OSCAR กับความสตรองของเพศแม่
-----------------------------------------
(มาคุยกันหน่อยครับ)
เทรนด์ของวงการภาพยนตร์จากที่ผมสังเกต คือ ช่วงหนึ่งก็เน้นแต่หนังชีวประวัติ(American Sniper, Theory of everything, imitation game) บางปีก็เน้นหนังจากนิยายมาดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ บางปีก็เน้นหนังเหยียดผิวความขัดแย้งทางสีผิว บางปีก็เน้นเพศทางเลือก บางเรื่องก็เน้นทำจากสถานการณ์จริง แต่ปีนี้มันคือ Female leading movie หวังว่าจะมีซักปีที่จะได้เห็นหนัง Original เยอะๆ นะครับ(อย่าง Get Out ในปีนี้) ถ้าให้เดาปีหน้าน่าจะเป็นพวกเกี่ยวกับเกมส์
ปีนี้ถือว่ามีเนื้อหาที่ครบครันมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นผิวสีอย่าง GET OUT เพศทางเลือกใสๆอย่าง Call me by your name การเมืองที่เข้มข้นอย่าง Darkest Hour สงครามความรุนแรงอย่าง Dunkirk หนังหญิงที่เป็นใบ้ อย่าง The shape of water และหนังเสียดสีสังคมอย่างบ้าคลั่งอย่าง The three billboards outside ebbing, Missouri ซึ่งผลงานภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องนั้นสมชื่อกับการเข้าชิง จากที่ดูแล้วปีนี้เค้าเน้นไปในด้านการขับเคลื่อนของเพศแม่ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญนักแสดงหญิงขึ้นมามอบรางวัล การเข้าชิงนักแสดงนำหญิงและสมทบหญิงที่มีแต่สายแข็งและโดดเด่นกว่านักแสดงนำชาย และบทบาทที่ได้รับคือผู้หญิงที่สตรองมาก รวมถึงเนื้อหาที่ให้นักแสดงนำหญิงเป็นตัวเด่นและเดินเรื่อง สังเกตจาก list หนังที่เข้าชิงรางวัลต่างๆในเวที ออสการ์
1. Three Billboards outside ebbing, missouri แม่ที่ทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวที่โดนฆ่าข่มขืน
2. I, Tonya ชีวประวัติของนัก ice skater ที่มีเรื่องฉาวที่สุดในโลก
3. The shape of water หญิงสาวใบ้ที่เปรียบเสมือนตัวประหลาดในสังคมรอบข้าง
4. The Post ตีแผ่วงการสื่อในอเมริกาที่มี เมอรีล สตรีฟ เดินเรื่องอย่างเข้มข้นและมี ทอม แฮงค์ คอยผลักให้มีพลังมากขึ้น
5. Lady Bird หญิงสาววัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
6. Fantastic Woman หนังต่างประเทศยอดเยี่ยม แค่เห็นชื่อก็เข้าใจละ
7. The silent child : หนังสั้นยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเด็กน้อยที่เป็นใบ้
ก็เลยไม่แปลกที่ทำไม Dunkirk, Call me by your name, Darkest Hour, Get out และ Phantom Thread ไม่ได้ ไม่ใช่หนังพวกนี้เป็นหนังท่ีไม่คู่ควร จริงๆแล้วทุกเรื่องที่ดีหมดเลย การได้เป็น Nominee ก็ถือว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งของคนทำหนังแล้ว แต่มันอยู่ที่กระแสโลกและช่วงเวลาของสังคม ณ ขณะนั้น แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า The shape of water เป็นหนังที่มีองค์ประกอบครบในทุกๆด้านจริงๆ
ผมว่าที่เรื่อง Dunkirk ไม่ได้ เพราะโนแลนฉีกแนวเป็นของตัวเองและไม่เป็นไปในตำหรับตำราเรียนภาพยนตร์ทั้งๆที่การเล่าเรื่องก็ดี production ก็ดี แต่มันขาดพวกนักแสดงนำ หรือ บท ที่ทำให้เสียเปรียบเรื่องอื่นๆ
เรื่อง Get Out มีบทที่แข็งแรงมากมีความเป็น original มากและอาจจะเป็นม้ามืดได้แต่บทเกี่ยวกับการเหยียดผิว หรือ หนังผิวสีก็เพิ่งได้ไปเมื่อปีที่แล้ว
Call me by your name ก็โหดมากแต่องค์ประกอบอื่นๆอาจจะยังไม่โดดเล่นมากพอเช่นการแสดงของ Armie ที่อ่อนกว่า Timothee Chalamet
The post ที่ Spotlight เพิ่งจะได้ไป...(ที่เกร็งถูกเยอะก็เพราะคิดแนวนี้)
แต่ก็แอบเชียร์ Three billboards outside ebbing, Missouri (ที่ไม่ได้อาจจะเป็นเพราะชื่อยาวไป กลัวคนประกาศอ่านผิด) เพราะมันก็ตอบโจทย์ความสตรองของเพศแม่ ออสการ์ปีนี้
ในความยินดีก็ยังมีความเศร้า สงสารโนแลนมากเลยยยยย แอบเชียร์ให้ได้เป็น ผู้กำกับยอดเยี่ยม เพราะชอบในความทุ่มเทสร้างการงานใหม่ๆ ปล่อยเบื้องหลังออกมาให้ดูตลอด แต่ก็ยังดีที่ได้มาตั้ง 3 รางวัล แล้วก็หนู Timothée Chalamet จาก Call me by your name ถ้าปีนี้ไม่ได้เจอสายแข็งอย่าง Gary Oldman คิดว่าน้องน่าจะได้ชัวๆ เพราะการแสดงของน้องมันทรงพลังมาก ไม่ต้องตะโกนโวยวาย เพื่อทำให้คนดูขนลุก เล่นธรรมชาติ สมบทบาทมาก เหมือนหนูเป็น เอลิโอ จริงๆ
ปีนี้ผมทายพลาดไปสองรางวัลคือ Best picture ทายว่าเป็น Three billboards กับ Sound mixing เดาเป็น baby driver
ยังไงก็ฝากติดตาม คนที่ชอบดูหนังอย่างพวกเราที่วันหนึ่งจะสร้างหนังขึ้นมาให้ได้ก่อนตาย ด้วยนะครับ
Filmotion :
https://www.facebook.com/filmotion.rp/
OSCAR ครั้งที่ 90 กับ กระแส Feminist
-----------------------------------------
(มาคุยกันหน่อยครับ)
เทรนด์ของวงการภาพยนตร์จากที่ผมสังเกต คือ ช่วงหนึ่งก็เน้นแต่หนังชีวประวัติ(American Sniper, Theory of everything, imitation game) บางปีก็เน้นหนังจากนิยายมาดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ บางปีก็เน้นหนังเหยียดผิวความขัดแย้งทางสีผิว บางปีก็เน้นเพศทางเลือก บางเรื่องก็เน้นทำจากสถานการณ์จริง แต่ปีนี้มันคือ Female leading movie หวังว่าจะมีซักปีที่จะได้เห็นหนัง Original เยอะๆ นะครับ(อย่าง Get Out ในปีนี้) ถ้าให้เดาปีหน้าน่าจะเป็นพวกเกี่ยวกับเกมส์
ปีนี้ถือว่ามีเนื้อหาที่ครบครันมาก ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประเด็นผิวสีอย่าง GET OUT เพศทางเลือกใสๆอย่าง Call me by your name การเมืองที่เข้มข้นอย่าง Darkest Hour สงครามความรุนแรงอย่าง Dunkirk หนังหญิงที่เป็นใบ้ อย่าง The shape of water และหนังเสียดสีสังคมอย่างบ้าคลั่งอย่าง The three billboards outside ebbing, Missouri ซึ่งผลงานภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องนั้นสมชื่อกับการเข้าชิง จากที่ดูแล้วปีนี้เค้าเน้นไปในด้านการขับเคลื่อนของเพศแม่ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญนักแสดงหญิงขึ้นมามอบรางวัล การเข้าชิงนักแสดงนำหญิงและสมทบหญิงที่มีแต่สายแข็งและโดดเด่นกว่านักแสดงนำชาย และบทบาทที่ได้รับคือผู้หญิงที่สตรองมาก รวมถึงเนื้อหาที่ให้นักแสดงนำหญิงเป็นตัวเด่นและเดินเรื่อง สังเกตจาก list หนังที่เข้าชิงรางวัลต่างๆในเวที ออสการ์
1. Three Billboards outside ebbing, missouri แม่ที่ทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวที่โดนฆ่าข่มขืน
2. I, Tonya ชีวประวัติของนัก ice skater ที่มีเรื่องฉาวที่สุดในโลก
3. The shape of water หญิงสาวใบ้ที่เปรียบเสมือนตัวประหลาดในสังคมรอบข้าง
4. The Post ตีแผ่วงการสื่อในอเมริกาที่มี เมอรีล สตรีฟ เดินเรื่องอย่างเข้มข้นและมี ทอม แฮงค์ คอยผลักให้มีพลังมากขึ้น
5. Lady Bird หญิงสาววัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
6. Fantastic Woman หนังต่างประเทศยอดเยี่ยม แค่เห็นชื่อก็เข้าใจละ
7. The silent child : หนังสั้นยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเด็กน้อยที่เป็นใบ้
ก็เลยไม่แปลกที่ทำไม Dunkirk, Call me by your name, Darkest Hour, Get out และ Phantom Thread ไม่ได้ ไม่ใช่หนังพวกนี้เป็นหนังท่ีไม่คู่ควร จริงๆแล้วทุกเรื่องที่ดีหมดเลย การได้เป็น Nominee ก็ถือว่าเป็นชัยชนะอย่างหนึ่งของคนทำหนังแล้ว แต่มันอยู่ที่กระแสโลกและช่วงเวลาของสังคม ณ ขณะนั้น แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า The shape of water เป็นหนังที่มีองค์ประกอบครบในทุกๆด้านจริงๆ
ผมว่าที่เรื่อง Dunkirk ไม่ได้ เพราะโนแลนฉีกแนวเป็นของตัวเองและไม่เป็นไปในตำหรับตำราเรียนภาพยนตร์ทั้งๆที่การเล่าเรื่องก็ดี production ก็ดี แต่มันขาดพวกนักแสดงนำ หรือ บท ที่ทำให้เสียเปรียบเรื่องอื่นๆ
เรื่อง Get Out มีบทที่แข็งแรงมากมีความเป็น original มากและอาจจะเป็นม้ามืดได้แต่บทเกี่ยวกับการเหยียดผิว หรือ หนังผิวสีก็เพิ่งได้ไปเมื่อปีที่แล้ว
Call me by your name ก็โหดมากแต่องค์ประกอบอื่นๆอาจจะยังไม่โดดเล่นมากพอเช่นการแสดงของ Armie ที่อ่อนกว่า Timothee Chalamet
The post ที่ Spotlight เพิ่งจะได้ไป...(ที่เกร็งถูกเยอะก็เพราะคิดแนวนี้)
แต่ก็แอบเชียร์ Three billboards outside ebbing, Missouri (ที่ไม่ได้อาจจะเป็นเพราะชื่อยาวไป กลัวคนประกาศอ่านผิด) เพราะมันก็ตอบโจทย์ความสตรองของเพศแม่ ออสการ์ปีนี้
ในความยินดีก็ยังมีความเศร้า สงสารโนแลนมากเลยยยยย แอบเชียร์ให้ได้เป็น ผู้กำกับยอดเยี่ยม เพราะชอบในความทุ่มเทสร้างการงานใหม่ๆ ปล่อยเบื้องหลังออกมาให้ดูตลอด แต่ก็ยังดีที่ได้มาตั้ง 3 รางวัล แล้วก็หนู Timothée Chalamet จาก Call me by your name ถ้าปีนี้ไม่ได้เจอสายแข็งอย่าง Gary Oldman คิดว่าน้องน่าจะได้ชัวๆ เพราะการแสดงของน้องมันทรงพลังมาก ไม่ต้องตะโกนโวยวาย เพื่อทำให้คนดูขนลุก เล่นธรรมชาติ สมบทบาทมาก เหมือนหนูเป็น เอลิโอ จริงๆ
ปีนี้ผมทายพลาดไปสองรางวัลคือ Best picture ทายว่าเป็น Three billboards กับ Sound mixing เดาเป็น baby driver
ยังไงก็ฝากติดตาม คนที่ชอบดูหนังอย่างพวกเราที่วันหนึ่งจะสร้างหนังขึ้นมาให้ได้ก่อนตาย ด้วยนะครับ
Filmotion : https://www.facebook.com/filmotion.rp/