันก็ต้องจบ
จะดีหรือร้าย จะมีความสุข หรือจะทุกข์ใจ อย่างน้อยชีวิตนี้เราก็เลือกเอง
#Liverpool #Gerrard #RealMadrid #Chelsea
ป.ล. คุณ Lee Chong Nart รีเควสต์ให้แอดมินเขียนเรื่องสตีเว่น เจอร์ราร์ด จริงๆเรื่องเจอร์ราร์ดมีเยอะ หลายแง่มุมมาก แต่ผมหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมานะครับ